ตอน346กีดกันไม่ให้ผมแสดงความเป็นพ่อ
ตอนที่ 346กีดกันไม่ให้ผมแสดงความเป็นพ่อ
หล่อนรู้สึกเหมือนตัวเองละเลยหน้าที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่คน เป็นแม่ควรจะทำ”ตกใจมากใช่มั้ยลูกไม่เป็นไรนะครับต่อไปแม่ จะอยู่ข้างๆหนูจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกนะครับ”
เตชิตที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ยินสิ่งที่หล่อนพูดทั้งหมดในใจ เขากลับเหมือนมีร่องรอยแห่งเหมือนโดนทิ่มแทงแม้ว่าเขาจะรู้ ดีว่าตัวเองควรจะเงียบในสถานการณ์แบบนี้แต่เขาก็อดไม่ได้ จึงพูดออกมาว่า” ให้ผมไปส่งพวกคุณที่บ้านนะ””ไม่ต้อง”นัช ชาตอบทันควัน โดยที่ไม่ต้องคิดใดๆ แม้ภายนอกเธอจะดู แข็งกร้าวแต่ลึกๆ ในใจเธอก็เจ็บปวดไม่น้อย”ลูกฉันฉันดูแลเอง ได้ไม่ต้องลำบากคุณหรอกและรบกวนคุณไปบอกที่บ้านคุณ ด้วยว่าอย่าคิดมาวุ่นวายฉันกับลูกพวกเราไม่ต้องการ
“นัชชาผมเข้าใจว่าเกิดเรื่องแบบนี้ทำให้คุณรู้สึกแย่มาก ผมก็ไม่ได้อยากให้มัน…
“คุณไม่ได้อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้แต่มันก็เกิด แล้ว”เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วนัชชาไม่อยากจะได้ยินคำอธิ บายใดๆหล่อนเห็นแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาเท่านั้นเห็นเขาทำสิ่งที่ ทําร้ายเป็นผลเสียต่อลูก” ใจร้ายเหลือเกินทำไมถึงทำเรื่องแบบชายหนุ่มน้ำลายในคอไม่อธิบายด้วยขอโทษ”
แม่ลูกปล่อยเราไปเถอะ
หลังจากเรื่องขึ้นทัศนคติของหล่อนก็กลับไปเป็น เหมือนช่วงที่หล่อนเพิ่งเดินทางกลับจากอังกฤษเจอเขาและ เขาก็ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หล่อนทำตัวห่างเหินอีก
ตอนแรกนัชชาตั้งใจจะลูกออกไปจากนี่แต่เพียงชั่ว เวลานานชายเสื้อของหล่อนด้วยแรง
น้อยหล่อนก้มไปมองเห็นธีมนต์กำลังเงยหน้ามองเตชิต
หล่อนตกใจ” มนต์”
เด็กตัวน้อยอายุขวบกว่าสายตาที่มองเตชิตนั้น เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกแต่เห็นสงสัยและอยากอยากเห็น
ในขณะนัชชากำลังเดียงสาแต่กลับแฝงด้วยความกล้าหาญ
ถาม นว่า”คุณพ่อของผมเหรอครับ”
ผู้ใหญ่สองคนถึงกับตกตะลึงชะงักไปชั่วขณะไม่นึกว่า สุดท้ายแล้วคำถามนี้จะธีมนต์
ดูทําร้ายจิตใจและยิ่งทำให้กังวลใจมากขึ้นไปอีก
เดิมทีเตชิตเองก็ไม่กล้าสู้สายตาเด็กน้อยอยู่แล้วแววตาไร้ เดียงสานั้นไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมันก็เหมือน
กับเป็นบทลงโทษของเขาเสียแล้วนับตั้งแต่วันที่เขารับรู้
ถึงการมีตัวตนของลูกมีวันไหนเลยที่เขาไม่เสียใจกับ
เวลาเกือบห้าปีที่เขาสูญเสียไปในเมื่อเขาพลาดโอกาสนั้น ไปแล้วเขาก็ไม่อาจจะไปชดเชยกลับมาได้
เขาตกตะลึงไปพักหนึ่งก่อนจะย่อตัวลงยกมือลูบศีรษะและ เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสเขาในฐานะพ่อในใจเขานั้นสับสน วุ่นวายความอ่อนโยนภายในทำให้เขาเหมือนเข้าไปนอนอยู่ บนที่นอนขนปุยนุ่มเขายังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไรน้ำตาก็คลอ เต็มเบ้าตาแล้ว
“ใช่”ช่างเนิ่นนานกว่าเสียฉันหนักแน่นของเขาจะออกมา จากปาก
เป็นครั้งแรกที่เตชิตรู้สึกว่าต้องใช้พละกำลังมากมายเสีย เหลือเกินสำหรับคำพูดแค่คำเดียว
เขาเห็นนัยตาของธีมนต์ส่องแสงเป็นประกายแต่ไม่นานก็ วูบดับไปเมื่อเผชิญหน้ากับเขาในใจ มนต์นั้นรู้สึกขัดแย้งกัน และหวากกลัวเป็นอย่างมาก
เขารวบตัวเด็กน้อยเข้าสู่อ้อมกอดย่างเบามือเพราะกลัวว่า จะทำให้ลูกตกใจ ขอโทษที่ทำให้ลูกต้องใช้วิธีนี้มาทำความรู้จักกัน”
ธีมนต์ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องขอโทษตนเองด้วยแต่อาจ จะเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไปสัญชาตญาณสามารถรับรู้ได้ถึง ความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ต่างๆได้ดี
“คุณแม่บอกว่าพ่ออยู่ในที่ที่ไกลมากๆ คือที่นี่เหรอ ครับ… “จริงๆแล้วยังมีหลายเรื่องที่เด็กน้อยไม่เข้าใจอย่างเช่น ทำไมไม่บอกเขาตั้งแต่แรกว่าคนนี้คือพ่อของเขาทำไมต้อง โกหกเขาแต่สิ่งที่เขาอยากถามมากที่สุดกลับไม่ใช่เรื่องเหล่า นี้”ทำไมคุณถึงไม่มาหาผมกับแม่บ้าง
คำพูดแต่ละคำของเด็กน้อยเหมือนมืดที่ทิ่มแทงใจของเต ชิตจนเลือดไหลทะลักภายในใจเหมือนกำลังตะโกนออกมา ดังๆไม่ใช่ว่าอยากหรือไม่อยากไปหาแต่เขาไม่รู้ว่าหล่อนอยู่ ที่ไหนไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าบนมุมๆหนึ่งบนโลกใบนี้จะมีลูกที่เป็น เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่อาจนำมาตอบคำถามของลูกได้เขาจึงได้ แต่โกหกลูกต่อไปทำให้เรื่องหลอกลวงไม่ใช้เรื่องที่น่าหัวเราะ เยาะ เพราะว่าพ่อยุ่งมากมีเรื่องมากมายทำให้พ่อไม่สามารถ ไปหาหนูกับแม่ได้”
ธีมนต์เข้าใจประโยคที่เขาพูดแต่ก็อดที่จะขมวดคิ้วเล็กไม่ ได้เขาไม่ได้พูดอย่างอื่นอีกนอกจากเสียงนิ่งที่บอกว่า”แม่ ลําบากมาก
สุดท้ายนัชชาก็น้ำตาไหลลงมาหล่อนรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้เพราะกลัวจะมีเสียงร้องไห้ออกมา
“พ่อรู้”เตชิตพยายามข่มอารมณ์ตนเองไม่ให้แสดงความ อ่อนแอแบบนั้นต่อหน้าลูก” ดังนั้นต่อจากนี้พ่อจะปกป้องหนูกับ แม่ไม่ให้ได้รับเกิดอันตรายใดๆอีก”
“แต่ว่าปู่ทวดกับย่าทวดดูไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่”เด็กคือ สิ่งที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่สุดบนโลกใบนี้ใครดีหรือไม่ดีกับเขา อย่างไรเขาสามารถรับรู้ได้สิ่งที่ผู้เฒ่าทำในวันนี้เด็กน้อย สามารถสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตร
นัชชาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าจนแห้งแล้วคว้ามือของเด็ก น้อยไป”ไม่เป็นไรนะธีมนต์แม่จะปกป้องลูกเอง”
หล่อนไม่มีเวลาจะมาอธิบายอะไรให้ลูกฟังตอนนี้คิดแต่
เพียงอยากจะหนีไปให้พ้นจากที่นี่ที่ๆ ทำให้พวกเขาไม่
สบายใจ”คุณไม่ต้องไปส่งพวกเราหรอกเว้นช่องว่างให้ลูกบ้าง
ก็ดีค่ะ”
สิ่งที่เตชิตต้องการจะพูดเหมือนถูกหล่อนอุดเอาไว้ที่มุม ปาก ใช่เขายังจะพูดอะไรได้อีกในสถานการณ์แบบนี้สำหรับ ผู้ใหญ่เองยังทำอะไรไม่ถูกเลยแล้วนี้คือเด็กน้อยถ้าไปบีบ บังคับเขามากๆเข้าอาจจะทำให้เขารู้สึกอึดอัด
ดังนั้นเขาจึงยอมถอย”ได้ผมจะให้คนขับรถไปส่งพวกคุณ อย่าปฏิเสธผมอีกผมไม่สบายใจ”
นัชชาเม้มปากแน่นไม่ตอบอะไรหล่อนรู้ดีว่าสำหรับผู้ชาย คนนี้แล้วเขาจะยอมให้ได้มากที่สุดแค่นี้หล่อนจูงมือลูกชายมารอที่ประตูทางเข้าคฤหาสน์
คนขับรถขับรถมาและเปิดประตูให้หล่อนนัชชาประคอง เด็กชายขึ้นรถไปก่อนแล้วค่อยผลักประตูเข้าไปเล็กน้อยก่อนจะ พูดว่า “ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งไปหาลูกเลยรอให้เรื่องที่บ้านคุณ เรียบร้อยเสียก่อนเถอะ”
ประโยคที่หล่อนพูดออกมาทำเอาเตชิตนิ่งอึ้งไปทันทีริม ฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มซะที เดียว”นัชชาคุณเป็นห่วงลูกผมก็ห่วงผมรู้ว่าเรื่องที่ทำนี้มันอาจ จะดูสิ้นคิดแต่คุณก็ควรจะกีดกันสิทธิ์ที่ผมควรจะได้พบลูก”
“ฉันเป็นคนกีดกันคุณเหรอเป็นเพราะคนในครอบครัวคุณ ต่างหากที่บีบให้ฉันต้องเป็นแบบนี้”หล่อนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความวิตกกังวลและกดดันต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งวันก็ เพราะคนในตระกูลจิวะพงษ์ทั้งหมด”ฉันไม่มีทางให้คุณพบลูก เด็ดขาดมันคือจุดยืนของฉันฉันจะไม่มีทางเอาลูกมาเป็นสิ่งเดิม พันอะไรทั้งนั้น”
“เฮ้อ”เขาได้แต่ถอนใจเบาๆที่หล่อนไม่พยายามที่จะ เข้าใจเขาขยับไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเพื่อที่จะให้หล่อนสบตากับ เขา”คุณบอกผมสิว่าทำแบบนี้มันจะแก้ไขอะไรได้ในเมื่อลูกก็รู้ แล้วว่าผมคือพ่อถ้าผมหายตัวไปตอนนี้คุณจะบอกลูกว่ายังไง พูดแบบเดียวกับเมื่อ5ปีที่แล้วงั้นเหรอบอกว่าผมอยู่ไกลจาก พวกคุณมากผมว่าคุณควรจะเปลี่ยนข้ออ้างได้แล้ว”
นัชชาถูกเขาบีบจนช่วงบนจะติดอยู่ที่หน้าต่างรถแล้วหล่อนจึงยกมือขึ้นมาคั่นกลางระหว่างเขาและเธอแล้วหายใจ เข้าลึกๆ คุณถอยออกไปได้แล้ว”นัยตาของเขาเข้มเหมือนฝัน น้ำในยามค่ำคืน”นัชชาคุณบอกว่าลูกโกรธเกลียดผมผมต้อง รับผิดชอบแต่คุณเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ใช่มั้ย”
หล่อนเป็นคนคิดและตัดสินใจที่จะกีดกันไม่ให้เขาได้ แสดงความเป็นพ่อทั้งยังกุเรื่องหาข้ออ้างที่น่าขันมาหลอกลูก ทำให้ความทรงจำของเขาที่มีต่อผู้เป็นพ่อว่างเปล่าแต่เขา เข้าใจดีว่าทั้งหมดเป็นเพราะเขาบีบหล่อนจนไม่มีมีทางเลือก เขาไม่เคยคิดโทษหล่อน
แต่ว่าวันนี้เขารู้ถึงการมีตัวตนของลูกลูกเองก็รับรู้ถึงการมี ตัวตนของเขาเขาที่เป็นพ่อดังนั้นเขาไม่มีทางปล่อยให้เป็นแบบ ห้าปีที่แล้วแน่นอน
จิตใจนัชชาเริ่มว้าวุ่นหลังจากที่เห็นแววตาจริงจังของเขา หล่อนรู้ดีว่าเรื่องนี้เขาไม่มีทางยอมหล่อนแน่ดังนั้นจึงพยายาม ควบคุมจิตใจเอาไว้
ตอนนี้หากจะงัดข้อกับเขาคงจะจบไม่สวยแน่หากหล่อนไม่ ให้เขาพบลูกจริงๆไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นแค่ตอนนี้จะออกจาก คฤหาสน์ยังยาก
ในเมื่อหล่อนมาถึงเมืองแล้วก็ต้องกลับออกไปโดย ปลอดภัยไม่ควรจะทำให้เขาระแวงแคลงใจ
นัชชาถอนหายใจออกมามีแผนอยู่ในใจท่าที่เปลี่ยนเป็น อ่อนโยนลง”คุณอยากจะทำอะไรก็รอสักสองสามวันให้ลูกได้ปรับตัวสักหน่อยตอนนี้เขารับรู้เรื่องราวมากมายอาจจะไม่รู้ว่า จะเผชิญกับคุณยังไง”
เตชิตจ้องหล่อนเขม็งเพื่อพิจารณาสิ่งที่หล่อนพูดว่าจริง เท็จแค่ไหน นานแค่ไหน”
“ฉันจะโทรศัพท์ติดต่อคุณเอง”เขายังคงเพ่งเล็งที่ท่าทีพิรุธ ของหล่อนหลานเองก็กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อจึงเสริมอีกว่า”ฉันอยู่ ในเมืองนี่แหละไม่ต้องกลัวว่าจะหนีไปไหน”
สายลมพัดผ่านระหว่านทั้งสองคนเบาๆและพัดเอาความ คลางแคลงใจในคำพูดนั้นออกไปด้วย ในที่สุดเขาก็ยอม ถอย”ได้ผมจะรอคุณ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ