ตอน292ไฟสวาทที่ดับมา5ปี
ตอนที่292ไฟสวาทที่ดับมา5ปี
“แต่ว่าลูก…”
นัชชายังพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกเขาขัดขึ้นมาว่า”มีคาร์ซี ทแล้วไง”
พูดถึงตรงนี้เธอก็ไม่อยากจะโต้เถียงกับเขาต่อเพราะวันนี้ หลังจากเขาลงเครื่องเขาก็รีบมารับเธอทันทีเขาว่าอย่างไร ก็ตามนั้นไม่อยากจะขัดใจเขา
นัชชาหันไปกำชับเด็กน้อยสองสามประโยคแล้วจึงนั่งลง
ด้านข้างคนขับ
ธีมนต์เห็นแม่เดินไปนั่งด้านหน้าก็เบะปากอย่างไม่ พอใจ” ผมเกลียดคุณอาคุณอาชอบแย่งแม่ไปแม่เป็นของผม ต่างหาก”
ชายหนุ่มหลับตาลงสักพักแล้วมองเด็กชายผ่านกระจก มองหลังในรถ”ถ้าไม่มีฉันจะมีเธอได้ยังไง”
นัชชาคาดเข็มขัดนิรภัยไม่รู้จะพูดอะไรกับสองคนหนึ่งเด็ก หนึ่งผู้ใหญ่ที่ต่อปากต่อคำกันอยู่เอามือคลำใบหูต่างฝ่ายต่าง ไม่ยอมกัน
โดยเฉพาสีหน้าของชนุดมตอนนี้ยังมีท่าทางที่จริงจังมาก
นัชชาไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาเอามือ บิดที่เอวเขาเล็กน้อยแล้วพูดด้วยเสียงเบาๆว่า”นี่คุณอายุเท่า ไหร่แล้วแล้วเขาอายุเท่าไหร่คุณจะยอมให้เด็กบ้างไม่ได้เลยรึไง จะต้องเอาชนะให้ได้เลยใช่มั้ย”
ชายหนุ่มยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเด็กชายตัวน้อยที่นั่งด้าน หลังพอได้ยินที่แม่พูดเข้าข้างตัวเองก็หน้าบานรีบพูดขึ้นว่า “คุณ อาจะคิดแต่จะเอาชนะผมได้ยังไงผมยังเด็กอยู่เลยคุณอาเป็น ผู้ใหญ่แล้วนะจะมารังแกผมไม่ได้นะ”
“ฉันเนี่ยนะรังแกเธอ”เขาพูดเบาๆ เสียดายความรักและ เมตตาที่ฉันมีให้”
สิ่งที่ควรพูดเธอก็พูดแล้วแต่พอได้ยินธีมนต์พูดออกมาแบ บนั้นควรสอนเธอก็ต้องสอนจึงหันกลับไปพูดกับเด็กชาย ว่า “หนูจะเถียงคุณอาแบบนี้ไม่ได้นะครับลูก”
ชนุดมรักและเอ็นดูธีมนต์อย่างจริงใจช่วงปีแรกที่เธอ ทำงานยังไม่มีรายได้ก็พอประทังชีวิตไปวันๆไม่สามารถจะหา ของต่างมาให้เด็กน้อยอย่างที่เขาควรจะมีได้ของใช้ต่างๆ ทั้งหมดของเด็กน้อยตั้งแต่เล็กจนโตล้วนเป็นของที่เขาหาและ เตรียมให้ทุกวันจะส่งคนไปส่งของที่ดีที่สุดให้พวกเขาสองแม่ ลูก
ชนุดมไม่เคยร้องขอให้นัชชาทำอะไรให้เขาเป็นการ ตอบแทนแต่อย่างใดมีเพียงแค่ให้เธอชวนดูแลเรื่องเล็กๆเรื่องอาหารการกินเท่านั้นสามปีกว่าอยู่อังกฤษระยะ ระหว่างเขาสองคนเหมือนจะใกล้ไม่ไกลก็ไม่ไกล เหมือนรักษาระยะระหว่างกันนัซซารู้สึกและหวังว่า ธีมนต์เองสัมผัสได้ความรักของชนุดมได้ตั้งแต่เล็กต้องทำ กับมากๆ
มนต์หลังจากถูกดุเขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างไม่ ปริปากพูดอะไรเวลาเขาโกรธช่างเหมือนเหลือเกินกับคนนั้นในความทรงจํา
ความสัมพันธ์ทางสายเลือดช่างไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาก่อนในกระดูกเหมือนมี บางสิ่งที่ติดตัว
นัยตานัชชาฉายความเศร้าหมองผ่านหลายแล้วยัง คิดถึงผู้ชายคนนั้นอีกหรือตราบใดที่ธีมนต์อยู่ยังคงแต่น้อยมากแล้วเวลานึกถึงเขาไม่รู้สึกเมื่อ ก่อนแล้วของจะ
เวลาสามกว่าเธอปล่อยวางแล้ว
นัชชาดึงกลับมามองออกไปนอกหน้าต่างทิวทัศน์ข้าง ทางสายตาไปอย่างรวดเร็วไม่อยากจะอยู่กับความคิด ฟุ้งซ่านต่อไป
เป็นของเล่นแบบต่างที่ชนุดมซื้อมาให้เขาหลังจากกลับรอบ
เด็กผู้ชายจะชอบเล่นของเล่นแนวของเล่นซื้อ ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ผลิตขึ้นเฉพาะไม่สามารถซื้อได้ทั่วไป เขาอย่างเต็มใจซึ่งนัชชาไม่ว่าอะไรรู้สึกเสียดายเงิน เท่านั้น
นัชชาเทน้ำแล้วของเล่น ให้เขาเยอะแยะขนาดได้เขาเด็กอย่างก็ ใช่จำเป็นอะไรเปลืองเงินเปล่าๆ
“คุณว่าเมล็ดกาแฟกลิ่นหอมตลบอบอวลถูกบดเป็นผง
เธอรู้ว่าเขาไม่ใส่ใจเรื่องหรอกเขาเป็นนักสถานะ ทางสังคมต้องพอประมาณยอดการเงินเล็กแค่สำหรับเขาแล้วมีค่าที่ เสียเวลาไปใส่ใจ
แต่ว่า
เธอวางแก้วในมือลงน้ำเสียงฟังจริงจังชีวิตอยู่โดยเขาพอถึงเวลาที่จะต้องยืนด้วยตัวเองเค้าอาจ จะปรับตัวไม่ได้”
ก็เหมือนเป็นร่ำรวยมั่งก็แต่หากกลับกันจากคนมีกินใช้ฟูหรูหราต้องกลายมาเป็นยาจกอัตคัดขัดสนคงจะทุกข์ไม่ น้อย
ชนุดมหลังจากฟังเธอพูดประโยคนี้ก็ถึงกับอึ้งชะงักไป ทันทีเขาคว้าตัวหญิงสาวตัวเล็กข้างกายมาอยู่ตรงหน้าแล้วรวบ ตรงเอวเธออุ้มร่างเธอไปบนโต๊ะหินอ่อนเอวที่แข็งแรงกดต้นขา ของหญิงสาวใช้ต้นแขนยึดร่างเธอไว้ด้านหนึ่งแล้วร่างใหญ่ กําย่า กดลงไป
นัชชา แววตาตกใจถลึงตาใส่เขามือสองข้างวางแนบลำ ตัว”คุณคุณปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้นะ”
เขากดร่างเธอไว้แบบนี้เธอไม่มีทางจะขยับได้เลยแค่เธอ ขยับนิดเดียวก็อาจไปถูกส่วนที่ไม่ควรสัมผัสของเขาได้
“ผมคิดไม่ถึงเลยนะว่าคุณยังมีความคิดที่จะสลัดผมออก ไปจากชีวิตคุณอยู่”เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าไม่ ค่อยพอใจนักทั้งยังเหมือนจะหัวเราะเยาะอีกทำให้คนฟังรู้สึก ไม่สบายนัก
นัชชารู้ว่าเขาเข้าใจเธอผิดจึงรีบอธิบายให้เขาฟัง”ฉันไม่ ได้หมายความว่าอย่างนั้นฉันแค่อยากจะยืนด้วยลำแข้งตัวเอง ใช้ชีวิตด้วยความสามารถของตัวเองไม่ใช่คอยแต่จะพึ่งคุณ อย่างเดียวเพราะมันทำให้ฉันรู้สึกว่าชีวิตของฉันมันไร้ซึ่งคุณค่า ใดๆ”
“แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะมีคุณค่า”ชนุดมหรี่ตาจ้องมอง เธอ” ใช้ความสามารถของตัวเองแล้วถีบผมออกไปจากชีวิต ทำให้มีค่าขึ้นมาใช่มั้ย”
นัชชาตกใจในคำพูดของเขาถลึงตาโต”ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้หมายความแบบนี้”
“ถ้างั้นคุณหมายความว่ายังไงล่ะ
“ฉันตั้งใจว่าหลังจากวันนี้ที่ฉันลาออกแล้วก็จะบอกคุณนัช ชาพยายามควบคุมสติให้ใจเย็นลง ฉันทำงานทนายที่บริษัท มาสองปีกว่ามีโอกาสได้ทำงานที่ท้าทายความสามารถหลาย อย่างได้ประสบการณ์มากมายหลังจากที่ผ่านการทดลองฝึกฝน มาฉันจึงอยากจะเปิดบริษัททนายเป็นของตัวเอง”
เธอมองใบหน้าชายหนุ่มที่ดูไม่ค่อยมีความสุขนักเธอ ค่อยๆบอกสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำอย่างชัดเจน”ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่ เรื่องง่ายแต่ฉันวางแผนเอาไว้แล้วคิดเอาไว้หมดแล้วไม่ใช่อยู่ๆ คิดจะทำหรือว่าฝันลมๆแล้งๆสามปีกว่าที่ผ่านมาฉันพยายาม อดทนต่อสู้เพื่อที่มีวันหนึ่งที่ฉันสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของ ตัวเองฉันรู้ว่าคุณช่วยเหลือฉันมามากมาย โดยเฉพาะเรื่องลูก บุญคุณใหญ่หลวงนี้ฉันชดใช้ทั้งชีวิตก็คงไม่หมดฉันไม่ใช่คน เนรคุณคนหรือพวกวัวลืมตีน
ประโยสุดท้ายเธอตั้งใจจะพูดเพื่อปลอบให้ชนุดมอารมณ์ เย็นลงปกติเขาจะเป็นคนที่รักษาภาพลักษณ์ไม่ค่อยแสดงออก มากนักเว้นเสียแต่ตอนที่อยู่กับเธอเขาไม่เคยเสแสร้งเลยแม่แต่ น้อย
“ตอนที่อยู่บนรถคุณคิดอะไรอยู่”อยู่ๆเขาก็ถามเธอขึ้นมา ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขากำลังโต้เถียงกันอยู่ในตอนนี้
นัชชางงเล็กน้อยตามอารมณ์เขาไม่ทัน”อะไรนะ”
“ตอนที่นั่งรถกลับบ้านเห็นสีหน้าคุณไม่ค่อยดีเท่าไหร่คุณ คิดอะไรอยู่”
พอเขาพูดขึ้นทำให้เธอเองนึกขึ้นมาได้ตอนที่กลับมาเธอ หวลคิดถึงเมืองขึ้นมาคิดถึงผู้ชายคนนั้นเธอคิดว่าเขาคงไม่ทัน ได้สังเกตเห็นความผิดปกตินั้นแต่สุดท้ายก็ซ่อนเขาไม่คิด
ผู้ชายคนนี้ช่างละเอียดอ่อนนักไม่มีอะไรจะรอดพ้นสายตา
เขาไปได้เลย
เธอก้มหน้ารู้สึกเจ็บปวดกับอดีตของตัวเองไม่ได้คิดอะไร
ค่ะ”
ความรู้สึกของเธอตอนนี้ถึงแม้เธอไม่พูดแต่เขาก็เข้าใจดี หญิงสาวหายใจเร็วแรงเพราะตื่นเต้น
ชนุดมเองก็ไม่อาจละสายตาไปจากเนินอกที่ใหญ่ขึ้นหลังค ลอดของหญิงสาวได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ