ตอน244คําพูดลอยๆ
ตอนที่ 244 คำพูดลอยๆ
“เจ็บหรอ” สุวีรา ใช้สำลีชุบแอลกอฮอลล์เช็ดไปที่แก้มของ เธอ “บวมปูดมากเลย ยังมีเลือดคั่งอยู่ เธออย่าใช้มือจับ รอ สักครู่ฉันจะประคบเย็นให้
“ฉันไม่เป็นไร สุวีรา” นัชชายิ้มเพื่อนๆ เปลือกตาใกล้จะ ปิด “ฉันดูแลตัวเองได้
สุราขยับเคลื่อนไหวมือของเธอ เธอเห็นว่าตั้งแต่หล่อน เข้ามาในห้องรับรองก็ตัวสั่นมาตลอดเธอก็ใจไม่ดี เธอหยิบส เปรย์ต้านการอักเสบฉีดไปที่ผิวของหล่อนและอดไม่ได้ที่จะถาม “เมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
เกิดอะไรขึ้นหรอ
นัชชาคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทั้งหมด ไม่รู้ว่าควรเริ่ม จากตรงไหนก่อน เธอก็ต้องการถามว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน แต่ ว่าจะถามใครล่ะ ทีนาร์หรือ
เมื่อเห็นเธอไม่พูดจา สุวีราก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “หลอดยา นั้น…เอามาจากที่ไหน
จากการวิเคราะห์ของเธอในหลายปีที่ผ่านมา โศจิรัตน์ เป็นผู้ป่วยวีไอพีในไอซียู ในห้องพักของเธอไม่มียานอกอย่างอื่น ดังนั้นแน่นอนกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ก็คือหลอดยานั่น
“ไซริ้งอยู่ในกล่องยา ข้างในมีหลอดยาอยู่” นัชชา ค่อยๆคิดทบทวน เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ทีนาร์เป็นคน วางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ตอนที่เธอสวมชุดปลอดเชื้อ นั่น เธอก็ไม่สามารถออกไปจากเรื่องนี้ได้แล้ว
สุวีรายังจะถามอะไรอีก ตอนนี้ ทันใดนั้นประตูห้องรับรอง ก็ถูกผลักออกจากด้านนอก มีลมหายใจออกจากประตู เธอยัง ไม่ทันเห็นได้ชัด เงามืดก็ตรงมาถึงข้างหน้า
ใบหน้าของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เสียงที่ เต็มไปด้วยความอึดอัด ทรวงอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง ดวงตา แดงเล็กน้อยและเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว คำถามที่คิดอยู่ใน หัวตลอดระหว่างทางก็ได้ออกมากับประโยคนี้ “เธอบาดเจ็บ ตรงไหนรึเปล่า”
นัชชาอดกลั้นน้ำตาที่พยายามจะรินไหล อารมณ์ที่ไม่ สามารถถักทอเป็นรูปเป็นร่างได้ทำให้เธอหายใจไม่ออก จน กระทั่งเมื่อเขาถามออกมาทำให้เธอถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองนั้นรู้สึก กลัวมากเพียงใด
“เตชิต ฉันไม่รู้ ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่จริงๆ…” เสียงเธอหนัก แน่นมาก พูดไม่ทันจบเธอก็รู้สึกว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์
สุวีราเห็นนัชชาเป็นอย่างนี้ก็อดที่จะตาแดงไม่ได้ คนนอก พูดมากมาย ก็ไม่เท่ากับคนรักพูดประโยคหนึ่งออกมา
เตชินกำมือทั้งสองข้างของนัชชาเอาไว้แน่น เขาควบคุม ตัวเองไม่ได้และยั้งเอาไว้ไม่อยู่ที่จะดึงเธอเอามากอดไว้ใน อ้อมอก “บอกว่าอยู่บ้านไม่ใช่หรอ ทำไมมาอยู่ที่โรงพยาบาล ได้ล่ะ”
“ทีนาร์โทรหาฉัน และขอให้ฉันมา ตอนที่รับสายคุณ ฉัน เลยไม่ได้บอก…”
ก็อยู่ที่ชั้นล่างของโรงพยาบาลแล้ว ฉันกลัวว่าคุณจะเป็นห่วง
“ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมไม่ให้ติดต่อที่นาร์เป็นการส่วน ตัว!” เขาโมโห ไม่ได้โมโหที่เธอตัดสินใจทำโดยพละการ แต่ โมโหที่เธอไม่เห็นความสำคัญของคำพูดเขา เขากลัวว่าเธอจะ เกิดเรื่อง
“ฉันไม่รู้ว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้…” นัชชาพูดได้เพียง ครึ่งหนึ่งก็พูดอะไรต่อไม่ออก ริมฝีปากล่างเหมือนเป็นเหน็บชา ค้างไว้และร้องไห้ออกมา
แสงตกไปที่น้ำตาที่ไหลรินลงมา ชายคนนั้นสูดหายใจลึก เขาพยายามข่มความโกรธและความวิตกกังวลเอาไว้และหัน กลับไปมองปรัณ “แล้วทีนาร์ล่ะ”
“ยังอยู่ในวอร์ดคนไข้” ปรัณหันข้างเล็กน้อย “จะไปตอนนี้ เลยมั้ย
เตชินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นัยย์ตาที่ดำขลับก็เต็มไปด้วย หมอกหนาทึบ สายตามองไปที่เลาจน์ของห้องรับรอง และหยุด มองที่ตัวนัชชา หลังจากนั้นเขาก็พูดออกมาสองสามคำอย่างใจเย็น ไปที่ห้องกล้องวงจรปิดก่อน
ในขณะที่พูด สายตาของเขาก็ไม่เคลื่อนย้ายไปที่อื่น
เขาต้องการสังเกตท่าทีของเธอ เขาไม่พลาดแม้กระทั่งเท คนิคเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่ค่อยดีนัก เมื่อพูดประโยคนี้จบ เธอก็ไม่ ได้มีการตอบสนองอะไรมากนัก อารมณ์ของเธอไม่ได้ เปลี่ยนแปลงขึ้นลงแต่อย่างใด
เตชิตรู้สึกโล่งอกลึกๆ เขาเอื้อมมือไปแตะมือที่สั่นไหวของ เธอเล็กน้อย ไม่ต้องห่วง ผมอยู่นี่แล้ว
นัชชาบิดตัว และจับเขาแน่นขึ้นตาแดงก่ำและพยักหน้า
“อือ”
สามคนเดินไปที่ห้องกล้องวงจรปิดด้วยกัน ปรัณยังเรียกผู้ จัดการหน่วยรักษาความปลอดภัยคนที่จับนัชชากดลงกับพื้น ให้มาด้วย
เรื่องเพิ่งจะเกิดขึ้นไม่นาน ดังนานกระบวนการตรวจสอบ กล้องวงจรปิดจึงใช้เวลาไม่นาน กล้องของโรงพยาบาลนั้น บันทึกแต่ภาพไม่มีเสียง ซึ่งเป็นไปเพื่อผู้ป่วยเอง แม้ว่าจะเป็นผู้ ป่วยไอซียูก็ไม่มีสิทธิพิเศษ
เมื่อดูภาพขาวดำที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ นัชชาไม่ได้ รู้สึกอะไรเลย ในตอนแรก แต่เมื่อเธอพบว่ากล้องบันทึกแค่ เพียงส่วนภาพเตียงของผู้ป่วยไม่ได้บันทึกเสียงในห้องของผู้ป่วยด้วย ทำให้ทั้งห้องไม่ได้เห็นการปรากฏตัวอยู่ของทีนาร์ เลย ทันใดร่างกายของเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
สุวีรามองไปที่ใบหน้าที่ซีดจาง เธอกระซิบถามอย่างกังวล “เธอ โอเคไหม”
ไม่โอเค ฉันไม่โอเค
นัชชาเหมือนถูกตอกให้อยู่กับที่ เมื่อมองไปที่ภาพ เธอ และทีนาร์ใส่ชุดปลอดเชื้อเหมือนกันเดินเข้ามา หลังจากนั้นทั้ง สองก็เผชิญหน้ากันคนหนึ่งหันหน้าอีกคนหันหลังพูดอะไรบาง อย่างอยู่ที่หน้าเตียง หลังจากนั้นทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ จากนั้นก็มีฉากแปลกๆปรากฏขึ้น ทีนาร์ก้าวถอยหลังและเดิน ออกไปจากห้องผู้ป่วย เหลือเธอเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นั่น
นัชชามองดูตัวเองเดินเข้าไปใกล้เตียงผู้ป่วย หลังจากนั้น ก็เปิดกล่องยาน่าไซริ้งออกมา หลังจากนั้นเธอก็นำขวดยาใน กระเป๋าชุดปลอดเชื้อออกมา การกระทำนั้นงกๆ เงินๆ ในที่สุดก็ ฉีดให้โคจิรัตน์….
ทุกอย่างหลังจากนั้นก็เหมือนกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เครื่องมือดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ ทางการแพทย์รีบรุดเข้ามาพร้อมกัน เธอถูกกดลงที่พื้นเหมือน ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับได้
“คลิ้ก” เสียงหนึ่ง ภาพหยุดนิ่ง คนในห้องกดปุ่มหยุด ชั่วคราวและพูดอย่างสงบนิ่ง “ผู้อำนวยการปรัณ คุณเตชิต นี่ คือภาพในกล้อง ณ ช่วงเวลานั้น ยังต้องการตรวจสอบย้อนหลังหรือไม่ครับ”
ไม่มีใครพูด ไม่มีใครตอบ
ในห้องกล้องวงจรปิดนั้นเงียบจนน่ากลัว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน อาจจะครึ่งนาที อาจจะนานกว่า นั้น จู่ๆผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอยภัยก็พูดขึ้น “พวกคุณดูสิ ว่าผมพูดไว้ไม่ผิด เป็นเธอจริงๆ! ตอนที่ผมเข้าไปก็เห็นเธออยู่ ในมือยังถือเข็มฉีดยาอยู่เลย ผู้อำนวยการปรัณ หากคุณไม่ เชื่อก็รอให้คุณหมอบุรีออกมาจากผ่าตัดก่อนแล้วคุณค่อยถาม ดูก็ได้ เขาก็ต้องเห็นมันเหมือนกันก็เลยกดปุ่มฉุกเฉิน!
ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยพยายามพูดล๊อบบี้ อย่างขยันขันแข็ง พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะพิสูจน์ว่าเขาได้จับ คนผิดที่กระทําการฆ่าคน ไม่ใช่คนดี
“ว่าไงนะ” เตชิตตะโกนถาม ที่ห้วงลึกในดวงตาคู่นี้ ไม่มี ใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่บรรยากาศในห้องทั้งห้องนั้น เต็มไปด้วยความกดดัน
เขาลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาผู้จัดการคนนั้นอย่างช้าๆ คนที่ ใส่ชุดสูทราคาแพงยืนอยู่ด้านข้าง ดูสง่าเย่อหยิ่งและสิ้นเปลือง อย่างไรก็ตามการกระทำต่อมาเป็นสิ่งที่แปลกมาก
เตชิตชกกำปั้นใส่หน้าเขา “โต๊ะ” เสียงกระซิบเล็กน้อย กระดูกจมูกถูกบิดจนผิดรูป บุคคลนี้ถูกเขายกปลอกคอเสื้อขึ้น
“คุณเข้าใจใช่ไหม”
ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยถูกต่อยใบหน้าเต็มไป ด้วยเลือด เขามองเตชิตด้วยสายตาดุร้าย สายตาที่ดุร้ายนั้น หันจ้องมองไปที่ปรัณหวังขอความช่วยเหลือ “ผู้อำนวยการ ปรัณ ช่วยผม ช่วยผมด้วย!
แม้ว่าปรัณจะไม่ชอบหน้าผู้จัดการฝ่ายรักษาความ ปลอดภัย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นพนักงานของตน ยิ่งไปกว่า นั้นที่นี่คือห้องกล้องวงจรปิด ไม่สามารถปล่อยให้เตชิตทำตาม อำเภอใจ และด้วยสภาพจิตใจของเขาในตอนนี้เป็นไปได้ว่า อาจจะทำอะไรขึ้นมาก็ได้
เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อขัดขวาง ไม่รอช้า ให้อีก ฝ่ายได้ทันก้าวขา ร่างที่เล็กแต่ก็ไปขวางอยู่ที่ข้างหน้าของ เตชิต
นัชชาดึงแขนเขาเอาไว้เบาๆ หยุดสิ่งที่เขาต้องการจะทำ ต่อไป เธอกล่าวว่า “อย่าทำเอาเลย มันไม่ได้เกี่ยวกับเขา
สีหน้าของเตชิตดุร้ายจนน่ากลัว จ้องมองอย่างไม่ขยับ เคลื่อนไหวราวกับจะเอาเป็นเอาตายกับผู้จัดการฝ่ายรักษา ความปลอยภัย ภายใต้ดวงตาสีแดง อารมณ์ของเขาก็ถึง จุดสูงสุด เขายกมือขึ้นเพื่อโอบเธอไว้
น้ำตาที่นัชชาพยายามกลั้นเอาไว้ก็เริ่มไหล เสียงสะอื้นให้ อย่างสิ้นหวังเหมือนกับสัตว์ที่กำลังร้องครวญคราง “ถ้าไม่เชื่อ ฉันก็พูดออกมา หาเรื่องคนที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นการกระทำของ คนขี้ขลาด!”
คำพูดประโยคนี้ของเธอทำให้เตชิตหยุดการกระทำทุก อย่างลง กำปั้นเหล็กลองเคว้งอยู่กลางอากาศ มีพลังอัน มหาศาลหยุดค้างอยู่ที่ตรงนั้น
สุวีรายกมือขึ้นปิดปาก กลัวว่าตัวเองจะเผลอร้องออกมา ด้วยความตกใจกลัว เธอเห็นชัดเจนว่าชายที่ชื่อเตชิตค่อยๆลด มือลงเล็กน้อย เธอกลัวว่าเขาจะทำร้ายนัชชา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ