ตอน209ลูกสะใภ้ขี้เหร่เจอพ่อแม่
ตอนที่ 209 ลูกสะใภ้ขี้เหร่เจอพ่อแม่
เตชิตที่ขับรถกลับจากนั้น ต่างกับตอนมา พอตอนกลับ เขาขับ120กว่าๆ เร็วจนไม่เห็นวิวข้างนอก
เขาจอดรอไฟแดง โทรศัพท์ก็สั่นขึ้น พอหยิบขึ้นมามองดู
ก็เห็นว่าเป็นนัชชา
เห็นชื่อนี้ ในหัวเขาก็มีภาพหน้านัชชาลอยมา เพิ่งจะแยก กันตอนนี้เขากลับอยากได้ยินเสียงเธอใจจะขาด
เขากดเปลี่ยนเป็นเชื่อมต่อบลูทูธกับรถ เขากครับอย่าง
รวดเร็ว เขาตั้งใจกดเสียง ให้ต่ำลง “ฮัลโหล
ปลายสายเงียบ ไม่นานก็มีเสียงผู้ชายวัยกลางคนพูดขึ้น ไฟเขียวพอดีเตชิตกำลังออกรถ แต่ก็ต้องตกใจทำให้รถเอียง เสียหลัก โดนรถคันอื่นบีบแตรใส่
เขาดึงพวงมาลัยกลับ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เลย ถามต่อให้แน่ใจ “ฮัลโหล นัชชา
“ฉันไม่ใช่นัชชา แต่เป็นพ่อของนัก
ได้ยินดังนี้ เตชิตจับพวงมาลัยแน่น ก้มดูชื่ออีกรอบเขา
กลัวว่าตัวเองจะดูผิด
ตรงหน้าจอมีชื่อนัชชาชัดเจน แต่คนที่คุยกับเขากลับเป็น
พ่อเธองั้นหรอ เตชิตไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน อารมณ์เขาเปลี่ยนไปเร็ว
มาก เขาเริ่มตื่นเต้นทำตัวไม่ถูก
ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าแต่การพูดการจาของเขาเห็นได้ ซัด “สวัสดีครับคุณลุง ผมเตชิตครับ เป็นแฟนของนัชชา
พูดจบ เขารู้สึกเหมือนการกระทำเมื่อครู่ไม่ค่อยมีมารยาท “ผมไม่รู้ว่าเป็นคุณ ขอโทษนะครับ
“ไม่เป็นไร” เมทนีตอบไปสั้นๆ เขาเหล่มองลูกสาวที่กำลัง แอบเอาหูแนบฟังอยู่ใกล้ๆ เขาเลยเดินเข้าห้องหนังสือ แล้วไม่ ลืมที่ จะล็อคประตู มั่นใจว่าเธอไม่ได้ยินเลยพูดต่อ “ของที่ฝา กนัชชามา ฉันและป้าของเธอได้รับแล้ว ของทุกชิ้นดีมาก แต่ พวกฉันคง ไม่ได้ใช้ วันหลังไม่ต้องเปลืองเงินซื้อมาให้ แค่มีใจ ให้ก็พอแล้ว อีกอย่างพวกฉันก็รับไว้ไม่ไหว
คำพูดค่อนข้างห่างเหิน เขาตั้งใจพูดแบบนี้ เตชิตรู้สึกได้ ไม่ได้รีบตอบกลับรอฟังจนให้เขาได้พูดจบ “คุณลุงครับ ของ พวกนี้ผม เลือกเองกับมือ เห็นว่ามันน่าจะเหมาะกับคุณลุงกับ คุณป้า ไม่ต้องรู้สึกกดดัน ถ้าเกิดไม่ชอบวันหลังผมจะคอยถา มนัชชาเอาอีกที ไม่ต้องไม่สบายใจ นี่เป็นสิ่งที่ผมควรทำ
ควรทําหรอ
เมทนีหัวเราะ ส่ายหัว เป็นคนพูดเก่ง
“ยังไงก็ตาม ฉันกับป้าก็ต้องขอบใจเธอมาก ฉันได้ยิน เรื่องของเธอจากนัชชาแล้ว ว่างๆมากินข้าวที่บ้านสิ” เมทนี่เอ่ย ปากชวน
ไม่คาดคิด เตชิตกลับพูดชวนเขากลับ “คุณลุงครับ ผม กลับจากต่างประเทศวันที่สี่ เรียนเชิญคุณลุงกับคุณป้ามาทาน ข้าวที่บ้าน จะได้ดูว่านัชชามีชีวิตอยู่ยังไง
เมทนี้ถูกเขาชวน จะปฏิเสธก็ไม่ได้ตอบรับก็ไม่ได้ เลย ตอบไปว่า “ปีใหม่ฉันค่อนข้างยุ่ง เดี๋ยวจะลองถามป้าเธอดู แล้วบอกนัชชากับเธออีกที
เตชิตก็ไม่ได้ขออะไรมาก “ได้ครับคุณลุง สุขสันต์วันปี ใหม่นะครับคุณลุงกับคุณป้า ลาก่อน สวัสดีครับ
หลังวางสาย เมทนี้เพิ่งรู้ตัวว่ามือตัวเองเต็มไปด้วยเหงื่อ
เมื่อกี้มัวแต่คิดคำที่จะพูดเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองก็แอบตื่นเต้น
เหมือนกัน
เขาก็ถือว่าเป็นคนที่เจอคนมามาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกตื่น เต้นกับคนที่อายุน้อยกว่า แต่เขาก็ไม่ใช่คนธรรมดา
เตชิต เขาเคยได้ยินเรื่องเขามาบ้าง แต่ไม่ได้รู้สึก ตอนนี้ รู้สึกว่าเป็นเหมือนกันที่คนอื่นเล่าลือ เธอเป็นคนหนุ่มที่สามารถ มัดใจคนอื่น เป็นคนฉลาด
เมทนีกำลังนั่งคิดทบทวน มีเสียงเคาะประตูจากข้างนอก พร้อมกับเสียงเรียกของนัชชา “พ่อ คุยเสร็จยัง หนูจะใช้โทรศัพท์”
เธอไม่ได้ยิน มองก็มองไม่เห็น ต้องรนเป็นธรรมดา เมทนี้เปิดประตูออก ยื่นมันคืนให้เธอ “เอาไป
นัชชารับมา กดดูบันทึกการโทร ห้านาทีสิบสาม ระยะ ไม่นานและไม่สั้นเกิน
เธอเดินตามหลังเมทนี ถามไม่หยุด “พ่อ คุยอะไรกัน แล้ว เขาได้พูดอะไรมั้ย”
“ไม่ได้พูด” เมทนีไม่อยากให้เธอรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ไม่ได้สนใจเธอแต่เดินไปหาณัชชนม์ที่ห้องครัว “วันที่สี่เธอมีธุระ ที่ไหนมั้ย”
“วันที่สี่หรอ” ณัชชนม์ส่ายหน้า “ไม่มี วันที่สองทั้งเยี่ยม
ญาติๆเสร็จก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว
“งั้นเธอกลับไปพร้อมลูก ไปดูว่าลูกใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านโน้น
ยังไง”
“ว่าไงนะ”
ณัชชนม์กับนัชชาถามขึ้นพร้อมกัน มองเขาด้วยสายตาไม่
น่าเชื่อ
“เตเรียกให้เธอไป ถึงเวลาก็จัดการดูหน่อยละกัน” เมทนี พูดจบก็เดินกลับห้องไป พร้อมหน้านิ่งๆ
“แม่ พ่อเป็นอะไรไปหรอ
ณัชชนม์ยิ้ม “พ่อของลูกคงอาย ใครใช้ให้ดื้อด้านโทรหา เขา ตอนนี้กลับตกหลุมพรางเขา
นัชชายืนอึ้ง เข้าใจขึ้นมา แต่ก็ใจหายไม่นึกว่าความ สัมพันธ์ระหว่างเธอกับเตชิตจะขยับขึ้นเร็วขนาดนี้
“แต่ลูกก็ไม่ต้องหนีแล้ว จากที่แม่ดูเขาก็เป็นคนที่ค่อนข้าง
จะแสดงออก ทางเราไม่ได้มีดีเหมือนเมื่อก่อน เลือก เยอะ……… ”
“โถว แม่” นัชชาไม่ค่อยอยากฟัง “หนูรู้หนาแม่ ไม่ต้อง เป็นห่วง”
“โอเคๆ แม่ไม่พูดแล้ว” ณัชชนม์ยิ้มนิดๆ เหมือนฟังออก
ว่าลูกสาวเธอไม่ได้คิดไปคนเดียว เขาเองก็อยากให้เป็นแบบนี้
ตั้งแต่ที่เธอหย่ากับดวิษ เธอกับณัชชนม์ก็คอยเป็นห่วงเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ด้อยแต่ในเมื่อเคยหย่าแล้วครั้งหนึ่ง หลัง จากนี้ ก็คงจะยากที่จะเจอผู้ชายดีๆ ตอนนี้มีคนที่จริงใจกับเธอ มีคนเดินเป็นเพื่อน มันสำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
นัชชาเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง รีบโทรหาเต ชิต สายถูกรับอย่างเร็ว เขาตอบรับ “ฮัลโหลครับ
นัชชาได้ยินดังนี้คงตกใจมากสินะ เธอยกยิ้ม “ฉันเอง
เตชิตเพิ่งขับถึงบ้านพอดี เขานั่งอยู่กับที่ไม่ขยับ โล่งใจ แต่ประโยคแรกกลับพูดว่า “วันหลังถ้าพวกท่านโทรมา ช่วย บอกฉันก่อน
“ทำไม คุณตื่นเต้นหรอ” นัชชาถามแบบยิ้มๆ
ไม่คาดคิด เขากลับยอมรับง่ายๆ “อืม ตื่นเต้น ครั้งแรกในชีวิต อารมณ์เหมือนนั่งรถไปเหาะ หัวใจเต้น แรง เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้
นัชชาแอบเห็นใจเขา พูดขอโทษ “ครั้งนี้มันเป็นเรื่อง กะทันหัน วันหลังฉันจะบอกคุณก่อนก็แล้วกัน
เตชิตเอียงไปพิงบ่อนั่ง มองดูโคมไฟสีแดงตรงหน้าประตู พอนึกถึงสีหน้าที่ตื่นเต้นของตัวเอง เขารู้สึกตลกตัวเอง “เดี๋ยว สักวัน เธอก็ต้องมีวันนี้ วันที่ลูกสะใภ้ขี้เร่เจอพ่อตา
นัชชาหุบยิ้ม ขี่ ขี้เหร่หรอ เขาว่าเธอหรอ
เตชิตเห็นว่าเธอเงียบไป เดาออกตอนนี้ว่าเธอกำลังทำ หน้าอะไรอยู่ คงจะกำลังตาโต อ้าปากค้าง เขายิ้มแล้วพูดขึ้น “ไม่ต้อง ห่วง ขี้เหร่ขนาดไหนฉันก็เอา เธออย่าตกใจวิ่งหนีไปก็ แล้วกัน”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ