ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน 187 แหวนเพชรเพื่อสื่อความหมาย



ตอน 187 แหวนเพชรเพื่อสื่อความหมาย

ตอนที่ 187 แหวนเพชรเพื่อสื่อความหมาย

นัชชา โดนทีนาร์เล่นงานซะขนาดนี้ สภาพจิตใจเธอแย่ มาก ตลอดทางที่ออกจากบ้านมาบริษัทเธอได้แต่มองออกนอก หน้าต่าง ไม่พูดอะไรสักคำเลย เตชิตรู้เลยว่าจะพูดให้คำ แนะนำอะไรไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากจะให้เธออยู่กับ ตัวเองเงียบๆ

หลังจากขับรถมาถึงบริษัทและจอดที่ลานจอดรถเสร็จ ตอนแรกเขาคิดว่าตลอดระยะเวลาที่เดินทางมาน่าจะพอที่ ทำให้เธอสงบสติอารมณ์ลงได้ ไม่คิดเลยว่านัชชาปลดเข็มคัด นิรภัยก็จะเดินออกเลย

เตชิตขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับดึงข้อมือเธอไว้ ขนาดประโยค ลาก่อนยังไม่พูดอีกหรอ?”

เขาสามารถรับมือกับอารมณ์คิดเล็กคิดน้อยของเธอได้

นอกจากการที่เธอไม่สนใจเขา เขารับไม่ได้

นัชชาตอบด้วยน้ำเสียงแบบขอไปที “อ้อ ลาก่อน

“…” เลือดในสมองของเขาเหมือนหยุดไหลไปฉับพลัน ลมหายใจเขาติดๆขัดๆบริเวณหน้าอกจะไหลก็ไม่ไหล จะหยุดก็ ไม่หยุด อย่าถามต่อเลยมันอึดอัดมากแล้ว
เด็กน้อยปีกกล้าขาแข็งแล้ว ตอนนี้เริ่มต่อปากต่อคํากับ

เขาแล้ว

เธอเห็นว่าเขาไม่พูด นัชชายังตั้งใจจะถามเขาต่ออีกกลัว ว่าจะอุ่นใจไม่พอ “ฉันไปได้ยัง?” เตชิตได้แต่พยักหัวแล้วยิ้มนิดๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมี

วันนี้ได้ เขายื่นมือออกไปปลดล็อกรถ “ทำงานดีๆนะ ข้าวเที่ยง

กินด้วยกันนะครับ

นัชชาเปิดประตูรถลงไป หัวยังไม่หันกลับมามองเลย แต่ เดินเข้าไปในลิฟต์ด้วยท่วงท่าอันสง่างาม เกือบไปแล้วกับค่า พูดที่ว่า “อารมณ์ไม่ดี” ปรินซ์ออกมาแล้วไปแปะไว้บนหัวเสีย จริง

หลังจากเดินเข้ามาในลิฟต์แล้วสีหน้าเธอเปลี่ยนเป็น เครียดขึ้นจนกระทืบเท้า

“ทีนาร์ ทีนาร์ ทีนาร์!” เธอตะโกนชื่อนี้ 3 ครั้งติด โมโหที่ ขนาดตบหัวตัวเอง 1 ที่ “อยากโทษก็ต้องโทษตัวเอง รู้สึกน้ำ ท่วมปากเหมือนกับฉัน จะใช้วิธีไหนก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้ เสียใจในสิ่งที่เธอทำแล้วใช่ไหม ? สายไปแล้วแหละ!

ดูจากสถานการณ์ของเช้าวันนี้ เธอก็ไม่สามารถทำใจได้

เสียง ซึ่งต้องดังขึ้นเมื่อลิฟต์ถึงชั้น 4 จังหวะเดียวกับที่เธอ กำลังลูบผม พนักงานออฟฟิศออเข้าลิฟต์เต็มไปหมด หนึ่งใน นั้นก็มีเพื่อนร่วมงานของเธอหนึ่งคน เขาเห็นเธอกำลังขยุ้มผม อยู่ถึงกับตะลึงไปพักหนึ่ง
นัชชาตัวแข็งเป็นหินแบบหนึ่ง ไม่ช้าก็กลับมาเป็นปกติ แอบทำเหมือนกับว่าบนหัวมีอะไรสักอย่างที่เลอะอยู่ติดอยู่บน หัว ค่อยๆปัดออกไป 2 ครั้ง แล้วค่อยปล่อยมือวางลงอย่าง ปกติทั่วไป

“นัชชา ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ได้ยินว่าลากิจ ลาเสร็จธุระ แล้วหรอ” แววเพื่อนร่วมงานทักทายตามมารยาท

นัชชาพยักหน้า “ใช่ นี่ก็เกือบจะสองสัปดาห์แล้ว ถ้าลาอีก ก็คงไม่ได้เรื่องแล้วแหละ

“เธอเนี่ยถือว่าดีเลยนะ ก่อนหน้านี้ฉันขอลาสองวันยังลา ไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงลาไปสองอาทิตย์เลย” แววพูดถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจไป “ถ้าเป็นเหมือนเธอได้ก็คงดี ปีหนึ่งแล้วนะที่ ฉันไม่ได้กลับบ้าน ไม่มีเวลาตลอด

นัชชาได้ยินที่แววพูดถึงกับไปไม่เป็นได้แต่ปลอบใจแวว “เดี๋ยวก็ปีใหม่แล้ว เธอก็เอาวันลามาบวกกับวันหยุดช่วงนั้นลา หยุดเลย ฉันเป็นคนที่นี่ ฉันจะช่วยทำงานแทนพวกเธอเองนะ

“จริงๆหรอ?”

“อืม ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นนะ

“เธอดีจริงๆ” แววยิ้มหน้าบานทันที ตลอดทางเดินแววพูด ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันมานี้

ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครยอมคุยกับเธอถึงเรื่องพวกนี้มีแต่คน เอาแต่หลบหน้าเธอแทบไม่ทันอยู่แล้ว
ตอนกำลังเดินไปห้องทำงาน เจอกับปวิมลโดยบังเอิญ จะ บอกว่าไม่ได้ทักทายเธอมานานแล้วแต่ตอนนี้เจอกันซึ่งๆหน้า แววก็อยู่ด้วยจะทำเหมือนไม่รู้จักก็ค่อยดีเท่าไหร่

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” นัชชาทักทายกันแก้เก้อเขิน ในใจก็ไม่ได้ กระโตกกระตากมากมาย เตชิตเคยบอกว่า ไม่ได้โกรธแค้น เกลียดชังอะไรกันมากนักก็ปล่อยๆไปบ้าง

คิดไปคิดมาเธอกับปวิมลก็ไม่เจอกันมานานมากแล้ว เรื่อง คับข้องใจในอดีตก็ลืมไปไว้ข้างหลังสมองแล้ว

ปวิมลก็ตอบรับการทักทายของเธอ แต่ทว่าสายตานั้น กลับมองไปที่แหวนเพชรที่อยู่ในนิ้วมือของนัชชา เวลานั้นเอง มุมปากก็แกล้งยิ้มแบบอดไม่ไหว “แหวนเพชรของเธอสวยนะ นี่ซื้อใหม่หรอ?”

นัชชาก้มหัวมองตามแล้วยกมือขึ้นไปทางปวิมลอย่าง ภูมิใจ “ขอบคุณนะ แต่ว่าไม่ใช่ฉันซื้อเอง

“หะ? คนอื่นซื้อให้หรอ?แบบนี้สวยมาก ตัวเรือนเพชรนี่ก็ สะอาด เกรดดีมาก นี่ราคาเท่าไหร่กันเนี่ย ” แววปากไวใจคิด อะไรปากก็พูดออกมาสมองยังไม่ทันคิดเลยแถมเอาไหล่ชนนัก ชาเบาๆและถามเธอทันที “ท่านประธานเป็นคนให้มาใช่ป่าว?

นัชชาได้แต่อมยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ แววเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ควร ถามคำถามนี้ เลยตอบเองเลยว่า “นี่ เธอดูฉันนะแหวนสวย พอไม่ต้องไปสนหรอกว่าใครส่งให้อ่ะนะ หึหึ ดีจริงๆ รอสิ้น เดือนเงินเดือนออกเมื่อไหร่ฉันจะไปดูแหวน…
นัชชาก็ไม่ได้เก็บคำพูดพวกนั้นไว้ในใจ ได้แต่ยิ้มแค่นั้น

แต่ทว่าใจของปวิมลกลับวุ่นวายคิดไปต่างๆนานา ได้แต่ดู หลังของนัชชาที่ห่างออกไปกลับคิดถึงตัวเอง กระโปรงทำงาน ที่เธอใส่อยู่เป็นแบรนด์ของบริษัท A ทั้งชุดเนี่ยราคารวมกัน หลายหมื่นขึ้น รองเท้าก็เป็นลิมิเต็ด อิดิชั่นของแบรนด์ ขนาด มีเงินยังซื้อไม่ได้เลย แต่เธอก็ไม่ได้คิดไรมาก ก็แค่เป็นของเล่น ของคนมีตังค์ เธอคิดว่าคงมีสักวันแหละที่เตชิตคงเบื่อนัชชาขึ้น มา

แต่วันนี้เห็นแหวนวงนั้น… นั่นอ่ะแหวนเพชรเลยนะ ! ความหมายมันเทียบไม่ได้เลยกับการให้เสื้อผ้า หรือให้พวก รองเท้าที่มี ราคาพวกนั้น ท่านประธานเตชิตไม่มีทางที่จะไม่รู้ ได้เลยว่ามีความหมายว่าอะไร ถึงกับให้แหวนนัชชาแล้ว คงไม่ ได้จีบนัชชาเล่นๆเป็นแน่

ปวิมลไม่กล้าที่จะคิดต่อ คิดถึงตอนที่เธอทำกับนัชชา ทั้งหมดก่อนหน้านี้ถึงกับเกิดอาการหวาดกลัวเหงื่อแตกไปทั้ง ตัว

อีกด้านหนึ่ง เตชิตกลับมาถึงห้องทำงาน เห็นงานที่กองไว้ สูงยังกับกองภูเขา และยังมีประชุมตามมาอีกเยอะแยะ ตั้งแต่ วินาทีที่ เขามาถึงห้องทำงานมีทั้งประชุมทางโทรศัพท์ ประชุม ทางวิดีโอ ประชุมทางไกลทุกงานและยังมีประชุมกับหน่วยงาน ระดับสูง ของบริษัทอีก ไม่มีเวลาหยุดพักเลย ในช่วงเช้าเขามัวแต่ประชุมทั้งนั้น

เขาคุยสนทนาไม่หยุดพัก ทั้งดูหนังสือพิมพ์ ขนาดเลขาฯ เอากาแฟเข้ามาให้หรือเอากาแฟออกไปตอนไหนอย่างไร เวลา ที่ยกกาแฟจิบสักอีกยังไม่มีเวลาเลย

“ท่านประธานครับ ท่านมีนัดทานข้าวกับคุณธาวัน ประธานบริษัทในเครือบีทามส์ที่ตึกร้านซีไมเนอร์และจะเสร็จ สิ้นในเวลาประมาณบ่ายสองโมงกว่าครับ” ตรัณยืนอยู่ข้างๆ เขาบอกให้เขาทราบถึงตารางนัด

เตชิตยกมือขึ้นมาจัดเนคไท ให้เข้ารูป สายตาก็ยังคงอยู่ที่ เนคไทเขาไม่ได้มองขึ้นมาพลางตอบกลับว่า “เลื่อนไปก่อน

มุมปากของตรักกระตุกขึ้น “ท่านประธานครับ ตอนนี้ 11 โมงกว่าแล้วนะครับ อีกประมาณ 1 ชั่วโมงการนัดรับประทาน ข้าวก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ผมคิดว่าถ้าตอนนี้เลื่อนนัดออกไป ผมเกรง ว่าไม่ค่อยดีนะครับ…

จะเอ่ยยังไงคุณธาวันประธานของบริษัทในเครือบีทางส์ก็ เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ถึงแม้ว่าจะเป็นฝ่ายนั้นเรียนเชิญไป ทานข้าวก็ตาม แต่ว่าก็เป็นการคุยกันในด้านธุรกิจที่พึ่งพา อาศัยต่อกัน หลังจากเรื่องนี้ผ่านไปแล้วฝ่ายท่านประธานธาวัน น่าจะมีทรัพยาการจำนวนหนึ่งที่ยังมีประโยชน์อยู่ให้เราได้ใช้ บ้าง

แต่ตอนนี้จะขอเลื่อนนัด…แล้วหรอ?
ตรักลืนน้ำลายแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านประธานเตชิตครับ ช่วง กลางวันท่านมีการวางแผนอื่นอยู่ใช่ไหมครับ?

เตชิตคิดแล้วคิดอีกเวลาเขาพูดออกมาเกือบทำให้ตร สําลักน้ำลายตาย “มีสิ กินข้าวเป็นเพื่อนนัชชาไง ??? ตรัณยังคิดว่าตัวเองประสาทหลอนหูฝาดไปแล้ว เขาถาม

กลับอย่างตกใจกับประโยคที่ท่านประธานตอบกลับมาเมื่อตะกี้

“อะไร อะไรนะครับ?”

เตชิต ใช้สายตามองเขากลับไป เขารีบแก้ตัว “ท่าน ประธานครับ เอ่อ… ท่านจะทานข้าวกับคุณนัชชาได้ทุกเวลา แต่ว่าทางบริษัทในเครือบีทานส์…

ตรัณไม่เคยคิดเลยว่าเจ้านายที่เก่งไปซะทุกอย่างจะมีวันนี้ วันที่แยกอะไรไม่ออก

“ช่วงนี้เป็นช่วงอ่อนไหวง่าย รอนานไม่ได้” เตชิตไม่มี อาการแสดงออกถึงความรู้สึกผิดใดๆเลย เขาเป็นนักธุรกิจคน หนึ่งที่คำนึงถึงกำไรผลประกอบการของบริษัทไว้เป็นสำคัญ แต่ ในตอนนี้เขาต้องรีบทำให้นัชชาหายโกรธ เลยไม่ได้คิดถึงเรื่อง อื่น

ตรัพอจะมองออกถึงความตั้งใจของเขา เขาเสียดายได้ แต่พยักหน้า “ผมเข้าใจแล้วครับ ตอนนี้ผมจะรีบติดต่อทางบริ ษัทบีทเมส์ทันทีครับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ