ตอน173มันเป็นความผิดของนางเพศยาคนนั้น
ตอนที่ 173 มันเป็นความผิดของนางเพศยาคนนั้น
อีกฝั่งหนึ่ง วิลล่าเขตเหนือ หลังจากที่เตชิตกับนัชชาออก ไป วิลล่าก็กลายเป็นเหมือนถูกกดดัน หายใจไม่ถนัด
จินต์ไม่รู้เรื่องที่เตชิตเข้าโรงพยาบาล แม้แต่ปวีณก็ไม่รู้ เรื่องนี้ หลังจากที่พวกเขาย้ายออกไป จินต์ก็ตัดขาดกับเขา เวลาที่ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว เขาไม่ได้โทรหาเธอแม้แต่ครั้ง เดียว ตั้งแต่เริ่มคาดหวังจนถึงหมดหวัง จินต์รู้สึกน้อยใจ
เพื่อผู้หญิงที่ชื่อนัชชา เขาก็เริ่มไม่สนใจเป็นห่วงเป็นใย เธอ เขาลืมไปแล้วหรอว่าเคยให้สัญญาอะไรไว้กับพ่อแม่ของ
เธอ
ในตาของจินต์เต็มไปด้วยความแค้น แค่นึกถึงนัชชาเธอก็ กัดฟันแน่น เพศยา ทั้งหมดเป็นความผิดของนางเพศยาคนนั้น
ตั้งแต่วันนั้นที่จินต์เจอตัวจริงของนัชชา เธอก็รู้สึกไม่พอใจ เพราะตัวจริงเธอสวยกว่าในรูปถ่าย ใบหน้าใบนั้นเด็กกว่าเธอ อ่อนนุ่มกว่าเธอ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงที่เธอไม่มีทางมี เห็น เตชิตโอบกอดเธอ ฟ้ารู้ว่าเธออิจฉานัชชาแค่ไหน
ทั้งหมดนี้มันควรจะเป็นของเธอ มันไม่ใช่ของนัชชา
ในใจของจินต์ นัชชาเป็นเหมือนกาฝากที่มาแย่งที่อยู่ของ เธอ เธอเกลียดอยากจะฉีกนัชชาเป็นชิ้นๆ
เป็นเพราะเรื่องนี้ ปณิตา โทรหาเธอบ่อยมาก บ่อยจน ทำให้คนรำคาญ จนจินต์ทนไม่ไหว “เธอเป็นอะไรมากมั้ย ฉัน บอกแล้วไม่ใช่หรอ ให้รอฉันติดต่อไป เธอก็ไม่ต้องโทรมา ลืม อีกแล้วหรอ
“จินต์ เธอหมายความว่ายังไง ฉันช่วยจัดการทุกอย่างจน เสร็จ ทำให้ฉันมีปัญหามากมาย พอมาตอนนี้เธอกลับไม่สนใจ เธอรู้มั้ยตอนนี้มีคนคอยสืบเรื่องฉัน แล้วยัง
“ใครว่าฉันไม่สนใจ จินต์พูดตัดเธอแบบรำคาญ “ตอนนี้ ฉันไม่ได้คอยให้คำแนะนำเธออยู่หรอ
ปณิตาหัวเยาะ “คำแนะนำของเธอคือ ให้ฉันคอยหลบๆ
ซ่อนๆเนี่ยนะ”
จินต์สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามกดกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้ เพราะปณิตายังมีประโยชน์ต่อเธอ
เธอพูดอธิบาย “ตอนนี้เป็นเวลาขับขัน ถ้าเธอไปซ่อนตัว จะโดนตำรวจจับ สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ก็จะไม่มีความหมาย
“ฉันต้องซ่อนอีกนานแค่ไหน” ตอนนี้ ปณิตากำลังยืนอยู่ ดินแดง ที่กันดารเปลี่ยวๆ คนเดียว กลางคืนลมพัดน่ากลัว เหมือนอยู่บ้านผีสิง “ต้องบอกเวลาที่แน่นอน ฉันคงไม่ต้องนั่ง รอต่อไปเรื่อยๆ ใช่มั้ย
“ใจเย็นๆ” จินต์เห็นเธอเริ่มสติแตก กลัวว่าเธอจะทำเสีย เรื่อง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนสุภาพ “อีกไม่นาน ตอนนี้ขอแค่ เธอคอยซ่อน ให้หาตัวเธอไม่เจอ รอให้เรื่องมันเงียบลงกว่านี้ เธอก็ออกมาได้แล้ว
ได้ยินจินต์รับปาก เธอยกมือปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ที่เสื้อออก “ได้ ฉันจะลองเชื่อเธออีกครั้ง เพราะยังไงตอนนี้เราก็ลงเรือลำ เดียวกันแล้ว ฉันบอกไว้เลยถ้าเธอคิดที่จะทิ้งฉันหนีรอดไปคน เดียว ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไว้แน่
จินต์เริ่มจะเกลียดเธอขึ้นมา แต่ก็พูดปลอบเธอ เธอ สบายใจได้ ฉันไม่มีทางทิ้งเธอ รอฟังข่าวจากฉัน
หลังจากวางสาย เธอก็กดปิดเครื่อง หันหลังกำลังจะเก็บ
โทรศัพท์ แต่สายตาไปสะดุดที่ปวีณ “ยืนทำอะไรตรงนั้น
เขาไม่ได้ตอบกลับ ยืนมองเธอนิ่งๆ
จินต์ขมวดคิ้ว เก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม แล้วเดินไปยืนอยู่ตรง หน้าเขา “คุณได้ยินหมดเลยใช่มั้ย”
ปวีณถามกลับ “คุณทำแบบนั้นทำไม
เธอชอบเตชิตขนาดนั้น คนรอบข้างทุกคนดูออก ถ้าชอบ มากทำไมเธอถึงทำเรื่องแบบนี้
จินต์เห็นสายตาที่ปวีณมองเธอ เธอคอยแอบแต่สุดท้ายก็ โดนเขาจับได้ เธอเลยรีบบีบน้ำตาทำตัวให้น่าสงสาร “ฉันก็ไม่ ได้อยากจะทำ แต่ฉันต้อง……………
“ทำแบบนั้นทำไม ไปทำร้ายคนคนรักของคนที่คุณรัก เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้ครอบครองคนอื่นก็ห้ามได้หรอ” ปวีณไม่ เข้าใจ เพราะสิ่งที่เธอกับปณิตาทำมันเกินไปจริงๆ
คาดไม่ถึง เธอได้ยินเขาพูดต่อว่าเธอ ยังไม่ทันที่จะได้พูด อะไรต่อ น้ำตาเธอก็ไหลอาบแก้ม
“ฉันไม่ได้อยากทําร้ายเขา ฉันแค่ไม่อยากให้เขายอมเสีย ทุกอย่างไปเพียงแค่ผู้หญิงคนเดียว” จินต์แก้ตัวหน้าด้านๆ ทำ เหมือนตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ “ฉันคิดว่าคุณคือคนที่เข้าฉันมา ที่สุดแต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย
เธอแกล้งบีบน้ำตา มันเป็นความผิดฉันหมดเลย ฉันทำ ผิดใช่มั้ย”
ปวีณเห็นเธอในสภาพนี้เขาก็ไม่สบายใจ ความจริงมัน
ไม่ใช่ความผิดของเธอ เธอผิดที่รักคนที่ไม่ควรรักผู้ชายที่เขาไม่ ได้รู้สึกอะไรกับเธอ
“ปวีณ คุณคงมองว่าฉันเลว ดูถูกฉัน เพราะฉันร่วมมือกับ ปณิตาทำร้ายนัชชา ใช่มั้ย” จินต์เหมือนคนเมาเสียสติ ไหนๆก็ มาถึงขั้นนี้แล้วพูดให้มันกระจ่างชัดๆไปเลย
ไม่ต้องคอยให้เขาเดาเองเออเอง เธอบอกทุกอย่างกับ ปากให้เขาเปลี่ยนความคิดที่เขามีต่อเธอ
ปวีณไม่เข้าใจว่าทำไมจินต์ต้องทำแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ ทำร้ายคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
แต่.
เห็นเธอร้องไห้เสียใจมากขนาดนี้ เธออาจจะไม่ได้อยาก ท่าแบบนี้จริงๆเพียงแค่หน้ามืดตามัวเพราะความรัก
เขาก้าวเขาไปใกล้เธอ “คุณเตดีกับคุณ เห็นคุณเป็นคนใน ครอบครัว ฉันไม่เคยเห็นเขาทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน ถึงมันจะ
ไม่ใช่เชิงชายหญิง แต่แค่นี้ก็เกินพอแล้วไม่ใช่หรอ
เปลี่ยนสถานะเปลี่ยนมุมมอง คอยดูแลเขามันไม่ดีตรง
ไหน
จินต์ตลกแต่ก็กลั้นไม่ให้หัวเราะออกมา ส่ายหัว “คุณไม่ เข้าใจ ในเมื่อคิดไปแล้วมันอยากที่จะให้กลับมาเหมือนเดิม
“แต่คุณทำแบบนี้ ถ้าคุณเตรู้ เขาจะยิ่งเสียใจ
ได้ยินดังนี้ จินต์ตกใจอึ้ง ทำหน้าเศร้าๆมองเขาด้วย สายตาอ้อนวอน “คุณจะบอกเขาหรือ
ปวีณไม่ได้ตอบเธอ เขาลังเล
จินต์จ้องมองดูสีหน้าเขาไม่ให้ขาดสายตา กลัวว่าจะเอา ไปพูด แต่พอเห็นเขาเริ่มลังเลเธอก็ยื่นมือไปจับแขนเขา
เธอไม่ได้พูดเชิงบังคับหรือขอร้อง เธอก้มหน้า ตั้งใจให้ น้ำตาหยดลงบนหลังมือของเขา แล้วเธอก็พูดขึ้นเบาๆ “ฉันแค่ อยากหา คนที่ฉันสามารถพึ่งพาได้ หลายปีที่ผ่านมาอยู่เมือง นอกคนเดียวอย่างลำบาก ไม่ใช่ฉันอยากทําแบบนั้น แต่เตชิต เขาเป็นคนเดียวที่เหลือในชีวิตฉัน ฉันยอมให้เขาถูกแย่งไปไม่ได้
ปวีณใจอ่อน ตั้งแต่เล็กขนโตเขาลำบากมามากตอนเลย สงสารและเห็นใจเธออย่างมาก เขาอยากจะดึงผู้หญิงตรงหน้า เข้ามากอด “คุณเชื่อใจผมได้ ถ้าเกิดคุณต้องการผมยินดีเป็นที่ พึ่งให้คุณ
จินต์พยายามกลั้นอารมณ์รังเกียจไว้ แกล้งทำเป็นคิดไม่ ถึง “จริงหรอ”
แสดงออกเหมือนในที่สุดก็มีคนยืนเคียงข้างเธอแล้ว
ปวีณมองดูหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา เขาพยักหน้า “จริง
ครับ”
“งั้น…..คุณอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครได้มั้ย” เป้าหมาย จริงๆของเธอ เพียงแค่อยากให้ปวีณปิดปากเงียบไม่ให้เอา เรื่องที่ได้ยินไปพูดต่อ
เตชิตคือผู้มีพระคุณของเขา เหมือนพ่อแม่ของจินต์ที่เป็นผู้ มีพระคุณของเตชิต “ถ้าคุณไม่ทำอะไรที่ทำให้คุณเตชิตเสีย หายหรือทำร้ายเขา ผมยอมตกลงก็ได้ครับ
จินต์ฉีกยิ้ม หางตายังมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่ เธอ กัดฟันแล้วเอียงเข้าไปในอ้อมกอดเขา เธอไม่ได้กอดแน่นเพียง แค่แตะๆ แต่มันทำให้ปวีณ ใจละลาย
แต่ลับหลังตอนที่เขามองไม่เห็น หน้าเธอเปลี่ยนเป็นเย็น ชา ร้ายกาจ เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ “ขอบคุณนะ ปวีณ
สำหรับปวีณมันเป็นคำพูดที่มีค่า แต่เขานึกไม่ถึงว่ามัน
เป็นการเริ่มต้นที่เลวร้าย แต่พอวันที่เขารู้สึกตัวทุกอย่างก็สาย
ไปแล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ