ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน 170บังเอิญเห็นใครถอดเสื้อ



ตอน 170บังเอิญเห็นใครถอดเสื้อ

ตอนที่ 170 บังเอิญเห็นใครถอดเสื้อ

“ยิ้ม” เตชิตกำชับคนขับรถให้กลับไวโรจน์วิลล่า

นัชชารู้สึกแปลกใจ “ไม่ไปออฟฟิศหรอ?”

“ตอนนี้ยังไม่ไป รอสักสองสามวันค่อยไป

“จะไม่กระทบงานใช่ไหม?” ก่อนหน้านี้เขาก็นอนโรง พยาบาลมาอาทิตย์กว่าแล้ว ช่วงสามวันแรกตรัณไม่ได้มาหา เขา แต่จากนั้นทุกวันเขามาตลอด ทุกครั้งที่รายงานเรื่องงาน กับเขาต้องใช้เวลาเยอะมาก บางครั้ง ใช้เวลาทั้งเช้า

“ไม่เป็นไร ประชุมทางไกลจากบ้านก็ได้ ไม่กระทบหรอก กว่าเขาจะมีเวลาว่างแบบนี้ และเพิ่งจะคืนดีกับนัชชา ทั้งยังได้ อธิบายเรื่องของทีนาร์อย่างชัดเจน ทำให้เขาสบายใจขึ้นมา เยอะมาก จึงอยากจะมีเวลาอยู่ด้วยกัน เพื่อทดแทนเวลาที่เขา ละเลยเธอไป

แววตาอันเป็นประกายของเขาสาดส่องไปที่ใบหน้าของ จับจ้องเพียงไม่กี่วินาที เธอยังพอทนไหว แต่เมื่อเวลา เธอ ผ่านไปสักพักก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมา ยกมือขึ้นมาจับใบหน้าตัวเอง “หน้าฉันมีอะไรติดงั้นหรอ?”

เตชิตข้ากับท่าทางอันไร้เดียงสาของเธอ

ยื่นมืออกไปจับเธอนอนบนขาตัวเอง ริมฝีปากอุ่นๆของเขาประกบลงบนใบหู ของเธอ หัวเราะแบบมีเลศนัยขึ้นมาแล้วหายไป “ดูซิว่าคุณ สบายใจได้ยังไง รีบไล่ผมไปแบบนี้

นัชชาถูกเข้าหายใจรดตรงใบหูทำให้จักจี้ขึ้นมา เอียงคอ หนีเขา “ฉันเป็นห่วงงานของคุณไง ทำไมคุณกลับมองว่าฉัน เจตนาไม่ดีซะงั้นล่ะ

เตชิตหยิกเนื้อนุ่มๆตรงเอวของเธอ ได้ยินเสียงเธอร้อง ออกมา รีบยกที่กั้นระหว่างเบาะขึ้นมา “งั้นพูดมาสิ ว่าคุณ สบายใจยังไง

ท่าทางแบบนี้……

ไม่มีทางที่นัชชาจะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้ตอบ อะไร เพียงคิดอยากกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง เมื่อครู่แค่ขยับ ตัวนิดหน่อยก็ถูกเขาโอบไหล่แน่น “ฉันขอเตือนคุณไว้ อย่า ซุกซนวุ่นวาย จุดชนวนไฟขึ้นมาเอง ก็ต้องหัดรู้จักรับผิดชอบ เอง”

“…” ตอนนี้ใครจุดกันแน่???

เห็นนัยน์ตาเธอบอกเป็นนัยว่าร้อนใจและกังวล เตชิต อดใจไม่ไหวที่ทำให้เธอกลัวมากกว่าไป “ให้ผมกอดหน่อย ไม่ ทําอะไรมากกว่านี้

พูดพลาง หยิบมือน้อยๆที่ฝ่ามือเขาขึ้นมาบรรจงจูบ หนึ่ง ครั้งสองครั้ง ราวกับถูกขนนกปลิวสัมผัสผ่านมือ
นัชชามองดูการกระทำของเขา ใจของเธอเต้นแรงขึ้น ผิว ที่โดนเขาจูบราวกลับกับมีเปลวไฟเผาไหม้ ร้อนจนไม่มีแรงที่จะ ขัดขืนหรือปฏิเสธ อ่อนระทวยไปทั้งตัวจนไปอยู่ในอ้อมอกของ เขา

รถเคลื่อนที่อย่างนิ่มนวล เขาเองก็ไม่ได้ทำกริยาอะไรเลย เถิดหรือไม่เหมาะสม

วันนี้นัชชามัดผมรวบขึ้นมา ด้านหลังศรีษะมัดเป็นก้อนก หลวมๆ ใบหน้าอันงดงามของเธอใหญ่ราวฝ่ามือ ปอยผม อันดกดำไม่กี่เส้นพัดปลิวอยู่ที่คอ เป็นภาพที่บรรยายไม่ถูกเลย จริงๆ

เตชิตถามตัวเองว่าไม่เคยเจอผู้หญิงแบบไหนบ้าง สวยจน ละสายตามองไม่ได้ มีความสามารถ นิสัยอ่อนโยน พูดจาอ่อน หวาน ล้วนแล้วไม่มีใครที่จะสามารถทำให้เขาประทับใจได้ ขนาดนี้

เธอสวยมาก สวยราวกับสายลมแรกที่โบกพัดในฤดูผลิ อันอบอุ่น สวยงดงามแบบไม่มีใครเหมือน เพียงมองแค่พริบ ตาเดียวกสามารถจดจําไปได้ตลอด

โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่ทั้งใหญ่และสดใส ทุกครั้งที่มอง มาที่เขามันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันเลย เป็นความ รู้สึกที่ทำให้จิตใจอันเหี่ยวเฉาของเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

“คุณสวยจัง” เขายิ้มเล็กน้อย ยกมือขึ้นมาเกี่ยวผมไปที่

หูให้เธอ
จู่ๆนัชชาถูกเขาชมแบบนี้ทำเอาเธอทำตัวไม่ถูก หน้าของ เธอแดงขึ้นมา ตาของเธอก็ไม่กล้าสบสายตากับเขา “ทำไมจู่ๆ ก็มาชมฉันแบบนี้ล่ะ

คำพูดนี้ทำให้เตชิตรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา บรรยกาศก ลังดีแบบนี้ เธอยังจะถามอะไรแบบนี้อีกเนี่ยนะ?คงเป็นเพราะ ปกติเขาไม่ค่อยพูดจาหวานกับเธอสักเท่าไหร่

“นัชชา เหนื่อยเธอเลยนะ เหนื่อยที่จะต้องไปกลับโรง พยาบาล เสียแรงไปกับการดูแลเขา และ ยังเหนื่อยใจกับเรื่อง ในอดีตของเขาที่เธอยอมให้อภัย

คำพูดที่ดูจริงจังเหล่านี้ ทำให้นัชชารู้สึกเขินขึ้นมา ก้ม หน้าลงมุดเข้าไปแถบหน้าอกของเขา “ฉันก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ต่อไปไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เราต้องพูดคุยกันให้ชัดเจน โอ เคไหม?”

“โอเค” เตชิตจับหัวของเธอ ให้เธอได้ยินเสียงของ หัวใจที่ค่อยๆเต้นเร็วขึ้น “เชื่อผม ความรู้สึกที่ผมมีให้คุณมันไม่ คุ้มค่าต่อการที่คุณจะมานั่งสงสัยเลยสักนิด ใจดวงนี้ของผม เต้นแบบนี้เพื่อคุณคนเดียวเท่านั้น

เตชิตแทบจะทนไม่ไหวแล้ว เขาเกือบจะทำให้เธอหวาด กลัว ตอนนี้โกรธตัวเองที่ไม่สามารถแสดงออกถึงความในใจที่ มากแค่ไหน

มีต่อเธอออกมาให้เห็นต่อหน้า ให้เธอได้รับรู้ว่าเขารักเธอ

นัชชาส่ายหัว “ฉันรู้ ฉันเข้าใจดี
ความรักไม่ใช่การพยายามแค่เพียงฝ่ายเดียว สัมผัสได้ถึงความรักที่เขามีให้กับตัวเอง เขาเป็นสุภาพบุรุษที่ สง่าผ่าเผย ถ้าเขาไม่รักเธอ คงไม่พยายามและทุ่มเทเพื่อเธอ ขนาดนี้

เธอ

เธอรับรู้ได้ทั้งหมด

เตชิตฟังแต่กลับมองเธอด้วยสายตาที่ดูไม่ค่อยเข้าใจ “มี หนึ่งเรื่องที่คุณไม่รู้

“เรื่องอะไรหรอ?”

“ไม่บอกคุณหรอก

นัชชาสงสัย เงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมอกของเขา ใบหน้า เขากลับลมคมใน พูดออกมาด้วยความหยิ่งผยอง “ไม่บอกก็ คือไม่บอก”

เพราะความปากดีของเขา ทำให้ในใจยิ่งสงสัยอยาก รู้มากขึ้น ในความคลุมเครือนี้เธอรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ต้อง เกี่ยวข้องกับตัวเองแน่ สำหรับเตชิต ชายแก่ที่ไม่เคยมี ประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน ในเรื่องของอารมณ์ความ รู้สึกเขาเสแสร้งไม่เป็นจริงๆ

ว่าแต่จะเป็นเรื่องอะไรกันนะ?

นัชชาไม่ได้ถามต่อ แต่ในใจกลับเฝ้ารออย่างจดจ่อ
รถเคลื่อนที่อย่างนิ่งตลอดทาง เมื่อเดินทางมาถึงไวโรจน์ วิลล่า ใกล้เวลาอาหารเย็นพอดี ทั้งสองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ โรงพยาบาล ทำให้ไม่ค่อยได้ทานอาหารดีๆ โดยเฉพาะนัชชา ที่กินเพื่ออยู่ แก้ขัดไปแน่แต่ละวัน

เมื่อกลับถึงบ้าน แค่นึกถึงว่าจะต้องทำอาหารเธอก็รู้สึก ปวดหัว แต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่คาดฝันก็คือ เมื่อเปิดประตูออก มากลับได้กลิ่นอาหารหอมฟุ้งขึ้นมา

เธอเดินไปตามทางเข้าไปในห้อง มีเพียงเสียงโซ้งเช้ง ใน ห้องครัว

ใจนัชชาเต้นขึ้นมาไม่เป็นจังหวะ รับหันไปหาเตชิตที่อยู่ ด้านหลัง “มีคนอื่นอยู่ในบ้านหรอ?

เขากลับทำหน้านิ่ง ไปดูก็จะรู้เอง

นัชชาจึงจะสบายใจขึ้นมา เมื่อเห็นโต๊ะในห้องอาหารราย ล้อมไปด้วยอาหารและซุปมากมาย กุ้งผัดอื่นช่าย ผัดยอด คะน้า เนื้อวัวนิ่ง ไก่ตุ๋นยาจีน และยังมีซุปปลาเต้าหู้ กลิ่นสีรส ครบครัน ล้วนเป็นอาหารรสไม่จัด แต่เมื่อกลิ่นโชยเข้าจมูก กลับทําให้อยากอาหารมากขึ้น

นัชชาร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นตลอดมาง เมื่อเดิน เข้าไปก็เจอคนตัวเล็กคนหนึ่ง ผู้หญิงที่สวมใส่ผ้ากันเปื้อนขึ้น อยู่หน้าเตา ผมสีดำตัดกับผมขาวไม่กี่เส้น รูปร่างค่อนข้างอวบ แต่หน้าตาดูอ่อนโยน
เห็นเธอเดินเข้ามา ผู้หญิงคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ส่ง ยิ้มต้อนรับให้อย่างรวดเร็ว “คุณคือคุณนัชชาใช่ไหมคะ?

นัชชาเกือบดึงสติกลับมาไม่ทัน รีบตอบกลับ “อ่า….. ใช่ค่ะ ฉันเอง คุณคือ?”

“คุณเตชิตยังไม่ได้บอกคุณหรอคะ?” หญิงสาวรีบเอามือ ที่เปียกน้ำเช็ดที่ผ้ากันเปื้อน “ดิฉันเป็นคนใช้คนใหม่ของบ้านนี้ ชื่อภูรินทร์ อายุห้าสิบห้าปีค่ะ”

คนใช้?

เตชิตเคยบอกไว้ว่าไม่ชอบให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องมาอยู่ใน บ้านนี้ ทำไมจู่ๆก็หาคนใช้มาซะงั้นล่ะ?

นัชชายื่นออกมา จับมือทักทายกับฝ่ายตรงข้ามอย่างมี มารยาท เธอสัมผัสได้ถึงมือที่ค่อนข้างหยาบ คงเป็นเพราะ ทำงานหนักมานานหลายปี เธอยิ้มและพูดทักทาย “สวัสดีค่ะน้า ริน ต่อไปบ้านนี้ต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ

น้าในดีใจที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ทำงานที่บ้าน คนรวยมาหลายที่ แต่กลับไม่เจอคุณนายบ้านไหนที่ปฏิบัติกับ ตัวเองด้วยความเกรงใจแบบนี้ มากสุดก็เรียกตัวเองว่าคุณป้า ตอนจะมาทำที่นี่ผู้จัดการที่ศูนย์ให้บริการได้กำชับไว้ว่า เจ้าของบ้านนี้เป็นผู้มีอิทธิพล ให้เธอทำทุกเรื่องด้วยความ รอบคอบและระมัดระวัง ไม่คิดเลยว่าคุณนายรัชชาจะใจดี อ่อนน้อม และใกล้ชิดกับตน
น้าในพูดด้วยความเกรงใจ “ที่ไหนกัน นี่เป็นหน้าที่ที่ดิฉัน ต้องรับผิดชอบ ในห้องครัวควันเยอะ คุณนายไปรอข้างนอกดี กว่านะคะ เดี๋ยวถ้าอาหารเสร็จแล้วจะไปเรียกค่ะ

“โอเคค่ะ”

ออกจากห้องครัว นัชชารีบเดินตรงขึ้นไปที่ห้องนอนชั้น สอง ในห้องนอนไม่มีใคร แต่ประตูตู้เสื้อผ้าถูกเปิดออก เธอรีบ เดินก้าวเข้าไปโดยไม่ได้เคาะประตู เขาเพิ่งจะถอดเสื้อเชิ้ตออก เผยให้เห็นร่างกายของเขาอย่างชัดเจน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ