ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 450 ระบบที่เจ้าเล่ห์



บทที่ 450 ระบบที่เจ้าเล่ห์

จุนเซียวเซียวรีบสั่งคนให้ไปตระเตรียม ฮ่องเต้ชิงอยู่ลง ไปในน้ำแล้วนั่งลง จุนเซียงเซียงอาบตัวจนสะอาดจึงจะ เข้าใกล้ฮ่องเต้ชิงหยู่ได้

“ฝ่าบาท ตอนนี้ร่างกายของหม่อมฉันอุ้ยอ้าย เกรงว่าจะ ปรนนิบัติฝ่าบาทได้ไม่ดีเพคะ ฝ่าบาท……

ยังไม่ทันจะพูดจบ นางก็ถูกดึงเข้ามาหา จุนเซียวเซียว รู้สึกเวียนหัวทันที เหมือนวูบไป แล้วต้องทนกับการถูก ล่วงละเมิดที่โหดร้ายและป่าเถื่อน……..

เสินหยุนชูโง่สิ้นดี นางโกรธจนกำหมัดแน่น ทั้งหมดนี่ เป็นเพราะอันหลิงหยุน

จนถึงตอนเย็นใบหน้าของอันหลิงหยุนก็ยังไม่ดีขึ้น อัน หลิงหยุนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย แล้วมองกระจกด้วยความ โกรธ ถ้าหากกลับไปแบบนี้ คงจำทำให้ท่านพ่อต้องเป็น ห่วงแน่นอน แต่ถ้าหากไม่กลับไป ตอนกลางคืนก็จะต้อง ดูแลสวีกงกงอีก

ตอนนี้หวางฮองไทเฮากำลังเล่นเป็นเพื่อนเด็กๆอยู่ คิด อยู่ตลอดว่ามีสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก อันหลิงหยุนโดน ตบแล้ว เด็กๆต่างก็ไม่มีความสุข แต่ละคนนั้นนานสอง นานกว่าที่จะยอมยิ้มออกมาแบบผ่านๆ ทำให้คนที่ดูไม่ สบายใจ

“คืนนี้อยู่ที่นี่เถอะ” หวางฮองไทเฮายังไม่อยากให้เด็กๆ ไป อันหลิงหยุนเองก็กำลังลังเลเรื่องนี้อยู่ กงชิงวี่พูดปฏิเสธขึ้นมา ถึงจะเป็นเสด็จแม่ แต่เขาก็ไม่ไว้หน้า

ไม่อยู่แล้ว เข้าวังหนึ่งครั้งเจ็บตัวหนึ่งครั้ง เป็นเช่นนี้ทุก ครั้ง ใจของหม่อมฉันแทบจะสลายแล้ว เสด็จแม่เองก็ไม่ เห็น เช่นนั้นก็กลับกันดีกว่า!”

กงชิงวอุ้มเด็กขึ้นทีละคน แล้วจูงอันหลิงหยุนเดินไป ทำให้หวางฮองไทเฮาโกรธจนโยนหมอนออกไป ถูกเข้า ที่หลังของกงชิงวี่ ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่รู้สึกคัน ไม่แม้แต่จะหัน หลังมอง

ไห่กงกงถอนใจ ประเทศต้าเหลียงของเราอะไรก็ไม่ ขาด ขาดแค่เพียงสายเลือดของราชวงศ์ มาวันนี้จู่ๆอัน หลิงหยุนก็ให้กำเนิดซื่อจื่อคราวเดียวถึงห้าคน ถือเป็น วีรบุรุษของราชวงศ์ ยิ่งทำให้หยิ่งผยองยิ่งขึ้น

วังฮั่วหยาง

“ไปแล้วหรือ?” เมื่อแม่นมหวิงได้ยินว่าอ๋องเสียนพา ภรรยาและลูกไปแล้ว ก็รีบนำเรื่องนี้มากราบทูลฮั่วไม่เฟย ทันที

หยุนโล่ชวนลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปดูฮั่วไท่เฟย ทำไม ฮองเฮาถึงตบคนล่ะเพคะ

“ชวนเอ๋อ เจ้าจงจำไว้ จะตบคนก็ต้องดูทุนเดิมของ ตนเองให้เป็น เสินหยุนชูโกรธ จนแทบจะถึงขีดสุดแล้ว” ฮั่วไท่เฟยหันกลับไปมองอ๋องตวน

“พวกเจ้าเองก็กลับไปเถอะ ในเมื่อเป็นคู่สะใภ้ การไปมาหาสู่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี พรุ่งนี้จงนำของขวัญไปมอบให้ เด็กๆเหล่านั้น หลานของข้าเองก็ควรจะคลอดได้แล้ว”

“เสด็จแม่หม่อมฉันจะพยายามเพคะ” หยุนโล่ชวนทนดู ชั่วไม่เฟยทําท่าทีโศกเศร้าไม่ได้ จึงรีบพูดกับนาง

“แต่ก็ต้องมีโอกาสจึงจะได้ เรื่องนี้ไม่ต้องรีบหรอกเพคะ เสด็จแม่ยังอายุไม่มาก รอไหวอยู่แล้วเพคะ กลับกันเถอะ”

ฮั่วไท่เฟยเองก็รู้จักวางตัว นางไม่มีทางทำผิดต่อตำ หนักกั๋วกงเป็นอันขาด วันข้างหน้าก็ต้องฝากเอาไว้กับ พวกเขา

หยุนโล่ชวนยิ่งไม่สบายใจ จึงพูดว่า: “เสด็จแม่ ไม่รู้ เหมือนกันเพคะว่าเพราะอะไร ท้องของหม่อมฉันจึงไม่ นอมป่องเสียที ได้ยินมาว่าบุตรสาวของท่านลุงกำลังหา คู่อยู่ หม่อมฉันได้ยินมาว่านางอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ หม่อมฉัน อีกทั้งเป็นผู้หญิงที่ใจกว้าง หม่อมฉันว่าหาก สู่ขอนางให้อ๋องตวนก็น่าจะดีนะเพคะ ถ้าหากนางไม่ยินดี ที่จะเป็นพระชายารอง เช่นนั้น หม่อมฉันจะเป็นพระชายา รองเองเพคะ”

อ๋องตวนได้ยินก็โกรธจนหน้าเขียว มองหยุนโล่ชวนด้วย ความโมโห: “ข้าพูดตอนในกันว่าจะสู่ขอพระชายารอง ทำไมเจ้าจึงไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับข้านัก?”

“ถึงท้องของหม่อมฉันจะไม่ป่อง แต่ก็ไม่ได้หมายความ ว่าท้องของทุกคนจะไม่ป่องนี่ ท่านอ๋อง…….

“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
อ่องตวนตะโกนด้วยความโมโห หยุนโล่ชวนเม้มปาก ไม่ใช่เพราะกลัวอ๋องตวน แต่เพราะนางเป็นภรรยาจึงไม่ ควรทะเลาะกับอ๋องตวนต่อหน้าผู้อื่นภายนอกเช่นนี้

ฮั่วไทเฟยรู้สึกพอใจมาก ถือว่านางรู้กาลเทศะกว่าจุน ฉูฉูมาก

“ลุงของเจ้าเตรียมตัวย้ายกลับมาราชสํานัก อีกทั้งนาง ก็มีลูกสาวหนึ่งคนที่ถึงวัยที่จะแต่งงาน ส่วนเรื่องที่จะแต่ง กับใครนั้น ก็ยังพูดยาก เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก กลับ เถอะ” ฮั่วไท่เฟยเองก็อยากหาพระชายารองให้ลูกชาย ของตนเอง แต่ทําเช่นนี้ก็เปลืองแรง จึงไม่ได้คิดที่จะไป เสาะหา

เห็นอ๋องเสียนมีลูกทคราวเดียวห้าคน ที่อิจฉาก็เพียงแค่ อยากให้อ๋องตวนมีลูกชายเช่นกัน ส่วนที่เหลือก้ปล่อยไป ก่อน รัหว่างทางกลับอ๋องตวนรู้สึกไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก ยังไงก็อยากจะเอาชนะให้ได้

“วันทั้งวันคิดแต่จะหาพระชายารองให้ข้า ไม่รู้ว่าเจ้า กังวลเรื่องอะไรกัน?” อ๋องตวนรู้สึกโมโหมาก จึงจ้องหยุ นโล่ชวนด้วยแววตาเย็นชา

รถม้ายังคงวิ่งต่อไป ฟ้าก็มืดแล้ว ตอนนี้ความคิดของ หยุนโล่ชวนไม่ได้อยู่ที่เรื่องของอ๋องตวน นางกำลังคิดว่า ทำไมเสินหยุนชูจึงตบคนได้

ขณะที่กำลังหดหู่อยู่ก็รู้สึกง่วงนอน ความคิดก็เปลี่ยน ไปที่เรื่องอื่นแล้ว หยุนโล่ชวนมองอ๋องตวน: “ท่านอ๋อง เมื่อ คืนท่านฝัน ทำไมจึงเรียกชื่อของจุนฉูฉู? ท่านฝันถึงนางหรือ พวกท่านดีกันแล้วหรือ?”

สำหรับอ๋องตวนแล้ว จุนฉูฉูนั้นไม่สามารถลืมได้ และ วางไม่ลง หยุนโล่ชวนจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่แปลก

จุนฉูฉูทำกับเขาขนาดนั้น แต่เขายังคิดถึงจุนฉูฉู กลับ ไปนางถามท่านยาย ท่านยายบอกว่าอ๋องตวนเป็นคนที่ คิดถึงมิตรภาพในอดีต เป็นคนที่ไม่ลืมความหลังง่ายๆ

หยุนโล่ชวนรู้สึกว่า อ๋องตวนเป็นคนยึดติด

ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในใจจึงรู้สึกเจ็บปวด

“ข้าเรียกชื่อของฉูฉูหรือ?” อ๋องตวนจำไม่ได้ มีใครสักกี่ คนที่ตื่นขึ้นมาแล้วจะจำเรื่องที่ฝันได้

อ๋องตวนรู้สึกผิด หันมองหยุนโล่ชวน ด้วยสีหน้าอ่อน

โยนลงมาก

“ข้าจำไม่ได้”

“อ่อ”

จำไม่ได้!

หยุนโล่ชวนรู้สึกง่วงนอน จึงพิงที่รถม้าเพื่อที่จะนอน

หลับ

อ๋องตวนเขยิบเข้าไป แล้วดึงนางเข้ามาอยู่ข้างๆตัว ให้หยุนโล่ชวนหนุนตักของเขาข้างหนึ่ง ส่วนตัวเขากุมมือ ของหยุนโล่ชวนไว้: “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมยังฝันถึงนาง แต่เมื่อคืนข้าไม่รู้จริงๆ

หยุนโล่ชวนไม่ได้ตอบอะไร นอนขดตัวเหมือนรู้สึก หนาว

อ๋องตวนถามว่า: “เย็นหรือ?”

“ยังทนไหวเพคะ”

อ่องตวนรีบนำผ้าห่มออกมาห่มให้หยุนโล่ชวน เดิมที รู้สึกโกรธ แต่ตอนนี้ความโกรธนั้นหายไปหมดแล้ว แต่ กลับกลายเป็นความกังวลแทน

เมื่อกลับมาถึงจวนอ๋องตวนก็ลงจากรถม้า หยุนโล่ชวน หันมองไปทางจวนอ๋องเสียน กำลังคิดว่าพรุ่งนี้จะส่งของ ขวัญอะไรดี แต่สิ่งที่คิดอยู่ในหัวตอนนี้ มีแต่เรื่องที่อ๋องต วนฝันแล้วเรียกชื่อของจุนฉูฉู

“เฮ้อ…..” หยุนโล่ชวนถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว นี่ มันอะไรกัน? สมองไม่ดีแล้วกระมัง มันอะไรกันเนี่ย!

“เป็นอะไรไป?” ตอนนี้อ๋องตวนดูว่าง่าย ดูเชื่อฟังกว่า เด็กเสียอีก

หยุนโล่ชวนหันมองเขา แล้วส่ายหน้า: “ไม่มีอะไรเพคะ ท่านอ๋องไม่ต้องสนใจหม่อมฉันหรอก”

เมื่อเข้าไปข้างในหยุนโล่ชวนก็ไปพักผ่อน นอนหันหลังให้อ๋องตวนตลอดทั้งคืน อ๋องตวนพลิกไปพลิกมานอนไม่ หลับ ลุกขึ้นมาหลายครั้งแล้วคิดที่จะเรียกหยุนโล่ชวนขึ้น มา แต่เมื่อเห็นนางหลับแล้ว จึงล้มตัวลงนอนต่อ

เขาพลิกไปพลิกมาแบบนี้ตลอดทั้งคืน พลิกจนกระทั่ง

ถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ส่วนอันหลิงหยุนเองไม่ได้รู้สึกอะไร มีเพียงแม่ทัพอันที่

โกรธตลอดทั้งคืน

กงชิงวี่เองก็ฌกรธอยู่ตลอดทั้งคืน นางตื่นขึ้นมา รอย บวมบนใบหน้าก็ยุบลงแล้ว

อันหลิงหยุนเดินไปหน้ากระจกแล้วมองอย่างละเอียด ลองลูบดูก็ไม่เจ็บแล้ว

อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจ ถ้าเหมือนกับทุกครั้ง เวลา ที่นางได้รับบาดเจ็บหรือถูกทำร้าย นางก็จะหายดีอย่าง รวดเร็ว แต่ทำไมครั้งนี้ถึงได้นานนัก กลับมาถึงจวนแม่ทัพ ก็ยังไม่ดีขึ้น?

อันหลิงหยุนลูบหน้า แล้วเอามีดขึ้นมาหนึ่งเล่ม เรียกให้ คนออกไปให้หมด

หงเถาลุ่ยหลิ่วตกใจ ไม่รู้ว่าคิดที่จะทำอะไร จึงรีบไป ตามท่านอ๋องมา

อันหลิงหยุนอาศัยช่วงที่ไม่มีคน เอามีดกรีดที่ข้อมือของ ตนเอง เมื่อมีดปาดลงไป ก็มีบาดแผลปรากฏขึ้นที่ข้อมือ หลังจากมีเลือดไหลออกมา ปากแผลก็ค่อยๆปิดสนิท
อันหลิงหยุนสูดหายใจลึก แล้วมองดูที่หน้าของนางอีก ครั้ง

หรือว่าระบบในร่างกายมีระบบการจัดการด้วย?

เมื่อนึกขึ้นได้ อันหลิงหยุนก็เอามีกแทงตัวเองหนึ่งครั้ง เจ็บจนแทบจะร้องไห้ แต่ผลลัพธ์กลับเป็นแค่รอยเขียวช้ำ แต่ภายหลังรอยเขียวก้ฟื้นคืนกลับมาสู่สภาพปกติอย่าง รวดเร็วตอนนี้อันหลิงหยุนไม่กล้าที่จะไม่เชื่อว่า ระบบใน ร่างกายของนางมีความคิดเป็นอิสระ อีกทั้งมีระบบการ จัดการที่ซับซ้อนมาก!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ