ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 409 พ่อตาและลูกเขยอภิปราย



บทที่ 409 พ่อตาและลูกเขยอภิปราย

กงชิงวี่กล่าวอย่างเฉยชา “พระชายาอ๋องตวน”

“พระชายาอ่องตวน? “อันหลิงหยุนกลับเห็นว่า ไม่ใช่ เรื่องแปลก อย่างไรหยุนโล่ชวนก็อยู่เบื้องหลังของตระกูล ขุนพล นอกจากนี้นางยังเป็นคนของตำหนักหยุนกั๋วกง ไม่เพียงแต่ท่านกั๋วกงที่รักหลานสาวมากที่สุด แต่นางยัง เป็นผู้ที่คนในจวนกั๋วกงให้ความสําคัญ นางอยู่ข้างกาย ท่านกั๋วกงตั้งแต่ยังเล็ก จึงไม่น่าแปลกใจที่ตำหนักกั๋วกง ให้ความสำคัญกับการปลูกฝังบุคคล เป็นนางก็ไม่น่า ประหลาดใจแม้แต่น้อย

แต่เมื่อนึกถึงหยุนโล่ชวน อันหลิงหยุนยังคงส่ายหัว อย่างรู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม

“ท่านอ๋องล้อข้าเล่นแล้ว? ” อันหลิงหยุนขึ้นไปบน เตียง กงชิงได้ลุกขึ้นไปหยิบองุ่นมาให้ลำคอของนาง ชุ่มชื้น ในช่วงเวลาพิเศษการดื่มน้ำมากเกินไปนั้นไม่ดีต่อ ร่างกาย กงชิงไม่กล้าให้อันหลิงหยุนดื่มน้ำมากเกินไป แต่ดูเหมือนนางจะกระหายน้ำ จึงทำได้เพียงกินองุ่นให้ชุ่ม คอ

อันหลิงหยุนอ้าปากและกงชิงวี่ก็ยื่นองุ่นเข้าไปในปาก ของนาง ทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนเตียงพลางกอดกัน

“ข้าดูเหมือนล้อเล่นหรือ ? ในเมืองหลวง ผู้ที่ถูกฝึก ปรือบ่มเพาะและสามารถต่อสู้ในสนามรบได้นั้นข้าจำได้ แม้ว่าพระชายาอ๋องตวนจะอายุยังน้อย แต่แท้จริงแล้ว นางเป็นผู้ที่ใช้ทหารราวกับเทพเซียน อย่าดูแคลนว่านางเป็นองค์หญิงตัวน้อยของตระกูลหยุน ในสายตาของข้า นางถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่เลว หากนางบุกเดี่ยวในการออก ศึกเกรงว่าจะมีคนไม่พอใจเป็นแน่ ถึงอย่างไรนางยังเด็ก ทั้งไม่มีประสบการณ์มากพอและนางยังเป็นองค์หญิงตัว น้อยที่ตระกูลหยุนให้ความสำคัญที่สุดด้วย

เดิมทีข้าต้องการให้นางออกไปฝึกฝนเป็นเวลาหนึ่ง ปี ทว่าสามเดือนก็เพียงพอแล้ว การให้นางเข้าร่วมใน สงคราม ทําให้ข้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าพระชายาอ๋องต วนจะออกศึกอย่างแน่นอน ในเวลานั้นข้าต้องการเพียง แค่เพียงหนึ่งประโยค นางก็สามารถที่จะนำทัพออกศึกได้ แต่ข้าคาดไม่ถึงว่า ฮั่วไท่เฟยจะจัดการได้เร็วเช่นนี้”

“ท่านอ๋อง เป็นไปได้หรือไม่ที่นางเป็นผู้ที่พระชายารอง คัดเลือกมา? ข้าจำได้ว่า ครั้งนั้นท่านแสร้งทำเป็นจำไม่ ได้”

“ไม่ใช่ว่าข้าจำไม่ได้ ข้าจำได้ หากหยุนหยุนกล่าวถึง คนในตระกูลหยุนเป็นอย่างไรข้าจะจดจำบุคคลผู้นี้ไม่ได้ ไปชั่วขณะ แต่ถ้าเจ้าบอกว่าใครมีความสามารถมากที่สุด ในการสืบทอดตำแหน่งท่านกั๋วกง ข้าก็จะนึกถึงนาง “

“ถ้าอย่างนั้น หากมีผู้ใดยกนางให้กับท่านอ๋อง ท่านอ๋อง จะยินดีหรือไม่?”

“หยุนหยุน

“ทำไม่ได้หรือ?

อันหลิงหยุนสีหน้าจริงจัง กงชิงวี่ส่ายศีรษะ “ข้าไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่ในเมืองหลวงแห่งนี้ ข้ายังไม่ พบบุคคลที่เหมาะสม ทว่าแม่ทัพนั้นเป็นการดีที่สุดคือ แต่งงานกับแม่ทัพด้วยกัน แต่ในสายตาของข้า มีแม่ทัพ ไม่มากนักในเมืองหลวง และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ สามารถทำภารกิจที่สำคัญได้? ”

ดูกงชิงวี่มีท่าทีลังเลใจ ใด? ”

“อ๋องชินจง”

“เขา?

อันหลิงหยุน ไม่เข้าใจ กงชิงวี่ยิ้มกล่าว “อ๋องชินจงเป็น คนที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ หากเขาจงรักภักดีต่อฮ่องเต้อย่าง แท้จริงนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถช่วย แม่ทัพปกครองได้ แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นชินจงและข้าม องว่าเป็นเรื่องที่น่าขบขัน

“ดูเหมือนว่าท่านพ่อของข้าจะต้องไป อ๋องตวนนั้นจะ ต้องไม่เต็มใจให้พระชายาอ๋องตวนไปอย่างแน่นอน ”

หยุนหยุนข้ายังไม่ได้ตัดสินใจ เรื่องนี้ … ไม่เร่งรีบ …”

“ยังไม่รีบหรือ ไฟไหม้คิ้วแล้ว ในยี่สิบคนกลับมาเพียง ไม่กี่คน หากไม่เร่งรีบพวกเขาก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว ดูว่า ท่านจะทำอย่างไร?”

อันหลิงหยุนเหลือบมองไปที่กงชิงวี่ที่นอนลง ก็ได้นอน ลงเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้หลับลงได้อย่างไร
เช้าวันรุ่งขึ้นอันหลิงหยุนไปที่จวนแม่ทัพ และเข้าไปหา แม่ทัพอัน

นายพลอันกำลังฝึกซ้อมอยู่ในห้องออกกำลังกาย อัน หลิงหยุนยืนอยู่ที่ประตูสักพักโดยไม่ได้เข้าไปรบกวน นางคอยให้แม่ทัพอันฝึกซ้อมเสร็จก่อนนางจึงเข้าไป

“มาเช้าเช่นนี้ มิใช่ว่าร่างกายเจ้าเกียจคร้านจนไม่สบาย หรอกหรือ? “แม่ทัพอันถามไถ่นางเป็นประจํา แม้ว่าเขา จะไม่ได้ไปที่จวนอ๋องเสียน แต่เขาก็จะคอยให้คนไป ถามไถ่อันหลิงหยุนว่าสบายดีหรือไม่

ขอเพียงรู้ว่าอันหลิงหยุนสบายดี เขาถึงจะสบายใจได้

ทันทีที่เห็นบุตรสาวมาแต่เช้า แม่ทัพอันก็รู้สึกไม่ค่อย ยินดี

“หากเจ้ามีอะไรก็ให้ส่งคนมาบอกพ่อ เหตุใดเจ้าต้องมา ที่นี่ด้วยตนเอง ร่างกายของเจ้าเดินไปทั่วพ่อมิอาจวางใจ เมืองหลวงมิใช่ว่าจะสงบสุข ผู้ที่ไม่ลืมตานั้นมีอยู่ทุกหน ทุกแห่ง ถ้าชนเจ้าขึ้นมาเล่า?”แม่ทัพอันประคองอันหลิง หยุนนั่งลง พ่อและลูกสาวจึงเริ่มพูดคุยกัน

“ไหนเลยจะถูกชนได้ง่ายเช่นนั้น ไม่ว่าอย่างไรคนดี สวรรค์ย่อมต้องคุ้มครอง มิอาจเกิดอะไรขึ้นได้ ท่านพ่อ ต้องเชื่อมั่น ข้านั้นเป็นผู้มีวาสนา”

“เจ้าเพียงแค่ปากดี ทุกอย่างที่กล่าวไปก็เพื่อเจ้า แม่ทัพอันหัวเราะ แหะ แหะ ที่ถูกบุตรสาวหยอกล้อจนยิ้ม ไม่หุบ
อันหลิงหยุนไม่คิดที่จะลังเลและกล่าวว่า “ท่านพ่อ ข้ามี เรื่องจะกล่าวกับท่าน”

“เรื่องอันใด? ”

อันหลิงหยุนกล่าว”ที่ด่านชายแดนเกิดปัญหาเล็กน้อย”

แม่ทัพอันมองไปที่บุตรสาวของเขา และเก็บรอยยิ้มบน ใบหน้าของเขา นอกจากตำแหน่งแม่ทัพของเขา ก็ไม่มี อะไรที่น่าสนใจไปมากกว่าสงครามชายแดน จากนั้น แม่ทัพอันก็เคร่งขรึมขึ้นมา

“ก่อนหน้านี้ใต้เท้าเว่ยได้ไปที่ด่านชายแดน แต่ทุกวันนี้ ก็ยังไม่ได้ข่าวคราว ช่วงที่ผ่านมา ลูกเขยตัวดีก็ได้ไป ที่ด่านชายแดนเช่นกัน เมื่อใดจะได้ข่าวคราว? ” แม่ทัพ อันปฏิเสธที่จะฟังรายงานจากราชสำนัก เหตุเพราะ ข่าวจากราชสำนักนั้นล้วนแต่ถูกลูกเขยเขาตรวจสอบ แล้ว นอกจากนั้นข่าวของด่านชายแดนไม่สามารถนำ มารายงานได้ตามใจชอบ หากจะกล่าวออกไปก็มีผู้คน ที่ต้องแบกรับไว้หลายคน และเพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหา โดยไม่จำเป็นอีกด้วย พวกเขาจะสู้ไม่สู้นั้นเป็นเรื่อง เดียวกัน ทว่าอาจทำให้ประชาชนจะแตกตื่น

อันหลิงหยุนส่ายหัว“พวกเขาบอกไม่มี เดิมทีข้าก็ไม่ได้ คิดอะไร คิดเพียงว่าเขาจัดการได้ดีแล้ว แต่เมื่อคืนนั้นมี คนกลับมา แท้จริงแล้วมีทั้งหมดยี่สิบคน คนที่รอดมีเพียง แค่ไม่กี่คน พวกเขาโผล่ออกมาเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการบอก ท่านอ๋อง การรบด่านชายแดนนั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว ศัตรู โจมตีกองทัพของเราเมื่อคืนก่อน แม่ทัพจุนเจิ้นตงได้รับ บาดเจ็บสาหัสและกองทัพของเราได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน ” แม่ทัพอัน ลุกขึ้นยืนและเดินไปรอบๆ ในห้องออก กำลังกาย โดยเอามือไพล่หลัง ใบหน้าของเขาจริงจัง และดวงตาของเขาก็พลันเป็นประกาย

“หยุนหยุน ท่านอ๋องว่าอย่างไรบ้าง มีความเห็นกับเรื่องนี้ อย่างไร? ” แม่ทัพอันหันกลับมาถาม

อันหลิงหยุนกล่าวว่า “เวลานี้ไม่มีผู้ใดเหมาะสม แต่เขา กลับบอกว่าท่านพ่อเป็นผู้ที่เหมาะสมแต่เพียงผู้เดียว แต่ เขาทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้ผู้อาวุโสเช่นท่านเป็นผู้นำออก ศึก ทั้งยังเกรงว่าจะทำให้ท่านและข้าแยกจากกัน ส่วนข้า ที่เป็นเช่นนี้ก็อาจทำให้ท่านเป็นทุกข์”

แม่ทัพอันมองลูกสาวของเขาอย่างลึกซึ้ง “หยุนหยุน เจ้ายอมให้พ่อไปหรือไม่? ”

“ท่านพ่อ ข้านั้นไหนเลยจะเต็มใจ ท่านอ๋องพิจารณา ถึงสิ่งที่ข้ากังวล แต่ตอนนี้ไม่มีผู้ใดที่ใช้ได้ อันที่จริงไฟ ใกล้จะไหม้คิ้วแล้ว เมื่อด่านชายแดนถูกทำลายและ ประเทศต้าเหลียงก็จะสูญเสียกำแพงเมือง ผู้คนจะต้อง ประสบกับหายนะ ความปลอดภัยของข้าผู้เดียว เทียบไม่ ได้กับความปลอดภัยของประชาชน” แม่ทัพอันพยักหน้า “หยุนหยุนโตแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ทั้งหมดที่พ่อกังวล สิ่งที่พ่อ กังวลยังมีเรื่องอื่นอีก”

“ท่านพ่อหมายความว่าอย่างไร?”

“ประเดี๋ยวลูกเขยมาค่อยกล่าว เป็นเรื่องของสงคราม พ่ออายุอย่างนี้แต่ยังแข็งแรงมาก การฝึกฝนของพ่อ ทุกวันในห้องซ้อมนี้ไม่ได้เอ้อระเหยไปวันๆ ไม่ใช่เพื่อปกป้องประเทศต้าเหลียงหรอกหรือ ? ถ้าด่านชายแดน แตก ก็จะเกิดอันตรายแก่หยุนหยุน พ่อต้องปกป้องประเท ศต้าเหลียงก่อน ถึงจะปกป้องหยุนหยุนได้

“ท่านพ่อ …”

อันหลิงหยุนซาบซึ้งจนอยากจะร้องไห้ แม่ทัพอันไม่สบ อารมณ์พลางมองไปที่อันหลิงหยุน “ใกล้จะเป็นแม่คนอยู่ แล้ว ทำอะไรนิดหน่อยก็ร้องไห้ ไม่กลัวว่าหลานของพ่อ จะได้รับผลกระทบหรือ? ”

“ท่านพ่อกล่าวถูกแล้ว”

อันหลิงหยุนเช็ดน้ำตา แม่ทัพอันก็ถอนหายใจไปหนึ่ง ครา เดินไปที่ประตูและผลักออก สั่งการให้คนไปเชิญกง ชิงวี่ บอกว่าเขาต้องการดื่มเหล้า ต้องการให้ลูกเขยตัวดี มาดื่มเป็นเพื่อน

บ่าวรับใช้ในจวนก็เร่งรีบไปเชิญกงชิงวี่

แม่ทัพอันได้สั่งให้คนตระเตรีนมสุราอาหาร เพื่อรอกง ชิงวี่

ไม่นานกงชิงวี่ก็ได้เดินถือเหล้ามาหนึ่งไหเข้ามาใน จวนแม่ทัพ แม่ทัพอันมองไปที่เหล้าไหมั้นแล้วรู้สึก ปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก หัวเราะเอิ๊กอ้ากและเรียกกงชิงวี่ ไปดื่มเหล้าข้างใน

กงชิงวี่นั่งอย่างนอบน้อมพลางยื่นแก้วเหล้าไปชนกับ แม่ทัพอัน “แก้วนี้ข้าน้อยขอคารวะพ่อตา
แม่ทัพอันยกแก้วขึ้นดื่มไปหนึ่งคำ พยักหน้ากอ่าว “เหล้าซึนยอด!

วางแก้วเหล้าแล้ว แม่ทัพอั้นก็ให้คนออกไปจึงได้กล่าว “จุนเจิ้นตงที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ด่านชายแดน เจ้ามีความ เห็นอย่างไร? ”

อันหลิงหยุนแปลกใจ พลันครุ่นคิดไปหลายร้อยรอบ ถึง ได้เข้าใจว่าพ่อของนางหมายความว่าอย่างไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ