ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 305 ฟุมิ่งขุดหลุมฝังศพ



บทที่ 305 ฟุมิ่งขุดหลุมฝังศพ

แต่แล้ว ไม่ว่าอันหลิงหยุนจะตรวจสอบเช่นไร เรื่องที่ป่า ยสู้สู้ผูกคอตายล้วนแต่ไม่มีข้อบกพร่องใดเป็นช่องโหว่ อันหลิงหยุนตรวจสอบห้องพักของป่ายสู้สู้ดูแล้ว ในห้อง สะอาดมาก ก่อนตายไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ใดๆ

แต่บนโต๊ะกลับพบจดหมายฉบับหนึ่ง

อันหลิงหยุนหยิบขึ้นมาอ่าน ข้างในเขียนไว้แค่ ไม่ต้อง คิดถึง!

อันหลิงหยุนปวดร้าวใจ ไม่สามารถยอมรับทุกสิ่งทุก อย่างนี้ได้ ป่ายสูสู้ทำไมถึงตายแล้ว

เพื่อไม่ให้อันหลิงหยุนหาเรื่อง จวนอ๋องจวิ้นเสี้ยวฝังศพ ป้ายสู้สู้อย่างสมเกียรติสมฐานะ อันหลิงหยุนรอจนกระทั่ง ฝังป่ายสู้สู้ อยู่ในจวนอ๋องจวิ้นเสี้ยวไปสามวัน

มู่มิงกลับไม่โผล่มาเลยทั้งสามวัน

ที่อันหลิงหยุนยังไม่จากไป เพราะหวังจะให้ความ สะดวกตอนมู่มิงมา แต่มู่มิงก็ไม่มาเลย

ป่ายสู้สู้ถูกฝังในวันที่สาม ฝนตกลงมา

อันหลิงหยุนตามอยู่ในขบวนที่ส่งโลงออกไปฝัง มองไป ที่โลงศพที่หนักอึ้ง ด้วยความเศร้าโศกที่ไม่อาจบรรยาย ได้

คนมาตายไปเช่นนี้ ตายไปแล้วก็ไม่มีความหมายอะไรอีก
โลงศพผ่านสายฝนที่ตกหนักไป มีลมชั่วร้ายพัดเข้ามา ทุกคนต่างพากันถอยหลัง ผ้าห่มบางส่วนบนโลงศพก็ถูก ลมพัดตกลงไป ถึงอย่างไรกงชิงวี่ก็ไม่วางใจอันหลิงหยุ น รีบบังตัวอันหลิงหยุนเอาไว้ทันที กอดนางเอาไว้แน่นใน อ้อมแขน

อันหลิงหยุนกลับอดทนต่อลมและฝนที่ตกหนัก ก็จะ ต้องไปดูโลงศพของป่ายสู้สู้ อย่างไรนางก็ยังไม่วางใจ อยู่ดี

ในขณะที่ทุกคนกำลังถอยหลัง ท่ามกลางสายฝนที่ ตกหนักเหมือนจะมีคนสองคนปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองคน มีคนแก่กับหนุ่มน้อย คนแก่ผมขาวหมดหัวแล้ว กระดูก ลำตัวโค้งงอเล็กน้อย ดูเหมือนอายุค่อนข้างมากแล้ว ใน มือถือน้ำเต้าเก่าๆเอาไว้ สวมใส่ชุดสีขาวท่ามกลางฝนที่ ตกหนักยังสามารถลอยไปมาคล้ายเซียน

แล้วมองดูหนุ่มน้อยคนนั้น อายุประมาณยี่สิบ สวมชุดสี ฟ้าคราม ชุดสีดำแขนกว้าง

ถึงแม้หนุ่มน้อยจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่ใบหน้าดูสะสวยกว่า เด็กผู้หญิงเสียอีก

อันหลิงหยุนจับแขนกงชิงวี่เอาไว้ อยากจะดูอีกครั้ง แต่ เมื่อมีลมพัดแรงผ่านไป ก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่ คนบนพื้น ลุกขึ้นมาเดินต่อ อ๋องจวิ้นเสี้ยวร้องไห้ฟูมฟายเสียงดังใน ขบวนแห่ศพ ร้องจนทำให้จิตใจคนตื่นตระหนก ร้องจนอัน หลิงหยุนรำคาญ

ระหว่างทาง บ้านทุกหลังต่างพาผิดประตู ไม่มีคนออกมาดูความครึกครื้น

เวลานี้ ทุกคนต่างพากันพูดว่า ป่ายสู้สู้เป็นตัวนำโชคไม่ ดี ทําลายล้างตระกลูป่าย ตระกูลป่ายไม่เพียงแต่เป็นหมอ เทพในเมืองหลวงเท่านั้น ยังเป็นตระกูลที่ช่วยเหลือเพื่อน มนุษย์เป็นมุ่งหมายหลักอีกด้วย

สําหรับชาวบ้านทั่วไปแล้วการกระทําของป่ายสู้สู้ คือ การตัดหนทางในการหาหมอโดยไม่เสียเงินของพวกเขา

ชาวบ้านก็ต้องมีเคืองบ้างอยู่แล้ว

ถึงแม้ป่ายสู้สู้จะตายไป ก็ไม่มีคนสงสารป่ายสู้สู้

อันหลิงหยุนเดินตามตลอดทางจนถึงสุสาน เพราะ เป็นการตายโหง ดังนั้นจึงไม่สามารถฝังที่สุสานบรรพชน ได้ นั่นหมายความว่า สุสานของอ๋องหกนางไม่สามารถ เข้าไปได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ อันหลิงหยุนไม่ได้เรียกร้องอะไร ในใจ นางเดิมก็ไม่อยากให้ป่ายสู้สู้เข้าไปในสุสานจวนอ๋องหก อยู่แล้ว นางคิดของนางเองว่า ป่ายสู้สู้ก็ไม่สนใจหรอก

เพื่อให้คนรู้สึกว่าเขามีความรักต่อพระชายา อ๋องจวิ้น เสี้ยวร้องไห้จะเป็นจะตาย แล้วยังหาที่ดินที่ฮวงจุ้ยดี อัน หลิงหยุนเฝ้ามองดูการฝังศพ

เมื่อถึงเวลาฝังศพ ในที่สุดฝนที่ตกหนักก็หยุดลงจนได้
คนทั้งกลุ่มมองดูโลงศพถูกฝังลง จากนั้นอ๋องจวิ้นเสี้ยว ก็พาเมียน้อยร้องไห้อยู่หน้าหลุมฝังศพ

สุดท้ายทั้งสองถูกคนบังคับลากตัวออกไป

เมื่ออ๋องจวิ้นเสี้ยวไปแล้ว เรื่องก็ถือว่าจบลงแล้ว

แต่อันหลิงหยุนไม่ได้ไป มองดูหลุมศพโดดเดี่ยวนั่นอัน หลิงหยุนไม่เข้าใจ “ข้าไม่เข้าใจทำไมเจ้าต้องจากไปเพื่อ คนที่ไม่คู่ควรพวกนี้ด้วย

ถึงแม้พวกเขาจะเป็นคนชั่วบนโลกใบนี้ แต่ไม่มีสักคน สองคนที่พอจะทำให้เจ้าอยากอยู่ต่อเลยหรือ?”

อันหลิงหยุนนึกถึงดวงตาที่มองนางทะลุปรุโปร่งของป่า ยสู้สู้คู่นั้น ก็จะรู้สึกปวดใจ

ปวดใจที่สุดคือไม่สามารถทำอะไรอ๋องจวิ้นเสี้ยวกับนัง

เมียนั้น

“กลับเถอะ นางรู้ว่าเจ้ามาส่งนาง นางจะต้องดีใจมาก แน่”

กงชิงวี่หยิบเอาเสื้อคลุมมาคลุมให้อันหลิงหยุน เป็นห่วง นางแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

คนก็ตายไปแล้ว ยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร นาง คิดไม่ตกเอง ใครก็ช่วยกลับมาไม่ได้

อันหลิงหยุนเหลือบมองกงชิงวี่ที่อยู่ด้านหลัง ฝนที่ตกหนักทําให้เขาตัวเปียก แต่ตัวนางกลับไม่ได้เปียก อะไร

“ท่านอ๋อง เราไปกันเถอะ”

คนตายไม่อาจฟื้นคืน เสียใจไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร สู้กลับ ไปใช้ชีวิตให้ดียังจะดีกว่า

ป่ายสู้สู้ตายไปแล้ว นางจะตายตามไปด้วยไม่ได้

อันหลิงหยุนกลับไป ระหว่างทางนางเงียบตลอดทาง คิดว่าจะกลับไปพักผ่อน แต่นึกถึงลมชั่วร้ายตอนฝังโลง

“ท่านอ๋อง ท่านได้เห็นคนสองคนในลมชั่วร้ายไหม?” ตอนที่อันหลิงหยุนมองไป กงชิงวี่ก็มองไปด้วย นางรู้สึก ว่ากงชิงน่าจะเห็นด้วย

แต่กงชิงวี่กลับรู้สึกประหลาดใจ “ใครกัน?”

“ท่านไม่เห็น?”

อันหลิงหยุนจึงพูดถึงเรื่องเกิดขึ้นหนึ่งรอบ

กงชิงวี่ส่ายหน้า “บังมีเรื่องแบบนี้?”

“อืม”

ในรถม้าสองคนผัวเมียจมอยู่ในความคิด กลับไปถึงจวน อ๋องเสียน อันหลิงหยุนอาบน้ำแล้วไปพักผ่อน กงชิงวี่ก็ ต้องอยู่ด้วยอยู่แล้ว
ป่ายสู้สู้จากไปอันหลิงหยุนกลับไปห้องยามักรู้สึกถึง ความว่างเปล่า กงชิงวี่เห็นนางยังเสียใจอยู่มาก กลัวนาง จะไม่สบาย ไม่อยากให้นางเข้าไป เพิ่งจะเข้าไปก็เห็นนาง ยืนเหม่อก็ถูกอุ้มออกมา จากนั้นประตูก็ถูกล็อคกลอนไป

อันหลิงหยุนถูกบังคับอุ้มกลับไปพักผ่อนห้องด้านข้าง

แต่ทำอย่างไรอันหลิงหยุนก็นอนไม่หลับ ลุกขึ้นมาตอน กลางคืนก็ออกจากประตูไปอีก

กงชิงวี่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ ไม่ใช่เวลามานั่งเสียใจ รู้จักกับป่ายสู้สู้ไม่นาน กลับกลาย เป็นเพื่อนรักของอันหลิงหยุน กงชิงวี่ไม่มีเพื่อน ไม่เข้าใจ ความรู้สึกของความเป็นเพื่อนว่าเป็นเช่นไร

แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อฮ่องเต้ชิงหยู่กับอ๋องตวนแตก ต่างกัน ความรู้สึกที่อันหลิงหยุนมีต่อป่ายสู้สู้ รักกัน เหมือนพี่น้องมั้ง

กงชิงวี่เดินไปกับอันหลิงหยุนบนถนนที่ว่างเปล่า เดินไป ตลอดทางจนถึงสุสานนอกเมือง

ตอนที่ออกไปกงชิงวี่หยิบเอาป้ายประจำตัวไปด้วย พวกเขาถึงออกไปได้ ไม่เช่นนั้นขุนนางประตูเมืองไป ปล่อยออกไปแน่ ออกจากเมืองไปทางเดินลำบาก กงชิง ก็แบกอันหลิงหยุนไว้บนหลังแล้วเดินไป

อันหลิงหยุนก็เงียบไป

จนไปถึงสุสาน ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้อันหลิงหยุนตกตะลึงไป

ใต้แสงจันทร์ ร่มเงาต้นไม้ ชายสวมชุดดำคนหนึ่งยืนอยู่ ตรงหน้าสุสาน ในมือถือกระบี่เอาไว้เล่มหนึ่ง กำลังมองดู ผู้หญิงในสุสานที่เหงื่อออกราวกับสายฝน

หญิงสาวรูปร่างบอบบาง ในมือถือพลั่วเอาไว้กำลังใช้ แรงในการขุดสุสาน การกระทำเช่นนี้ อันหลิงหยุนเห็น แล้วก็ตกใจเช่นกัน

กงชิงวี่ปล่อยคนลงมา กอดอันหลิงหยุนไว้แล้วมองดู

“นั่นคือมู่มิง?” อันหลิงหยุนแน่ใจ มีแต่มู่มิงเท่านั้นที่จะ ทำเช่นนั้นได้ ร้องไห้ไปด้วย โมโหไปด้วย ขุดหลุมศพไป ด้วย!

“อืม”

กงชิงวี่ตอบขณะมองไปทางชายสวมชุดดำที่อยู่อีกด้าน หนึ่ง ไม่ใช่เสินหยุนเจ๋แล้วยังจะเป็นใครได้อีก?

เสินหยุนเจ๋กับมู่มิงอยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกประหลาดใจมาก! อันหลิงหยุนผละออกจากกงชิงวี่เดินไปดูมู่มิง มู่มิงเหมือน กับอยู่ในโลกของตัวเอง นางขุดหลุมฝังศพไม่หยุด อัน หลิงหยุนยืนอยู่ตรงหน้านางแต่เหมือนนางจะไม่รู้เลย

ไม่มีใครพูดอะไร มู่มิงขุดหลุมฝังศพตลอด ขุดตลอดจน ผ่านไปสองชั่วยาม ในที่สุดก็เห็นโลงศพ

มู่มิงโยนพลั่วในมือทิ้งไปอีกด้านหนึ่ง แล้วก็โดดลงไป
อันหลิงหยุนเห็นฝูมิงร้องไห้ นางก็ไม่สบายใจ

เสินหยุนเจ๋เดินไปข้างตัวอันหลิงหยุน “เกิดเรื่องกับป่าย สู้สู้ นางก็ถูกขังเอาไว้ตลอดจนถึงตอนนี้ หลังจากฝังศพ แล้ว นางถึงถูกปล่อยตัวออกมา พอได้ออกมาก็วิ่งมาที่นี่ ขุดหลุมฝังศพ”

อันหลิงหยุนถาม “ทำไมเจ้าถึงรู้เรื่องพวกนี้?” เสินหยุน เจ๋หยิบเอาของสิ่งหนึ่งออกมา “เจ้ารู้จักไหม?”

อันหลิงหยุนก้มหน้าไปมอง เป็นกล่องไม้อันหนึ่ง กล่อง ประณีตมาก นางกำลังคิด “ของป้ายสู้สู้?”

เสินหยุนเจ๋เอากล่องให้อันหลิงหยุน “มีคนส่งมันไปที่ จวนของข้า”

อันหลิงหยุนเปิดกล่องออกดู ข้างในมีปิ่นเงินหนึ่งอัน หยิบออกมาข้าในยังมีกระดาษอีกหนึ่งแผ่น

ปิ่นปักผมอันหลิงหยุนเคยเห็น แน่ใจว่าเคยเห็นป่ายสู้สู้ ปักไว้บนหัว

ส่วนกระดาษแผ่นนั้น อันหลิงหยุนเปิดออก เป็นลายมือ ของป่ายสู้สู้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ