ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่12 ไม่ได้คิดพิจารณาให้รอบคอบก่อนทํา



บทที่12 ไม่ได้คิดพิจารณาให้รอบคอบก่อนทํา

“ส่งเสด็จไท่เฟย” กงกงตะโกนเสียงสูง ฮั่วไท่เฟย หยุดครู่หนึ่ง หันตัวกลับไปมอง ใช้สายตาที่โมโหมอง ไปยังคนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว หันตัวแล้วเดิน โมโหออกไป

หลังจากที่ฮั่วไท่เฟยกลับไป ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปยัง แม่ทัพอัน “เจ้านี่

ชี้ไปที่แม่ทัพอัน ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินกลับไปข้างบนหมุน ตัวแล้วนั่งลง เพื่อนสนิทที่คบหากันมานานหลายปี อัน จือซานเป็นคนอย่างไรฮ่องเต้ชิงหยู่รู้ชัดเจนมากกว่าคน อื่น วันนี้ผิดใจกับฮั่วไท่เฟย หลังจากนี้เขาต้องขอให้ตัว เองมีความสุขมากกว่าคนอื่นล่ะ

“ฮ่องเต้” อันจือซานเดินไปข้างกายอันหลิงหยุน อัน หลิงหยุนในตอนนั้นเองกลับกลายเป็นเชื่อฟังว่านอน สอนง่าย แต่อันจือซานเองก็ไม่ได้มองข้ามรอยเลือดที่ เต็มตัวลูกสาวกับร่างกายของลูกสาวที่ทนรับความเจ็บ ปวด

“มีเรื่องอันใด?” ฮ่องเต้ชิงหยู่มองใบหน้าที่มืดครึ้มขอ งอันจือซาน อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ต่อว่าฮั่วไท่เฟยด้วย ความโมโห เขาที่เป็นฮ่องเต้ยังต้องพูดอะไรอีกเหรอ กลับกันเขาคงต้องรีบทำเหมือนไม่ดีใจไปก่อนกระรี้?

“ฮ่องเต้ กระหม่อมมีเรื่องอยากทูลขอ”
“เรื่องกระไร?”ฮ่องเต้ชิงหยู่เองก็ยังนึกสงสัย

แม่ทัพอันพูดต่อว่า “กระหม่อมมีลูกสาวอย่างหลิงหยุน เพียงคนเดียว เพื่อที่จะปกป้องหลิงหยุนแม้แต่ชีวิตของ กระหม่อมก็ยอมแลก ฮ่องเต้ โปรดอนุญาตให้หลิงหยุน หย่าร้างด้วยเถิด”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปทางอันหลิงหยุนอย่างเบื่อหน่าย แล้วมองไปคนที่ยืนอยู่อีกทาง กงชิงวี่ที่เงียบตั้งแต่ต้น จนจบ

” เรื่องนี้ข้าเห็นว่า ควรรอดูไปก่อน ในเมื่อข้ารับปาก พระชายาเสียน ให้กลับบ้านไปเป็นเพื่อนเจ้าสักสองสาม เดือน ไม่เท่ากับอาศัยเวลากี่เดือนนี้รอดูไปก่อน หากยัง ไม่เหมาะสม ต้องการหย่าร้าง ก็หย่าเถิด”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็พอมองออก เสด็จน้องของเขาคนนี้นั้น หากใครอยากแต่งกับเขา เขาก็ไม่ไปสู่ขอ แต่หากอยาก หย่าร้างเขากลับไม่ยอม คนอื่นอยากทำอะไรเขากลับ ไม่

เรื่องงานแต่งเขาแกร่งกร้าว หากจะหย่าร้าง เกรงว่าก็ จะไม่ยอมประนีประนอม!

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทำได้แค่ตกลงให้คลี่คลายเรื่องนี้ ชั่วคราว

แม่ทัพอันต้องการใช้เหตุผลมาโต้แย้ง ถูกอันหลิง หยุนห้ามไว้ เรื่องวันนี้ก็พอแค่นี้เถอะ เห็นได้ชัดเจนว่าฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่ได้คิดที่จะให้นางหย่าร้างอยู่แล้ว พูดไป เยอะแยะก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ไม่พูดยังดีกว่า

อันหลิงหยุนส่ายหัวไปมา แม่ทัพอันมองดูกงชิงวี่ที่อยู่ ไม่ไกลด้วยท่าทางที่เมินเฉยตั้งแต่แรกจนจบ เสียงฮึม ฮัมพูดว่า “ช่างเถอะ วันนี้ก็ปล่อยไปก่อน”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ถึงค่อยพูดว่า “ข้าก้เหนื่อยแล้ว ในเมื่อ ไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ก็กลับก็ไปได้แล้ว ข้าจะได้ไปเยี่ยม ดูอ๋องตวน”

ลงมาจากแท่นสูง ฮ่องเต้ชิงหยู่ใช้สายตาเป็นนัยยะว่า ให้อันจือซานกลับไปก่อน อันจือซานถึงพาอันหลิงหยุน หันตัวเดินกลับออกไป

เมื่อมองไปยังอันจือซานและลูกสาวที่เพิ่งกลับออกไป ฮ่องเต้ชิงหยู่หันมองไปยังกงชิงวี่แล้วพูดว่า “อ๋องเสียน เจ้าก็เข้ามาเถิด”

กงชิงวี่ถึงเดินถามเข้าไป

อันหลิงหยุนตามอันจือซานออกมา ทั้งสองคนเดินออก มานอกวัง อันจือซานถามว่า “พ่อจะพูดกับฮ่องเต้เรื่อง ยกเลิกงานแต่ง เจ้าทำไมต้องคอยห้ามพ่ออยู่ตลอด หลิงหยุน พ่อมองออกว่ากงชิงวี่นั่นไม่ใช่คนดีอะไร”

อันหลิงหยุนในตอนนั้นร่างกายยังคงเต็มไปด้วยความ เจ็บปวด แต่ยังทนได้ ดึงแขนแม่ทัพอันอธิบายว่า “พ่อ ยกเลิกการแต่งงานเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำแน่ๆ แต่วันนี้ยังยกเลิกไม่ได้ก็ไม่สามารถก้าวเข้าไปใน สายน้ำที่ เชี่ยวกรากหากไปยั่วโมโหฮ่องเต้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี สู้รอ ไปก่อนค่อยว่ากันไม่ได้ ในเมื่อฮ่องเต้รับปากให้ข้ากลับ บ้านไปกับท่าน แบบนี้เราก็ยังมีอีกเวลาอีกหลายเดือน ไม่แน่กงชิงวี่เองอาจจะเป็นฝ่ายขอยกเลิกงานแต่ง”

“พ่อฟังเจ้า” แม่ทัพอันมองอันหลิงหยุนอย่างลำบากใจ ไม่ว่าจะหย่าหรือไม่ ภายภาคหน้าก็เป็นแม่หม้ายอยู่ดี ใช้ชีวิตในทุกๆ วันไปด้วยความลำบาก ในใจก็รู้สึกแย่ ขึ้นมาเอง ทําให้ยิ่งเกลียดกงชิงวี่คนนี้มากไปกว่าเดิม

พ่อลูกทั้งสองไม่นานก็ถึงจวนแม่ทัพ

อันหลิงหยุนกลัวที่จะเกิดเรื่องขึ้น บอกกับแม่ทัพอัน พูดว่าตนร่างกายอ่อนแอ ต้องได้รับการดูแลสักพัก ไม่ ได้ดีขึ้นภายในเดือนสองเดือน ถึงแม้คนในเมืองนั้นก็ยัง ปกปิด ยกเว้นสาวรับใช้ข้างกายกับพ่อบ้านนั้น ก็ไม่มี คนนอกที่รู้

ข่าวคราวถูกปล่อยออกไปโดยรวดเร็ว ความโกลาหล ในเมืองหลวง

ปากต่อปากแพร่กระจายไปตามถนนว่า อันหลิงหยุ นอิจฉาริษยาพระชายาอ๋องตวน ทำเลวลับหลัง ถูกอ๋อง ตวนสั่งสอนมาแล้ว

อันหลิงหยุนเองก็มีวันนี้ พระผู้เป็นเจ้าเปิดตาแล้วจริงๆ ก็แค่เสียดายอ๋องตวน มีนางเป็นตัวถ่วงในชีวิตของเขา
ไปตามถนนและตรอกซอกซอยก็ล้วนพูดถึงแต่เรื่องนี้ อันหลิงหยุนกำลังปรับเปลี่ยนการแต่งตัวเพื่อปกปิด

ได้ยินจนกกหูมีตาปลาผุดขึ้น

อันหลิงหยุ่นเบื่อหน่าย ร่างเดิมนี้ ที่นั่นไปผิดใจกับ เพื่อนสาวในเมืองหลวง เห็นได้ชัดว่าผิดใจกับคน ทั้งหมดในเมืองหลวงแล้ว

คนแบบนี้ ถ้าตายไปแล้ว ก็ไม่มีใครสงสาร!

ชื่อเสียงฉาวโฉ่ นี่ยังสุภาพแล้ว!

ถือโอกาสในเวลาไม่กี่วันนี้ไม่เป็นไร อันหลิงหยุนยังมี เรื่องที่ต้องทำ ก็คือกระชากคนที่ทำร้ายร่างเดิมนี้ออก มา

แต่อยากที่จะกระชากคนคนนี้ออกมา ยังต้องเสีย กำลังไปเยอะจริงๆ

อันหลิงหยุนเดินไปยังด้านหน้าจวนอ๋องเสียน มอง ไปยังหินรูปเสือสองตัวที่หมอบลงหน้าประตูอย่าง เคลิบเคลิ้ม นางคิดว่าจะเข้าไปอย่างไรดี

ตอนนี้นางเปลี่ยนการแต่งกายจากหญิงเป็นชายทั้งตัว หากจะเข้าไปแบบนี้ ก็ไม่ต้องได้กลับไปแล้ว

ขณะที่กำลังใคร่ครวญอยู่นั้น อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกๆ เป็นระยะ มองไปที่อาหยู่ที่เพิ่งพุ่งออกมาจากจวนอ๋องเสียน ท่าทางรีบๆขี่ม้าออกไป และประตูใหญ่จวนอ๋อง เสียนที่เปิดอยู่ ข้างในนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมาก ขนาดที่ สาวใช้บางคนรีบจนแทบจะร้องไห้

นี่มันเกิดอะไรขึ้น จวนอ๋องเสียนถึงได้วุ่นวายแบบนี้

อาศัยช่วงที่จวนอ๋องเสียนกำลังวุ่นวาย อันหลิงหยุน แฝงตัวเข้าไปในจวนอ๋องเสียน หลบหลีกคนตรงไปยัง สวนด้านหลังของจวนอ๋องเสียน ลานโอวหลาน

ลานโอวหลานในความทรงจำของอันหลิงหยุนคือที่ ที่กงชิงวี่พำนักอยู่ และในตอนนั้นจวนอ๋องเสียนก็ล้อม รอบไปด้วยความวุ่นวาย

หลิงหยุนที่กำลังเดินเข้าก็ถูกดึงตัวไว้ซะก่อน “เจ้าคือ หมอที่จะมาดูอาการเจ็บของท่านอ๋องใช่หรือไม่?”

อันหลิงหยุนไม่ได้พูดอะไร อีกฝ่ายคือพ่อบ้านของ จวนอ๋องเสียน ไม่ทันได้อธิบายก็ดึงอันหลิงหยุนเข้าไป ในห้องที่กงชิงวี่อยู่

เมื่อก้าวเข้าประตูก็ได้กลิ่นคาวเลือดเต็มจมูก และ สาวใช้ที่ในจวนนั้นกำลังยกกะละมังเลือดออกไป อย่างร้อนรน อันหลิงหยุนถูกดึงเข้ามาตรงหน้ากงชิง ต้องการให้เขาดูอาการ

“หมอเจ้ารีบดู ท่านอ๋องของข้าแผลบาดเจ็บเป็นกระไร บ้าง?”
พ่อบ้านก็เกือบจะร้องไห้ออกมา อันหลิงหยุนมองไป ยังเตียงของกงชิงวี่ที่เต็มไปด้วยเลือด อึ้งนิดๆ เหมือน ของอะไรหนักๆ กดทับร่างกายอย่างประหลาด อยาก จะกระโดดหนีออกไป และก็ทำให้นางร้อนรนอยู่ไม่สุข แล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่เจ็บหนักเลย คนตายยังพอเจอ มากกว่านี้ แต่ในตอนนี้ นางดูเหมือนกับถูกเอะไรผูกไว้ก็ ไม่ปาน เกรงว่ากงชิงวี่จะเป็นอะไรไป

“หมอ” พ่อบ้านเรียกนาง อันหลิงหยุนดึงสติให้นิ่ง อย่างฉับพลัน ไม่ได้มีเวลาสนใจนาน รีบก้มตัวลงไป ตรวจ แต่นางก็คาดไม่ถึงว่า “เจ้าถูกยาพิษ?”

กงชิงวี่ที่พยายามลืมตาขึ้นก็หลับตาลงอย่างโดยเร็ว จับเข้าที่ลำคอของอันหลิงหยุนแน่น “เป็นเจ้า?”

อันหลิงหยุนมอง “หากเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ ก็ปล่อย มือซะ”

พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ ตกใจอย่างแรง และกงชิงวี่ในตอน นั้นจ้องมองอันหลิงหยุนอย่างเคียดแค้น ราวกับว่าจะกิน คนอย่างนั้น อันหลิงหยุนรออย่างน่ารำคาญ “เจ้าจะรอ อะไรอยู่ ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องตาย”

ในตอนนั้นพ่อบ้านถึงเข้ามาข้างหน้า อยากจะเข้ามา จับมือกงชิงวี่ออก แต่กงชิงวี่กลับใช้แรง ราวกับว่าจะบีบ คออันหลิงซานให้แตก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ