ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 456 หวางหวยอันผู้รักความสะอาด



บทที่ 456 หวางหวยอันผู้รักความสะอาด

อันหลิงหยุนยืนขึ้น: “กั่วจิ๋วน้อยรอสักครู่ ข้าขอไปสั่ง ธุระเสียหน่อย”

อันหลิงหยุนเดินออกประตูไปเจออาหมู่ สั่งการให้อาห ยู่กลับไปที่จวนอ๋องเสียน นำสิ่งของบางอย่างมา กงชิงวี่ งงงัน: “ป่วยจริงๆหรือนี่?”

ถ้าแค่ป่วยก็ยังดี แค่กลัวว่าข้าจะไม่อาจรักษาอาการ ป่วยของเขาได้ ไม่เพียงไม่อาจหาทางรักษาให้หายได้ เขาถึงกับเป็นคนที่มีชะตาอายุขัยสั้น” อันหลิงหยุนพูดจบ ก็ไปหาลูกชายทั้งหลาย แม่ทัพอัน กำลังอุ้มเจ้าตัวน้อยห ยอกเอินเล่น เตรียมจะออกไปข้างนอก

ในตัวเรือน หยุนจิ่นก็กำลังอุ้มหนูน้อยคนหนึ่ง และ กำลังพูดเรื่องนี้กับแม่ทัพอัน

“แม่ทัพอัน ท่านอุ้มพวกเขาออกไปไม่ได้นะเจ้าคะ อากาศข้างนอกหนาวแล้ว ถ้าโดนลมเย็นเป็นหวัดขึ้นมา จะทำอย่างไร พวกเขายังเล็กแค่นี้เอง”

“หยุนจิ่นมาแล้วหรือ?” อันหลิงหยุนเดินเข้าประตูไป

” เจ้านาย”หยุนจิ่นรีบเข้าไปคำนับอันหลิงหยุน อันหลิง หยุนโบกไม้โบกมือ เพื่อบ่งบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้

“พ่อ ท่านจะออกไปข้างนอกหรือเจ้าคะ?” อันหลิงหยุน เดินไปดูเด็กๆ
“ทันทีที่บอกว่าจะออกไป พวกเด็กๆทั้งหลายต่างก็ดีใจ กันใหญ่เลย” แม่ทัพอันอุ้มหลานชายด้วยสีหน้ายินดี ที่ พูดว่ามีลูกสาวไม่มีประโยชน์ ในอนาคตแต่งไปบ้าน แม่สามี โอกาสที่จะกลับบ้านก็น้อยแสนน้อย กระทั่ง หลานน้อยๆก็ไม่อาจได้อุ้มด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ดูเขาคนนี้ สิ หลานๆเป็นโขยง แม้กระทั่งไทเฮาก็ยังต้องอิจฉาไปถึง ไหนต่อไหนแล้ว

“ ถ้าเช่นนั้น ท่านก็ใส่เสื้อให้พวกเขาเยอะๆหน่อย เจ้าค่ะ” อันหลิงหยุนรู้สึกว่า อากาศวันนี้ไม่เลว อีกทั้งนาง ก็แตกต่างจากคนอื่นอยู่บ้างเล็กน้อย

การปกป้องเด็กๆมากเกินไปไม่ดี เอาแต่เก็บตัวอุดอู้อยู่ ในเรือน พวกเขาจะเจ็บป่วยได้ง่าย พาออกไปเดินข้าง นอกให้มากจึงจะดี

ปรับตัวได้ ก็หายห่วงแล้ว

“ เจ้านาย … ” หยุนจิ๋นลังเลอึกอัก ไม่ยอมพูดเสียที

อันหลิงหยุนกล่าวว่า:”พวกเขาอยู่แต่ในห้องตลอด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก จะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ถ้า ได้ออกไปข้างนอกมันจะดีกับร่างกายของเด็กๆ อีกทั้ง พวกเขาดูไปแล้วมีสุขภาพที่ดีกว่าเด็กคนอื่น ๆด้วย

ยังมีอีก เจ้ามองไปที่พวกนกที่บินอยู่บนหลังคาพวก นั้นสิ พวกมันล้วนมาเยี่ยมเยียนพวกเด็กๆ หากไม่ได้เจอ พวกนั้นก็ไม่ยอมไปหรอก ไม่สู้ปล่อยให้พวกเขาออกไป ดีกว่า ”
“เจ้านายพูดได้มีเหตุผล เป็นหยุนจีนกังวลมากเกินไป เจ้าค่ะ” หยุนจิ่นเป็นคนที่รู้จักควบคุมตนเองมาตลอด เมื่อรู้ว่าพูดอะไรผิดไป จึงรีบยอมรับผิดด้วยตัวเองทันที

อันหลิงหยุนเพียงยิ้มน้อยๆ: “ไม่เป็นไรหรอก ไหนๆเจ้า ใหญ่ก็ได้ออกไปแล้ว เช่นนั้นที่เหลืออีกสี่คนก็ออกไป ด้วยเถอะ หงเถา ลู่หลิว พวกเจ้าอุ้มสองคนนะ

อันหลิงหยุนอุ้มพวกเขาไว้ด้วยกัน พาเด็กๆไปเล่นว่าว พร้อมหน้า

ทันทีที่ออกจากประตู แต่ละคนก็มีความสุขกันใหญ่ อันหลิงหยุนอุ้มเจ้าห้าเอาไว้ เด็กคนนี้ทำเพียงแค่มองไป รอบ ๆ แต่ไม่ได้แสดงท่าทางดีอกดีใจ ค่อนข้างราบเรียบ น่าเบื่อเกินไปอยู่สักหน่อย

อันหลิงหยุนนั่งลงและมองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นว่า “คง ไม่ใช่ว่าพวกลูกๆต่างก็สามารถสื่อสารกับนกได้ทั้งหมด หรอกนะ?”

สุดท้ายเจ้าห้าผินหน้าไปมองอันหลิงหยุน ดวงตาสีดำ เข้มกลมกลิ้งของเขา ดูเหมือนกำลังสำรวจอะไรบางสิ่ง

“อันหลิงหยุนก้มหน้าลง หอมเจ้าห้าพ่อดหนึ่ง : “ทำไม พวกลูกๆถึงน่ารักขนาดนี้นะ?”

เจ้าห้ากระพริบตา หันไปมองนกตัวหนึ่งที่กำลังบินอยู่ บนหลังคา นกจ้องไปที่เจ้าห้า แต่ไม่เข้าใกล้

อันหลิงหยุนมองไปที่ลูกคนอื่น ๆ พวกเขาทั้งหมด ต่างก็กำลังมองดูบรรดานกอยู่เช่นกัน

อันหลิงหยุนจึงตระหนักได้ในเวลานี้ว่า ในหมู่เด็กเหล่า นี้ มีเพียงคนเดียวที่สามารถสื่อสารกับนกได้ อีกทั้งนก ก็กำลังตามหาอยู่เช่นกัน แต่เป็นเพราะมีคนจำนวนมาก นกจึงไม่สามารถแยกแยะได้ว่า คนไหนเป็นเจ้านายของ พวกมัน จึงเป็นเหตุให้คอยตามมาตลอดทาง ออกมาหนึ่ง คน ก็ดูหนึ่งคน ใช้วิธีนี้สังเกตไปเรื่อยๆ

“พวกเขาตามมาด้วยก็ไม่เลว มีพวกเขาอยู่ เราก็รู้ได้ ว่าตรงไหนปลอดภัยหรือไม่ สถานที่ที่ผุพังเช่นนี้ แม่ไม่ ชอบเอาเสียเลย

ขอเพียงมีพวกเจ้า ก็ไม่มีทางอื่น ไม่ชอบแค่ไหนก็ต้อง เรียนรู้ที่จะชอบให้ได้

พ่อของเจ้า ก็แทบจะเอาหัวโขกตายไปเสียให้รู้แล้วรู้ รอด!

อันที่จริง แม่เองก็กลัดกลุ้มเหลือเกินแล้ว! ‘

อันหลิงหยุนคิดถึงคำที่กงชิงวี่เคยพูด จึงอดไม่ได้ที่จะ หัวเราะออกมา

อุ้มลูกๆทั้งหลายเล่นอยู่ข้างนอกสักพัก จึงค่อยหันกาย เดินกลับไป

เมื่อวางลูกชายลง อันหลิงหยุนจึงลุกขึ้นเดินออกไป หยุนจิ่นตามออกไปส่ง: “เจ้านาย เรื่องในร้านทั้งสามแห่ง ข้าจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว หยุนจิ๋นมีเรื่องหนึ่งอยากขอร้องเจ้าค่ะ”

อันหลิงหยุนถามว่า: “เจ้าอยากขออยู่กับเจ้าใหญ่ คอย ดูแลพวกเขาอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้านาย ข้าชอบเด็กเจ้าค่ะ เจ้านายมีท่านอ๋องอยู่ ข้างกาย ย่อมไม่มีทางพบอันตรายเป็นแน่ แม้ว่าจะมี อันตรายก็ยังมีพวกอาหยู่ แต่ข้างกายเด็กๆนั้นไม่เหมือน กัน หากเจ้านายไม่อยู่ ข้าก็อยากคอยดูแลปกป้องอยู่ ข้างกายพวกเขา หยุนจิ๋นยินดีสาบานว่าแม้ต้องตาย ก็ จะปกป้องเหล่าเจ้านายน้อยด้วยชีวิตเจ้าค่ะ ”

อันหลิงหยุนชะงักค้าง: “หยุนจิ่น เจ้ารู้ไหมว่า ทำไมข้า ถึงไม่สั่งให้เจ้าคอยดูแลพวกเขา?”

หยุนจิ่นส่ายหัว: “หยุนจิ่นไม่รู้เจ้าค่ะ”

“ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น บางทีอาจจะรักษาชีวิตเอาไว้ ได้ เพราะคนอื่นจะคิดหาทางปกป้องชีวิตตัวเอง เพื่อไว้ คุ้มครองชีวิตของเจ้านาย แต่เจ้านั้นไม่เหมือนกัน เจ้า อยากตอบแทนบุญคุณ หากวันหนึ่งมีบางอย่างเกิดขึ้น จริงๆ เป็นไปได้ว่าเจ้าอาจทุ่มเททุกอย่างโดยไม่เสียดาย ชีวิตเพื่อปกป้องพวกเขา ข้ากลัวว่าจะไม่ได้พบเจ้าอีกต่อ ไป หากเจ้าสามารถรับปากข้า อยู่ข้างกายพวกเขาจวบ จนพวกเขาเติบใหญ่ ข้าก็อาจจะยอมรับคำขอร้องของ เจ้าในวันนี้ได้ ”

“หยุนจิ่นรับปากเจ้าค่ะ หากไม่หมดสิ้นหนทางจริงๆ ข้า จะไม่สละชีวิตเพื่อช่วยพวกเขา”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เจ้าอยู่เถอะ แต่เรื่องร้านค้าทั้งสามแห่ง เจ้าก็ยังต้องดูแลอยู่ หากรู้สึกว่ายุ่งเกินไป เจ้าสามารถ ฝึกสอนผู้ช่วยมือดีๆ สักสองสามคนมาช่วยงาน นอก เหนือจากนี้ เจ้าขอถางเหอมาช่วยบ้างก็ย่อมได้

“เรื่องของร้านค้าหยุนจิ่นจัดการไหวเจ้าค่ะ ส่วนการ ฝึกฝนผู้ช่วยนั้น ดำเนินการอบรมออกมาเป็นผลสําเร็จ แล้ว เจ้านายวางใจได้”

“ข้าวางใจในการทำงานของเจ้าในมาตลอดอยู่แล้ว เจ้า กลับไปเถอะ หากเจ้าเป็นห่วงเรื่องของเจ้าใหญ่ทั้งหลาย เจ้าก็พักอยู่ในเรือนแล้วกัน ข้าจะบอกท่านอ๋องไว้ นับ จากวันนี้อาหยู่ หงเถา ลู่หลิว ก็จะอยู่ภายใต้บัญชาของ เจ้าด้วย ”

“เจ้าค่ะ”

อันหลิงหยุนหันหลังจากไป แม้ว่านางจะไม่รู้แน่ชัดว่า ทำไม หยุนจิ่นถึงทำแบบนี้ แต่นางสามารถรู้สึกได้ถึง จิตใจของหยุนจิ่นได้

หลังออกประตู กลับไปถึงเรือนด้านหน้า อันหลิงหยุน จึงไปพบกั๋วจิ๋วน้อย หวางหวยอัน

อาหยู่ยืนรออันหลิงหยุนอยู่ที่ประตู นำกล่องยาเข้า มาหลายกล่อง อันหลิงหยุนเดินเข้าไปโดยมีอาหมู่ตาม เข้าไปด้วย กล่องยาถูกวางลงบนพื้น

ในเวลานั้น กงชิงวี่กำลังดื่มชากับหวางหวยอัน เมื่อเห็น อันหลิงหยุนเข้าประตูมา กงชิงวี่ก็วางถ้วยชาลง ลุกขึ้นถามอันหลิงหยุนว่า: “ทำไมถึงเพิ่งกลับมา?”

“ข้าไปหาพ่อและเด็กๆ จึงกลับมาช้าไปหน่อย ต้องให้ กั๋วจิ๋วน้อยรอแล้ว” อันหลิงหยุนมองดูชา กงชิงวี่และหวา งหวยอันดื่ม แล้วเดินตรงเข้าไป

“ช่วงนี้อย่าเพิ่งดื่มชานี้เลยเพคะ ร่างกายของท่านไม่ เหมือนกับคนอื่น ชาอาจทำให้นิ่วในไตรุนแรงขึ้น อีกทั้ง น้ำล้วนต้องไหลผ่านไต ดื่มชาจะไม่ค่อยดี ยิ่งชาที่เข้ม ข้นก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ อย่าดื่มสักระยะ เมื่ออาการดีขึ้น เมื่อไหร่ ข้าจะบอกท่านเอง

อาหยู่ กล่องยา. ”

อันหลิงหยุนสั่งให้อาหยุ่นำกล่องยาเข้ามาทันที นาง เปิดมันออก หยิบหูฟังออกจากกล่องยา นั่งลงแล้วพูดว่า “กั๋วจิ๋วน้อย ถอดเสื้อคลุมของท่านออกเพคะ”

หวางหวยอันหน้าแดง เงยหน้าขึ้นมองกงชิงวี่: “อ๋องเสีย น ชายาของเจ้าตรวจโรคแปลกยิ่งนัก ถึงกับต้องเปลื้อง เสื้อผ้า?

“เจ้าคิดว่าข้ายินดีเรอะ? เจ้าอย่ามาใช้ฐานะกดดันข้า รีบๆถอดออกให้มันเร็วหน่อยเถอะ อย่างไรก็ไม่ได้ให้เจ้า ถอดจนหมดเสียหน่อย!” กงชิงวี่เดินไปนั่งอีกด้านอย่าง เหลืออด นั่งลงไขว่ห้างเลิกชายเสื้อขึ้นปัดๆลูบๆให้เข้าที่

หวางหวยอันยังคงหน้าแดง แต่เมื่อเห็นว่าอันหลิงหยุน ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องไปทำ เขาจึงค่อยยอมถอดเสื้อผ้าออก
หวางหวยอันเป็นคนเจ้าสำอาง เป็นโรครักความสะอาด เวลาถอดเสื้อผ้า จึงต้องสิ้นเปลืองเวลา หลายเรื่องหลาย อย่างไปหมด

เพียงเห็นว่าหวางหวยอันลุกขึ้นยืน แล้วจึงค่อยๆบรรจง ถอดทีละชิ้น ไล่ตั้งแต่บนศีรษะลงมา จนมาถึงการปลด เข็มขัด แล้วจึงถอดเสื้อคลุมออกมาวางไว้ข้างๆ

อันหลิงหยุนมองดูเสียจนรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัว ในสมอง แทบจะมอบหนึ่งฝ่าเท้าใส่คนตรงหน้าให้กระเด็นออกไป ให้พ้นๆ หน้าอยู่แล้ว ในโลกใบนี้ ทำไมถึงได้มีคนแบบนี้ ได้นะ อันหลิงหยุนไม่เข้าใจเลยว่า เขากำลังทำบ้าอะไร อยู่

กับแค่ถอดเสื้อผ้าเท่านั้นเอง ควรจะเป็นเช่นเดียวกับ กงชิงวี่นั่นสิ นับถอยหลังจากสามไปยังไม่ถึงหนึ่ง ก็ถอด เสื้อผ้าออกจนหมดแล้ว

สภาพอย่างตอนนี้ เป็นผู้ชายจริงใช่ไหมนี่?

ในที่สุด หวางหวยอันก็นั่งกระมิดกระเมี้ยน ปั้นหน้า สงวนท่าที ส่งมือให้อันหลิงหยุนพลางเอ่ยว่า “ตรวจสิ!”

อันหลิงหยุนตะลึงอึ้งค้าง ทำไมดูเหมือนนางเป็นพวก วางแผนร้ายหมายชีวิต คิดแย่งชิงทรัพย์สินของผู้อื่นไป ได้ล่ะนี่?

“ไม่ใช่ตรงนี้เพคะ ท่านแค่นั่งนิ่งๆก็พออย่าขยับ ” อัน หลิงหยุนกล่าวพร้อมกับวางหูฟังและศีรษะลงบนหน้าอก เขา ตั้งใจฟังเสียงเต้นของหัวใจหวางหวยอัน
หวางหวยอันตกตะลึง แตกตื่นจนไม่กล้าขยับตัว นั่ง แข็งที่อราวกับท่อนไม้ ไม่กระดุกกระดิก พลางจ้องมอง ค้างที่หน้าผากของอันหลิงหยุน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ