ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 247 ฮูหยินใหญ่ที่เข้าใจ



บทที่ 247 ฮูหยินใหญ่ที่เข้าใจ

“ฮูหยินใหญ่ แล้วถ้าฮ่องตวนมีความรักความผูกพัน ล่ะ? “อันหลังหยุนถามขึ้น ฮูหยินใหญ่ตำหนักก้องหวั่น ไหวเล็กน้อย

อันหลิงหยุนพูด”: ฮูหยินใหญ่ ท่านคิดว่าทำเช่นนี้ได้ หรือไม่ ถ้าสามเดือนหลัง พระชายารองหยุนยังไม่อยาก อยู่กับอ๋องตวนอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้น………..ค่อยมาอีก จน อ๋องเสียนของพวกเราจะไม่ออกมาห้ามอีกเด็ดขาด

แต่เช่นเดียวกัน ถ้าสามเดือนหลัง พระชายารองหยุนอ ยากอยู่ต่อ ท่านไม่มีสิทธิ์บังคับให้พวกเขาแยกจากกัน ได้ ”

“คงไม่ต้องใช้เวลาสามเดือน ชวนเอ๋อก็คงจะไม่อยู่ต่อ แล้ว”ฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงก็ยังไม่เห็นด้วย ตอนที่พูด อดไม่ได้ที่ยังรู้สึกเสียใจ

อันหลิงหยุนพูดต่อ : “ฮูหยินใหญ่ หรือว่าผู้หญิงตำหนัก กั๋วกงของพวกท่าน ใจเสาะขนาดนี้เลยหรือ? เวลาออก สนามรบนั้นกล้าหาญ กับการรักผู้ชายแค่คนเดียว ก็ไม่ กล้า แค่นี้ก็หดถอยแล้วอย่างนั้นหรือ?

“ผู้หญิงตำหนักกั๋วกงของข้าไม่เกรงกลัวเรื่องความตาย อยู่แล้ว เช่นเดียวกันก็จะไม่ถูกขัดขวางเพราะเรื่องความ รักของชายหญิงเหมือนกัน

เพียงแต่ว่าชวนเอ๋ออายุยังน้อย ส่วนอ๋องตวนนั้นก็มี หญิงสาวที่ตัวเองรักแล้ว
ตอนแรกข้าก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องงานแต่งครั้งนี้หรอก

แต่เป็นเพราะไท่เฟยและราชครูจุนให้การรับรองดิบดี ว่าจะไม่ให้ชวนเอ๋อเสียใจ ข้าจึงตอบตกลง

มาวันนี้ ชวนเอ๋อเกือบตาย จะให้ตำหนักกั๋วกงของข้า

ปล่อยเรื่องนี้ไว้ได้อย่างไรกัน? ” “ฮูหยินใหญ่พูดถูกต้องแล้ว แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่อง

ภายในของจวนอ๋อง ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร

ถึงแม้ว่าทุกบ้านจะมีปัญหาของตัวเอง แต่คิดว่าน่าจะ เป็นเพราะพระชายารองหยุนทักษะการเอาตัวรอดของ การอยู่ที่ตำหนักวังหลังไม่เก่งนัก แต่ถ้าให้ขึ้นสนามรบ เมื่อไหร่จะไม่เป็นเช่นนี้แน่นอน

สามารถเห็นได้ว่า พระชายารองหยุนเป็นคนซื่อสัตย์ และใจดี เนื่องจากนางอายุยังน้อย ไม่รู้จักวิถีการใช้ชีวิต ในตำหนักวังหลัง

แต่ถ้าได้มีคนให้การสอนและอบรมดีดี เชื่อว่าจะ สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้มีเรื่องบางเรื่องเกิดขึ้นได้

พระชายารองหยุนอาจจะรู้สึกว่า กับข้าวมื้อสองมื้อจะ ให้นางกินได้ แต่คาดไม่ถึงว่าจะยิ่งอยู่ยิ่งร้ายแรงขึ้น

เหตุการณ์เช่นนี้ ถ้าพระชายารองหยุนเล่าเรื่องนี้ให้ ไท่เฟยหรือท่านฟังตั้งแต่แรก คิดว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิด ขึ้น
พระชายารองหยุนได้เคยไปกินข้าวที่จวนอ๋องเสียน ตอนแรกสาวใช้ตงเอ๋งจะเล่าให้ข้าฟังอยู่ แต่ถูกพระชายา รองหยุนห้ามไว้

แสดงให้เห็นว่า พระชายารองหยุนไม่อยากให้เรื่องไม่ดี ภายในบ้านถูกเปิดเผยให้คนนอกรู้ อันดับแรกคือพระชายารองหยุนเป็นคนที่มีจิตใจสูงส่ง

อันดับสองคือเป็นคนใจดีและซื่อสัตย์ อันดับสามคือนาง

อยากอยู่ที่จวนอ๋องตวนต่อไปอีก”

ฮั่วไทเฟยพยักหน้า และเห็นด้วย

สีหน้าของฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงก็ไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไร

อันหลิงหยุนพูดขึ้นอีก: “ข้ารู้สึกว่าการกระทำเช่นนี้ ของพระชายาตวน ถือว่าเมตตามากแล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็น ตัวข้าเองแล้ว ข้าทนรับให้มีพระชายารองไม่ได้หรอก”

ทุกคนในตำหนักมองไปที่อันหลิงหยุนเป็นสายตา เดียวกัน กงชิงวี่พูดขึ้นว่า “พระชายากลายเป็นหญิงผู้ ยิ่งใหญ่ไปแล้ว ไม่กลัวว่าจะกัดโดนลิ้นตัวเองหรือ เรื่อง ของข้านั้นยังไม่ต้องให้เจ้ามาช่วยตัดสินใจด้วยหรือ? ”

“แต่ท่านอ๋องเมื่อคืนยังสาบานอยู่เลยว่า ถ้าชีวิตนี้ แต่งงานมีพระชายารอง ยอมให้ออกจากบ้านแล้วโดนรถ ชนตายเลยดีกว่า”อันหลิงหยุนพูดออกมาเช่นนั้น หวางฮองไทเฮาสูดลมหายใจลึกเข้าไป

“ไร้สาระสิ้นดี”หวางฮองไทเฮาจะตายเสียให้ได้

กงชิงจึงรีบพูดขึ้น: “ถ้าข้าไม่พูดเช่นนั้น เจ้าก็ไม่ให้ข้า เตะต้องตัวเจ้าเด็ดขาด! ”

หวางฮองไทเฮาหน้าแดง หน้าไม่อายสิ้นดี!

อันหลิงหยุนพูด: “ข้าก็แค่ง่วงนอน อยากให้ท่านอ๋อง พักผ่อนแต่เช้า”

“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ เจ้า ไม่ได้พูดชัดแจนให้ข้ารู้สักหน่อย? ”

อันหลิงหยุนไม่ยอม : “ข้าง่วงนอนเลยเผลอหลับไป ท่านอ๋องก็ยังเรียกให้ข้าตื่นขึ้นมาอีก แค่บ่ายเบี่ยงนิด หน่อย ก็ได้ยินท่านอ๋องพูดออกมาเช่นนี้ มันเกี่ยวข้อง อะไรกับข้าด้วย? ”

“พูดไปเรื่อย ข้าอยากเป็นพ่อคนเร็วๆ หมอจวนบอกว่า ถ้าพยายามเพิ่มอีกหน่อย ก็สามารถเป็นพ่อคนได้แล้ว”

หวางฮองไทเฮาทนฟังต่อไปไม่ได้อีก จึงพูดขึ้น ว่า: “พอแล้ว เรื่องของพวกเจ้า กลับไปค่อยพูด ไม่รู้จัก อายคนอื่นหรือ”

อันหลิงหยุนจึงโค้งคำนับตอบตกลง ส่วนกงชิงวี่นั้นยืน อย่างไม่แยแสอะไร
ไทเฟยมองไปที่หวางฮองไทเฮา หน้าไม่อายกันเลย จริงๆ!

เรื่องไม่แต่งงานมีพระชายารองเพิ่มก็เอามาสาบาน ถ้า แต่งงานกับมีพระชายารองก็จะไปให้โดนชนตาย ถ้าเช่น นั้นอีกหน่อยไม่ใช่ไม่ให้แต่งเลยหรือ

หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาฮั่วไท่เฟยเช็ดไปที่มุมปาก เพราะ กลัวว่าจะหัวเราะออกมา

หวางฮองไทเฮามองไปที่อันหลิงหยุนด้วยสายตาเย็น ชา: “ข้าคงจะปล่อยสมยอมเจ้ามากไปแล้ว เจ้าจึงกล้า บอกให้อ่องเสียนไม่แต่งงานมีพระชายารองเพิ่ม

“เสด็จแม่ ไม่ใช่ข้าเป็นคนพูดเสียหน่อย เขาเป็นคนพูด เอง ข้านอนสะลึมสะลืออยู่ ไม่ได้สนใจ ท่านอ๋องอมน้ำ เย็นไว้ในปากแล้วพ่นใส่ข้าเพื่อให้ตื่น แล้วพูดคุยกับข้าจน ดึก ง่วงมากจนตอนเช้าข้าตื่นขึ้นมาเดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ หกล้มฟาดหัว”

“ใช้ไม่ได้เลย”หวางฮองไทเฮาจะตายเสียให้ได้ มองไป ที่กงชิงวี่ด้วยสายตาขุ่นเคือง แล้วมองไปที่อันหลิงหยุน อันหลิงหยุนรับรู้ถึงคำสั่ง จึงหันไปหากั๋วกงฮูหยิน

“ฮูหยินใหญ่ ตอนแรกที่ข้าได้แต่งงานกับอ๋องเสียน เขา จะฆ่าข้าด้วยซ้ำ มาวันนี้เขาก็ไม่ได้จะฆ่าข้าแล้ว คนดีนั้น ยังไงก็ไม่โชคร้ายหรอก

อ๋องตวนเป็นคนฉลาดหลากแหลม เพียงแค่สับสนชั่ว ขณะ ถ้าไม่สับสนแล้ว ก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง”
“ใช่แล้ว ฮูหยินใหญ่ ข้าโดนพวกเขาทำให้โกรธมาก ท่านคิดว่าอย่างนี้ดีไหม ถ้าท่านไม่ไว้วางใจ ข้าให้ราชครู จุนรับหลานสาวกลับไปก่อน แบบนี้ดีไหม? “ฮั่วไท่เฟยรีบ พูดออกมา

ฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงพูดขึ้นว่า : “ไม่ต้องหรอก เรื่อง รักพระชายารองแล้วทำลายพระชายาเอกนั้นตำหนักกั วกงของข้ารับผิดชอบไม่ไหวหรอก

ในเมื่อพระชายาเสียนช่วยไกล่เกลี่ยให้คืนดีกัน ถือว่า ข้าให้เกียรติแก่นาง เรื่องของชวนเอ๋อสามเดือนหลังค่อย มาตัดสินใจอีกที

แต่ข้าไม่ยอมให้ชวนเอ๋อกลับไปอีกแล้ว ชวนเอ๋อก็พัก อยู่ที่ตำหนักกั๋วกงเถอะ สำหรับเบี้ยเลี้ยงของชวนเอ๋อนั้น จ่ายไปให้ที่นําหนักกั๋วกง เพราะอย่างน้อยตำหนักกั๋วกง ของข้าก็ไม่หักเบี้ยเลี้ยงของชวนเอ๋อเก็บไว้เองอยู่แล้ว”

“ทำเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน หยินเอ๋อก็จะได้ไปมาที่ตำหนัก กั๋วกงบ่อยๆ “ฮั่วไท่เฟยพอใจมากแล้ว ถ้าถึงกับต้องหย่า ร้างจะทำยังไงดี ในภายภาคหน้ายังมีผู้หญิงบ้านไหนกล้า แต่งงานกับอ๋องตวนอีก

ฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงโค้งตัวคำนับ: “หม่อมฉันขอ ทูลลา”

เมื่อพูดจบฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงเดินออกไปด้วย ความโมโห

อันหลิงหยุนเมื่อเห็นเช่นนี้ ก็ขอกราบทูลลาไปด้วย ส่วนกงชิงวี่ก็ออกไปพร้อมกัน

เมื่อทุกคนกลับไปกันหมดแล้ว ฮั่วไท่เฟยจึงลุกจาก เก้าอี้ลงมา เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าราชครูจุน: “ราชครู จุน ถือว่าท่านสงสารข้าก็แล้วกัน เจ้าพาหลานสาวกลับ ไปก่อน เมื่อนางกลายเป็นคนมีเหตุผลแล้ว ถึงเวลานั้น ค่อยส่งนางกลับมา ไม่อย่างนั้นท่านก็เอาชีวิตข้าไปได้ เลย”

“ไทเฟยวางใจได้ หม่อมฉันจะอบรมสั่งสอนอย่างดี จะ ไม่สร้างปัญหาให้ไทเฟยและไทเฮาเป็นอันขาด”ราชครู จุนมองไปที่จุนฉูฉู เมื่อกราบทูลลาเสร็จก็ออกคำสั่งให้พา คนออกไป

เมื่อคนออกไปแล้ว ฮั่วไท่เฟยหันกลับไปที่หวางฮองไท เฮา โค้งตัวคํานับ: “ข้าขอตัวกลับก่อนแล้ว ขอบพระทัย ท่านพี่มาก”

“ถึงยังไงจุนฉูฉูก็ยังเป็นคนของตระกูลจุนอยู่ ข้าเข้าใจ ความคิดของเจ้า ส่วนราชครูจุนนั้นมีหรือที่จะไม่เข้าใจ ความคิดของเจ้า? ที่สำคัญเซียวผินตอนนี้ก็ตั้งครรภ์ของ เชื้อพระวงค์อยู่ ยังไงก็ต้องให้เกียรติอยู่แล้ว ขอเพียงแค่ ไม่เกิดเรื่องขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำรุนแรงมากนัก”

“รับทราบ”

หวางฮองไทเฮาหันกลับแล้วออกไปก่อน ฮั่วไท่เฟยจึง หันกลับแล้วออกไปจากวังเฉาเพิ่ง

เมื่ออันหลิงหยุนออกจากวังก็ตามไปที่ตำหนักกั๋วกง
อีกทั้งนั่งรถม้าของฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงด้วย

เมื่ออยู่ในรถม้าอันหลิงหยุนขอโทษฮูหยินใหญ่ตำหนักกั วกง

“ไม่เป็นไร ที่เจ้าทำก็เพราะหวังดีต่อชวนเอ๋อ ข้าก็ไม่ได้ ต้องการจะให้มีการหย่าร้างกันจริงหรอก เพียงแต่ว่าโมโห

มาก จึงเข้าเฝ้าเพื่อทําการฟ้องเท่านั้นเอง!

จุนฉูฉูของตระกูลจุนรังแกคนมากเกินไปแล้ว ตอนแรก คนที่มาขอร้องเรื่องแต่งงานนี้ก็คือราชครูจุน มาวันนี้กลับ กระทำเช่นนี้กับชวนเอ๋อ ครั้งนี้ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่า ราชครูจุนจะให้คำอธิบายกับข้ายังไง

ส่วนเจ้านั้น ได้ช่วยข้ากู้หน้ากลับมาได้ ”

อันหลิงหยุนก็ไม่เหมาะที่จะพูดอะไรมาก ดูแล้วฮูหยิน ใหญ่ตำหนักกั๋วกงเป็นคนที่เข้าใจดี

รถม้าเคลื่อนตัวไปยังตำหนักกั๋วกง ฮูหยินใหญ่ตำหนักกั วกงพูดขึ้นว่า: “พระชายาเสียน จริงหรือที่อ๋องตวนจะดี ต่อชวนเอ๋อ? ”

อันหลิงหยุนพูด: “ความจริงตัวจริงของอ๋องตวนนั้นเป็น คนดี และเป็นคนฉลาด เพียงแต่ตาบอดชั่วขณะ

ฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงพูด: “แล้วชวนเอ๋อล่ะ? ”
สําหรับเรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้ ฮูหยินใหญ่ พระชายารองหยุน น่ารักขนาดนั้น ข้ายังชอบเลย อ๋องตวนไม่ใช่คนโง่ เขาจะ มองไม่เห็นหรือ?

หญิงชราพยักหน้า: “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ