ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 406เข้าอกเข้าใจฮูหยินรอง



บทที่ 406เข้าอกเข้าใจฮูหยินรอง

งานแต่งของเว่ยหลิงชวนไม่นานก็ถูกกำหนดขึ้น ตำ หนักกึ่งกงและต้าตงเจิ้งย่วนได้แลกเปลี่ยนดวงชะตา กัน ทั้งสองฝ่ายได้เชิญหมอดูดวงชะตาชีวิตมาดูให้ กล่าวว่า ทั้งคู่นั้นสวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กัน

หยุนจิ่นก็ได้ส่งของขวัญไปยังตำหนักกึ่งกงด้วยตนเอง แสดงให้เห็นว่านางนั้นยินดีจากใจจริง

เรื่องการแต่งงานก็ได้มอบให้ผู้ที่ชำนาญการเป็นผู้ ควบคุมดูแล ส่วนองค์หญิงใหญ่ก็ได้ไปที่ตำหนักกึ่งกง เพื่อสู่ขอด้วยตนเอง ทำให้มีหน้ามีตาอย่างมาก

อันหลิงหยุนมองไปอย่างอิจฉา หรูหราฟุ่มเฟือยเสียยิ่ง กว่าจวนอ๋องเป็นอย่างมาก

เว่ยหลิงชวนเป็นเพียงแค่โง่จงเจิ้น ทว่างานสู่ขอของ เขายังดูดีเสียยิ่งกว่าจวนอ๋อง จะไม่ให้อิจฉาได้อย่างไร

อันหลิงหยุนนั่งอยู่ที่หอน้ำชาพลางมองลงไปยังด้านล่าง “ท่านอ๋อง เหตุใดตอนนั้นท่านไม่ให้อะไรข้าเลย? ”

กงชิงวี่ขมวดคิ้ว นานแล้วที่นางมิได้เอ่ยถถึงเรื่องนี้

คำที่กล่าวขึ้นมามีเหตุผลเพียงพอที่จะกล่าวได้อย่าง เต็มปากเต็มคํา

“เรื่องเหล่านั้นล้วนแต่เป็นอดีต ที่เรียกว่าดอกไม้ในม่าน หมอก หากต้องการให้ข้าประจบเอาใจหญิงสาวที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ ข้าไหนเลยจะทำได้”

“ท่านอ๋องยังมีเหตุผลอื่น? “อันหลิงหยุนขำขัน

กงชิง สายพัดในมือไปมา ก้มหน้าลงกระซิบข้างหูอัน หลิงหยุนว่า “เจ้าอิจฉาหรือ?

อันหลิงหยุนถามกลับ “อิจฉาแล้วอย่างไร ? ท่านคิดจะ สู้ขอข้าอีกรอบหรือ?

“ขอเพียงหยุนหยุนต้องการ ก็ไม่แน่ว่าจะทำไม่ได้

“ช่างเถิด จวนอ๋องเสียนเพียงแค่ร่ำรวยมีเกียรติเพียง เท่านั้น แท้จริงแล้วจวนอ๋องเสียนไม่ได้มีเงินทอง มากมายนัก หากหยุนจิ่นไม่ออกไปดูแลกิจการข้างนอก การกินการอยู่ของท่านไหนเลยจะมีใช้ได้

“หึหึ …แค่มีพระชายา ข้าก็เจริญรุ่งเรืองไม่น้อย ข้าจะ กลัวอันใด ? ”

อันหลิงหยุนมองนัยน์ตาของกงชิงวี่ “หน้าไม่อาย!

“й…”

งานแต่งได้จัดขึ้นในต้นเดือนนี้วันที่สิบ ทั้งสองฝ่าย ปรึกษากันอย่างแน่นอนแล้ว วันนี้เหมาะสมยิ่งนัก

ณ ตระกูลจุน

จุนซือซือขว้างปาข้าวของในห้อง ตบตีบ่าวรับใช้ก็ทำไปแล้ว

“อันหลิงหยุน อันหลิงหยุน เหตุใดถึงเป็นนางไปได้ นาง มีความแค้นอันใดกับตระกูลจุนของข้า นางต้องการอัน ใด งานแต่งของจุนฉูฉูก็เป็นนางที่สอดเท้าเข้ามา ส่วน จุนเซียวเซียวนางก็ไม่ได้วางอยู่ในสายตา บัดนี้แม้แต่ งานแต่งของข้านางก็ยังขัดขวาง? นางต้องการอันใดกัน แน่?

สาวใช้คุกเข่าที่พื้นด้วยความตกใจ ขณะที่ตีหัวของนาง เลือดไหล คุกเข่าไปที่พื้นแข็งๆก็มิกล้าที่จะลุกขึ้น

จุนซือซือนางโกรธเป็นอย่างมาก ทุบตีสิ่งของแล้วก็ยัง ไม่พอใจ ก็กรีดร้องไปอีกหนึ่งงรอบ

ราชครูจุนที่กำลังเดินผ่านอยู่ด้านนอกนั้น ได้ยินเสียง คล้ายจุนซือซือกรีดร้องอยู่ในลาน มองตรงไปก็เห็นจุน ซือซือที่อยู่ในลาน เขายืนมองเพื่อดูความเคลื่อนไหว

ผู้ติดตามรีบร้อนเข้าไปดูก่อน กลับมาบอกราชครูจุนใน สิ่งที่ตนได้ยิน

ราชครูจุนมองจุนซือซือที่อยู่ในลานอีกหนึ่งรอบ ก็หมุน ตัวกลับไปออกไป

กลางดึก

ราชครูจุนนั่งอยู่ภายในห้อง เบื้องหน้าเขาคือรมควันธูป ส่วนภรรยาน้อยทั้งหมดต่างก็ยืนกันอยู่ที่นี่
จุนเจิ้นหนานมีท่าทีนอบน้อม ก้มศีรษะ ทว่าใบหน้านั้น เปี่ยมศรัทธา

ราชครูจุนให้เขายืนมาแล้วกว่าหนึ่งชั่วยาม เขาไม่แน่ใจ

“เจ้ารอง เจ้าได้ไปค้าจงเจิ้งย่วนสู่ขอแล้วใช่หรือ ไม่? “ราชครูจุนกล่าวถาม

จุนเจิ้นหนานอีกอักไปชั่วครู่ รีบคุกเข่า “เรียนท่านพ่อ เป็นเรื่องจริง ทว่าเรื่องนี่ได้ปรึกษาหารือกับท่านแม่แล้ว ท่านแม่กล่าวว่าคือความต้องการของท่าน ”

“ถูกต้อง เป็นความต้องการของฮูหยินแก่ และเป็นสิ่ง ที่ข้ากับแม่ของเจ้าก็ได้ปรึกษากันแล้วเช่นกัน แต่ว่าเจ้า สอง เรื่องนี้เจ้าสามีภรรยาเป็นผู้เอ่ยขึ้นมา ถามท่านแม่ ของเจ้าเถิด? ”

ราชครูจุนมีภรรยาอยู่มากมาย ฮูหยินรองเป็นแค่ฉาก บังหน้าเท่านั้น

ฮูหยินรองเป็นผู้ที่โตมากับราชครูจุน คนผู้นี้ซื่อสัตย์ยิ่ง ราชครูจุนชื่นชอบนางมากเป็นพิเศษ

แม้อายุอานามจะมากแล้ว ทว่าราชครูจุนก็ได้ไปหาฮู หยินรองที่ลานอยู่หลายครั้งหลายครา

ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้คนต่างเคารพฮูหยินรอง ถือว่าใต้เท้า นั่นได้ให้เกียรติฮูหยินรองอยู่หลายส่วน

หลังจากที่ฮูหยินใหญ่จากไป ล้วนมีแต่ฮูหยินรองที่เป็นผู้ดูแลจัดการ ไม่ว่ามีเรื่องอะไรต่างก็ไปปรึกษานาง แต่ราชครูจุนรู้ดี เรื่องนี้มิใช่ความผิดของฮูหยินรอง

เป็นเจ้าพวกนี้ที่ทำให้เรื่องยุ่งยากวุ่นวาย

“ถูกต้อง เป็นข้าสามีภรรยาที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ ลูกสะใภ้ ของท่านเห็นว่าบุตรสาวนั้นโตมากพอแล้ว ก็รู้สึกว่าถึง คราที่จะต้องเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว พวกข้ามิได้ต้องการคนที่ ดีพร้อมไปหมด ขอเพียงแค่คนผู้นั้นมีบุคลิกที่ดี เว่ยหลิง ชวนผู้นี้ลูกรู้จักดี เขามีท่าทีที่ดียิ่งนัก แม้ว่าฐานะไม่ เท่าเทียมพวกเรา ทว่าเหมาะสมกับซือซือของเรา ถึงได้ เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้ จึงได้ไปปรึกษาท่านแม่ ท่านแม่ก็ รับปากที่จะเอ่ยถามท่านให้ “

“ความหมายของเจ้าคือ เรื่องการแต่งงานครั้งนี้เป็น ความคิดของฮูหยินแก่อย่างนั้นหรือ ?”ราชครูจุนกลอก ตาไปมา ฉายแววไม่พึงพอใจพลางเงยหน้ามองบุตรชาย

จุนเจิ้นหนานก้มหน้ามิกล้าลุกขึ้น ดันทุรังกล่าว “ท่าน พ่อ เรื่องนี้ไม่ได้สำเร็จลุล่วง จะเกิดปัญหาอันใดหรือ ไม่? ”

ราชครูจุนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “ดีที่เรื่องนี้มิได้ทำสำเร็จ มิเช่นนั้นเจ้าได้ถูกฮูหยินใหญ่ว่ากล่าวเป็นแน่ ถึงแม้นเว่ย หลิงชวนมิใช่คนของราชวงศ์ ทว่าเขากลับเป็นถึงคนของ องค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่ดูแลเขาราวกับบุตรชาย ตน ในเมืองหลวงผู้ใดที่กล้าผิดใจกับเขา และผู้ใดที่ไม่ ให้เกียรติเขาบ้าง องค์หญิงใหญ่นั้นชอบใช้อำนาจบาตร ใหญ่ แต่คนของนางกลับอ่อนโยนดั่งหยก ถึงแม้เว่ยหลิงชวนมีคุณธรรมเพียบพร้อมเพียงใด ไหนเลยจะถูกเจ้า ทำให้ด่างพร้อยได้ ซือซือเป็นบุตรสาวเจ้า ปฏิบัติกับผู้อื่น เช่นไรเจ้าย่อมรู้ดียิ่งกว่าฮูหยินแก่ นางจิตใจเหี้ยมโหด เช่นนี้ จะเหมาะสมกับเว่ยหลิงชวนได้อย่างไร? ”

“ท่านพ่อ?

จุนเจิ้นหนานนิ่งอึ้งไป เงยหน้าไปมองราชครูจุน ราชครู จุนก็ได้ลุกขึ้นยืน “มองไปที่ใบหน้าของแม่เจ้า และให้นาง เป็นคนจัดหาตระกูลอื่นที่จะแต่งด้วยเถิด นางอยู่ที่บ้าน อาจเกิดหายนะขึ้นได้ อย่าได้เป็นเช่นครอบครัวของพี่ ใหญ่เจ้า ตนเองขึ้นกำแพงไม่ได้ จึงได้ก่อปัญหาให้ผู้อื่น”

หลังจากราชครูจุนจากไป จุนเจิ้นหนานที่นั่งอยู่ก็มิได้มี ท่าทีตอบโต้อันใด จากนั้นได้ลุกขึ้นยืนและกลับไปหารือ กับฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนาน

ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานได้ฟังก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ล้วนเป็นแม่ที่คลอดและพ่อแม่เลี้ยงดู มีสิทธิ์อันใดจะยก นางให้ผู้ใดก็ได้ตามใจ ?

นางมิได้ปรารถนาที่จะให้นางเข้าวังไปเป็นสนม และก็ ไม่คิดว่านางจะหาขุนนางที่ร่ำรวยให้

นางเป็นอันใดไป?

ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานพลันนึกไปถึงลูกสาวที่ แสนดีของนางที่ต้องไปแต่งงานกับผู้ที่ไม่เหมาะสม ในใจ ของนางนั้นโกรธจนไม่อาจระงับ พลางนึกไปถึงแม่สามี ที่อยู่มีตำแหน่งในใจราชครูจุนแล้วนั้น ก็ได้ดึงสามีไปพบกับฮูหยินรอง

เดินไปถึงหน้าประตูก็ได้ยินเสียงร่ำไห้ของฮูหยินใหญ่ ของจุนเจิ้นหนาน

เดินร้องห่มร้องไห้เข้าไปพบฮูหยินรองและคุกเข่าสะอึก สะอื้นอยู่ที่พื้น

ฮูหยินรองบัดนี้ถือว่าเป็นผู้ที่มีอายุแล้ว แต่เนื่องจากได้ รับการบำรุงที่ดี ทั้งยังไม่มีอะไรให้ต้องคิดมาก ฉะนั้นดวง หน้านั้นยังคงเปี่ยมไปด้วยความมีเกียรติยศไม่เปลี่ยน

เพียงแค่เห็นบุตรชายลูกสะใภ้ที่ลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น ใจ ของนางก็แย่มากพอแล้ว

นางมองทั้งสองคนที่อยู่บนพื้น ฟังเรื่องราวอยู่ครึ่งค่อน วันก็พลันกระจ่าง นางจึงกล่าว “พวกเจ้าไม่ต้องร้องห่ม ร้องไห้แล้ว นี่คือคำสั่ง คำสั่ง โต้เถียงกันแล้วอย่างไร แต่งกับผู้ใดก็ถือว่าแต่งมิใช่หรือ?”

“ท่านแม่ ท่ากล่าวเช่นนี้ได้เยี่ยงไร ? นั่นคือหลานสาว แท้ๆของท่าน นางนับถือท่านยิ่งนัก ท่านจักมิสนใจนางได้ หรือ? ท่านช่วยพูดกับท่านพ่อที่เขาจักต้องฟังท่านเป็น แน่ “ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานมิอาจปล่อยวางได้ จึง ได้ยุยงอย่างสุดกำลัง

ฮูหยินรองกล่าว “ท่านพ่อของพวกเจ้าจะฟังข้าได้ อย่างไร เป็นข้าที่ฟังเขาถึงจะถูก”

“ท่านแม่ ท่านหมายความว่าอย่างไร ? “ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง

ฮูหยินรองมองไปที่ลูกสะใภ้รอบหนึ่ง “ข้าแก่มากแล้ว มองไม่ชัดทั้งยังหูไม่ดีอีกด้วย แต่ว่าท่านพ่อของพวก เจ้ามีเหตุผลของเขาอยู่ ทุกคนล้วนมีชะตาชีวิต อย่าได้ ไปริษยาที่เซียวเซียวได้เป็นหวงกุ้ยเฟย เซียวเซียวที่อยู่ ในวังแม้แต่บ้านก็ยังกลับไม่ได้ ความรุ่งโรจน์นั้นเป็นเช่น ไร หากเจ้าผ่านมาได้ด้วยจิตใจที่เมตตากรุณา นั่นก็เป็น วาสนาเจ้า ! เพียงเท่านี้ก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว เหตุใดพวกเจ้า จึงได้ยึดติดเช่นนี้เล่า?”

“ท่านแม่ข้า…”

ฮูหยินใหญ่ของจุนเจิ้นหนานยังคิดจะกล่าวออกมาอีก ประตูด้านหลังก็ได้ถูกคนเปิดออก ผู้ติดตามได้หลีกทาง ให้ พบกับราชครูจุนที่อยู่หน้าประตู ฮูหยินใหญ่ของจุน เจิ้นหนานกลัวจนนั่งสั่นอยู่ที่พื้น ตกตะลึงตาค้างกล่าว อะไรไม่ออก!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ