ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 458 การหมั้นหมายให้ลูกชายลูกสาว



บทที่ 458 การหมั้นหมายให้ลูกชายลูกสาว

องค์หญิงใหญ่ตกตะลึงไปแล้ว ทอดพระเนตรมองแม่ทัพ อัน ที่เดินออกไปอย่างงุนงง หยุนโล่ชายเอ่ยเกลี้ย กล่อมเป็นพัลวันว่า “องค์หญิงใหญ่ ทรงอย่ากริ้วไปเลย นะเพคะ”

“ข้าไม่โกรธหรอก พวกเขาคิดว่าแค่จากไป ก็ถือว่าจบ เรื่องแล้ว เรื่องตบแต่งครั้งนี้ ข้าได้ตัดสินใจลงไปแล้ว ข้าจะขอดูเสียหน่อย ว่าใครจะสามารถปัดมันออกไปให้ พ้นตัวได้”

หยุนโล่ชายสีหน้าเศร้าโศกกลัดกลุ้ม หันมองไปยังอัน หลิงหยุน

อันหลิงหยุนถอนหายใจ: “นับว่าข้าพอจะมองออกแล้ว ว่า ถึงอย่างไรเสียท่านป้ามีลูกสะใภ้แล้ว เห็นข้าจึงได้ขัด นัยน์ตาไปเสียแล้ว

ท่านป้า ไม่ใช่ว่าข้าพูดเอง ท่านดูรูปลักษณ์ของใต้ เท้าโจ่จงเจิ้น นั่นเป็นความหล่อเหลาสง่างามจนสุดจะ พรรณนาได้ ยิ่งพินิจรูปโฉมของฮูหยินโจ่จงเจิ้นแล้ว นั่น ก็นับว่าหายากในโลกเช่นกัน โจ่จงเจิ้นเป็นบุคคลงามสง่า หายากในเมืองหลวง ฮูหยินโจ่จงเจิ้น มีพื้นฐานครอบครัว ที่ลึกซึ้ง ทั้งยังเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมยอดเยี่ยม

เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านป้าจึงต้องทำเรื่องให้มัน ยุ่งยากถึงเพียงนี้

เรื่องการรักษาเมื่อหลายวันก่อน หม่อมฉันจะไม่พูดถึงแล้ว แต่จะขอยกมาเพียงเรื่องการแต่งงานเท่านั้น

เด็ก ๆ ทุกคนล้วนเป็นเด็กดี แต่ก็ไม่แน่เสมอไป ว่าจะมี นิสัยอย่างนั้นตลอด

ก่อนที่ข้าจะแต่งให้กับท่านอ๋อง ต่อให้รักใคร่ชอบพอ อย่างไร ท่านอ๋องก็แทบจะฆ่าข้าตายอยู่แล้ว กว่าข้า จะมีวันนี้ได้ ข้าต้องฝ่าอันตรายมา จนเกือบเอาชีวิตไม่ รอดนับครั้งไม่ถ้วน แต่มาตอนนี้ ท่านป้ายังอยากจะให้ ลูกสาวของคู่สามีภรรยาโจ่จงเจิ้น ต้องมาเดินตามเส้น ทางเดียวกันกับข้าแล้ว

ตัวข้านั้นจะอย่างไรก็ได้ ท่านป้าลองคิดดูเถิดเพคะ ”

อันหลิงหยุนลุกขึ้นยืน พาอาหยู่จากไป

เมื่อพวกเขาจากไป หยุนโล่ชายจึงกังวลแล้ว: “องค์ หญิงใหญ่เพคะ เรื่องนี้อย่าเพิ่งรีบร้อนไป หม่อมฉันยังไม่ ได้คลอดเลยนะเพคะ”

“ทำไมจะไม่ต้องรีบร้อนกัน มีคนรีบร้อนมากมาย มหาศาลเลยเชียวล่ะ โอกาสดีขนาดนี้จะปล่อยให้พวก เขาหลุดมือไปอย่างนั้นหรือ?” องค์หญิงใหญ่ทรงกำลัง คิดหาหนทาง ว่าควรจะทำอย่างไร ต้องหาให้ได้สักทาง ถึงจะดี

หยุนโล่ชายอับจนคำพูด ทำได้เพียงไปหาเว่ยหลิงชวน

วันนี้เว่ยหลิงชวนก็ยุ่งทั้งวันเช่นกัน ยังไม่ทันได้เข้าไป ผลสุดท้ายก็เกิดเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นเสียได้
เมื่ออันหลังหยุนกลับถึงจวนแม่ทัพ ชวนกับหยุนโล่ชายมาที่นี่

ก็ได้ยินว่า เว่ยหลิง

แม่ทัพอันคุ้มครองเด็กๆ ประหนึ่งแม่ไก่ที่เฝ้าคุ้มครอง ลูกเจี๊ยบอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าใครก็ไม่ให้เข้าพบ

ทันทีที่ได้ยินว่าคู่สามีภรรยาเว่ยหลิงชวนมา ก็ตะโกน ด่าผรุสวาทอย่างรุนแรงว่า: “ให้พวกเขาไสหัวไป!”

กงชิงวี่ละเอียดดื่มชา ไม่สนใจเรื่องนี้ อันหลิงหยุ นพอจะมองออกแล้วว่า เพราะเรื่ององค์หญิงใหญ่จะ ให้ลูกชายแต่งเข้า พ่อตาลูกเขยคู่นี้จึงได้คั่งแค้นศัตรู เดียวกัน เตรียมที่จะลงเรือลำเดียวกัน อาละวาดด้วยกัน เต็มที่

อันหลิงหยุนจึงต้องไปพบ เว่ยหลิงชวนกับหยุนโล่ชายเอง

“เชิญนั่งเถอะ”

อันหลิงหยุนนั่งลง สั่งให้คนยกชามารับแขก

หยุนโล่ชายเอ่ยปากขึ้นก่อน: “ข้ากับหลิงชวนมาเพื่อ ขอโทษเจ้าค่ะ วันนี้ข้อเรียกร้องขององค์หญิงใหญ่ทำให้ แม่ทัพอัน รวมถึงอ๋องเสียนไม่พอใจ พวกเราจึงมาที่จวน แม่ทัพ เพื่อขอโทษโดยเฉพาะ ขอร้องแม่ทัพอันรวมถึง อ๋องเสียน โปรดอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะเจ้าคะ ”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องจริงจังกับเรื่องนี้ พวกเขาโกรธเพียง ชั่วครู่ ไม่นานก็หายแล้ว ต้องให้พวกเจ้ามาขอโทษกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ข้าเองก็รู้สึกผิดกับพวกเจ้าอยู่เช่นกัน”

“นั่นจะได้อย่างไรกัน เรื่องแต่งเข้า มันก็ไม่เหมาะสม จริงๆนั่นล่ะ แต่เรื่องนี้ข้ากับหลิงชวนก็มีวิธีการอยู่

หยุนโล่ชายมองไปที่เว่ยหลิงชวน ที่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ พูดอะไร นางเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าพวกเราจะวอนขอ ความเมตตาให้ลูกของเราได้ไหม หากว่าทางข้าคลอด ลูกสาว ในอนาคตข้าจะขอผูกสัมพันธ์ เกี่ยวดองกันกับ ลูกชายของท่านจะได้หรือไม่?”

อันหลิงหยุนประหลาดใจ: “ทำไมล่ะ?”

“เรื่องเป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ ผู้หญิงในประเทศต้าเหลียง ต้อง ปฏิบัติตามคำสั่งของพ่อแม่ ในการแต่งงานออกไปเป็น ภรรยาใครสักคน แต่ก็มีอีกสถานการณ์หนึ่ง นั่นคือ ฮ่องเต้ทรงมีพระราชโองการพระราชทานสมรส

ข้ากับหลิงชวนรู้ว่า เรามีองค์หญิงใหญ่อยู่ ฝ่าบาทย่อม จะไม่ทำให้เราลำบากใจ แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดไม่มีองค์หญิง ใหญ่ ย่อมพูดได้ไม่ชัดแล้วว่าจะเป็นอย่างไร ”

อันหลิงหยุนมองดูหยุนโล่ชาย จู่ๆก็รู้สึกว่าหยุนโล่ชาย เป็นคนฉลาดหลักแหลมคนหนึ่งเช่นกัน

เมื่อทำการหมั้นหมายแล้ว ย่อมจะไม่มีการ พระราชทานสมรสอีก และฮ่องเต้ย่อมไม่อาจใช้อำนาจ ยกเลิกสัญญาการหมั้นได้ เว้นแต่ว่าทั้งสองฝ่าย จะ ยกเลิกสัญญาการหมั้นหมายกันเอง
อันหลังหยุนหันมองเว่ยหลิงชวน: “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวก เจ้าสามีภรรยาปรึกษากัน หรือว่า……..

“ขอพูดตามความจริงไม่ปิดบัง เป็นข้าเองที่คิดไว้ นับ ตั้งแต่ชายเอ๋อมีชีพจรมงคล ข้าก็คิดถึงเรื่องนี้มาโดย ตลอด แม้ว่าข้าเว่ยหลิงชวน จะไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ แต่ ข้าก็ไม่ใช่คนประเภทหวังปีนป่ายเกาะกิ่งสูง เหตุผลที่ข้า อยากผูกสัมพันธ์ดองเป็นญาติกับอ๋องเสียน ก็เพราะข้า คิดว่าตัวอ๋องเสียนรวมถึงพระชายานั้นมีอุปนิสัยไม่เลว บางทีลูกๆก็อาจจะไม่เลวเช่นกัน

หากว่าลูกๆโตขึ้นแล้ว เกิดไม่ชอบการแต่งงานนี้ พวก เราก็ยังสามารถตกลงกันเรื่องยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย แต่หากว่าพวกเขารักใคร่ชอบพอกัน พวกเราก็สามารถ เร่งรัดการแต่งงานครั้งนี้ให้เกิดขึ้นได้

ข้ามีเพียงสิ่งเดียวที่จะชี้แจงให้ชัดเจน ถ้าเด็กสองคนโต ขึ้น พวกเขาชอบพอกันจนถึงขั้นอยู่กินร่วมกันได้ในที่สุด หวังเพียงว่าลูกชายท่านจะไม่มีเมียน้อย ต่อให้เป็นเมีย ทาสก็ไม่ได้ ”

อันหลิงหยุนกลับเห็นด้วยในเรื่องนี้ แต่ทางพ่อบ้านอัน ยังอยู่ เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ดูจะเกินไปสักหน่อย ไม่กล้าเข้า ประตูไป เพียงยืนฟังอยู่ที่ประตูจนจบ จึงหันกายตรงดิ่ง ไปที่เรือนหลัง เพื่อไปหาแม่ทัพอันอย่างรีบร้อน

จากมุมมองของพ่อบ้านอัน นี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งกัน หรอกหรือ?

ทันทีที่แม่ทัพอันได้ยิน ไฟโทสะก็ลุกโชนโหมกระหน่ำสืบเท้าจะไปที่เรือนด้านหน้าเพื่อหาคน แต่ทันทีที่ออก จากประตูไป แม่ทัพอันก็กลับมาเสียแล้ว

“เจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไร?” แม่ทัพอันถามกงชิงวี่ รู้สึกว่า เรื่องนี้ดูน่าเชื่อถือ

กงชิงวี่วางถ้วยชาลง: “ผู้ชายคนหนึ่ง แต่งภรรยาเพียง หนึ่งก็เพียงพอแล้ว ตัดปัญหาเรื่องปากหวานก้นเปรี้ยว ไม่ต้องคอยไปตามแก้สงครามเรือนหลัง ไม่จำเป็นต้องเต รียมห้องหับให้มากมาย ลูกเขยรู้สึกว่าเป็นความคิดที่ดี มาก!

รอให้ผ่านไปสักระยะ เมื่อลูกๆทุกคนมีงานเลี้ยงครบ หนึ่งร้อยวัน ข้าจะประกาศออกไปว่าลูก ๆของข้า กงชิง วี่ผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ในอนาคตจะวางแผน ชีวิตครอบครัวแบบ คู่สมรสหนึ่งสามี หนึ่งภรรยาเท่านั้น ลูกชายไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่งงานเพียงหนึ่งภรรยาก็ พอ ส่วนลูกสาว ถ้าตระกูลว่าที่สามีปฏิเสธที่จะมีภรรยา คนเดียว เช่นนั้นก็อย่าได้แต่งเลย ”

หลังพูดจบ กงชิงวี่แสดงอารมณ์เศร้าสลดวูบหนึ่ง แม่ทัพอันประหลาดใจ: “พูดจบเจ้าก็เสียใจภายหลังแล้ว หรือ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าแค่คิดว่า ท้องนี้ของหยุนหยุน ได้ ทำลายซี่ดั้งเดิมให้พร่องไปไม่น้อย หากว่าต้องคลอดอีก ข้ารู้สึกตัดใจทำไม่ลง ข้าแอบคิดว่าหากในห้าคนนี้ มี ลูกสาวสักคนหนึ่ง มันจะดีสักแค่ไหน ข้าก็ไม่ต้องอิจฉาที่ ท่านพ่อตามีลูกสาวแล้ว ”
แม่ทัพอันก็ไม่สบอารมณ์นัก : “เจ้าก็รู้จักพอเสียเถอะ คลอดทีเดียวตั้งห้าคน เรื่องลูกสาวไว้วันหลังค่อยคุยกัน มันคงต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว”

แม่ทัพอันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ลูกสาวของเขาคลอด ครั้งเดียว ต้องสลบไสลไม่ได้สติอยู่เป็นนาน แม่ทัพอัน กลัวมากจริงๆ เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป จึงถือ โอกาสไปหาเด็กๆตามที่ตั้งใจไว้เสียเลย

กงชิงวี่ลุกขึ้น: “ท่านพ่อตา ลูกเขยขอไปดูสักหน่อยนะ ขอรับ”

“ไปเถอะ”

กงชิงวี่มาถึงห้องโถงด้านหน้า ยืนอยู่ที่ประตูครู่หนึ่ง อันหลิงหยุนกำลังคิดที่จะให้อาหยู่ไปตามเขา เขาก็มา พอดี

เมื่อเข้ามา กงชิงวี่ก็นั่งลงมองไปที่เว่ยหลิงชวน ได้ฟัง เว่ยหลิงชวนเล่าเรื่องของเด็กๆอีกครั้ง กงชิงวี่ก็ไม่ได้ถาม อันหลิงหยุน เพียงรับปากไปโดยตรงไม่อ้อมค้อม

“อย่างไรเสีย พวกเจ้าก็อุตส่าห์มาขอร้องทั้งที ทั้งไม่ใช่ ข้อเรียกร้องที่หนักหนาสาหัสอะไร เรื่องสัญญาหมั้น หมายตบแต่งนั้น ข้ารับปากแล้ว

สำหรับสิ่งที่เจ้าพูด หากในวันหน้า ทั้งสองคนได้กลาย เป็นสามีภรรยากันจริงๆ เรื่องที่จะไม่รับเมียน้อย รวมถึง ไม่รับเมียทาสนั้น ข้าก็รับปากแล้วเช่นกัน ”
“เป็นความจริงหรือ?” เว่ยหลิงชวนค่อนข้างเป็นจริงเป็น จังกับเรื่องนี้ ถึงอย่างไรก็เป็นการแต่งงานอันสำคัญยิ่ง ของลูกสาวของเขา เขาไม่กล้าไม่จริงจังกับมัน

กลับเป็นอันหลิงหยุน ที่แปลกใจจนต้องหันมองกงชิงวิ่ ครุ่นคิดสงสัยว่า กงชิงวี่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“ข้าพูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยผิดคำพูด”

การได้รับคำรับประกัน ก็เสมือนกับการได้รับของล้ำค่า แม้ว่าเว่ยหลิงชวนจะกลัวกงชิงอยู่บ้าง แต่เขาก็ลุกขึ้น เดินไปเบื้องหน้ากงชิงวิ่

“อ๋องเสียน ท่านสามารถเขียนหลักฐานเป็นลายลักษณ์ อักษรได้หรือไม่?”

” อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก หลักฐานเป็น ลายลักษณ์อักษร?

หลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเรื่องการหมั้นหมายระ หว่างเด็กๆ?

กงชิงวี่ลุกขึ้นยืนและชูฝ่ามือของเขา: “มาตบมือสาบาน ให้คำมั่นกัน”

“ได้!” เว่ยหลิงชวนกลัวว่ากงชิงวี่จะกลับคำ ไม่รอให้มือ กงชิงวี่ขยับ เขาก็รีบตบมือของตัวเองลงไปก่อนแล้ว จาก นั้นก็ได้ยินเว่ยหลิงชวนพูดตามมาติดๆว่า: “วันนี้ข้าและ เจ้าให้คำมั่น เรื่องการหมั้นหมายลูกชายกับลูกสาว หาก ข้ามีลูกสาวให้แต่งเป็นสะใภ้ลูกชายบ้านเจ้า หากเกิดเป็นลูกชาย ให้เป็นพี่เป็นน้องกับลูกชายบ้านเจ้า

แต่หากข้ามีลูกสาว ได้แต่งงานสานสัมพันธ์ฉันท์สามี ภรรยากับลูกชายเจ้า ในวันข้างหน้าลูกชายของเจ้าไม่ อาจมีเมียน้อย ยิ่งไม่อาจมีเมียทาส หากแม้นผิดคำคำ สาบานนี้ ขอให้มีจุดจบไม่ได้ตายดี ”

กงชิงวี่รู้สึกถึงเพียงฝ่ามือที่ตบลงไปครั้งหนึ่งเท่านั้น

เขาเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า: “หากแม้นผิดคำสาบานนี้ ขอ ให้ไม่ได้ตายดี”

เว่ยหลิงชวนคลายมือออก ถอดหยกประดับชิ้นหนึ่ง บนร่างของเขาออกมา: “สิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์แทนใจ มอบ เป็นของหมั้นหมายจากข้าและชายเอ๋อ เจ้าเก็บมันไว้ เถอะ”

กงชิงวี่มองอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงหยิบหยกประดับรูปมังกรจำนวนห้าชิ้นที่ฮ่องเต้ทรง พระราชทานให้ออกมา!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ