ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่19คนที่น่าสงสาร



บทที่19คนที่น่าสงสาร

อันหลิงหยุนออกมาจากวังเพิ่งหยี มองเห็นแม่ทัพอัน สองพ่อลูกจึงขอตัวกลับ

เมื่อกลับถึงจวนแม่ทัพอัน อันหลิงหยุนก็ค่อยๆเอาขนม ที่แอบไว้ออกมา ทดลองสักครู่

ทดลองไปพลางเอาชิ้นขนมเหวี่ยงให้แมวในห้องกิน หนึ่งชิ้น

เดิมที่แล้วตอนนี้แมวตัวนั้นถึงช่วงฤดูติดสัด หลาย วันที่ผ่านมาอันหลิงหยุนก็เฝ้ามองดูแมวนี้วิ่งออกไป ข้างนอกหายไปทั้งวัน กลับมาก็ดูสบายมากขึ้น นอน เลียขนอยู่ในมุมห้อง หากไม่ให้มันออกไป มันก็จะรู้สึก กระวนกระวาย ราวกับว่าแมวข้างนอกจะเข้ามาข้างใน ได้เหมือนกันหมด

เมื่อแมวกินขนมอันหลิงหยุนก็เปิดประตู แมวตัวนั้นก็ ไม่อยากออกไป นอนอยู่บนพื้นไม่ฤดูติดสัดอีก

อันหลิงหยุนหัวเราะแห้งๆ

ยาของฮองเฮาเป็นไปได้ที่จะเป็นแค่ยาหยุดความใคร่

เมื่อกลั่นออกมา กลับเห็นยาคุมบางส่วน ยิ่งไปกว่านั้น ยาคุมนี้มียาพิษชนิดหนึ่งเป็นส่วนประกอบ ในระยะเวลา อันสั้นอาจจะไม่แสดงอาการอะไร แต่หากใช้เป็นระยะ เวลานาน ก็จะทำให้มีการขับถ่ายอสุจิและไข่ออกมา จนกระทั่งสิ้นพระชนม์

นางเดาด้วยความอาจหาญว่า ที่ฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่มีลูก อาจจะเป็นเพราะฮองเฮาทำให้เป็นแบบนี้

ทําไมฮองเฮาถึงต้องทำแบบนี้?

อันหลิงหยุนไม่ค่อยเข้าใจ พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน หากมีลูกแล้วล่ะก็ ก็จะเป็นการปกป้องตำแหน่งของนาง ถึงจะถูก

ที่ทำแบบนี้มีเหตุผลอะไรกันแน่?

อยากครอบครองความรักของฮ่องเต้ชิงหยู่?

ไม่คิดลังเลในเรื่องนี้อีกต่อไป เพียงแค่ต้องลำบาก นางเอายาถอนผิดให้ฮ่องเต้ ทางฮองเฮานั้นใส่ยาพิษ ต่อไปเรื่อยๆ ความรู้สึกที่ฮ่องเต้ชิงหยู่มีต่อฮองเฮาก็ไม่ เหมือนเสแสร้ง นางก็ไม่อาจจะไปตักเตือนได้

เรื่องแบบนี้ถ้าได้เข้าไปแล้ว อาจจะต้องตัดหัวสมอง

ทิ้ง

นางต้องการคิดวิธีทำยาแก้พิษชนิดหนึ่งที่ผสานเข้า กับยาพิษ ถึงจะทำให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ดีขึ้น

ไม่อย่างนั้นนานวันเข้า จะกลับกลายเป็นเรื่องรบกวนนางได้
พักผ่อนมาหนึ่งวัน อันหลิงหยุนก็เตรียมทำยาชนิด ใหม่ เตรียมเข้าไปในวังอีกรอบ

ยังไม่ต้องรอเข้าวัง ก็ถูกอาหยู่ที่มาหานางโดยเฉพาะ ดักไว้ก่อน

“เจ้ามาทําไมอีก? ท่านอ๋องของเจ้าก็คงหายดีแล้วนี่?” อันหลิงหยุนตอนนั้นก็รำคาญเป็นอย่างมาก กี่วันมานี้ เดิมทีนางไปเที่ยวเล่นได้สบายๆ หายาสมุนไพรดีๆ กลับ ต้องไปรบกวนกงชิงวี่ครั้งแล้วครั้งเล่า

“บาดแผลของท่านอ๋องเจ็บหนักขึ้น ยังต้องเชิญพระ ชายากลับไปกับข้า” สีหน้าของอาหยู่เต็มไปด้วยความ ร้อนรน

อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกมาก “แผลของท่านอ๋องดีขึ้น มากแล้วถึงจะถูก หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”

“หนักขึ้น เจ็บหนักมากกว่าเก่า ” สีหน้าของอาหยู่เต็ม ไปด้วยความร้อนรน

อันหลิงหยุนร้อนรนภายในใจ แล้วก็ถูกความรู้สึกแบบ นั้นเข้ามาพัวพันอีกแล้ว เข้าวังไปอย่างยุ่งๆ อันหลิงหยุน หันตัวไปหยิบกล่องยา ออกไปกับอาอยู่รีบออกจากจวน แม่ทัพอย่างรวดเร็ว ไปทางจวนอ๋องเสียน

ในระหว่างทางอาหยู่พูดว่าครั้งนี้ไม่ใช่ถูกลอบทำร้าย แต่คืออยู่ดีๆอาการก็หนักขึ้น
“อาการเป็นอย่างไร?” เพื่อประหยัดเวลา ในระหว่าง การเดินทางอันหลิงหยุนก็ถามขึ้น

“ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ปากแผลเปิดทั้งหมด” อาหยู่ ตอบไปตามความจริง

อันหลิงหยุนยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก “ไม่น่าเป็นไปได้ เมื่อลงจากรถม้า อันหลิงหยุนวิ่งตรงไปที่ลานโอว

หลาน

เมื่อเข้าไปถึงก็ได้กลิ่นหอมแปลกๆ หยุดนิ่งสักครู่อัน หลิงหยุนก็เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไรแล้ว รีบสั่งทันทีว่า “ย้ายท่านอ๋องไปที่อื่นเดี๋ยวนี้ ที่นี่อยู่ไม่ได้แล้ว”

พ่อบ้านไม่ได้ถามอะไรต่อ ทำตามคำสั่งของอันหลิง หยุนทันที คนอื่นๆ ก็เตรียมตัวทันที ไม่นานกงชิงวี่ก็ถูก ย้ายมายังห้องที่อันหลิงหยุนเคยอยู่

ในตอนนี้กงชิงวี่ค่อยๆ ลืมตามองไปที่อันหลิงหยุน

ดวงตาทั้งสี่ดวงสบกัน ไม่มีใครพูดอะไร อันหลิงหยุน นั่งลงทันที ไม่สนใครอยู่ด้วย กรีดมีดลงบนข้อมือตัวเอง ทันที อีกมือหนึ่งก็บีบเปิดปากกงชิงวี่ เลือดที่ไหลออก จากข้อมือหยดลงเข้าไปในปากของกงชิงวี่ ปล่อยให้ เลือดไหลเข้าปากกงชิงวี่โดยเร็ว

คนที่อยู่รอบข้างเต็มไปด้วยมึนงง คิดไม่ถึงว่าอันหลิง หยุนจะเอาเลือดตัวเองให้กับกงชิงวี่กิน
ตอนนั้นเองอันหลิงหยุนก็รู้ว่า หากไม่อธิบาย คงไม่ได้

“ข้าลองยาพิษตั้งแต่เด็ก กินพวกยาพิษมามากมาย พิษหลายชนิดไม่มีต่อร่างกายและเลือด อาการของ ท่านอ๋องของพวกเจ้าคือได้รับพิษ แบบนี้จะดีขึ้นเร็วกว่า

ผู้คนทั้งเชื่อและทั้งสงสัย แต่เมื่อเป็นเรื่องของเจ้านาย ก็ไม่กล้าถาม

ในตอนนั้นสายตาก็สบเข้ากับสายตาเยือกเย็นของกง ชิงวี่ อันหลิงหยุนอยู่ก็หัวใจเต้นแรง ผู้ชายคนนี้น่ากลัว ยิ่งนัก ในเวลาแบบนี้เขากลับใช้สายตาที่ดูถูกเหยียด หยามมองนาง

เมื่อดื่มไปเยอะแล้ว อันหลิงหยุนก็เอามือออก พันเสร็จ ก็หยิบผ้าที่เตรียมไว้อย่างดีแล้ว ทายาแก้อักเสบแก้ปวด ไปบนข้อมือ

พันเสร็จแล้ว อันหลิงหยุนลุกขึ้นยืน สีหน้าจริงจัง “พวกเจ้าใครมีถุงหอมบ้าง?”

ในห้องของกงชิงวี่เต็มไปด้วยกลิ่นยาพิษ ยิ่งไปกว่า นั้นเป็นยาพิษที่มีพิษร้ายแรง แต่พิษชนิดนี้มีความพิเศษ เป็นอย่างมาก หากคนธรรมดาโดนเข้าไปก็ไม่ได้มีผล ต่อร่างกาย แต่ถ้าหากเป็นผู้ที่ร่างกายมีแผลอยู่ กลับมี ผลอย่างร้ายแรง

พิษชนิดนี้ระเหยลอยอยู่ในอากาศช้าๆ หากโดนเข้าที่บาดแผลก็จะค่อยๆ ซึมลึกลงไปผิวหนัง เข้าไปใน ร่างกายด้วยความรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นก็จะเข้าไปใน เลือดทําลายระบบไหลเวียนของเลือด ไม่นานก็จะ แทรกเข้าไปทั้งร่างกายคน

อันหลิงหยุนเริ่มเรียนการแพทย์ตั้งแต่เด็ก ยิ่งไปกว่า นั้นนางสนใจพวกพิษเป็นอย่างมาก ดังนั้นนางสัมผัสรับ รู้ได้ไวกับพิษ ไม่น้อยกว่าไปการสัมผัสรับรู้ของชีวิต

พิษชนิดนี้ถึงแม้จะไม่ได้พบเจอกันง่ายนัก แต่อันหลิง หยุนยังคงจำได้ดี เพียงแค่ตกใจเป็นอย่างมาก พิษชนิด นี้ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดจะกลั่นออกมาก็ยังยากลำบาก แต่ที่นี่กลับมี

ยิ่งไปกว่านั้นพิษชนิดนี้หัวใจสำคัญก็คือต้องใส่ไว้ใน ถุงหอมให้ค่อยระเหยออกมาจากข้างใน ถึงจะใช้ได้ได้ ผล หากโดนน้ำก็จะหมดฤทธิ์

ดังนั้นอันหลิงหยุนถึงแน่ใจ ว่าต้องมีคนเอาถุงหอมที่มี พิษเข้ามาในห้องของกงชิงวี่

“ถามพวกเจ้าน่ะ?”

“ไม่มีเพคะ พวกข้าไม่มี” คนรับใช้ต่างพากันรีบตอบ

“ข้าก็ไม่มี”

มีคนเดินถอยหลังออกไป ก็พูดว่าไม่มี
นั้นก็มีคนพูดขึ้นว่า “ตอนพระชายาตวนมานั้นพกถุง หอมมาด้วย แปลกมากๆ ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ ตอนที่นาง เดินไปมา กลิ่นก็ฟุ้งกระจายไปรอบๆ หอมมากๆ”

พ่อบ้านตกใจขึ้นมาทันที เงยหน้ามองอันหลิงหยุน ใน ตอนนั้นอันหลิงหยุนก็เงียบไปอย่างผิดปกติ

หันกลับไปมองคนที่สายตาสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร

อย่างกงชิงวี่ ดูแล้วเขารู้

“พ่อบ้านไม่มีอะไรแล้วล่ะ ให้ทุกคนกลับไปได้แล้ว เจ้า เตรียมน้ำอุ่นมาให้ข้า ข้าจะทำความสะอาดแผลให้ท่าน อ๋อง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

พ่อบ้านหมุนตัวเดินออกไป อันหลิงหยุนหยิบเม็ดยา ยัดเข้าไปในปากของกงชิงวี่ “แก้พิษน่ะ เจ้ากินไปก่อน”

กงชิงวี่กลืนเม็ดยาลงไป และไม่ได้พูดอะไร

อันหลิงหยุนยื่นมือเข้าไปปลดเสื้อของกงชิงออก

กลับกันก็เริ่มเห็นใจกงชิงวี่ขึ้นมาบ้าง ถูกคนรักทำร้าย แบบนี้ นับได้ว่าถูกความรักจองจำ เมื่อพบเจอกับคน เลวๆ แบบนั้น

อันหลิงหยุนจับผ้าเช็ดทำความสะอาดไปหนึ่งรอบ ด้วยความรวดเร็ว กงชิงวี่ค่อยๆ ดีขึ้น อยู่ดีๆ ก็อารมณ์เสียขึ้นมา “เอามือปลาหมึกของเจ้าออกไป อย่ามาแตะ ต้อง!”

อันหลิงหยุนมองสักครู่กดมือลงบนต้นข้า “ไม่ต้องอาย ใจหมอก็เหมือนพ่อแม่ เจ้าก็คิดซะว่าเป็นแม่ของเจ้า เถอะ”

กงชิงวี่โมโหกัดฟันกรอด “บังอาจ!”

“ใช่ ข้าบังอาจ บังอาจอย่างแรง หากข้าไม่บังอาจ เช่นนี้เจ้าคงสิ้นพระชนม์ไปนานแล้ว ยังจะมาพูดว่าข้า บังอาจอีก ข้าไม่ได้เก็บค่ารักษาเจ้าแม้แต่สตางค์แดง เดียว วิ่งวุ่นมาที่นี่ทั้งวัน เจ้ายังไม่ดีใจอีก” ข้าเองก็ไม่ได้ ดีใจสักนิด

“ข้าไม่อยากเจอเจ้า ออกไปเดี๋ยวนี้”

“ต้องขออภัยด้วย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อป้องกันไม่ ให้หมาแมวที่ไหนวิ่งมาคร่าชีวิตน้อยๆ ของเจ้าไป ข้าจะ ปล่อยให้สิ้นพระชนม์ได้กระไร ฮ่องเต้รับสั่งโทษลงมา โทษข้า ข้าก็ไม่มีคำอธิบายน่ะสิ”

อันหลิงหยุนขี้เกียจที่จะสนใจกงชิงวี่ ลุกขึ้นเดินไปที่ ประตู

เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบว่าพ่อบ้านและอาหยุ่กำลัง แอบฟังอยู่หน้าประตู อันหลิงหยุนก็ไม่ได้คิดอะไร มอง ไปที่ “อาหมู่ อาหยู่ ข้าเขียนจดหมายไว้ฉบับหนึ่ง เจ้า เอาไปส่งที่จวนข้า ต้องถึงมือของพ่อข้าหรือไม่ก็พ่อบ้านโดยตรงเท่านั้น ข้าต้องการของบางอย่าง เจ้าแค่เอา ฉบับนี้ให้พวกเขา รอสักครู่ก็จะจัดเตรียมของให้เจ้านำ มา เจ้าต้องมาด้วยความรวดเร็ว”

อาหยู่ไม่กล้าขัดขืน พยักหัวเบา “พระชายาวางใจได้ ข้าจักต้องทําให้ได้

อันหลิงหยุนเดินกลับเข้าไปเขียนจดหมาย เขียนเสร็จ แล้วก็ใส่ซองปิดผนึกยื่นให้อาหยู่ อาหยู่รับมาแล้วรีบ ออกไปยังจวนแม่ทัพด้วยความรวดเร็ว ไม่นานก็นำของ กลับมา อันหลิงหยุนวางไว้แล้วเริ่มหั่นเป็นชิ้นเล็กใส่ที่ บด ทั้งหมดนั้นคือยาสมุนไพรทั้งหมด

อันหลิงหยุนบดเป็นผงแล้วทาไปทั่วร่างของกงชิงวิ่

ระหว่างนั้นพ่อบ้านก็ถามขึ้น “พระชายา ต้องการให้ ข้าช่วยอะไรหรือไม่?”

“ไม่ต้อง เรื่องแบบนี้เกรงว่าพวกเจ้าจะทำไม่เป็น หากว่าข้าเหนื่อยพักสักครู่ก็ดีขึ้นแล้ว ใช่แล้ว ไปจัด เตรียมที่ประทับให้ข้า ข้าจะอยู่ดูอาการเข้าที่นี่ ข้าจะ คอยดู ว่าใครมันจะกล้าเข้ามา?”

อันหลิงหยุนไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะมีคนที่นางช่วยไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ