ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่44โดนกลั่นแกล้ง



บทที่44โดนกลั่นแกล้ง

เห็นนางหวาดกลัวแล้วฮ่องเต้ชิงหยู่จึงลดความโกรธ ลงบ้างหันกายเดินไปพลางเอ่ยขึ้น”ข้าถามเจ้าข่าวลือ จากภายนอกเกี่ยวกับตัวเจ้ากับเจ้าในตอนนี้แตกต่าง ราวกับเป็นคนละคนนี่เจ้าเล่นละครอยู่หรือ? ”

อันหลิงหยุนริมฝีปากสั่นเครือนางยังทำใจสงบไม่ได้ที่ เปิดฉากโมโหโกรธเกรี้ยวเมื่อครู่ก็เพียงเพื่อจะสืบถาม นางเพียงเพื่อจะทำให้นางรับมือไม่ทัน

เมื่อพิจารณาดูอีกทีอันหลิงหยุนก็ลังเลขึ้นมา

หากยอมรับเสียผลลัพธ์จะมีสองทางได้รับใช้ฮ่องเต้ ชิงหยู่หรือไม่ก็ถูกลากออกไปประหารเสีย

อันหลิงหยุนคิดในใจความคิดกษัตริย์เกิดจะคาด เดาฮ่องเต้ชิงหยู่คิดอะไรอยู่นางก็ไม่อาจรู้ยิ่งเขาเป็น กษัตริย์หากไม่มีเล่ห์กลเสียบ้างก็คงไม่ได้นั่งตำแหน่งนี้

“ข้าคงตามใจเจ้ามากเกินไปแล้ว”ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินไป ทางอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนทำได้เพียงคุกเข่าลง

“ฮ่องเต้หม่อมฉันมิกล้าเอ่ย”

เรื่องมาถึงตอนนี้ทำได้เพียงกัดฟันต่อไปเท่านั้น
ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปยังอันหลิงหยุนที่คุกเข่าอยู่บน พื้น”มีอะไรถึงไม่กล้าพูด? ข้ากลับอยากรู้นักแม่ทัพ ใหญ่ของข้ามีธิดาเป็นยังไงกันแน่?

อันหลิงหยุนระอาใจเหลือเกินจะทำอะไรก็อ้างชื่อท่าน พ่อแม่ทัพใหญ่ตลอดดำรัสของฮ่องเต้ไม่มีราคาอะไร ขนาดนั้นข้าขอยอมแพ้บุรุษสมัยก่อนนี้ทำไมแต่ละคน ช่างแย่ไปกว่ากันอีกน้องชายเป็นอย่างไร ชายก็เป็น อย่างนั้น!

“ทูลฝ่าบาทหม่อมฉันเพียงถูกท่านอ๋องเสียนขู่ให้ กลัว”เมื่อกงชิงวี่ใจดำนางก็ไม่ยึดถือความถูกต้องผลัก เรื่องไปให้กงชิงวี่หน่ะดีแล้ว

“อ๋องเสียนก็รู้เรื่องนี้? “น้ำเสียงของฮ่องเต้ชิงหยู่กลับ ไม่มีอารมณ์ใดอันหลิงหยุนก็ไม่เห็นสีหน้าของเขานาง ก้มหน้าลงใบหน้ามองไปยังพื้นกลับรู้สึกได้ว่าฮ่องเต้ชิง หมู่พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้

หรือว่าคนอยู่ในตำแหน่งนี้อาจไม่อยากให้กงชิงวี่เข้า มาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้เขาซึ่งนับเป็นพี่ชายไม่อยากให้ผู้ ที่เขาเชื่อใจมากที่สุดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยสรุปแล้วอัน หลิงหยุนสัมผัสได้ว่าฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกไม่พอใจ

“หม่อมฉันรักและเคารพอ๋องเสียนทว่าเขาเสกสมรส กับหม่อมฉันแต่กลับอยากให้หม่อมฉันตายไปเสียให้ได้ ในคืนพิธีเสกสมรสนั้นหม่อมฉันตระเตรียมใจกินยาจี้ซิ นหม่อมฉันคาดว่าจะได้รับความรักจากอ๋องเสียนแต่เขา กลับมองหม่อมฉันที่ชีวิตใกล้จะขาดสะบั้นเฉียดตายต่อหน้าเขา”

“พูดอย่างนี้แล้วเจ้ากับอ๋องเสียนยังมิได้เป็นสามี ภรรยาโดยพฤตินัยรึ? “ฮ่องเต้ชิงหยู่นึกขันอยู่ใน ใจความเคร่งขรึมบนตัวเขาหายไปบ้างแล้วจึงเอ่ยถาม อย่างนั้นอันหลิงหยุนทำได้เพียงยอมรับ

“ทูลฝ่าบาทหม่อมฉันก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้แต่ใน วันนั้นฝ่าบาทไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อ๋องเสียนจ้องมอง หม่อมฉันที่ดิ้นรนให้มีชีวิตเหนือความตายอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่มีเสี้ยวความสงสารเลยขณะที่หม่อมฉันกำลัง แทบจะสิ้นใจพลันตระหนักความจริงข้อหนึ่งการใช้ อำนาจบังคับไม่ได้นำมาซึ่งความสุขหม่อมฉันสาบานไว้ ว่าจะไม่ขอรักเขาอีกหากสามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้ จะประพฤติตนเป็นคนดีให้ได้

นับว่าสวรรค์เบื้องบนยังเมตตาหม่อมฉันยังมีชีวิตอยู่

อันหลิงหยุนเอ่ยรวดเดียวจบรู้สึกเลื่อมใสในตัวเอง นักนางสามารถเฟ้นหาข้ออ้างเช่นนี้ออกมาได้มันช่างไม่ ง่ายดายเสียเลยจริงๆ

ฮ่องเต้ชิงหยู่ชะลอฝีเท้าลงเดินไปพลางถามขึ้น“พูด อย่างนี้แล้วดูไปเจ้ากับอ๋องเสียนดูราวกับดีกันแต่แท้จริง ความเห็นไม่ตรงกัน? ”

อันหลิงหยุนเศร้าเสียใจเป็นอันมากไม่ว่าจะตอบว่าใช่ หรือไม่ใช่เข้าวังก็เพื่อให้ฮ่องเต้เลือกเป็นพระชายาบัดนี้ กลับเอ่ยถึงเขา
“ฝ่าบาทในเมื่อหม่อมฉันกับอ๋องเสียนดูไร้พรหมลิขิต เป็นคู่สมรสกันในใจหม่อมฉันคิดหวังจะจากกันด้วยดี เรื่องนี้ฝ่าบาทคงทราบดีเพียงแต่อ๋องเสียนที่ผ่านมาไม่ ยินยอมจะจากกันหม่อมฉันคิดว่าเขาคงอยากจะหย่า ร้างกับหม่อมฉันแทบแย่แล้วเพคะ

แต่หากจะพูดว่าเรารักกันแต่เห็นไม่ตรงกันก็ไม่นับว่า เป็นเช่นนั้นเพคะเพราะพวกเราไม่ได้สามัคคีกันแต่แรก อยู่แล้วสองสามีภรรยาไม่อยู่ร่วมกันอยู่แล้วไม่สามัคคี กันทั้งต่อหน้าและลับหลังเพคะ”

“มีการพัฒนาแต่ก็ยังไม่ฉลาดอยู่นั่นเองพระชายาเสีย นดูแล้วก็ไม่ใช่ชายาธรรมดาไม่คิดดีๆอีกทีหรือ? ”

อันหลิงหยุนไม่มีคำเอ่ยต่อ“ฮ่องเต้ทรงมีพระปรีชา ญาณเพคะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่อดหัวเราะไม่ได้”ข้าหรือมีปรีชาญาณข้า พูดอะไรหรือ?”

“อ๋องเสียนไม่ชอบพอหม่อมฉันเมื่อก่อนหม่อมฉันทำ เรื่องเหลวไหลไว้มากฝ่าบาทต้องเข้าใจความคิดของ อ๋องเสียนเป็นแน่หม่อมฉันต้องการหย่าพร้อมกันแต่อ๋อง เสียนกลับอยากหย่าฝ่ายเดียว”อันหลิงหยุนก้มหน้าตอบ

ฮ่องเต้ชิงหยูทอดถอนหายใจ“พระอนุชาของข้าข้า จะไม่เข้าใจได้อย่างไร? เมื่อก่อนเจ้าก่อเรื่องไว้มาก จริงๆแม้ตอนนี้เจ้าจะฉลาดเฉลียวมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่ สามารถลบล้างไปจากใจเขาได้หรอก!”
“หม่อมฉันเพียงต้องการหย่าพร้อมกัน! ยืนกราน

“อันหลิงหยุน

“งานสมรสเป็นเรื่องใหญ่มิใช่เรื่องล้อเล่นยิ่งไปกว่า นั้นเจ้าเป็นถึงพระชายาตระกูลหลวงเรื่องนี้นับว่าไม่ควร เอ่ยซ้ำแล้ว! “ฮ่องเต้ชิงหยู่สีหน้าจริงจัง

อันหลิงหยุนกำจัดความสงสัยของฮ่องเต้ชิงหยู่ออก ไปได้แล้วนับว่าสำเร็จตามเป้าหมายและคงไม่ผูกใจกับ เรื่องหย่าอีกแล้ว

นับว่านางมองออกหากต้องการหย่าพร้อมกันก็ต้อง ได้รับการยินยอมจากกงชิงวี่มิเช่นนั้นไม่ว่าใครก็คงไม่ ก้าวก่ายเรื่องนี้

อยู่ต่อหน้าฮ่องเต้เขายังกล้าปฏิเสธอย่างเด็ดขาดยัง จะมีเรื่องอะไรที่เขาทำไม่ได้อีก

เรื่องหย่าพร้อมกันอันหลิงหยุนก็ไม่อยากกลับไปคิด อีกแล้ว

กงชิงวี่ไม่ช้าไม่เร็วสักวันคงเอ่ยขึ้นมาเองหากกงชิง ไม่รีบนางเองก็ไม่รีบ

“ลุกขึ้นเถิดข้ายังมีเรื่องจะพูดกับเจ้า”

อันหลิงหยุนจึงลุกขึ้นรอคอยอย่างอดทนถึงเรื่องที่ กำลังจะเกิดต่อไปฮ่องเต้ชิงหยู่แม้จะผ่อนคลายลงบ้าง แต่ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะทำอะไรอีก
เรื่องคุณหนูสองตระกูลจุนจะเอ่ยถึงดีหรือไม่ก็นับเป็น ปัญหาอย่างหนึ่ง

ฮ่องเต้ชิงหยู่เอ่ยถาม บอกข้าด้วยความสัตย์จริงคุณ หนูสองตระกูลจุนจะเข้าวังเป็นความตั้งใจของใคร? ฮองเฮาหรือไทเฮา? ”

การเน้นย้ำไปที่ไทเฮาอันหลิงหยุนก็เข้าใจความหมาย ของฮ่องเต้ชิงหยู่แล้ว

กับเรื่องนี้จะใจดีไม่ได้แล้วแม้จะต้องไว้หน้าไทเฮาจะ อย่างไรต้นสายปลายเหตุของเรื่องก็ต้องหาให้พบ

“หม่อมฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันเพคะเป็นไห่กงกงเป็น คนพูดกับข้า”อันหลิงหยุนตอนนี้กลับสงบนิ่งเรื่องนี้เห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นความตั้งใจของไทเฮาจะถามนางให้ได้ อะไรกัน?

ความคิดของฮ่องเต้ชิงหยู่อันหลิงหยุนไม่เคยคาดเดา ได้แต่ไหนแต่ไรและไม่กล้าจะพูดมากความ

“ทั้งใจข้าต่างมอบให้ฮองเฮาองค์เดียวหลายปีมาแล้ว สามีภรรยารักใครกลมเกลียวแม้นเรื่องนั้นมักจะมารบก วนจิตใจข้าเสมอแต่จะอย่างไรนางก็เป็นพระชายาเอก ของข้า”ฮ่องเต้ชิงหยู่สายตาเหม่อมองไปไกลคำพูดสงบ

อันหลิงหยุนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองชั่วแวบหนึ่งด้วย ความระมัดระวังแล้วรีบก้มหน้าลงอีกครั้ง
ชายที่ในใจมีเพียงหญิงเดียวหาได้ยาก ยิ่งอยู่ในยุค โบราณเช่นนี้และในตระกูลกษัตริย์เช่นนี้ด้วย

แต่หากฮ่องเต้ชิงหยู่รู้เข้าว่าพิษของเขามาจากฮองเฮา ไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะมีความรู้สึกอย่างไร

“พระชายาเสียนหากเจ้าเป็นข้าเจ้าจะทํา อย่างไร? “ฮ่องเต้ชิงหยู่ที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเมื่อครู่ กลับมาเป็นคนเดิมแล้วอันหลิงหยุนเริ่มรู้สึกกังวล

พระยาเสือกลับเข้าร่างแล้ว!

“หม่อมฉันมิกล้าเทียบเคียงฝ่าบาทแต่หากเรื่องนี้ตก

เป็นเรื่องของหม่อมฉันหม่อมฉันเลือกที่จะตายดีกว่าทำ ตาม” ฮ่องเต้ชิงหยู่หัวเราะขึ้น”พูดอย่างนี้หากข้าตอบตกลง

แล้วนั่นนับว่าข้าไม่มีความกล้าแล้วหรือ? ”

“ฝ่าบาทแต่ข้ากลับคิดว่าในเรื่องแบบนี้แล้วฝ่าบาท ควรตอบตกลง”อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นเพื่อความ ปลอดภัยของตัวเองก็ต้องพูดแบบนี้

ในเวลานี้นางถูกผลักเข้ามาในสมรภูมิแล้วหากไม่ จัดการเรื่องนี้ให้ดีเกรงว่าจุดจบจะไม่ดีนัก

เสินเฉิงเสี้ยงตรวจเจอเรื่องของกงชิงวี่ทำให้กงชิงวี่ ตกที่นั่งลำบากจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดหวางฮองไทเฮา กลับมอบพระชายารองให้กับฮ่องเต้ดูราวกับหวังดีต่อฮ่องเต้แท้จริงแล้วนางต้องการทำให้ตระกูลเงินเห็นหาก พวกเข้าไม่ไว้หน้านางนางก็ไม่ไว้หน้าใครเช่นกันเรื่อง ราวก็เป็นอย่างนี้

หากนางไม่ฟังคำแม้จะมีตระกูลแม่ทัพสนับสนุนก็ไม่ นับว่าจะจัดการไทเฮาง่ายๆ

ทางเดินในวังหลวงมีมากมายจะทำลายนางง่ายเพียง พลิกฝ่ามือนางจึงไม่กล้าปฏิเสธ

นางยังเข้าใจความจริงข้อนี้มีหรือเงินหยุนชูจะไม่ เข้าใจทำไมเพียงเพื่อบรรณาการฮ่องเต้ด้วยหญิงงาม นางถึงกับคุกเข่าไม่ลุกเพื่อนางเองและเพื่อตระกูลเงิน

ชิงหยู่เป็นถึงฮ่องเต้เขากลับยิ่งเข้าใจความจริงทุก เรื่องหากเขาไม่ตอบตกลงเกรงว่าแม้นฮองเฮาก็คง รักษาไว้ไม่ได้

“เล่ามาสิ”ฮ่องเต้ชิงหยู่เอ่ยขึ้นเรียบๆความโกรธเมื่อ ครูอันตธารหายไปสิ้นกำลังพิจารณาอันหลิงหยุน

“อาจเพราะฮองเฮาก็มีความคิดของฮงเฮาเพคะ”

อันหลิงหยุนจะพูดอย่างไรได้เรื่องในวังหลวงพูดน้อย ไว้เป็นดี

ฮ่องเต้ชิงหยู่เหม่อลอยไปชั่วขณะแล้วจึงทอดถอนใจ เฮือกหนึ่งราวกับจะยอมรับเรื่องนี้
พลันทันใดกลับนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้เขาล่ามากคนอื่นก็ อย่าสบายไปเชียว

“พระชายาเสียนข้ายังมีอีกเรื่องจะถามเจ้า”

อันหลิงหยุนเกือบหัวเราะออกมายังนับว่าอดใจไว้ทัน

“ทูลเชิญฝ่าบาทตรัส”อันหลิงหยุนท่าทีนบนอบก้ม ศีรษะต่ำ

“เจ้ากับอ๋องเสียนในเมื่อต่างไม่ชอบพอกันเจ้าจะยอม ให้อ๋องเสียนแต่งพระชายารองหรือไม่? “ฮ่องเต้ชิงหยู่ สายตาวาบแววสงสัยขึ้นใคร่รู้ท่าทางของอันหลิงหยุน

“ทั้งหมดเห็นตามสมควรรับสั่งฝ่าบาทเพคะ”

อันหลิงหยุนที่จริงแล้วกลับไม่ได้ใส่ใจนักอยากจะแต่ง พระชายารองนางกลับดีใจยิ่งนักอย่างนั้นนางจะอิสระ มากขึ้นหากพระชายารองวางแผนอุบายอะไรขึ้นมาไม่ ว่าจะหย่าพร้อมกันหรือหย่าฝ่ายเดียวก็นับเป็นผลดีทั้ง นั้น

เพียงได้ตัดสัมพันธ์กับกงชิงวี่จะหย่าอย่างไรก็ไม่นับ ว่าสำคัญอีกแล้วนางเพียงต้องการอิสระ

“ในเมื่อพระชายาเสียนมีเหตุมีผลขนาดนี้ข้าก็คงไม่มี อุบายอะไรอีกรับสั่งจากไทเฮาให้ข้ามาสอบถามกับเจ้า ให้อ๋องเสียนรับแต่งพระชายารองตระกูลเงินเสินหยุน เอ๋อแต่เมื่อข้าคิดถึงอารมณ์ของบิดาเจ้านับว่าข้ามีใจแต่กำลังกายไม่พอดังนั้นเรื่องนี้คงต้องพึ่งพาเจ้าแล้วกลับ ไปคุยกับพ่อเจ้าดีๆก็เอ่ยเพียงว่าเป็นความตั้งใจของเจ้า ก็แล้วกัน”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสจบก็ทรงกายยืนขึ้น“ข้าจะประกาศ กับไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ว่าพระชายาเสียนเสนอคุณหนู สองตระกูลจุนกับข้าอย่างนี้แหละดีแล้ว”

อันหลิงหยุนเอ่ยในใจดีตายเสียหล่ะ!

หากนางออกไปแล้วจะไม่นับว่าเป็นเป้าธนูหรือ อย่างไร

“หม่อมฉันน้อมรับสั่งเพคะ”แต่นางก็ไม่มีทางอื่นใคร ให้เขาเป็นฮ่องเต้หล่ะ

น้อมคำนับรับสั่งแล้วเมื่อเงยหน้าขึ้นฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ จากไปแล้วพระตำหนักจรุงจิตอันโอ่อ่ายิ่งใหญ่เหลือ เพียงนางผู้เดียวจากนั้นนางจึงออกจากพระตำหนักไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ