ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 332 ท่านอ๋องโดนด่าแล้ว



บทที่ 332 ท่านอ๋องโดนด่าแล้ว

กงขิงวี่หันไปมองแมลงสาบเหล่านั้นถามขึ้น; “หยินหยุน เจ้าสามารถตรวจสอบได้ว่าคือยาพิษอะไร?”

“ประมาณนั้น”

อันหลิงหยุนหยิบถุงผ้าที่ทำพิเศษออกมาจากตัว หยิบ ถุงมือป้องกันจากข้างในออกมา ผูกมัดบรรจุภัณฑ์อีกครั้ง ให้เรียบร้อยแล้วยกขึ้น

“รับของขวัญแล้ว ขอบพระทัยกุ้ยเฟยสําหรับรางวัล เพคะ สิ่งนี้คือของตอบแทนเซียวกุ้ยเฟยสำหรับของขวัญ ที่ให้หม่อมฉันเพคะ” อันหลิงหยุนหยิบยาถอนพิษเม็ดหนึ่ง ส่งให้จุนเซียวเซียว

จุนเซียวเซียวรีบรับแล้วกล่าวขอบคุณ: “ขอบคุณพระ ชายาเสียน”

“พระนางไม่ต้องเกรงใจ ท่านอ๋องพวกเราขอกลับไป ก่อนเพคะ”

อันหลิงหยุนต้องการกลับไปศึกษาว่าแมลงสาบตาย อย่างไร นางจึงไม่อยากอยู่นานเกินไป

กงชิงวี่กล่าว: “ฮ่องเต้ หม่อมฉันถวายบังคมลาพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปเถิด”

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันไปมองกงชิงวี่และอันหลิงหยุนที่จากไปกล่าว: “อย่าลืมเรื่องจัดการตระกูลเฉินล่ะ”

“หม่อมฉันจำได้พะย่ะค่ะ”

กงซิงเดินไปจากไปทันที แต่อันหลิงหยุนถวายบังคม ลา

หลังจากออกไป กงชิงวี่ก็ดึงอันหลิงหยุนออกจาก พระราชวังอย่างรวดเร็ว

กลับถึงจวนอ๋องเสียนอันหลิงหยุนรีบดึงสารพิษจากตัว แมลงสาบทันที เป็นสารพิษชนิดเดียวกับที่พบในร่างกาย ของฮ่องเต้ชิงหยู่

อันหลิงหยุนออกจากห้องวิจัยมองไปที่กงชิงวี่ กงชิงวี่ ลุกขึ้นจากอนดล เดินไปตรงหน้าอันหลิงหยุน

“เป็นอย่างไรบ้าง?

อันหลิงหยุนผงกศีรษะ: “พิษชนิดเดียวกัน”

กงชิงวี่ใบหน้านิ่ง หันมองไปที่ประตู

อันหลิงหยุนเดินไปข้างๆ และนั่งลงด้วยความประหลาด ใจ: “หวงผอจื่อถูกควบคุมให้ไปที่วังจิ่งซิ่วได้อย่างไร? ท่านอ๋องยังจำเรื่องตอนที่เราแยกจากกัน ที่พระตำหนัก จรุงจิตมีเพียงอ๋องตวน ข้า ฮ่องเต้ สวีกงกง ครั้งนั้นไม่พบ ผู้ร้ายที่วางยาพิษ คิดว่าผู้ร้ายคือมนุษย์ แต่ตอนนี้เห็นได้ว่า น่าจะเป็นหวงผอจื่อ แต่เราก็ไม่พบมันเลย ต่อให้พบ ก็ ไม่อาจถือว่าหวงผอจื่อเป็นผู้ร้ายที่ปองร้ายคน

เมื่อครู่ข้าได้ทดสอบเสื้อผ้าเด็กเล็กด้วย พบว่าบน เสื้อผ้าเหล่านี้เส้นไหมมีลักษณะพิเศษอยู่บ้าง กลิ่นหอม หวานข้างในเล็กน้อย หากเดาไม่ผิด หวงผอจื่อถูกดึงดูด โดยกลิ่นเหล่านี้ จึงตายในบรรจุภัณฑ์”

กงชิงวี่มอไปยังอันหลิงหยุน: “ไม่ใช่เรื่องยากที่จะควบ คุมหวงผอจื่อ ข้าสามารถทำได้”

……..านอ๋องสามารถทำได้?”

“สิ่งนี้ชอบของหวาน เพียงแค่นำของหวานเล็กน้อยหา วิธีวางไว้ในห้องนอนของวังจิ่งซิ่ว ก็ได้แล้ว”

อันหลิงหยุนส่ายหน้า: “น่าจะเป็นเพราะมีคนนำหวง ผอจื่อไปปล่อยไว้ในวังจิ่งซิ่ว แต่เราไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด

ตอนนั้นก็มีคนทำเช่นนั้นในพระตำหนักจรุงจิตเช่นกัน คือผู้ใด ก็ยังไม่รู้

กงชิงวี่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง: “มีไม่กี่คนที่สามารถไปที่พระ ตำหนักจรุงจิตได้ สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว”

อันหลิงหยุนมองไปที่กงชิงวี่: “ท่านอ๋อง ดูเหมือนฮ่องเต้ จะไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่คิดหาวิธีหยุดพิษ ไม่ช้าก็เร็วจะเกิด อันตรายขึ้นได้”

กงชิงวี่นั่งลง: “หยุนหยุนมีวิธี ที่ทำให้คนหลับไม่ตื่นหรือ?”

อันหลิงหยุนมองไป: “ท่านอ๋องหมายความว่า?”

“ข้าไม่ได้หมายความว่าอะไร”

กงชิงวี่ไม่อยากพูดมากอันหลิงหยุนจึงไม่ถามต่อ หัน ไปหยิบยาสีขาวออกมาเม็ดหนึ่ง: “สิ่งนี้ไม่ใช่ยาหอมผ่อน คลาย ท่านอย่าโดยภาระการณ์ หากหลับไปสามถึงสี่วัน ถึงจะตื่น”

“ไม่เอาแบบนี้ ถ้าให้ดีเอาที่ไม่มีวันตื่นขึ้นมาได้อีก”

กงชิงวี่ผลักไสยากลับไป อันหลิงหยุนส่ายหน้า: “ถ้า ท่านไม่ต้องการสิ่งนี้ ก็ไม่มีอะไรอื่นแล้ว”

กงชิงวี่ลุกขึ้น: “ข้าเข้าวังสักเที่ยว อาจจะกลับมาค่ำ หน่อย หยุนหยุนนอนเถิด”

อันหลิงหยุนมองไป: “งั้นท่านระวังตัวหน่อย!”

หลังจากกงชิงวี่จากไปอันหลิงหยุนก็ไปพักผ่อน

กว่าจะหลับก็ค่ำมากแล้ว หลับไปโดยที่ยังไม่กินมื้อเย็น

กงชิงวี่กลับมาในตอนดึก อันหลิงหยุนรู้สึกได้ถึงลม หายใจของเขาทันทีที่เขาเข้าประตู ยังมีกลิ่นคาวเลือดอีก ด้วย

อันหลิงหยุนลุกขึ้นนั่ง ไฟในห้องจุดเอาไว้ มีคราบเลือดอยู่ที่ขอบเสื้อคลุมของกงซิงอีกด้วย เขามองไปที่อัน หลังหยุนและหันเดินไปทางสระกำมะถัน เข้าไปอาบน้ำ

อันหลิงหยุนตามลงไปดู กงชิงวี่หรี่ตาแช่อยู่ในน้ำ

“ท่านอ๋อง”

“อืม”

อันหลิงหยุนยืนอยู่อีกฝั่ง: “ผู้ใดบาดเจ็บ?”

“เสินหยุนเจ๋”

” ”

อันหลิงหยุนผงะ “เสินหยุนเจ๋?”

“อืม ตอนข้าเข้าวังเขาขวางทางข้า ยังพูดจาถากถาง เขาได้รับบาดเจ็บด้วยดาบของข้า เขานอนหมดสติไป แล้ว!”

“อะไรนะ?”

อันหลิงหยุนเบิกตากว้างพูดไม่ออก: “งั้นเขา………

“ไม่ตาย!”

กงชิงวี่ออกมาจากในน้ำ สวมชุดคลุมอาบน้ำและพาอัน หลิงหยุนออกไป
ปิดประตูเขาก็ไปจัดการผม อันหลิงหยุนนั่งลงตกอยู่ใน ภวังค์

“แล้วฮองเฮาออกจากวังแล้วหรือ?”

“อืม เพราะอาการบาดเจ็บสาหัส ฮองเฮาไม่วางใจจึง

ออกจากวัง” “ท่านอ๋อง แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ฮ่องเต้ไม่ถามเลย

หรือ?”

“เสินหยุนเจ๋ด่าว่าข้าว่าเป็นไอ้เจ้าคนสารเลว ฮ่องเต้จะ ให้อภัยเขาได้งั้นหรือ?” กงชิงวี่หันกลับไปนั่งลงข้างเตียง อันหลิงหยุนตะลึงโดยสิ้นเชิง

“ท่านอ๋อง ด่าท่านงั้นหรือ?”

อันหลิงหยุนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ เจ้าคน สารเลวดูไม่เหมือนว่าเงินหยุนเจ๋จะด่าออกมาได้

แต่ดูท่าทางของกงชิงวี่ตอนนี้ หากนั่นไม่ใช่คำด่า ก็ ถือว่าด่าแล้ว

“ฮ่องเต้ทรงโกรธแล้ว?”

“อืม”

“งั้นความจริงแล้วฮองเฮาเป็น?”

“ไทเฮาทรงโมโหมาก ให้นางกลับไปคิดทบทวน”
อันหลิงหยุนเข้าใจพอประมาณแล้ว พูดให้ชัดเจนก็คือ ดูหมิ่นน้องชายของฮ่องเต้ ก็เท่ากับดูหมิ่นฮ่องเต้ ประเด็น คือด่าอะไร ไอ้เจ้าคนสารเลว ไอ้คนสารเลว ไอ้แก่สารเลว นั่นก็หมายถึงอ่องเสียน ฮ่องเต้ ฮองเฮาไม่ใช่หรือ?

และเรื่องนี้น่าอับอายขายหน้าจริงๆ ไม่สามารถเผยแพร่ สู่สาธารณะได้

แล้วเหตุผลที่กลับบ้านไปเยี่ยมญาติคืออะไร อย่างไร ก็ตามคือถูกส่งออกไปนอกวังแล้ว

ผู้หญิงในวังไม่สามารถออกจากวังได้ มีที่เดียวที่ไปได้ เมื่อออกนอกวัง ไปที่สำนักสงฆ์ จั้นฮองเฮา……..

“ท่านอ๋อง ฮองเฮาไปที่ตำหนักฉือหนิงหรือ?” อันหลิงหยุ นนึกขึ้นได้แล้ว

กงชิงวี่นอนนิ่งเงียบ อันหลิงหยุนเห็นเขาเงียบ ก็รู้ว่าพูด ถูกแล้ว

ดับไฟแล้วเข้านอน อันหลิงหยุนถาม: “ท่านอ๋อง หรือว่า ท่านจะทำเรื่องเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก จนท่านเป็นอันตรายผู้ อื่นอยู่บ่อยครั้ง?”

“ไม่เท่าไหร่!”

อันหลิงหยุนส่ายหน้า หันไปกอดเอวของกงชิงวิ่ เอาไว้: “ท่านอ๋อง นอนเถิด”
“อืม”

อันหลิงหยุนมีความฝันแปลกๆ ฝันว่าเงินหยุนเจ๋ถูกคน คิดร้าย ถูกกงชิงวี่แทงระหว่างทางเข้าไปในวัง ล้มลงและ ถูกส่งตัวไป

อันหลิงหยุนตื่นขึ้นแต่เช้านวดศีรษะ เหลือบมองกงชิงวิ่ ที่หลับสนิท อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ใจ

เขาเป็นคนที่สร้างปัญหา เขานอนหลับอย่างสงบ แต่

นางนอนหลับไม่สนิท เหมือนทำเรื่องอะไรผิดมา

อันหลิงหยุนเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอกหลัง อาหารมื้อช้า ก็เห็นมู่มิงรออยู่ที่หน้าประตูลานโอวหลาน

“ในที่สุดเจ้าก็ตื่นแล้ว นี่กี่โมงแล้ว เจ้านายต้องนอนจน กระทั่งดวงอาทิตย์โด่งฟ้าถึงจะตื่น จวนอ๋องเสียนเป็นเช่น นี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?” มู่มิงสีหน้าไม่มีความสุข รอมาหนึ่งถึง สองชั่วยามแล้ว จึงอารมณ์เสียมาก

หน้าประตูลานโอวหลานไม่ได้มีเพียงมู่มิงที่รออยู่ที่นั่น อาหยู่ก็อยู่ หงเถาลุ่ยหลิ่วก็อยู่ด้วย

แต่ก่อนที่อันหลิงหยุนจะออกมา ทุกคนก็อยู่ในความ

สงบ

แม้ว่าจะเข้ากับจวิ้นจู่ดู่มิงได้ยาก แต่ก็ไม่ได้คิดมิดีมิร้าย ต่อคนรับใช้ในจวนอ๋องเสียน

การรอนางก็ไม่ได้กระวนกระวายมากนัก แต่หงเถายังคงกังวลอยู่เสมอ ไม่รู้ว่ายังคิดเรื่องพระชายารองอยู่หรือ ไม่

ตอนนี้อาหยู่ไม่พอใจเล็กน้อย ท่านอ๋องพระชายาอ๋อง จะตื่นกี่โมง เป็นเรื่องที่คนนอกอย่างเจ้าพูดได้งั้นหรือ?

“ไปเถิด ไปเยี่ยมดูฮูหยินกั๋วจิ๋วที่เรือนของเจ้า” อันหลิง หยุนขี้เกียจพูดเรื่องไร้สาระ รู้ว่ามู่มิงกำลังรอให้นางไป เยี่ยมดูฮูหยินกั๋วจิ๋ว หยิบกล่องยาแล้วไปทันที

แต่มู่มิง อึ้งไปเหมือนคนโง่ชั่วขณะ ก่อนจะหันหลังเดิน ตามออกไป

อาหยู่รีบมาที่รถม้า ทั้งสองนั่งในรถม้าด้วยกัน

หมาจิ้งจอกหางสั้นมองอันหลิงหยุนเข้าไปในรถม้า รีบ มุดเข้าไป เดินวนรอบกายอันหลิงหยุนรอบหนึ่ง หมอบ นอนอยู่ข้างใน

มู่มิงนั่งอยู่ตรงข้ามอันหลิงหยุน: “จวนอ๋องเสียนและจวน กั๋วจิ๋วอยู่ไม่ไกลกัน ทำไมต้องนั่งรถม้าด้วย?

“สักพักยังต้องกลับมา ไปดูเสินหยุนเจ๋ เมื่อคืนท่านอ๋อง ทำเขาบาดเจ็บ ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร” อันหลิงหยุ นพูดเช่นนี้ มู่มิงก็หยุดพูดทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ