ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 444 ในอนาคตล้วนเป็นพวกอ่อนแอ



บทที่ 444 ในอนาคตล้วนเป็นพวกอ่อนแอ

อันหลิงหยุนมีเหตุผลของตนเอง

“ท่านพ่อ ท่านห้ามทนไม่ได้เด็ดขาด ต้องรู้ว่าการทำ

ประโยชน์ให้แก่ประเทศชาตินั้น ถือเป็นความรับผิดชอบ ของพวกเขาตั้งแต่เกิด

เกิดในประเทศนี้ ที่แห่งนี้ ก็จะต้องทำประโยชน์ให้ที่นี่

พ่อของเขาเองก็ทำงานหนักในทุกๆวัน ท่านตาเองก็ ด้วย แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะต้องเลี่ยงพวกเขาแบบสูงส่ง ด้วย

ตอนนี้ยังเล็กอยู่ อยู่ในจวนกินอยู่อย่างสบายนั้นไม่ใช่ เรื่องแปลก แต่เมื่อโตแล้วยังสามารถที่จะกินอยู่อย่าง สบายอย่างเช่นตอนเด็กๆได้นั้น นั่นจึงจะถือว่ามีความสา มารถจริงๆ

อีกหน่อยท่านพ่อแก่ตัวลงก็คงไม่อยากได้ยินว่า พวก เขาเป็นพวกอ่อนแอหรอกใช่ไหม?

“เหลวไหล หลานของพ่อจะเป็นพวกอ่อนแอได้อย่างไร กัน?” แม่ทัพอันไม่ค่อยพอใจแล้ว

อันหลิงหยุนเองก็ไม่สบอารมณ์ : “ท่านพ่อ ข้าเพียงแค่ เปรียบเทียบให้ฟังเท่านั้น หมายถึงว่า ตอนนี้หากท่านไม่ พยายามพร่ำสอนพวกเขาในสิ่งที่ท่านเคยร่ำเรียนมา ต่อ ไปท่านก็คงทำได้แต่รอดูพวกเขากลายเป็นพวกอ่อนแอ” อันหลิงหยุนแววตาหนักแน่น นางไม่ได้ล้อเล่น
แม่ทัพอันครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่: “รู้แล้ว ข้าจะเลือก ออกมา ถึงเวลานั้นหากมีใครบอกว่าพวกเขาเป็นพวก อ่อนแอล่ะก็ พ่อจะให้พวกเขาไปลากคอคนคนนั้นออกมา ตีสักที!”

อันหลิงหยุนรู้สึกขำ : “ถึงเวลานั้น ท่านพ่อรอให้พวกเขา แสดงความกตัญญูต่อท่านก็พอแล้ว”

“แน่นอน!” แม่ทัพอันมองดูหลานๆด้วยความเอ็นดูอย่าง มาก เดี๋ยวก็ดูคนนี้ เดี๋ยวก็ไปหยอกคนนู้น

ถึงแม้หลานทั้งห้าจะยังเล็กอยู่ จะว่าไปก็น่าแปลก แค่ แม่ทัพอันหยอกล้อก็จะดีใจจนขยับไม้ขยับมือไม่หยุด มือ ทั้งสองของข้างจับเพื่อที่จะให้แม่ทัพอันอุ้ม

แล้วตะโกนอาอาอยู่ตลอด

ถ้าแม่ทัพอันไม่อุ้ม ก็จะทำท่าทางน้อยอกน้อยใจ ตากลมโตก็จะหรี่ลง และทำปากเบะ

เมื่อแม่ทัพอันเห็น ก็จะรีบอุ้มเด็กขึ้นมา กลัวว่าจะน้อยใจ

เมื่ออุ้มขึ้นมาหนึ่งคน ที่เหลือก็จะตะโกนอาอาด้วย ส่วน คนที่อยู่ในอ้อมกอดก็เริ่มหัวเราะเหอะๆ ดูชอบแม่ทัพอัน เป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่ามีอะไรดี

แต่ที่เหลือจะไม่สนใจก็ไม่ได้ จึงทำได้เพียงวางคนแรก ลง แล้วอุ้มอีกคนต่อ พออุ้มคนนี้ขึ้นมา ที่เหลือก็จะตะโกน อาอาอีก ทำให้แม่ทัพอันต้องวิ่งไปวิ่งมา จนเนื้อตัวเปียก ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ทำให้คนอื่นรู้สึกอิจฉามาก

ด้านนอกมีคนกำลังพูดคุยกัน: “เจ้าว่าทำไมลูกๆของ คุณหนูถึงได้ฉลาดอย่างนั้น เจ้าลองดูสิ เพิ่งจะอายุเท่า ไหร่เอง แค่สองเดือนเท่านั้น ยังลุกขึ้นไม่ได้เลย แต่กลับ รู้จักปลอบให้แม่ทัพอันของพวกเราดีใจได้แล้ว เหมือนกับ คุณหนูของพวกเราตอนเด็กๆไม่มีผิด

“ใช่สิ คลอดออกมาทีเดียวห้าคน คนธรรมดาล้วนแล้ว แต่มีคนเดียวกันทั้งนั้น”

“น่าเสียดายที่เป็นลูกชายทั้งหมด หากว่ามีลูกสาวด้วย ท่านแม่ทะพของพวกเราคงจะยิ่งดีใจกว่านี้แน่

อันหลิงหยุนเลิกคิ้ว ใครบอกกัน

นางเองก็ชอบลูกสาว เพียงแต่ว่าที่นี่ ลูกสาวเกิดมาก็ ต้องทุกข์ทรมาน ไม่สู้เกิดลูกชายทั้งหมดจะดีกว่า

อีกหน่อยหากมีคนที่ชอบพอแล้วก็สู่ขอมาอยู่ที่บ้าน ดูแลเอาใจใส่อย่างดี เหมือนกับมีลูกสาวเพิ่มมาอีกคน หนึ่งมิใช่หรือ?

ดีกว่าเกิดลูกสาวตั้งเยอะ

กงชิงวี่ขมวดคิ้วเบาๆ เขาเองก็อยากได้ลูกสาว แต่นาง บอกแล้วว่า เกิดลูกสาวต่อไปจะต้องทนทุกข์ทรมาน
คิดไปคิดมาก็ใช่ เดิมทีมู่มิงควรจะมีครอบครัวที่ดี จุน ฉูฉูเองเดิมทีก็ควรจะได้ใช้ชีวิตที่สงบ การที่ได้เป็น พระมารดาอยู่ในวังหลวงนั้น มีความสุขจริงๆหรือ?

ไม่จําเป็น!

ผู้หญิงสองคนใช้สามีร่วมกัน สำหรับผู้หญิงอย่างเสด็จ แม่แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้นางถูกทำลายความภาค ภูมิใจไปไม่น้อย แต่นางไม่เพียงแต่ใช้สามีร่วมกับฮั่ว ไท่เฟยเท่านั้น แต่ยังต้องใช้สามีร่วมกับผู้หญิงคนอื่นอีก ด้วย

ผู้หญิงของเสด็จพ่อนั้นมีมากมาย สาวงามในวังหลังมี นับไม่ถ้วน เสด็จแม่เองก็เคยมีประสบการณ์มาก่อน

เขาเป็นท่านอ๋องแล้วอย่างไร แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ไม่ทรง สามารถควบคุมการแต่งงานขององค์หญิงได้เช่นกัน

มันไม่ง่ายเลย กับการที่มีลูกสาวที่ชาติก่อนงี่เง่าอย่าง นางเช่นนี้ แล้วยังมีลูกเขยที่ไร้มารยาทอย่างเช่นเขา

เขาผู้ซึ่งเป็นพ่อ และยังเป็นแม่ทัพอันอีก ในตอน นั้น……เขาจะสามารถทำอะไรได้?

ไม่สู้เกิดลูกชายเสียทั้งหมดดีกว่า

แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว คลอดลูกหนึ่งครั้งหมดสติไปกว่า สองเดือน จะให้เกิดอีกเขาก้ทนไม่ได้

ห้าคนก็พอใช้แล้ว ไม่ต้องเกิดอีกแล้ว
ไปทำน้ำแกงดื่มกับหมอจานโจวแค่ครู่เดียว กลับมาก็ ไม่มีแล้ว

อันหลิงหยุนทนดูไม่ได้อีกต่อไป : “พวกเจ้าอยู่ให้มันนิ่งๆ กันหน่อยได้ไหม ท่านตาออกรบอยู่ที่ชายแดนก็ลำบาก มากแล้ว กลับมาบ้านพวกเจ้ายังไม่ปลอบท่านตาดีๆอีก ยังต้องให้ท่านตามาคอยปลอบพวกเจ้าอีก ถ้าท่านตา เหนื่อยจนทนไม่ไหว แล้วใครจะมาคอยปลอบพวกเจ้า กัน?”

เด็กน้อยทั้งห้าที่กำลังส่งเสียงอาอาอยู่ ก็เงียบลงโดย พร้อมเพรียงกัน จ้องตากลมโตเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

แม่ทัพอันแปลกใจ: “นี่พวกเจ้ากลัวหรือ?”

“อา…..” มีอยู่หนึ่งคนที่ใจกล้า อ้าปาก แม่ทัพอันจึงโน้ม ตัวลงไปอุ้มขึ้นมา อันหลิงหยุนมองด้วยสายตาเย็นชา

แม่ลูกสบตากันพอดี อันหลิงหยุนทำแววตาเบื่อหน่าย อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก: “ดูเหมือนก้นเจ้าจะคันแล้ว นะ!”

เมื่อได้ยินอันหลิงหยุนพูด เด็กน้อยก็รีบหันหน้าหนีใน ทันที แล้วค่อยๆลูบหน้าของแม่ทัพอันอย่างว่าง่าย ไม่ โวยวายแล้ว

แม่ทัพอันรู้สึกแปลกใจ วางหลานลงแล้วมองดู พบว่า ทั้งห้าคนไม่โวยวายแล้ว กำลังมองเขาด้วยดวงตากลมโต แล้วยิ้มให้เขา
หากแม่ทัพอันเอ็นดูคนไหน คนอื่นๆก็จะไม่โวยวายไป ด้วย

คนที่ยืนดูอยู่ที่ประตูก็แปลกใจ: “ลูกชายของคุณหนู ของพวกเรา ช่างฉลาดจริงๆ!”

“เป็นลูกเทพ!” ต่างพูดกันไปต่างๆนานา กงชิงวี่เองก็ อารมณ์ดีไม่น้อย คอยมองอันหลิงหยุนอยู่เป็นพักๆ ตัว เขาเองก็รู้สึกแปลกใจ ทำไมจึงได้ฉลาดขนาดนี้!

ลานถูกจัดเตรียมไว้อย่างเหมาะสมแล้ว พ่อบ้านเข้ามา รายงาน: “พี่เลี้ยงจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว คนก็แบ่งหน้าที่ ไว้แล้ว ส่วนคนที่เหลือให้พักที่ห้องทางปีกตะวันตก ท่าน แม่ทัพ ให้จัดเตรียมอาหารเลยไหมขอรับ?”

“ไม่ต้องเตรียมแล้ว พวกเรากินมาแล้ว วันนี้พักที่นี่ แล้ว พรุ่งนี้พวกเราตื่นเช้าเข้าวังกัน”

อันหลิงหยุนอธิบาย ทำให้พ่อบ้านรู้สึกหดหู่เล็กน้อย มา แค่ไม่นานก็จะไปแล้ว จวนแม่ทัพไม่ได้คึกคักเช่นนี้มาตั้ง นานแล้ว

“แต่ว่าพรุ่งนี้ตอนที่พวกเราเข้าวัง ท่านพ่อก็อยู่จัดการที่ บ้านเสียหน่อย ที่จวนอ๋องเสียนจะซ่อมแซมลานด้านหลัง ลานโอวหลานไม่พอสำหรับให้พวกเขาได้วิ่งเล่นกัน ข้า ต้องการที่จะขยายลานให้กว้างขึ้น โดยต้องการให้แล้ว เสร็จก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง เพราะฉะนั้นตอนนี้พวกเรา ทั้งเจ็ดคนจะอาศัยอยู่ที่จวนแม่ทัพ รอจนกว่าจะซ่อมแซม แล้วเสร็จจึงย้ายกลับไป ท่านพ่อจะต้องตระเตรียมทุก อย่างเสียหน่อย
“หา?” แม่ทัพอันสีหน้าตกใจ: “จริงหรือไม่?”

ใบหน้าเล็กๆของอันหลิงหยุนค่อยๆขมวดลง: “ท่านพ่อ หรือว่าท่านเห็นว่าพวกเราคนมาก จะมีอาหารไม่พอ?”

“เหลวไหล ต่อให้พ่อไม่มีอาหาร ก็จะต้องไปยืมมาให้ ได้ ราชครูจุน เงินเฉิงเสี้ยง จวนหยุนกั๋วกง ไม่ใช่ว่ามีเงิน หรอกหรือ ยังไงพ่อก้จะต้องไปยืมมาให้ได้!”

“อย่างนั้นก็ดี ท่านพ่อ ท่านต้องเตรียมให้พร้อมนะ ตอน นี้พวกเขาเป็นซื่อจื่อ จะทำอะไรลวกๆไม่ได้ อย่างไรเสียก็ จะต้องเตรียมตัวสักหน่อย”

“เรื่องนี้ก็ใช่ แต่จวนแม่ทัพของพ่อ ใครจะกล้ามากัน?” แม่ทัพอันสีหน้าเรียบเฉย ถ้าใครมาก็ฆ่ามันซะ

มีหลานแล้ว แม้แต่ท่านท้าวอันสูงส่งอย่าง แม่ทัพอันก็ ไม่สน

อันหลิงหยุนส่ายหน้า: “เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นแล้ว ท่านพ่อ ต้องรู้ไว้ว่า ยิ่งคลื่นลมสงบมากเท่าไหร่ คนเหล่านั้นยิ่งอยู่ ไม่เป็นสุข ถูกจัดการไปขนาดนั้น แล้วไม่คิดที่จะต่อต้าน ก็คงจะแปลกแล้ว!

“มันก็ใช่!” แม่ทัพอันยิ้ม: “พวกเขามาก็ต้องให้พ่อ ยินยอมเสียก่อน

พูดจบแม่ทัพอันก็หันไปมองเด็กๆ: “พวกเจ้าวางใจเถอะ หากพวกเขามา ตาจะเป็นคนฆ่าพวกเขาเอง!“
“อาอาอา……”

เด็กๆส่งเสียงขึ้นมา เหมือนว่ากำลังสนับสนุนความ ฉลาดและมองการณ์ไกลของท่านตา

แม่ทัพอันหัวเราะจนตาหยี: “ไป ตาจะอุ้มพวกเจ้าไปเล่น ที่ห้องฝึกวิทยายุทธ

พูดจบ แม่ทัพอันอุ้มขึ้นมาหนึ่งคนแล้วเดินไป เมื่อพ่อ บ้านของจวนอ๋องเสียนเห็น ก็รีบเข้ามาขวางไว้: “ท่าน แม่ทัพ ไม่ได้นะขอรับ ที่นั่นอันตรายมาก!”

“ ถ้าอย่างนั้นก็จักได้แล้ว ท่านพ่อ ท่านต้องเตรียมการ ถึงจักได้เพคะ พวกเขาตอนนี้นั้นเป็นถึงซื่อจื่อ(ลูกชาย ผู้จะสืบทอดบรรดาศักดิ์ของผู้พ่อ) จะมาประมาทไม่ได้ มากน้อยก็ต้องเตรียมการไว้มากจักเป็นการดี

กงชิงวี่วางถ้วยชาในมือลง แล้วเลิกหางคิ้วขึ้นเล็กน้อย : “พ่อบ้าน เจ้าถอยไปซะ”

พ่อบ้านผงะเล็กน้อย แล้วจึงรีบถอยมายืนอยู่อีกด้าน หนึ่ง

“อาหมู่ พ่อบ้านอัน หงเถา ลุ่ยหลิ่ว พวกเจ้าจงอุ้มกัน คนละคนแล้วเดินตามท่านพ่อตาไปที่ห้องฝึกวิทยายุทธ ระวังหน่อยล่ะ!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ทั้งสี่คนต่างขานรับ แม่ทัพอันมองพ่อบ้านของจวนอ๋องเสียน แล้วไม่พูดอะไร เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา จึงอุ้มคนหนึ่ง แล้วเดินไปยังห้องฝึกวิทยายุทธ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ