ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 53 เหงื่อออกอย่างประหลาด



บทที่ 53 เหงื่อออกอย่างประหลาด

อันหลินหยุนกลับถึงลานโอวหลานมองไปรอบบ้าน ไม่เห็นกงชิงวี่จึงกลับไป แต่ขณะที่นางกำลังผลักเปิด ประตูห้อง ก็เห็นว่าบนเตียงมีคนนั่งอยู่

เห็นกงชิงวี่ อันหลิงหยุนหยุนหัวใจลนลาน กลัวอะไร เจออย่างงั้น

“ท่านอ๋อง”

ปิดประตู อันหลิงหยุนแสร้งทำเป็นเดินอย่างสงบ ที่ จริงนางรู้ กลัวไปก็ไม่มีประโยชน์

เพียงแค่บางครั้งเหนื่อยก็เกินไป มาถึงสถานที่เลว ร้ายนี่ เหมือนกับต้องคอยต่อสู้ทุกวัน ต้องเตรียมพร้อม รับมือกับสิ่งไม่คาดคิดทั้งปวงอยู่ตลอดเวลา นางเหนื่อย แล้ว เหนื่อยมากจริงๆ!

“เจอข้าแม้แต่มารยาทก็ไม่มี กลับไปบ้านเกิดคราวนี้ เรียนรู้สิ่งนี้มารึไง?” กงชิงวี่เย็นชา มองนางก็ไม่ชอบขี้ หน้าอย่างไม่มีเหตุผล

อันหลิงหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านอ๋อง”

ถอนสายบัว ไม่รู้ว่าที่ฝึกมาถูกต้องหรือไม่ แต่ก็ดีกว่า ลงคุกเข่า

กงชิงวี่เย็นชา: “ฝึกสิ่งใดมา?”
“หม่อมฉันถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ”

อันหลิงหยุนพยายามทําความเคารพ

ในใจเกลียดที่ไม่สามารถจับเขาโยนออกไปได้ คำรามออกมา นี่คือบ้านของข้า

แต่แม้ว่านางจะมีปัญญานั้น เกรงว่าจะไม่เป็นผลดีนัก

มือของกงชิงวี่กุมอยู่ คลายช้าๆ จ้องเขม็งไปที่กระดูก หัวเข่าอันแข็งทื่อของอันหลิงหยุน: “ถ้าเจ้าคุกเข่าให้ข้า ข้าก็จะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ”

อันหลิงหยุนสุดจะทน ทำไมคนคนนี้ถึงไม่รู้จักผิดชอบ ชั่วดีเช่นนี้ อ่อนน้อมให้แล้วยังไม่พอ

ลุกขึ้น อังหลิงหยุนยืน เดินไปนั่งลงอีกฝั่ง พูดอย่าง อารมณ์เสีย: “ยังไงข้าก็เป็นภรรยาท่าน ปฏิบัติต่อข้า เช่นนี้ อนาคตมีบุตรชายระวังลูกจะไม่กตัญญู”

“อะไรนะ?” กงชิงวี่ตะลึงเล็กน้อย: “เจ้ายังอยากมีบุตร กับข้ารึ?”

“พูดเป็นเป็นเล่น ข้าแต่งงานกับท่าน ท่านต้องการให้ ข้ามีชีวิตอยู่โดดเดี่ยวตลอดไปหรือไง? พูดจาไม่น่าฟัง ถ้าหากคนข้างนอกรับรู้ คงไม่คิดว่าท่านคือ…..

หลังจากนั้นอันหลิงหยุนไม่พูด นึกถึงฮ่องเต้ในยุคนี้ ควรพูดให้น้อยจะดีกว่า
“สุดท้ายก็ไม่ได้หวังดี แต่ข้าจะเตือนเจ้าให้ตายใจเสีย เถิด ข้าไม่มีทางมีบุตรกับเจ้า

ลุกขึ้น กงชิงวี่เดินหนีอย่างไร้เยื่อใย ประตูห้องก็ไม่ ปิด

เพียงแค่ก้าวฝีเท้าเร็วเล็กน้อย………

ตัวภัยพิบัติไปแล้ว จุดประสงค์ของอันหลิงหยุนสำเร็ว แล้ว ลุกขึ้นปิดประตู ออกคำสั่ง: “เรียกสาวใช้สักสอง สามคนมา ข้าจะอาบน้ำ มาเตรียมน้ำสำหรับอาบ

เสียงตอบมาจากด้านนอกประตู อันหลิงหยุนจะทำ อย่างไรได้ ยังไงก็ถือว่าเป็นพระชายาคนหนึ่ง แต่นาง อยู่ที่แห่งนี้ แม้แต่สาวใช้ที่คุยได้สักคนก็ยังไม่มี

พูดถึงสาวใช้ อันหลิงหยุนหันมองดูที่ประตู ทำไมถึง ลืมนางไปล่ะ

พ่อบ้านแบ่งสาวใช้หลายคนที่ฝีมือดีและสาวใช้สูงวัย คนหนึ่งให้อันหลิงหยุน หลังจากทุกคนเตรียมถังไม้และ น้ำให้อันหลิงหยุนแล้ว อันหลิงหยุนไม่ชินกับการที่มีคน มองดูนางอาบน้ำ โบกมือ: “ข้าทำเอง พวกเจ้าออกไป เถอะ มีอะไรข้าจะเรียกพวกเจ้า”

คนออกไป อันหลิงหยุนจึงถอดเสื้อผ้า เข้าไปแช่ในถัง ไม้ แม้ร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่รู้สึกสึก ไม่สบายตัว เมื่อวานบนรถม้านางก็ทรมานอย่างมากเช่น กัน ได้แช่น้ำทำให้สบายขึ้นบ้าง และเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นตัว

แต่อันหลินหยุนคาดคิดไม่ถึง จะมีคนผลักประตูเข้า

มา

เสียงประตูดังแอ๊ด อันหลิงหยุนไม่สามารถควบคุมได้ หันไป นางตกตะลึงเมื่อหันไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือนางลุกขึ้นยืนอย่างไม่มีเหตุผล เหมือนความคุมร่างกายไม่อยู่ ลุกขึ้นยืน

กงชิงวี่ที่หน้าประตูตะลึงเล็กน้อย ประตูด้านหลังปิด ลง ในห้องมีไอสีขาวหนาแน่น รูปร่างที่สวยงามของ หญิงสาวเปรียบเสมือนหยกขาวอยู่ยืนตรงหน้าเขา ดวงตาเขาเบี่ยงเบนออก มองไปที่อื่น น้ำเสียงเย็นชา: “เจ้า…….ข้าเดาไม่ผิด พระชายารีบร้อนทนไม่ไหวแล้ว!”

อันหลิงหยุนควบคุมร่างกายได้แล้ว ลงไปในน้ำทันที ใบหน้าแดงใจเต้นแรง

เมื่อครู่คืออะไร ปกตินางไม่ได้เป็นเช่นนี้ แต่ร่างกาย ลุกขึ้นเอง และยังยืนแข็งทื่ออีก นางแทบไม่สามารถ ควบคุมร่างนี้ได้

ในใจลุกลนโดยไม่มีเหตุผล นานขนาดนี้แล้ว นาง เข้าใจเสมอว่าตนมาที่นี่พร้อมกับระบบยาชีวภาพ หรือ เป็นเพราะว่าวิญญาณเจ้าของร่างยังไม่ไป ยังอยู่ในร่าง นางหรือ?
หัวใจที่หนักอึ้ง อันหลิงหยุนส่ายหัวไปมา เป็นไปไม่ได้ จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร?

แม้ในใจจะพยายามพูดโน้มน้าวตัวเองอย่างหนัก แต่ นางเข้าใจ วิญญาณในโลกอนาคตของนางสามารถ ทะลุถึงในร่างกายในยุคอดีตนี้ได้ ยังมีอะไรที่เป็นไปไม่ ได้อีก

กงชิงวี่สายตาไม่พอใจ เดินอ้อมตอไม้แล้วนั่งลง ก้ม หน้าหลบตากล่าว: “คนในวังมา ให้เจ้ารีบเข้าวัง ยังไม่ ออกมาอีก?”

อันหลิงหยุนเหม่อไปครู่หนึ่ง ตั้งสติมองไปทางกงชิง วี่ เห็นเขาไม่มองนางมากไปกว่านี้ ใจลึกๆ ของเจ้าของ ร่างยิ่งดูไร้ค่า มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่ยอมมองอีกสักนิด เจ้าของร่างเดิมก็ช่างไร้ค่าจริงๆ

เพื่อออกไป หลังชิวหยุนอาบน้ำอย่างเร่งรีบ นางออก จากถังไม้เดินไปอีกฝั่งอย่างเร่งรีบ อาศัยช่วงที่กงชิงวี่ ไม่มองนาง รีบหลบไปยังหลังฉากกั้นเพื่อเช็ดตัว สวมใส่ เสื้อผ้า

กระทั่งนางไปฉากด้านหลัง กงชิงวี่จึงมองไปทางฉาก

กั้น

อันหลิงหยุนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกมา เดินไปที่กล่อง ยา หยิบยาเล็กน้อย สะพายถุงยา เตรียมตัวออกจากบ้าน

เวลานี้กงชิงวี่ถึงลุกขึ้น ออกจากบ้านพร้อมกับนาง อันหลิงหยุนแปลกใจ : “ท่านอ๋องไปด้วยหรือ?”

“ข้าเต็มใจไปหรือไง? ” กงชิงไม่ตอบถามกลับ อัน หลิงหยุนรู้สึกเกินความจำเป็น สนใจเขาแค่นั้น ก็ไม่ควร ไปถาม

ทั้งสองออกจากจวนอ๋องเสียนขึ้นนั่งรถม้า อาหยู่บาด เจ็บ เปลี่ยนองครักษ์ที่ขับขี่รถม้า ขณะที่อันหลิงหยุนขึ้ นรถก็พบว่าคนนี้มองนางด้วยสายตาแปลกอยู่บ้าง แต่ เรื่องทั้งหลายที่เจ้าของร่างทำไว้ เรื่องไหนบ้างที่จะไม่ ทําให้คนมองนางแปลก

รถม้ากว้างขวางและไม่แออัด มีเพียงแค่ตะเกียง น้ำมันที่จุดอยู่ในรถม้าทำให้อันชิงหยุนไม่สบาย

แต่เดิมกงชิงวี่อยู่ด้านหนึ่ง นางอยู่ด้านหนึ่ง เพียงแค่ ไม่มอง ในใจก็ไม่คิดอะไรแล้ว

แต่แสงสีนวลในรถม้าไม่ชัดขนาดนั้น อันหลิงหยุนม องดูตะเกียงน้ำมันอย่างน่าเบื่อ ก็เพราะไม่ใช่ไข่มุก ราตรีนั่นเอง กังวลขึ้นมาทันทีว่าไข่มุกราตรีที่ตนเองได้ มาอย่างยากลำบากถูกปล้นไป

กงชิงวี่ดูไปแล้วเหมือนงีบหลับอยู่ตรงข้าม ขณะนี้ สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของอันหลิงหยุน

ลืมตาขึ้น กงชิงวี่ผายมือออก แบมือไปด้านหน้าอัน หลิงหยุ่น: “เอามาเถิด”

อันหลิงหยุนสีหน้าแปลกใจ แกล้งทำเป็นไม่รู้: “อะไร เพคะ?”

“ไข่มุกราตรี”

กงชิงวี่เหลือบมองอันหลิงหยุนอย่างดูถูก อันหลิงหยุ นฝืนให้มีชีวิตชีวา: “ท่านอ๋องมีมากมายขนาดนั้น และไม่ สนใจเม็ดนี้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นท่านอ๋องตอบตกลงกับข้า แล้ว ให้ข้าแล้ว”

“ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ได้หรือ? ” กงชิงวี่พูสั้นๆ ทำอันหลิงหยุนโมโหจนอยากเข้าไปชกเขาทีหนึ่ง แต่ เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง จึงอดทนไว้

“ข้าไม่ได้พกไว้”

อันหลิงหยุนอ่อนโยนลงมา ไม่ได้พกไว้จริงๆ

และจริงๆ แล้วนางกังวลมาก เข้าวังครั้งนี้ไม่รู้จะมีเรื่อง อะไรรอนางอยู่

กงชิวหยุนเหลือบมองนาง มองไปนอกรถม้า หรี่ตาลง พักผ่อนต่อ
อันหลิงหยุนที่นั่งอยู่อีกฝั่งไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนกับ กงชิงวี่ ระหว่างทางเข้าวังคิดเรื่องราวมากมาย จาก ฮองเฮาจนถึงฮ่องเต้ และถึงหวางฮองไทเฮา ฮั่วไท่เฟย ไม่มีใครที่คิดไม่ถึง

มักรู้สึกว่านางกำลังจะโชคร้าย!

เมื่อถึงประตูวังอันหลิงหยุนตามลงรถม้า กงชิงวี่เดิน อยู่ข้างหน้า นางก็เดินตามอยู่ข้างหลัง เหยียบสะดุด เกือบล้ม

พยายามนิ่งไว้ เหงื่อออกท่วมตัว

อันหลิงหยุนเงยหน้ากงชิงวี่หันมองนาง จากนั้นดุเธอ คำหนึ่ง: “ไม่ได้เรื่อง!”

อันหลิงหยุนเช็ดเหงื่อ มองดูเหงื่อที่ฝ่ามือ แปลก! อากาศหนาวขนาดนี้ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้

“ยังไม่ไปอีก?” กงชิงวี่เรียกนาง อันหลิงหยุนพยัก หน้า: “ไปเดี๋ยวนี้แหละเพคะ”

พูดจบตามกงชิงวี่เข้าไปพร้อมกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ