ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 35 ฮ่องเต้ที่จัดการได้ดี



บทที่ 35 ฮ่องเต้ที่จัดการได้ดี

“พูดอะไรกัน?” กงชิงวี่ไม่แปลกใจ เมื่อตะกี้นี้เห็นได้ อย่างชัดเจนว่า ไห่กงกงหวั่นไหวไปแล้ว

“ไห่กงกงพูดว่า”ท่านอ๋องเสียนไม่สบาย ดูแลสุขภาพ ให้ดีดีกว่า ”

เรื่องที่ถางเหอเข้าใจได้ กงชิงวี่และอันหลิงหยุนจะ เข้าใจได้อย่างไรกัน

ความหมายก็คือการไม่ทำอะไรเลย

กงชิงวี่เหลือบไปที่อันหลิงหยุนและพูดว่า “อยากเสวย ก็เสวยได้ขอรับ”

อันหลิงหยุนรู้สึกว่าน่าขำ นางไม่ใช่สุนัข ให้เสวยก็ เสวย ไม่ให้เสวยก็ไม่ได้เสวย เหตุผลที่ให้ไห่กงกงเข้า ข้างตัวนางนั้น ก็ไม่ใช่เพื่อเขา

“ ข้าควรกลับไปแล้ว ขอให้ถางเหอไปส่งข้ากลับไปที่ จวนด้วย”

เมื่อก่อนถูกลักพาตัวไปโดยฮั่วไท่เฟย อันหลิงหยุนไม่ อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาอีก หาคนไปคุ้มกัน จะดีกว่า

หลังจากพูดจบแล้วเขาไม่ได้รอกงชิงวี่พูดก็ไปถึงที่ หน้าประตูแล้ว
ถางเหอได้แต่กั้นเอาไว้ “ท่านพระชายา อาการเจ็บ ป่วยของอ๋องเสียนยังคงต้องตรวจดูอีก โปรดขอให้ท่า นพระชายามาดูให้ก่อนแล้วค่อยเสด็จกลับ”

ถึงแม้ว่าถางเหอเขาจะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าท่าน พระชายาเปลี่ยนไป แต่ในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายมัน เป็นเรื่องยากที่จะมองย้อนกลับไป นึกถึงสิ่งที่อันลิงหยุน เคยทำมา จะให้เขายอมรับคนนี้เป็นท่านพระชายาทันที ยังคงยากลำบากอยู่

อันลิงหยุนหยุดเดินและตรัสว่า “เขาต้องการพักผ่อน อย่างน้อยสามเดือน เขาต้องการที่จะหายขาดประมาณ ครึ่งปี ในส่วนอื่นๆ เขาจะไม่สิ้นพระชนม์ได้ง่ายหรอก”

พูดจบแล้ว อันลิงหยุนก็ผลักประตูแล้วออกไปเลย

ถางเหอมองกลับไปที่อ๋องเสียนผู้ที่นอนอยู่บนเตียง ด้วยหน้าซีดเขียวและไม่พูดอะไรเลย เขารีบเดินออกไป

อันลิงหยุนฟังถางเหอเล่าเรื่องตลอดทาง ส่วนใหญ่ ถามเรื่องเกี่ยวกับอาการความเจ็บป่วยของกงชิงวี่ แต่ นางไม่เคยพูดอะไรเลย

ที่จริงแล้ว นางได้เพิ่มยารักษากงชิงวี่ในยาที่มอบให้ กับฮ่องเต้ชิงหยู่ ซึ่งจะช่วยให้เขาหายดีขึ้นเร็ว ๆ นี้

เพียงแต่ว่าเรื่องนี้นางไม่สามารถพูดได้และนางก็ไม่ อยากจะพูด
เรื่องนี้ไม่เหมือนกับการเอาใจไห่กงกงให้เป็นพวกของ ตน อันหลิงหยุนขอบคุณไห่กงกงจริงๆ และนางก็เข้า ออกวังที่วิกฤติทุกวัน นางได้ขัดใจคนมากมายด้วย ถ้า ไม่มีคนช่วย ต้องมีวันที่สิ้นพระชนม์อยู่ในนั้นเป็นแน่

มีคนมากมายที่พูดคุยกันอยู่ข้างนอก แม้ว่าจะอยู่ ใต้ดินก็มีคนรู้

ด้านในของวิหารบรรทมรองก็จะไม่เหมือนกัน ประการที่หนึ่งไม่มีใครสงสัย ประการที่สองถ้ามีอะไร เกิดขึ้นอยู่ต่อหน้ากงชิงวี่ นั่นเป็นความรับผิดชอบของ เขาอยู่แล้ว นางจะไม่เป็นไร

เมื่อมาถึงหน้าประตูวัง อันหลิงหยุนยังคงนิ่งเงียบ แต่ มันทำให้ถางเหอลำบากใจ พูดจนคอแห้ง ก็ไม่มีคำตอบ กลับใดๆทั้งสิ้น

หลังจากอันหลิงหยุนขึ้นรถ ถางเหอถึงหันกลับไป อย่างหงอยๆ

เมื่อกลับไปที่วังแม่ทัพ อันหลิงหยุนก็เดินตรงไปที่ห้อง ฝึกวิทยายุทธเพื่อตามหาแม่ทัพอัน ไม่มีใครรู้เรื่องพ่อ กับลูกสาวฝึกเพลงกระบี่ไร้ใจอยู่ข้างใน แม้แต่พ่อบ้าน ยังคิดว่าพ่อและลูกสาวที่คุยกันอยู่ข้างใน

สองชั่วโมงผ่านไป อันหลิงหยุนถึงออกมาจากข้างใน สั่งให้คนไปเตรียมถังไม้และเทน้ำอุ่นลงไป อันหลิงหยุน สั่งให้คนลงไปโรยสมุนไพรและนางลงไปแช่น้ำ
ร่างกายของร่างเดิมนั้นอ่อนแอเกินไป แม้ว่าจะมีระบบ ยาชีวภาพที่มาช่วยรักษา แต่มันก็ยังคงแย่อยู่มาก เพื่อ ฝึกฝนวิชาปกป้องตัวเอง อันหลิงหยุนจักต้องคิดหาวิธี ด้วยตัวเอง

หลังจากแช่ตัวออกมา อันหลิงหยุนก็ไปศึกษาปรุงยา ในตอนกลางคืน เข้าไปในห้องทดลองที่ซอมซ่อมาก ที่สุด อันหลิงหยุนได้หยิบผงในเม็ดยาที่ฮ่องเต้ชิงหยู่ส่ง กลับมา ออกมาเพียงเล็กน้อย เพื่อเอามาศึกษา

ระบบชีวภาพในร่างกายของนางจะเตือนโดย อัตโนมัติเมื่อทุกครั้งที่นางพบกับอันตรายที่มองไม่เห็น และคลื่นสมองของนางจะสร้างข้อความเพื่อสื่อถึงนาง สิ่งต่างๆ ที่อยู่ด้านหน้าของนางเป็นสิ่งอันตราย ถึงแม้ว่า มันจะไม่เตือนให้คุณรู้ถึงอันตรายที่เฉพาะเจาะจง แต่ มันก็มีบทบาทที่แจ้งเตือน

ตอนที่กงชิงวี่ส่งยากลับมานั้นนางก็ได้รับรู้ถึงมันแล้ว

วางยาไว้ในภาชนะพิเศษและอันหลิงหยุนเริ่มสังเกต จริงอย่างคาดคิดว่าข้างในมีพิษอยู่ อันหลิงหยุนเจอแมว ตัวก่อนหน้านี้ และให้แมวดื่มน้ำนั้น ตอนแรกแมวยังไม่ เป็นอะไร สักพักแมวก็เริ่มละเหี่ย เดินก็เหมือนจะหลับ แล้ว

อันหลิงหยุนนำขนมอบที่หยิบออกมาจากวังของกงชิง วี่ วางมันลงเพื่อศึกษาต่อ แต่ก็ไม่มีปัญหา

อันหลิงหยุนค่อนข้างงงว่า ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้ดีว่าร่างกายของนางสามารถล้างพิษเองได้ ทำไมยังต้องวางยาพิษ อีก และในเมื่อเขาต้องการส่งยาให้กงชิงวี่ แต่กลับไม่ ทําร้ายเขา เป็นเพราะอะไรกันแน่?

นอกจากว่าฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรต่อกง ชิงวี่ ทุกอย่างเป็นเพียงเพื่อให้คนอื่นได้เห็น

ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ คำที่ไห่กงกงบอกไว้ก็มีความ หมายเดียวกัน นั่นก็คือการไม่ทําอะไรเลย

ในใจของอันหลิงหยุนเรื่องทุกอย่างได้ชัดเจนขึ้น แต่ นางกลับรู้สึกว่าเรื่องของคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับนางและ นางบอพักดีกว่า

ในวันถัดไป อันหลิงหยุนไปที่พระราชวังตามปกติ ยัง คงรออยู่ข้างนอกพระตำหนักจรุงจิตครึ่งชั่วโมงเหมือน เดิม อากาศหนาวเย็น คนที่มาจากข้างนอกดูออกว่า อันหลิงหยุนหนาวมาก แต่อันที่จริงนางเตรียมการ มาดีแล้ว เมื่อนางตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ทาขี้ผึ้งเย็น ทั่ว ร่างกาย

นานกว่านี้ไม่ได้ แต่ครึ่งชั่วโมงก็เกินพอ

ฮ่องเต้ชิงหยู่อัญเชิญอันหลิงหยุนเข้ามา อันหลิงหยุ นยังคงนำยามาตามปกติ ฮ่องเต้ชิงหยู่พอสังเกตุเสร็จ แล้ว และถามว่า “อ๋องเสียนเป็นอย่างไรบ้าง”

อันหลิงหยุนรู้อยู่ในใจ สุดท้ายก็ทนไม่ไหวแล้ว
อ๋องเสียนไม่ได้รับความสนใจจากฮ่องเต้ และทุก คนในวังกลัวที่จะเกี่ยวข้องกัน ก็มีเพียงนางเท่านั้นที่ สามารถเข้ามาใกล้ได้บ้าง ส่วนฮองเฮาเป็นยังไงบ้างอัน หลิงหยุนก็ไม่ทราบ แต่มองสถานการณ์ปัจจุบัน ในใจ ของฮ่องเต้นั้นชัดเจนมาก

“รายงานฮ่องเต้ อ๋องเสียนต้องพักผ่อนเป็นเวลาสาม เดือนและจะใช้เวลาครึ่งปีถึงจะหายดี ก็ถือว่ายังดี”

ถ้าหากไม่คิดจะทำอะไรต่อนางอย่างนั้น

อันหลิงหยุนนิ่งสงบ ไม่มีความกระสับกระส่ายอะไร มากมาย ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็รู้สึกว่าอันหลิงหยุนไม่เหมือน อย่างที่คนนอกเขาพูดกันว่า นางเป็นคนโปรดปราน ของคนชั้นสูง ก็กลายเป็นคนหยิ่งยโส โอหังอวดดีและ กำเริบเสิบสาน

“ทิ้งยาเอาไว้ แล้วข้าจะเสวยอย่างดีๆ ส่วนอ๋องเสียน วันนี้นางจะต้องกลับไปดูแลเขา”

อันหลิงหยุนพูดด้วยความเคารพว่า “หม่อมฉันยังมีอีก เรื่องหนึ่ง”

“เรื่องอะไรกัน? ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่อ่อนเพลีย กี่วันมานี้ไม่เคยได้อยู่อย่าง สงบเลย มีหนังสือฟ้องร้องจำนวนมากจนนับไม่ถ้วนที่ อยู่ข้างล่าง และเขาตรวจไม่ทัน
“หม่อมฉันยังคงต้องการหย่า”

สีหน้าของฮ่องเต้ชิงหยู่อึมครึมขึ้นทันที และตรัสว่า “เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบ ข้ามีแผนของข้า กลับไปเถอะ ไป ดูแลอ๋องเสียนหน่อย”

อันหลิงหยุน ได้แต่บอกลาและถอยกลับไป และไปที่ วิหารบรรทมรอง

ถางเหอมองเห็นอันหลิงหยุนและรีบทักทายว่า “ท่าน พระชายา”

“ข้ามาตามคำสั่ง”

ถางเหอก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ไปส่งอันหลิงหยุนเข้าไป และยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก

อันหลิงหยุนเข้าไปเยี่ยมกงชิง ในวันนี้กงชิงดูแข็ง แรงขึ้น เขาได้เห็นอันหลิงหยุนก็ยังคงใจร้อนมากและ ตรัสว่า “ข้าได้ยินมาว่านางร้องไห้โวยวายกับฮ่องเต้เมื่อ วานนรี”

กงชิงวถามอย่างนี้ อันหลิงหยุนก็รู้สึกว่าแปลกใจ เวลาผ่านไปนานมากถึงถามว่า “ใครบอก?”

“ทุกคนในวังรู้หมด ยังต้องมีคนมาบอกอีก”

กงชิงวี่ชักสีหน้าเย็นชาและส่งเสียงไม่พอใจ หลับตา แล้วถอนหายใจ แท้ที่สุดแล้วก็ยังรู้สึกผิดหวังมากอยู่ดี
อันหลิงหยุนยังคงนิ่งสงบ เหมือนกับว่าฮ่องเต้ได้มีคำ สั่งออกมา แต่ในเมื่อนางได้รับความโปรดปรานมากจน หยิ่งยโส มองไม่เห็นคนอื่น อวดดีและกำเริบเสืบสาน ฮ่องเต้เพื่อเห็นแก่หน้าแม่ทัพอัน ก็เลยปล่อยกงชิงวี่ไป

เรื่องนี้ฮ่องเต้ชิงหยู่จัดการได้ดีจริงๆ

หลังจากตรวจสอบอาการบาดเจ็บของกงชิงวี่ แผล เขาตกสะเก็ดเกือบทั้งหมด อันหลิงหยุนถึงจะลุกขึ้นมา

“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเดินออกไป หาคนมาหามออกไป ดีกว่า ฮ่องเต้บอกว่าเราจากไปได้แล้ว” หลังจากนั้นอัน หลิงหยุนก็หันไปเดินไปที่หน้าประตูวิหารบรรทมรอง เพื่อรอออกไป

กงชิงวี่สั่งคนให้เข้ามาจัดระเบียบสิ่งของต่าง ๆ นำ ของติดตัวไว้ และก็มีคนเข้ามาหามกงชิงวี่ออกจากวัง และกลับไปที่จวน

อันหลิงหยุนนั่งรถม้าของตนเอง แม้ว่ารถม้าของจวน แม่ทัพแห่งนี้จะไม่งดงามเหมือนวังของอ๋องเสียน แต่ก็ ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าคนทั่วไป

อันหลิงหยุนออกมาก็ขึ้นไปบนรถม้า ถางเหอรู้สึก แปลกใจ ในอดีตพระชายาชอบตามอ๋องเสียน แต่ตอนนี้ มีแต่การหลบหลีกงด้วยความกลัวอยู่เสมอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ