ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 176 นิสัยที่แก้ไม่ได้ของจุนฉูฉู



บทที่ 176 นิสัยที่แก้ไม่ได้ของจุนฉูฉู

อันหลิงหยุนพบว่านางเองนั้นสำรวจไม่รอบคอบเท่าไร จึงไม่ได้ไปจากที่นั่น จากนั้นก็หลับตาลงเพื่อสงบความ วุ่นวายเอาไว้ จากนั้นก็ได้สำรวจอีกรอบพร้อมกับวิชา แพทย์ที่นางมี เพื่อเริ่มที่จะหาร่างของฮ่องเต้ชิงหยู่

ลมที่พัดขึ้นอย่างดูอบอุ่น ทำให้ฮ่องเต้ชิงหยู่เองมองเห็น ใบหน้าของอันหลิงหยุน จากนั้นจึงไตร่ตรองดู

เมื่อพอลืมตาขึ้นอันหลิงหยุนก็เห็นฮ่องเต้ชิงหยู่ จากนั้น ก็ค่อย ๆ ปล่อยมือของฮ่องเต้ชิงหยู่ลง แล้วก็คุกเข่าลงที่ พื้น พลางเอ่ยขึ้นว่า

“หม่อมฉันไร้ความสามารถ ฝ่าบาทลงโทษได้แล้วแต่ เห็นสมควรเพคะ”

อันหลิงหยุนดูมีท่าทีตื่นเต้น จากนั้นฮ่องเต้ชิงหยู่ก็เดิน ไปอีกฝั่ง พระพักตร์หันไปมองยังพระตำหนักจรุงจิต แล้ว ตรัสออกไปว่า “ข้าทราบ ว่าเจ้าเองนั้นดูออก พูดมาเถอะ”

ฝ่ามือของอันหลิงหยุนเองมีเหงื่อไหลออกมา “ฝ่าบาท โดนพิษเข้าแล้วเพคะ”

“ที่จริงแล้ว นี่มัน……..

ฮ่องเต้ชิงหยู่จับมือดึงขึ้นมา “ลุกขึ้นเถอะ”

พออันหลังหยุนลุกขึ้น แล้วก็มองไปยังองค์ฮ่องเต้ที่ยืน หันหลังให้ด้วยความสงสัย
สรุปว่าใครเป็นคนลงมือวางยาพิษ

เมื่อลมพัดผ่านมายิ่งสัมผัสได้ถึงความอุ่น ฮ่องเต้ชิงหยู่ ก็ได้หันกลับมา “ข้าอยากจะรอดูจนกว่าเด็กจะคลอดออก มา”

“หม่อมฉันจะช่วยฝ่าบาทถอนพิษให้ถึงที่สุดเพคะ” อัน หลิงหยุนไม่ทราบเพราะด้วยเหตุอันใด แต่นางอยากจะให้ ฮ่องเต้ชิงหยู่นั้นมีชีวิตอยู่ต่อไป

“อืม” ฮ่องเต้ชิงหยู่ตอบ แล้วถามขึ้นอีกว่า “มีวิธีใดที่จะ หาว่าเป็นพิษชนิดใดหรือไม่”

“หม่อมฉันยังหาไม่ได้เพคะ นี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่หม่อมฉันหาไม่ได้ หม่อมฉันช่างไร้ความสามารถเสีย จริง” อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรก ที่หาชนิดของพิษนี้ไม่ได้ ตั้งแต่มาที่นี่

“ไม่ใช่เจ้าไร้ความสามารถหรือก แต่คนที่วางยาพิษนั้น มันเก่ง กลับไปแล้วค่อยหาวิธีต่อ ข้ารอเจ้าได้”

“ฝ่าบาท พระองค์สามารถเอาพระโลหิตของพระองค์ให้ หม่อมฉันหน่อยได้หรือไม่เพคะ” อันหลิงหยุนถามขึ้นด้วย ความก้าวร้าว

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยื่นมือให้แก่อันหลิงหยุนอย่างไม่ลังเล

จากนั้นอันหลิงหยุนจึงรีบนำขวดขนาดเล็กที่ติดตัวมา ด้วยออกมา แล้วหยิบเข็มออกมาหนึ่งแท่ง และก็ทิ่มลงไป ยังนิ้วชี้ของฮ่องเต้ชิงหยู่ แล้วเลือดก็ไหลลงยังขวด จากนั้นอันหลิงหยุนก็บีบที่นิ้วของฮ่องเต้ชิงหยู่เบา ๆ แล้วจึง ใช้ผงยาห้ามเลือดทาตามลงไปด้วย

หากเป็นคนอื่นเห็นเข้าคงจะรู้สึกแปลก ที่ไม่ทราบว่า พวกเขากำลังทำอันใดกันอยู่

เมื่ออันหลิงหยุนเก็บเลือดได้แล้ว “ฝ่าบาท หม่อมฉัน อีกสามวันจะเข้าวัง หากว่าหาไม่ได้ว่าพิษนี้มันคืออันใด เดี๋ยวหม่อมฉันจะถวายยาแก้บรรยาเทาพิษนะเพคะ”

“อืม”

ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงเดินกลับไปยังพระตำหนักจรุงจิต แล้ว อันหลิงหยุนก็เดินตามเขาไป

“ห้ามบอกอ๋องเสียนนะ เดี๋ยวเขาจะตกใจและทำเรื่อง เล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่” ฮ่องเต้ชิงหยู่กำชับ

“หม่อมฉันมีเรื่องอยากจะทูลถามฝ่าบาทอีกเพคะ”

“ว่ามา”

“ฝ่าบาทเชื่อใจอ๋องเสียนหรือไม่เพคะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ราวกับทราบว่าอันหลิงหยุนจะถาม จากนั้น เลยตอบออกไปอย่างนิ่ง ๆ “นอกจากแม่ทัพอันแล้ว ข้า เชื่อใจอยู่สองคนและหนึ่งในนั้นคืออ๋องเสียน

อันหลิงหยุนยังคงสงสัย แล้วถามขึ้นอีกว่า “แล้วอีกคน ที่เหลือเป็นใครเพคะ”
“แล้วเจ้าคิดว่าเป็นผู้ใดล่ะ”

อันหลิงหยุนยังดูมีท่าทีที่ไม่เข้าใจกับคำถามที่ฮ่องเต้ชิง หยู่ถามกลับกับนาง

หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ คนที่หวังดีกับพระองค์ออกจะ

เยอะ หม่อมฉันเดาไม่ออกจริง ๆ เพคะ

“คิดดี ๆ

อันหลิงหยุนคิดว่า “คงไม่ใช่หม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ”

“เจ้าประเมินตัวเจ้าสูงไปแล้ว” ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดอย่างไม่ รักษาน้ำใจอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนดูผิดหวัง “หม่อมฉันเองก็ไม่คิดว่าเป็นหม่อม ฉันเพคะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่หัวเราะอย่างสะใจ “ทราบอย่างนี้ก็ดีแล้ว”

อันหลิงหยุนตามกลับไปยังพระตำหนักจรุงจิต เมื่อเข้า ประตูก็มองเห็นอ๋องตวน จากนั้นก็มองไปยังฮ่องเต้ชิวหมู่ ที่กำลังนั่งลงกับพระที่นั่ง

“ข้าเพิ่งมีราชโองการ ให้พระชายาเสียนเป็นคนรักษา พระชายาตวน อ๋องตวนเจ้าเองก็ไม่ต้องห่วงหรือก กลับ ไปเถอะ”

“พะยะคะ”
เมื่ออ๋องตวน ทูลลาเสร็จ จากนั้นก็ได้กลับไป ในเวลานี้ อันหลิงหยุนแทบไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องของพระชายาต วน แล้ว ได้แต่มองยังฮ่องเต้ชิวหยู่ แล้วจากนั้นก็ทูลขอตัว ลากลับด้วยเช่นกัน

เมื่อกลับจากพระตำหนักจรุงจิตแล้ว อันหลิงหยุนก็ได้ ไปหาหวางฮองไทเฮาเพื่อน้อมทักท้าย และเลี่ยงที่ไม่ ได้ที่จะกล่าวถึงเรื่องของพระชายาตวน หวางฮองไทเฮา ตรัสขึ้นต่อนางว่า “ในเมื่อเป็นภรรยาในพี่น้องเดียวกัน สถานะใดที่ควรได้ก็ย่อมต้องให้เป็นธรรมดา”

“หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ”

“เมื่อทราบแล้วก็ดี

อันหลิงหยุนคุยกับหวางฮวงไทเฮาอยู่สักพัก เมื่อถาม สารทุกข์สุกดิบเสร็จก็ขอตัวทูลลา

เตรียมขึ้นรถมม้าเพื่อออกจากวัง และก็เห็นกับรถม้าขอ งอ๋องตวน ที่จอดรออยู่ฝั่งตรงข้าม

เมื่อคนขับรถม้าของจวนอ๋องตวน มาถึง ก็ทำความ เคารพแล้วพูดขึ้นว่า “อ๋องตวน เชิญพระชายาเสียนไปยัง จวน เพื่อทำการรักษาพระชายาตวน”

“ข้าขอกลับจวนเพื่อไปเอายาก่อน รบกวนอ๋องตวน กลับไปก่อน เดี๋ยวข้าจะตามไปทีหลัง”

เมื่ออันหลิงหยุนพูดจบ อาหยู่เลยรีบขับรถม้าพาอ้วน หลิงหยุนกลับไป
พอกลับไปถึงยังจวนอ๋องเสียนพบว่ากงชิงวี่นั้น ยังไม่ได้ กลับมา อันหลิงหยุนเลยฝากความไว้ จากนั้นก็เก็บกล่อง ยาไปยังจวนอ่องตวน

เมื่อลงจากรถม้าก็จะเห็นอ๋องตวน ที่ยืนรออันหลิงหยุนที่ หน้าประตู

เมื่อลงจากรถม้าแล้ว อันหลิงหยุนก็เดินเข้าไปหาอ๋องต วน อาหยู่ก็ถือกล่องยาแล้วเดินตามเข้าไป

ลุ่ยหลิ่วเองก็อยู่ด้วย

เมื่อเห็นอ๋องตวน อาหยู่ก็ก้มหน้าให้ ลุ่ยหลิ่วเองก็ปัด ชายเสื้อผ้า แล้วพูดขึ้นว่า “เคารพอ๋องตวนเจ้าคะ”

อันหลิงหยุนเองดูไม่สนใจอ๋องตวน และก็ไม่มีความ เกรงใจด้วย

“ไปกันเถอะ ข้ายังมีธุระต่อ”

จากนั้นอ๋องตวน ก็ผายมือ แล้วพูด “เชิญ”

อันหลิงหยุนมองที่อ๋องตวน จากนั้นก็เดินเข้าไปในจวน อ๋องตวน

เมื่อเข้าประตูไป อันหลิงหยุนก็ได้เดินไปตามระเบียง ของทางเดิน และเดินผ่านลานด้านหน้า แล้วมาถึงยัง ตำหนักฉู่ชวนซึ่งเป็นที่พักของจุนฉูฉู

ในเวลานี้จุนฉูฉูรู้สึกเจ็บปวดจนแสวยที่จะทนได้แล้วอันหลิงหยุนยังไม่ได้เข้าไปในห้องนอนของนาง ก็ได้ยิน เสียงของนางที่กำลังด่าคนรับใช้แล้ว

หงชุนได้สิ้นตระกูลไปแล้ว คนรับที่ใช้อยู่ข้างกายก็ย่อม

จะเป็นคนอื่น

อันหลิงหยุนยืนอยู่ตรงหน้าประตูพักหนึ่ง และมองไป เห็นกงชิงหยินโดยบังเอิญ “ความชอบของอ๋องตวนช่าง ไม่เหมือนชาวบ้านเสียจริง”

เมื่อพูดเสร็จอันหลิงหยุนก็เดินเข้าไปในห้อง

พออันหลิงหยุนเข้าไปก็เห็นกับภาพที่ จุนฉูฉูนั้นปาถ้วย ชาใส่หัวของสาวคนรับใช้ที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น

สาวรับใช้คนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะขยับ เลือดก็ไหลออก จากหน้าผาก

อันหลิงหยุนยืนที่หน้าประตูแล้วเห็น ที่พื้นมีคนสามคน ที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ และทั้งสามคนนั้นดูเหมือนว่าจะมี บาดแผลที่เกิดจากการทำร้ายทั่วทั้งตัว และมุมห้องยังมี สาวรับใช้อีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่

สีหน้าของสาวรับใช้ดูปกติ ราวกับว่าเรื่องอย่างนี้มันเกิด เป็นปกติ

จุนฉูฉูเมื่อเห็นอันหลิงหยุนไม่เพียงไม่ตกใจ แต่ยังพูดต่อ อีกว่า “งานการที่สั่งยังทำไม่ดี ยังไม่ลุกขึ้นแล้วรีบออกไป อีก”
สาวใช้ที่นั่งคุกเข่าอยู่รีบพากันลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อ เห็นอ๋องตวนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ อ๋อง ตวนมองพวกนางแต่ก็ไม่ได้พูดอันใด

เมื่ออันหลิงหยุนมองจุนฉูฉู่แล้ว จึงพูดกับอาหยู่ว่า วาง กระเป๋ายาเอาไว้ แล้วออกไปก่อน

อาหยู่ได้ยินดังนั้น จึงได้ว่างกล่องยาลงแล้วออกไป ใน ห้องมีแค่ลุ่ยหลิ่วที่อยู่เป็นเพื่อน และในเวลานี้อ๋องตวน ก็ได้เข้ามา

เมื่อจุนฉูฉูเห็นอ๋องตวน ก็รีบร้องเรียกทันที “ท่านอ๋อง”

จากนั้นอ๋องตวนก็เดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ จุนฉูฉู กุมมือนาง ไว้ “ข้ามาช้าไปหน่อย แต่ว่าฝ่าบาทได้มีคำสั่งแล้วว่า ให้ พระชายาเสียนรักษาให้กับฉูฉู”

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง” จุนฉูฉูมีสีหน้าที่ประทับใจจน แทบจะร้องไห้ออกมา

อันหลิงหยุนทำเหมือนว่ามองไม่เห็น นางเองก็ยังมีธุระที่ ต้องกลับไป

ในขณะที่อันหลิงหยุนนั่งอยู่นั้น ก็ได้พูดขึ้นว่า “พระชา ยาตวนส่งมือมาให้ข้า

จุนฉูฉูดูมีสีหน้าที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร จึงพูดขึ้นว่า “พระ ชายาเสียน ท่านเองก็ทราบว่าข้านั้นมีบาดแผลที่ก้น แล้ว ทำไมท่านยังจะตรวจชีพจรล่ะ น่าจะทำความสะอาดแผล ให้ข้า แล้วก็ทายาให้สิถึงจะถูก”
อันหลิงหยุนขมวดคิ้วแล้วมองไปยังก้นของนาง จะพูด สุภาพขนาดนี้ทำไมกัน

อันหลิงหยุนอดไม่ได้ เลยพูดขึ้นว่า “พระชายาตวน หากท่านรักษาตัวเองได้ อย่างนั้นข้าก็คงต้องไปแล้ว ท่าน รักษาตัวเองเถอะ”

อันหลิงหยุนคิดขึ้นได้ จุนฉูฉูเองก็ไม่ค่อยจะเป็นมิตรต่อ นางสักเท่าไร “พระชายาเสียน ท่านได้รับคำสั่งมารักษา ข้า ท่านจะทำลวก ๆ อย่างไม่ได้ เดียวคนอื่นจะครหาฝ่า บาทได้”

“พระชายาตวน ข้าไม่ใช่ว่าไม่รักษาท่าน แต่ท่าน สามารถรักษาตัวเองได้ จะยังต้องการข้าทำไม” อันหลิง หยุนพยายามที่จะไม่โกรธ จึงได้ลุกขึ้น แต่กลับโดนอ๋องต วนขวางไว้

“พระชายาเสียน สุขภาพของฉูฉูไม่ค่อยดีนัก บางครั้งก็ มีอาการโกรธง่าย ขอพระชายาเสียนอย่าได้ถือสาเลย” อ๋องตวนลุกขึ้นแล้วพูด เมื่ออันหลิงหยุนเดินไปถึงหน้า ประตูก็ได้หันกลับมามองที่อ๋องตวน แล้วก็ได้เดินกลับ มายังที่เดิม

หลังจากที่อันหลิงหยุนนั่งลง ก็ยังพูดประโยคเดิม “ยื่น มือให้ข้า”

จุนฉูฉูไม่ยอม “พระชายาเสียน ท่านมาเพราะคำสั่งของ ฝ่าบาท”

“แล้วกระไรหรือ ฝ่าบาทมีคำสั่งให้ข้ารักษาพระชายาตวน ไม่ใช่ดูก้นที่น่าเกลียดนั่น”

“เจ้า….” จนฉูฉูรู้สึกโกรธจนควันออกหู

อันหลิงหยุนชะเง้อมองไป “หากท่านไม่ให้ดูข้าขอตัว กลับก่อน ไม่มีเวลาที่จะมาทำเรื่องไร้สาระที่นี่”

“ข้าจะเข้าเฝ้าฝ่าบาท” จุนฉูฉูโกรธจนแทบจะร้องไห้

อันหลิงหยุนเองก็ไม่ไว้หน้า “ตามใจ อยากจะไปหาใคร ก็ไปเลย”

‘จุนฉูฉูได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโกรธสีหน้าบึ้งตึง ตาโต ลุกโพลง

อ๋องตวนนั่งลงแล้วดึงจุนฉูฉูกลับมาด้วย “เชิญพระชายา เสียน”

อันหลิงหยุนจึงได้กดมือของจุนฉูฉู่เพื่อดูอาการให้แก่

นาง

พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง พบว่าไม่มีปัญหาใหญ่ใด

ร่างกานอ่อนแอไปหน่อยและมีอารมณ์โกรธง่ายบ่อย

อันหลิงหยุนลุกขึ้นไปเปิดกล่องยา จากนั้นก็หยิบขวด เล็ก ๆ สองสามขวดให้แก่อ๋องตวน “ในนี้คือ ยาทาเพื่อ ห้ามเลือดและผงยาสมานแผล เพราะว่าเวลาผ่านไปนาน แล้ว ข้าเองก็ไม่กล้ารับประกันว่าหากแผลหายแล้วจะมี รอยแผลเป็นหรือไม่”
สำหรับการล้างแผลนั้น นี่คือยาน้ำสองขวด หากเมื่อ ท่านล้างให้นาง นางจะมีอาการแสบเล็กน้อย เพราะมันยา ฆ่าเชื้อ และก็จะมีฝองขาว ๆ ผุดขึ้นมา เจ้าผ่องนี้บางครั้ง อาจจะเป็นสีดำเพราะมันเป็นรอยเลือดเก่า เมื่อฝองกลาย เป็นสีขาว หรือหนังเป็นสีขาวก็แสดงว่าไม่มีอันใดแล้ว จากนั้นใช้ผ้าฝ้ายสีเหลืองอันนี้ซับให้แห้ง แล้วค่อยเทผง ยาตามลงไป

ภายในสามวันนี้อย่าขยับมาก ใช้ผ้าสีขาวปิดแผลเอาไว้ และผ้านั้นก็ต้องเป็นผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

ผ้าห่มหนาแสวยไปก็ไม่ได้ เรื่องในเรือนนอนพวกเจ้า ดูแลกันเองเถอะ

ยาเสวยนั้นข้าไม่ได้เตรียมเอาไว้ แต่การฉีดยานั้นมัน สำคัญ ก็คืออันนี้

อันหลิงหยุนก็ได้หยิบไซริงค์ฉีดยาออกมา หัวเข็มที่ดูน่า

กลัวปรากฏต่อหน้าของอ๋องตวน

จุนฉูฉูรีบพูดขึ้นทันใด “อันหลิงหยุน เจ้าจะทำร้ายข้า หรือ”

อันหลิงหยุนเบื่อที่จะสนใจจุนฉูฉู “อ๋องตวน รายละเอียด ข้าก็ได้พูดไปหมดแล้ว จะฉีดยาหรือไม่ฉีดนั้นอยู่ที่พวก เจ้าตัดสินใจแล้วล่ะ”

“พวกข้า ……

อ๋องตวนไม่ได้พูดอันใด แต่จุนฉูฉูพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องท่านไม่ห่วงข้าจริง ๆ แล้วใช่หรือไม่”

อ่องตวนเองก็หมดหนทาง ฉูฉูแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก เมื่อก่อนนางเป็นคนจิตใจดี แต่ครั้งนี้หลังจากที่กลับมา จากต้าจงเจิ้งย่วน(คาสในวัง)ก็ดูมีอารมณ์รุนแรงมากขึ้น เรื่อย ๆ ไม่เพียงแต่เท่านั้น ในทุก ๆ วันต่างก็ปฏิบัติไม่ดีกับ สาวรับใช้ นี่ขนาดนางสุขภาพไม่ดี ก็ยังเป็นได้ถึงเพียงนี้

แต่ตอนนี้มีพระชายาเสียนมารักษาอาการให้นางที่จวน นางกลับกลั่นแกล้งอย่างนี้

ถ้าหากวันนี้ไม่ใช่พระชายาเสียนล่ะก็ นางก็คงไม่ให้ ความร่วมมือหรือก

อ๋องตวนเองก็หมดหนทาง เลยถามขึ้นหนึ่งประโยค “พระชายาเสียน นี่คืออันใด”

“นี่คือไซริงค์ ข้างในบรรจุยาแก้อักเสบเอาไว้ หากฉีดยา อาการจะดีขึ้นเร็ว แต่การฉีดยานั้นมันจะปวดอยู่บ้าง แต่ หากว่าไม่ฉีดยา และใช้ยาผงของข้าไม่กี่วันก็ดีขึ้นได้ เหมือนกัน”

อ๋องตวนดูมีทีท่าลังเล “ฉูฉู……

“ท่านอ๋อง ข้าไม่ยอมหรือก” จุนฉูฉูส่ายหน้า จากนั้น น้ำตาก็ไหลแล้วก็มองไปยังที่อื่น แต่ดูเหมือนจะน้อยใจ เป็นอย่างมาก

อันหลิงหยุนเองก็ไม่สนอันใด เก็บไซริงค์ แล้วลุ่ยหลิ่วก็ ยกกล่องยาขึ้น แล้วรีบเดินตามอันหลิงหยุนออกประตูไป
พอถึงข้างนอกของประตูแล้วอาหยู่ก็ได้รับกล่องยาไป อันหลิงหยุนกลับอย่างไม่หันกลับไปมอง

เมื่อขึ้นยังรถม้าแล้วลุ่ยหลิ่วพูดขึ้นว่า “พระชายา พระ ชายาตวนน่ากลัวเสียจริง เมื่อก่อนได้ยินมาว่าพระชายา วนจะแต่งกันกับอ๋องเสียนของพวกเรา แต่ตอนนี้กลับคิด ว่ามันช่างดีต่อพวกเราจริง ๆ คนรับใช้เหล่านั้นทั่วทั้งตัว ต่างก็มีแต่บาดแผล อ๋องตวนเองทำกับว่ามองไม่เห็นอยู่ ได้”

อันหลิงหยุนเองก็ไม่ได้คิดอันใด นางนั่งเอนตัวพิงในรถ รถม้า ตาหรี่ลง ๆ แล้วกลับไปยังจวนอ๋องเสียน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ