ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 88 เรื่องการปรนนิบัติรับใช้



บทที่ 88 เรื่องการปรนนิบัติรับใช้

ฮ่องเต้ชิงหยู่ไขว้มือไว้ด้านหลังเดินไปมาอยู่ข้างบน สีหน้า แ

กำลังจะพูดบางอย่าง จุนฉูฉูก็ตื่นขึ้น มองไปยังอัน หลิงหยุน จุนฉูฉูร้องไห้ถาม: “พระชายาเสียน ทำไมเจ้า ถึงพูดความผิดถูกกลับกันเช่นนี้ เจ้าให้คนไปปิดประตู แท้ๆ แล้วหยิบมีดออกมา ข้าถามเจ้าว่าทำไมต้องให้คน ออกไป มีดมาจากที่ใด เจ้าบอกกับข้าว่าจะฆ่าข้า เพราะ ว่าเจ้าเกลียดข้า ยังพูดอีกว่า……”

จุนฉูฉูกัดริมฝีปาก ใบหน้าซีดเซียวอับอายอย่างน่า อึดอัดใจ

“เจ้าบอกว่าเจ้าเกลียดที่ข้าเป็นคนในใจของท่านพี่วี่ เจ้าบอกว่าเพราะข้าท่านพี่วี่ไม่ยอมรับในตัวเจ้า ไม่เข้า หอกับเจ้า เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร?”

ทันใดนั้นจุนฉูฉูก็ร้องไห้ไม่หยุด อ๋องตวนได้ยินเข้า หัวใจก็ลุกเป็นไฟ จ้องมองอันหลิงหยุนอย่างโมโห: “ข้า ว่าอยู่แล้วต้องเป็นฝีมือเจ้า เป็นถึงพระชายาเสียนเจ้า กลับมีจิตใจคับแคบเช่นนี้ น้องสามแต่งงานกับเจ้าได้ อย่างไร ช่างน่าละอายต่อราชวงศ์”

อันหลิงหยุนตะลึงอ้าปากค้าง จุนฉูฉูไม่ธรรมดาจริงๆ ความสามารถในการย้อนเล่นงานฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร ไปไม่ได้เลย
และอ๋องตวนที่โง่นี่อีก พูดจาอะไรเหลวไหล!

อันหลิงหยุนเหลือบมองกงชิงวี่ที่ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยนางหรือไม่

“อ๋องตวน ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม ข้า สาบานได้ ข้าขอสาบาน มีดไม่ใช่ของข้า มีดเล่มนั้นเป็น ของผู้ใด ผู้นั้นรู้ หากเป็นของข้า ขอให้ฟ้าลงโทษข้าให้ ทั้งตระกูลอันของข้าไม่ให้ตายดี ตาเจ้าแล้วพระชายาต วน เจ้าแค่สาบานว่ามีดเล่มนั้นไม่ใช่ของเจ้าก็พอ”

อันหลิงหยุนค่อยๆ ลุกขึ้น คุกเข่าอยู่กับพื้นมองจุนฉูฉู

จุนฉูฉูเม้มริมฝีปาก เงยหน้ามองอ๋องตวน: “อ๋องต วน.…….…….”

“ข้ารู้”

อ่องตวนกอดจุนฉูฉ: “อันหลิงหยุนข้ารู้ว่าพ่อเจ้าเป็น แม่ทัพ เจ้าอาละวาดในเมืองหลวงข้าก็รู้เช่นกัน แต่ข้าไม่ เชื่อหรอกนะ ที่นี่ไม่มีกฎหมายของราชวงศ์ศักดินา เจ้า ทำร้ายฉูฉู เจ้าย้อนเล่นงานฝ่ายตรงข้าม……

“ข้าสาบาน ข้าไม่ได้ทำร้ายนาง” อันหลิงหยุนพูดอย่ างเย็นชา

ฮ่องเต้ชิงหยู่ที่อยู่ด้านบนตอนนี้ดูเย็นชา ทันใดนั้น กล่าวว่า: “เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด ข้าไม่อยากได้ยินมัน อีก อ๋องตวน อ๋องเสียน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ปิดประตูเพื่อทบทวนความผิดของตัวเองเป็นเวลาสิบวัน กระทั่ง กุ้ยเฟยเข้าวังทำพิธีแต่งตั้งกุ้ยเฟยจนแล้วเสร็จ

พระชายาตวน พระชายาเสียน เจ้าสองคนทะเลาะกัน ในวัง เป็นความผิดมหันต์ ความผิดนี้ควรลดระดับให้ เป็นบุคคลทั่วไป ลงจากตำแหน่งพระชายา

แต่พิธีแต่ตั้งพระมเหสีกำลังจะมาถึงในไม่ช้า ข้าคิดว่า เจ้าทั้งยังเด็กและไม่รู้ ก็จะไม่ตัดพวกเจ้าออกในฐานะ พระชายา

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามก้าวออกจากประตูแม้แต่ ครึ่งก้าว ห้ามออกจากจวนอ๋อง

พิธีแต่ตั้งพระมเหสีเจ้าทั้งสองก็ห้ามเข้าร่วม

กระทั่งพิธีแต่ตั้งพระมเหสีเสร็จสิ้น เจ้าทั้งสองจึงจะ สามารถออกไปพบปะผู้คนได้

“ฮ่องเต้…” อองตวนต้องการจะพูดบางสิ่ง กงชิงวี่ ประสานมือเคารพกล่าว: “ข้ารับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

อันหลิงหยุนคุกเข่าคำนับทันที: “หม่อมรับพระบัญชา เพคะ”

อ่องตวนกอดจนฉูฉูด้วยความโกรธและต้องพูดว่า “ข้ารับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

“หม่อมรับพระบัญชาเพคะ”
จุนฉูฉูก็พูดเสียงเบา

ทั้งสี่ถวายบังคมลา อันหลิงหยุนและจุนฉูฉูถูกแยกอุ้ม ออกจากพระตำหนักจรุงจิต ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินไปที่เก้าอี้ มังกรและนั่งลงหลังจากพวกเขาไป

สวีกงกงรีบเดินไปปรนนิบัติรับใช้

“ตรวจสอบ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ฮ่องเต้ชิงหยู่ สีหน้าจริงจัง สวีกงกงมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ดีแน่ เห็น ด้วยและตรวจสอบทันที

ขณะนี้อันหลิงหยุนถูกอุ้มเข้าไปในรถม้า รถม้ากลับ ไปถึงจวนอ๋องเสียน อันหลิงหยุนรู้สึกกลุ้มใจหลังจาก เข้าประตู เป็นไงล่ะคราวนี้ สร้างปัญหาขนาดนี้ ออก จากประตูจวนไม่ได้ด้วยซ้ำ

“เปิดให้ข้าดู”

กงชิงวี่เข้าประตูและเอาเก้าอี้นั่งลง มือทั้งสองข้างกด ขาทั้งสอง

อันหลิงหยุนพูด: “ไม่เป็นไรเพคะ ไม่น่าจะเป็นอะไร แล้ว”

“เปิดออก ข้าดูแล้วถึงจะได้รู้ว่าเป็นอะไรหรือไม่” กง ชิงวี่ยืนยัน อันหลิงหยุนไม่สามารถลังเลอีกต่อไป เปิด แขนให้เขาดู
ดวงตากงชิงวี่นิ่ง เอื้อมมือออกไปแล้วลูบแขนที่ที่ขาว และบอบบางของอันหลิงหยุน หัวใจอันหลิงหยุนราวกับ ถูกกระตุ้น ร่างกายหด ใบหน้าแดงทันที

มือของกงชิงวี่ค่อยๆ จับ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของ อันหลิงหยุน

“เจ็บหรือ?”

กงชิงวี่ขบัยเข้าใกล้ กุมมืออันหลิงหยุน อันหลิงหยุน ส่ายหัว คิดว่าจะดึงมือกลับในตอนแรก แต่ความนุ่มนวล ของกงชิงวี่นั้นแข็งแกร่ง นางไม่สามารถขยับได้เลย

ขณะนี้อันหลิงหยุนจึงพบว่า มือของนางไม่มีเรี่ยวแรง เลย

“ท่านอ๋อง……”

“ข้าดูว่าจะทิ้งรอยแผลเป็นหรือไม่” มือของกงชิงวี่ลูบ แขนของอันหลิงหยุนอีกครั้ง บริเวณบาดแผลที่ถูกบาด ยังมีรอยแดง บาดแผลก่อนหน้านี้กงชิงวี่เคยเห็นมาก่อน แต่ตอนนี้ฟื้นตัวดีขึ้นมาแล้ว

อันหลิงหยุนเหลือบมอง: “น่าจะไม่เพคะ”

“เจ้าเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เด็กหรือ?” ร่องรอยความนุ่มนวล ภายใต้ปลายนิ้วเหนี่ยวนำความคิดของเขา กงชิงวี่เกิด ความสงสัยมากขึ้น
“ก็ไม่เพคะ หากข้าบอกว่าตอนที่ข้าทำการวิจัย ทำยา ชีวภาพชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย เกิดการเปลี่ยนแปลงใน ระบบร่างกายของมนุษย์ ท่านอ๋องเชื่อไหมเพคะ?” อัน หลิงหยุนก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จึงพูดได้เพียงเท่านี้

มือกงชิงวี่ลูบแขนอันหลิงหยุนเบาๆ ขณะนี้อันหลิงหยุ นจึงพบว่า นางเปลือยครึ่งไหล่ ชายคนหนึ่งกำลังไม่ให้ เกียรตินาง

นางควรจะตีเขาให้ตายด้วยไม้ แต่ทำไมจิตใจ แปรปรวน ทำไม่ลง

“หากว่าข้าเชื่อล่ะ?” แม้ไม่รู้ว่านางพูดอะไร แต่ดูออก ว่านางไม่ได้โกหกเขา

อันหลิงหยุนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ: “เชื่อไปแล้วก็คือ เชื่อ”

“อืม ข้าอยากจะถาม หากข้าเชื่อแล้ว พระชายาจะมี อะไรให้ข้า?”

มือของกงชิงวี่ยังลูบแขนอยู่ อันหลิงหยุนใช้มืออีก ข้างหยุดมือที่อยู่ไม่สุขของเขา ผลักออกสวมใส่เสื้อให้ เรียบร้อย

“ไม่มีอะไรจะให้เพคะ ท่านอ๋องไม่ได้ขาดสนอะไร” อันหลิงหยุนรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไร้สาระมาก เชื่อแล้วยัง ต้องการอะไรอีก
“พระชายา ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว แล้วเรื่องที่ต้อง ปรนนิบัติรับใช้ข้า รู้บ้างหรือยัง?” กงชิงวี่ถามไถ่

อันหลิงหยุนตั้งตัวไม่ทัน: “สวมใส่สื้อผ้ากินข้าว?”

“นี่เป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูกหลานใน อนาคตของข้า พระชายาเป็นหรือไม่?” กงชิงวี่ดูสงบ และผ่อนคลาย ใบหน้าไม่เคอะเขินไม่ใจเต้น

อันหลิงหยุนเงียบอยู่นาน: “ท่านอ๋อง ข้ายังไม่เข้าใจ รอให้ข้าพ้นจากการต้องห้าม ข้ากลับไปถามท่านพ่อ แล้วค่อยคุยเรื่องนี้ดีกว่า”

“คงไม่จำเป็นแล้ว ทุกวันนี้ท่านแม่ทัพอันก็มีกิจบ้าน งานเมืองมากมาย ยุ่งวุ่นวาย ในช่วงได้ยินมาว่าไปเล่น หมากรุกกับฮ่องเต้อยู่เป็นครั้งคราวเพื่อคลายความเบื่อ หน่าย”

“ก็จริง……

อันหลิงหยุนทำตัวไม่ถูก ชายในยุคโบราณ เป็นแบบ นี้ทั้งนั้น เจอหญิงก็จ้องแต่จะแก้ผ้า แล้วอยากทำเรื่อง อย่างงั้น?

“พระชายา ข้าสามารถสอนเจ้าได้ ว่าอย่างไร?”

กงชิงวี่พยายาม มือไม่ใช่แค่ลูบอีกต่อไป แม้ว่าจะสวม ใส่เสื้อผ้าแล้ว แต่มือของเขายังคงวนอยู่บนแขนของอัน หลิงหยุน อันหลิงหยุนหน้าแดงจนแทบเลือดออก จิตใจว้าวุ่นไม่สิ้นสุด

“ท่านอ๋อง เรื่องเช่นนี้ ยังคงต้องเลือกเลิศยามที่ดี วัน นี้ท่านและข้าเกือบจะเกิดเรื่องในวัง ตอนนี้ถูกฮ่องเต้ รับสั่งห้ามออกจากจวน ยังต้องฝึกจิตบ่มนิสัย กลับใจ อย่างถี่ถ้วนถึงจะถูก

อันหลิงหยุนกำลังพูดอยู่ ปากก็ถูกปิด อันหลิงหยุน เบิกดวงตากลมโตทันที มองไปที่โครงร่างที่ขยายใหญ่ ขึ้นตรงหน้า

คนตรงหน้าจับแขนนางด้วยมือทั้งสองข้าง และกำลัง จูบนาง

แต่เหมือนว่าเป็นครั้งแรกของเขา เทคนิคการจูบนั้น เงอะงะมาก อยู่สองหรือสามครั้ง แล้วกัดนางจนตัวสั่น

กงชิง ถอยออก เสียงค่อย: “ข้าจะสอนเจ้าตอนนี้”

ทันใดนั้นกงชิงวี่ก็ตะครุบเข้าไป อันหลิงหยุนตั้งตัว ไม่ทันชั่วขณะ ก็ถูกพาไปบนเตียง นางจับไหล่ของกง ชิงวี่ด้วยมือของนางโดยไม่รู้ตัว ต้องการผลักกงชิง ออก ไม่อยาก..

เสื้อผ้าขาดกระจุย!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ