ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่18การทดสอบของฮองเฮา



บทที่18การทดสอบของฮองเฮา

อันหลิงหยุนกลับถึงจวนแม่ทัพ ก็เห็นแม่ทัพอันที่รอ อยู่หน้าประตู เพราะว่ารีบมากเกินไป กำลังเดินกลับไป กลับมาอยู่

อันหลิงหยุนก็เดินมาด้านหน้าของเขา “ท่านพ่อ”

“หยุนหยุน เจ้ากลับมาแล้ว หากยังไม่มา พ่อก็จะไปหา ลูกแล้ว”

แม่ทัพอันดึงแขนของอันหลิงหยุน สอบถามอย่าง ละเอียดว่าลูกสาวไม่เป็นอะไรแล้ว ถึงจะปล่อยมือ

อันหลิงหยุนขำแล้วขำอีก “ท่านพ่อ ลูกสาวไม่เป็น อะไรแล้ว กงชิงวี่ได้รับบ้านเจ็บ ข้าไปช่วยดูอาการของ เขา”

“หยุนหยุน เจ้ารู้เรื่องการแพทย์ รักษาผู้ป่วยเป็น ตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อวานฮ่องเต้เรียกพ่อเข้าไปในวัง เพื่อ ถามเรื่องนี้เป็นพิเศษ” แม่ทัพอันบอกลูกสาวไปโดยตรง

อันหลิงหยุนขมวดคิ้วแล้วพูด “ท่านพ่อ ท่านคุยกับ ฮ่องเต้ว่ากระไร?”

ที่จริงแล้วนางก็คิดไว้อยู่แล้วว่าฮ่องเต้ชิงหยู่จะต้อง

ถาม

แต่ว่าแบบนี้ก็ดี หากท่านพ่อไม่รู้อะไรเลย แบบนี้ถึงจะหลอกได้ต่อไป

แม่ทัพอันพูดต่อว่า “พ่อไม่รู้มาก่อนเลยว่าเจ้ารู้เกี่ยว กับการแพทย์ ตอนที่ฮ่องเต้ถามพ่อเองก็แปลกใจ หรือ ว่าเจ้าเป็นการแพทย์จริงๆ?”

แม่ทัพอันรู้สึกแปลกมาก อันหลิงหยุนก็แค่คิดคำ โกหกไปเรื่อยเปื่อย อีกทั้งยังเอาคำที่ฮ่องเต้ชิงหยู่พูด มาพูดอีกรอบ

แม่ทัพอันพูดต่อ “หยุนหยุนของพ่อก็เก่งมากๆ แบบนี้ แหละ”

อันหลิงหยุนยักคิ้วเบา พ่อคนนี้ผ่านเกณฑ์อย่าง แท้จริง

ลูกสาวถูกทุกอย่าง ก็เป็นอะไรที่ดีมาก!

พักผ่อนไปหนึ่งวันเต็มๆ อันหลิงหยุนเข้าวังไปพบ ฮ่องเต้ชิงหยู่

เพื่อหลบหลีกพวกสายตาผู้คน อันหลิงหยุนตาม แม่ทัพอันเข้าไปในวังพร้อมกัน เมื่อถึงข้างในวังแล้วก็ จับเส้นชีพจรให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ต่อนั้น อันหลิงหยุนพูดกับ ฮ่องเต้ชิงหยู่ต่อว่า “ฮ่องเต้งานยุ่งเป็นอย่างมาก ทำงาน หนักจนเกินไป ถึงได้นอนหลับยากแบบนี้ เพียงแค่ต้ม น้ำอู๋เว่ยจื่อ ดื่มทุกวันวันล่ะสามครั้งก็เพียงพอแล้ว”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่หมอหลวงที่รออยู่นั้น ถึงแม้หมอหลวงจะมองอันหลิงหยุนตาขวาง แต่อันหลิงหยุนพูด ออกมาเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทำได้แค่ตอบกลับไปว่า “พระชายาเสียนพูดถูกต้อง”

“ดูแล้วพระชายาเสียนจะชำนาญทางด้านการแพทย์ อย่างแท้จริง สู้เอาอย่างนี้ดีกว่า วันนี้ข้าจะทดสอบพระ ชายาเสียน ไปที่สวนดอกไม้ข้างหลัง ฮองเฮาเจ้าก็ไป ด้วย เป็นเพื่อนจือซาน เขาจะได้ไม่หลงทางในวัง”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้นแล้วจัดการเตรียมรถม้าไปสวน ดอกไม้ด้านหลัง

อันจือซานเดินตามไปด้านหลัง เทียบเคียงกับฮองเฮา เสินหยุนชู

เดินไป เว้นระยะห่างหน้าหลัง ฮ่องเต้ชิงหยู่ถามต่อ “จัดไว้แล้วหรือ?”

อันหลิงหยุนหยิบยาที่จัดไว้แล้ว อาศัยในตอนที่ไม่มี คน ยื่นให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ ฮ่องเต้ชิง “อย่าลืมระวังเรื่อง อาหาร”

“อืม”

เมื่อเก็บห่อยาแล้ว ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็เดินต่อ “พระชายา เสียน เรื่องของข้าเจ้าก็รู้ว่าเกี่ยวข้องกับชีวิต?”

“กระหม่อมรู้”
“แล้วทำไมเจ้ายังต้องลงมือเอง เรื่องใหญ่แบบนี้ไม่ จําเป็นต้องทำแบบนั้น

“กระหม่อมเองก็ไม่รู้ อาจเพราะเห็นฮ่องเต้แล้ว ก็ คิดถึงท่านพ่อขึ้นมา?” อันหลิงหยุนหาข้ออ้างอื่นไม่ได้ แล้วจริงๆ มักจะไม่กล้าพูดกับฮ่องเต้ชิงหยู่ เพราะว่า เรื่องที่ตีผิดเกิดขึ้น หากข้าไม่ช่วย เจ้าก็จะฆ่าข้าทิ้ง ข้า จึงจำเป็นต้องช่วย ข้าเองก็จนใจ

ฮ่องเต้ชิงหยู่หยุดแล้วมองไปยังคนที่อายุยังน้อย อย่างอันหลิงหยุน ถอนหายใจมาพักใหญ่ “ข้าหวังข้าจะ มีลูกสาวแบบเจ้า ในเมื่อเจ้าเองเป็นพระชายาเสียน ข้า ยังคงให้เจ้าเป็นน้องสะใภ้ดีกว่า”

อันหลิงหยุนยิ้มขำๆ ถ้าไม่งั้นจะให้เป็นลูกสาวจริง หรือ?

ไม่มีลูกชายลูกสาวอย่างนี้ ไม่แน่ใจว่าข้างในใจนั้นจะ อิจฉาคนอื่นอย่างไร นางยังมีชีวิตอยู่นั้น เป็นเพราะพ่อ ของนางยังอยู่ หากแต่ไม่ใช่เพราะความสงสารของพวก เขา

“ฮ่องเต้พูดถูก “อันหลิงหยุนตรัสอย่างนอบน้อม

ฮ่องเต้ชิงหยู่ถามเรื่องบางเรื่องของกงชิงวี่ อันหลิงหยุ นครุ่นคิดเรื่องอาการของกงชิงวี่ตอนนี้ ลองถามไปไม่กี่ ประโยค พบว่าช่องเต้ชิงหยู่นั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ กงชิง ถูกลอบท่าร้าย ก็เลยไม่ได้พูดถึง
หากต่อจากนี้ฮ่องเต้ชิงหยู่จะรู้ภายหลัง ก็ทำอะไรนาง ไม่ได้

เดินกลับมาถึงโดยไม่รู้ตัว เมื่อเผชิญหน้ากับฮองเฮา และแม่ทัพอัน อันหลิงหยุนหันไปทางฮ่องเต้ชิงหยู่และ ทําความเคารพต่อท่าน “กระหม่อมเรียนมานั้นยังไม่ลึก ซึ้ง ขอพระองค์อย่าหัวเราะเยาะ

“พ่อของเจ้าเก่งกระบี่กระบอง มีลูกสาวแบบเจ้า ก็เป็น โชคของเขาแล้ว

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่แม่ทัพอัน “จือซาน เจ้าว่า กระไร?”

“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ หลิงหยุนของข้ารู้เรื่องเชื่อฟัง เป็น โชคดีของกระหม่อมเป็นแน่แท้

“เจ้านี่นะ หน้าไม่อายจริงๆ ไปเถอะ ไปเดินเล่นเป็น เพื่อนข้า ให้ฮองเฮาแนะนำสั่งสอนหลิงหยุน ให้คิดว่า เป็นน้ำใจของข้า หลายปีมานี้เจ้าเหนื่อยเพื่อข้ามาเยอะ ข้าเองก็รู้”

ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินนำแม่ทัพอันออกไป อันหลิงหยุนก ลับถูกฮองเฮาพามาที่วังเพิ่งหยี

ทันทีที่ถึงฮองเฮาก็พูดเรื่องภูเขาสือหลี่ ในตอนนั้นอัน หลิงหยุนก็เข้าใจทันที เกรงว่าฮองเฮาต้องการที่จะหยุด ยั้งนาง
เมื่อลองถาม เมื่อพูดถึงตำแหน่งสูงสุดของพวกผู้หญิง นั้น เป็นผู้หญิงรวยที่ไร้มนุษยธรรมไม่มีความสามารถ อะไรเลยดีกว่า หรือว่าเป็นผู้หญิงที่มีมนุษยธรรมมีความ สามารถรอบด้านดีกว่า?

เหตุผลที่ไม่ต้องพูดก็รู้ได้ แน่นอนว่าต้องเป็นผู้หญิง รวยที่ไร้มนุษยธรรม ไม่มีความสามารถอะไรเลยดีกว่า ถึงจะไม่โดนข่มขู่

หลายปีมานี้ แม่ทัพไม่ค่อยได้อยู่ในเมืองหลวง และ ร่างเดิมยังมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ แน่นอนว่าไม่เรื่องปกติ

ในทางกลับกัน ร่างเดิมไร้ประโยชน์มากแค่ไหน ก็ ปลอดภัยมากเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นแม่ทัพอันทำร้ายผิดคน หรือว่าจะเป็น ล่อเหยื่อมาติดกับดัก..…….….……. โดยพรวมแล้ว การมีตัว ตนของร่างเดิมนั้นไม่ถูกข่มขู่ใดใด ก็รับประกันความ ปลอดภัยแล้ว

แต่ในวันนี้นางเปิดเผยความสามารถของตนที่ภูเขา สือหลี่ เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องดี

ถึงแม้ว่าจะปิดข่าว ไม่ให้เล็ดลอดออกไปก็ตาม

เสินหยุนเอ่อจะไม่พูดกับเงินเฉิงเสียงเชียวหรือ? ฮองเฮาจะไม่รู้? พวกเขาไม่ใช่ว่ากำลังทดสอบนางยู่?

“หลิงหยุน ได้ยินมาว่าการประชุมที่ภูเขาสือหลี่เจ้าก็ไป?” ฮองเฮาถามขึ้น ดวงตาจดจ้องไปที่อันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนเข้าใจทันที ตอบไปอย่างไม่ลนลาน “กระหม่อมไปจริงเพคะ แต่ว่าไปเพื่อหาหญ้าจูซิน หญ้า จูซินเป็นพืชยาชนิดหนึ่ง ได้ยินมาว่าที่ภูเขาสือหลี่มี กระหม่อมถึงไปที่นั่น

“พูดแบบนี้หมายความว่าเจ้าไม่ได้เข้าร่วมการ ประชุม?” ปกติแล้วฮองเฮาไม่ได้สนใจการประชุม ที่ นางสนใจคืออีกเรื่องหนึ่ง

“ก็นับว่าเข้าร่วมแล้ว แต่

อันหลิงหยุนตั้งใจทำเหมือนลังเลอะไรบางอย่าง สีหน้ากังวล

ฮองเฮาก็ตั้งใจทำเหมือนสงสัย “มีอะไรหรือ?”

อันหลิงหยุนมองไปรอบๆ ฮองเฮาเข้าใจในทันที โบกมือไปมา “ออกไปให้หมด ข้าจะคุยกับพระชายา เสียน”

เมื่อนางกำนัลออกไปหมดแล้ว อันหลิงหยุนทำได้แค่ พูด “ฮองเฮาอย่าไปบอกใครนะเพคะ”

ฮองเฮาอยากจะขำ ตกลงอายุน้อยแบบนี้ก็เสแสร้ง แล้วเหรอ หรือว่าใส่ซื่อขนาดนี้จริง!

“ระหว่างเจ้ากับข้ายังต้องกังวลอีกหรือ วางใจได้ ข้าไม่บอกใครหรอก เจ้าพูดเถอะ”

สีหน้าของฮองเฮาดูเป็นกันเอง อันหลิงหยุนหากไม่ใช่ คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ หากไม่รู้ดีมาก่อนว่า ระหว่างมนุษย์มักจะเสแสร้งใส่กันและกัน ก็ถูกหลอกไป นานแล้ว

วันนั้นกระหม่อมผ่านมาจากภูเขาสือหลี่ เห็นลูกสาว ของหมอเว่ยโดนงูกัด ก็เลยเข้าไปช่วยนาง คิดไม่ถึงว่า พวกนางจะไม่ให้กระหม่อมกลับ กระหม่อมอยากจะสั่ง สอนพวกนาง เลยใช้ยาแฝดอาศัยลมทำให้พวกนาง หลง ทำให้พวกนางคิดว่าข้าเก่งมาก ที่จริงที่พวกนาง เห็นนั้น เป็นเพียงแค่จินตนาการที่เกิดจากความคิดภาย ใต้จิตใจ”

เดิมที่กระหม่อมอยากจะข่มขู่ไปสักนิด แต่ก็คิดได้ว่า ไม่ควรทําแบบนั้น

ฮองเฮาดูอุ่นใจขึ้นมาบ้าง นางคิดไว้อยู่แล้วว่าคนแบบ อันหลิงหยุนจะมีความสามารถอะไรทำเรื่องแบบนี้ได้ แท้จริงแล้วเป็นแบบนี้นี่เอง ในทางกลับกันท่านพ่อควร พิจารณาแล้ว

“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องไปพูดกับคนอื่นอีก ข้าจะไม่บอก ฮ่องเต้ ภายภาคหน้าเจ้าก็ไม่ต้องมาแบบสุ่มสี่สุ่มหน้า ฮองเฮาตั้งใจทำเหมือนกังวล

“มิทำอีกเพคะ” อันหลิงหยุนรีบตรัสออกมา ฮองเฮา ค่อยสั่งให้คนยกเอาขนมมาจากวังเพิ่งหยีให้กับอันหลิงหยุน

“รู้มาว่าเจ้าชอบเสวย ก็เสวยเยอะๆ”

“ขอบพระทัยฮองเฮา”

อันหลิงหยุนหยิบขนมมาชิ้นหนึ่งเข้าปากตัวเอง

แต่ร่างกายที่มีการรับรู้พิเศษบวกกับยาที่อยู่ใน ร่างกาย บอกกับนางว่า ขนมนี้มีอะไรแปลกๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ