ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 400 เว่ยหลิงชวนเลือกที่จะแต่งงาน



บทที่ 400 เว่ยหลิงชวนเลือกที่จะแต่งงาน

กงชิง มองดูอันหลิงหยุน จากนั้นก็กระพริบตา ใช้แรง ทั้งหมดที่เหลืออยู่กดข้อมืออันหลิงหยุนเอาไว้ แล้วดูดไป สองคำ

ดื่มเลือดแล้ว พลังชีวิตของกงชิงวี่ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รู้สึกเริ่มมีแรงแล้ว

“ท่านอ๋อง ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?”

“ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว

กงชิงวี่ดึงมือของอันหลิงหยุน มองดูข้อมือนางค่อยๆฟื้น ตัวช้าๆ

“เป็นเช่นนี้ต่อไป ช้าเร็วต้องเกิดเรื่องกับเจ้าแน่ เริ่มจาก ตอนนี้ข้าขอสั่งเจ้า ห้ามเจ้าใช้เลือดช่วยชีวิตคนไปเรื่อย รวมถึงข้าด้วย” กงชิงวี่เป็นห่วง ยิ่งไปกว่านั้นคือหงุดหงิด โมโห

อันหลิงหยุนกลับไม่คิดอย่างนั้น “นอกจากจะเจ็บนิด หน่อย เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไร เลือดในร่างกายคนมันมีรูป แบบของมันอยู่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะเชื่อหรือไม่ การให้เลือด ทำให้สมองปลอดโปร่ง ทำให้ร่างกายคนแข็งแรง เพียง แต่อย่าทําบ่อยเกินไปก็พอ

ร่างกายข้ามีระบบช่องว่างของตนเอง ถึงแม้จะอธิบาย ไม่ชัดเจน แต่โดยรวมแล้วล้วนแต่มีข้อดีไม่มีข้อเสีย
ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังต้องค่อยๆหาไป เลือดยังมีเยอะอยู่

กงชิงวี่ใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไล้ข้อมือของอันหลิงหยุนเบาๆ มีรอยอยู่บนนั้น แต่กำลังค่อยๆจางหายไป

ในที่สุดอันหลิงหยุนก็สามารถวางใจได้แล้ว หันกลับไป ดูข้างในเตียง กระเป๋าเป้ทั้งหมดยังอยู่ อันหลิงหยุนรู้สึก โล่งอก

กงชิงวี่ก็ลุกขึ้นมานั่ง หยิบเอากระเป๋าเป้ใบหนึ่งออกมา เปิดดูข้างในล้วนแต่เป็นยาทั้งนั้น เขาเป็นคนเอากลับมา

เปิดกล่องยาออกมาดูก็มียามากมาย ยาฉีด สรุปคือได้ ของมาเยอะมาก

กระเป๋าเป้อีกใบล้วนแต่เป็นของที่เขาต้องการ ถึงแม้จะ ไม่ได้เอากระจกใบใหญ่กลับมา แต่ก็มีบานเล็กหนึ่งบาน

กงชิงวี่หยิบออกมารู้สึกค่อนข้างภูมิใจกับมัน ดูราวกับ ว่าเขาชนะการออกรบมา ได้รับของรางวัลมาจากข้าศึก ไม่น้อย

อันหลิงหยุนเห็นเขาไม่เป็นอะไรก็พอใจมาแล้ว เขา อยากจะทําอะไรก็ล้วนแต่ตามใจเขาแล้ว

กงชิงวี่ลงจากเตียงเดินไปตรงหน้ากระจก มองไปที่ผม ยาวบนหัว หันกลับมามองอันหลิงหยุน “ข้าพูดถูกแล้ว ที่ นั่นเป็นเพียงความฝัน

“ถือว่าเป็นเช่นนั้นแล้วกัน ท่านอ๋องต่อไปอย่าเอาแต่ใจอีก”

กงชิง ไม่ได้ตอบอะไร เดินไปหยิบเสื้อผ้าออกมาดูสัก พัก รองเท้าก็ถูกกงชิงวี่เอาออกมา

มีด กระสุน กล้องส่องทางไกล ยังมีแว่นถนอมสายตา เขายังเอาระเบิดมือกลับมาอันหนึ่ง ทำให้อันหลิงหยุน ตกใจมาก

“ทำไมท่านถึงเอาอันนี้กลับมา ทำไมไม่ระเบิดเราให้ ตาย” อันหลิงหยุนรีบเอาออกไปสักพักรู้สึกกลัวขึ้นมา

กงชิง ไม่พอใจ “นั่นเป็นของข้า เอามา!”

อันหลิงหยุนต้องไม่ให้อยู่แล้ว “นี่คือระเบิดมือ ทรง อนุภาพเหมือนกับระเบิด ท่านรู้ว่าจะใช้เช่นไรหรือ?”

ถึงตรงนี้กงชิงวี่ ถึงเงียบไป!

อันหลิงหยุนบอกกงชิงวี่เกี่ยวกับอนุภาพของระเบิดมือ เขาจึงกล่าวว่า “ข้าจำไว้แล้ว เอาให้ข้าเถอะ”

“ท่านจะเอาไปทำอะไร?”

“เก็บเอาไว้”

กงชิงวี่ทำราวกับว่าเก็บสมบัติได้ หยิบเอาระเบิดมือไป

อันหลิงหยุนสั่ง “อย่าไปดึงอะไรแม้แต่น้อยนะ ระเบิดขึ้น มาจะทำให้คนตายได้
“ข้ารู้”

กงชิงวี่พูดได้น่าฟัง แต่อย่างไรเสียอันหลิงหยุนก็ไม่ วางใจอยู่ดี ตั้งใจหยิบกล่องให้เขาใบหนึ่งโดยเฉพาะ “วาง ไว้ข้างใน เก็บเอาไว้ให้ดี

“อืม”

กงชิงวี่วางเข้าไปข้างใน เก็บเอาไว้

ของอย่างอื่นก็เก็บเอาไว้อย่างดี

ทั้งสองพักผ่อนไปหนึ่งวัน ระงับความตกใจให้ผ่อน คลายลง เช้าวันรุ่งขึ้นออกจากจวนอ๋องเสียนไปเยี่ยมองค์ หญิงใหญ่

องค์หญิงใหญ่กำลังกินข้าว แต่เห็นว่ากินอะไรก็ไม่มี รสชาติ

เว่ยหลิงชวนดูซูบผอมไปมาก

อันหลิงหยุนถามเรื่องขององค์หญิงใหญ่ เว่ยหลิงชวน กล่าวว่า “ไม่ได้นอนมาหลายคืนอีกแล้ว”

อันหลิงหยุนรู้ ครั้งนี้ไปสิบกว่าวัน เรื่องนี้นางก็เพิ่งรู้ตอน กลับมา อาหยู่ก็ตกใจกลัวมาก ทั้งสองนอนหลับไปไม่มี ปฏิกิริยาใดๆเลย

ดีที่มีหยุนจิ่นอยู่ ไม่ให้ใครไปยุ่งกับพวกเขา
เลยทําให้ไม่เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้น

และในสิบกว่าวันนี้องค์หญิงใหญ่ก็ไม่เคยได้นอนหลับ เต็มตื่น

เว่ยหลิงชวนเฝ้าองค์หญิงใหญ่ทุกวัน เขากลัวองค์หญิง

ใหญ่จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา

อันหลิงหยุนเอายาบำรุงจำพวกกล่อมประสาทให้เว่ย

หลังชวน

“อันนี้คือให้เจ้า”

อันหลิงหยุนเอายาให้กับเว่ยหลิงชวน เว่ยหลิงชวนซัก ถาม “แล้วจงลิ่งล่ะ?”

“นางต้องฉีดยาหนึ่งเข็มก่อน” อันหลิงหยุนไปหยิบยา ระงับประสาทมา แล้วไปฉีดยาให้องค์หญิงใหญ่

องค์หญิงใหญ่ไม่พอใจเล็กน้อย กล่าวว่า “ข้าไม่ได้เจ็บ ป่วยอะไร เจ้าเอาของสิ่งนี้มาแทงข้าทำไม?”

“นี่ไม่ใช่เพื่อรักษาอาการป่วยท่านป้า แต่ทำให้ผิว พรรณท่านป้าดูดียิ่งขึ้น ข้าเพิ่งจะออกมาจากวังนะ” อัน หลิงหยุนจงใจมองไปหน้าประตูอย่างระมัดระวังขณะพูด

องค์หญิงใหญ่เหลือบมองกงชิงวี่และเว่ยหลิงชวนที่อยู่ หน้าประตู ถาม “ของที่ไทเฮาใช้?”

“อันนี้ข้าไม่ได้พูดนะ ท่านป้าพูดเอง” อันหลิงหยุนฉีดให้องค์หญิงใหญ่ไปหนึ่งเข็มแล้ว

องค์หญิงใหญ่ฮีเย็นชา “ข้ารู้อยู่แล้วว่านางรักสวยรัก งามมาก เรื่องเช่นนี้นางก็ต้องเก็บไว้ใช้เองก่อนอยู่แล้ว”

“ท่านป้า ลูกสะใภ้ก็คิดถึงท่านเช่นกัน”

“เจ้ายังกล้าพูดออกมาได้

น้ำเสียงองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยดีนัก แต่อันหลิงหยุนรู้สึก ว่านางยังไม่ได้เลวร้ายมากนัก ท่านป้านั่งมองของในเรือน รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

ถามอันหลิงหยุน “เจ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปก่อนเถอะ”

“ข้าจะไปแล้ว รอให้ท่านป้าหลับก่อนก็จะกลับแล้ว ได้ยินว่าระยะนี้ท่านป้านอนไม่ค่อยหลับ ข้าอยากดูก่อน”

“ดูอะไร กลับไปเถอะ” องค์หญิงใหญ่โบกมือไปมา อัน หลิงหยุนถึงได้ลุกขึ้นยืน

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน พอดีไปเยี่ยมพ่อข้าด้วย”

องค์หญิงใหญ่ก็ไม่รั้งเอาไว้ อันหลิงหยุนออกจากประตู ไปรอข้างนอก

เว่ยหลิงชวนก็ไม่ได้เข้าไป องค์หญิงใหญ่นอนลงไปก็ เริ่มเหม่อลอย อาหารที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่อยากกิน

ตอนที่อันหลิงหยุนรออยู่เว่ยหลิงชวนหลบไปร้องไห้อยู่หลังเสา

เดิมทีกงชิง เห็นเว่ยหลิงชวนก็จะไปหาเรื่องเขา ตอนนี้ ก็ไม่ไปหาเรื่องแล้ว

อันหลิงหยุนไปดูเว่ยหลิงชวน ถาม “ถึงแม้อาการป่วย ขององค์หญิงใหญ่จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ สามารถทำให้นางดีขึ้นมาได้

เพียงแต่ต้องให้ความร่วมมือในการรักษาอย่างเต็มที่”

“ไม่นานมานี้ นางไม่ชอบกินข้าว กินพวกควันไฟเข้าไป เกือบจะตายไปแล้ว” พูดถึงเรื่องตายเว่ยหลิงชวน ก็นั่งลง ไปร้องไห้บนพื้นราวกับเด็กๆ

อันหลิงหยุนเหลือบมองกงชิงวี่ที่กำลังเดินมา มองเว่ย หลิงชวน “โรคซึมเศร้าก็เป็นเช่นนี้ คนจะคิดไม่ตก เจาะ เข้าไปในโพรงเขาควาย เปรียบเทียบความคิดที่ไม่ยอม ยืดหยุ่น) นี่เป็นเพียงอาการขั้นแรก หากนางยังเป็นเช่น นี้ต่อไป อาจจะยิ่งแย่ไปกว่านี้ อาจจะรู้สึกว่ามีคนกำลัง ทรมานนาง จะฆ่านางก็เป็นไปได้”

“ถ้าเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?” เว่ยหลิงชวนลุกขึ้นเช็ด น้ำตา ฝากความหวังทั้งหมดไว้บนตัวอันหลิงหยุนแล้ว

สำหรับเว่ยหลิงชวนแล้วเขาไม่มีญาติสนิทที่ไหนอีก องค์หญิงใหญ่ก็คือญาติสนิทของเขา

คนในครอบครัวองค์หญิงใหญ่บ้างก็ตายไปแล้ว บ้างก็ อยู่ไกล นางถือว่าเว่ยหลิงชวนเป็นลูกชาย
แม่ลูกผูกพัน เจอกับเรื่องเช่นนี้ไม่ร้องไห้ยังยาก

“ระยะแรกข้าจะใช้ยาระงับประสาทกับยารักษา โรคประสาท รวมถึงยาจำพวกยานอนหลับ แต่ก็มีผลข้าง เคียง มีผลรุนแรงกับระบบการทํางานของอวัยวะภายใน มีผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก แต่ว่าระยะแรกจำเป็นต้อง ทำอย่างนี้ ระยะหลังข้าจะใช้ยาจีนมาช่วยในการรักษา ถึงจะช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร

ปกติเจ้าก็ไม่ต้องยึดใบหน้ายาว(ชักสีหน้า) โรคประเภท นี้ต้องอารมณ์ดีและมีความสุขถึงจะเริ่มค่อยๆหายดี

โจ่จงเจิ้น มีวิธีหนึ่งอาจจะทำให้อาการองค์หญิงใหญ่ หายเร็วขึ้น

“เจ้าพูดเลย” เว่ยหลิงชวนตื่นเต้นไม่เป็นตัวเอง

“องค์หญิงใหญ่ไม่มีความหวังอะไร ถ้ามีความหวัง อาจ จะเป็นเรื่องดี แต่เท่าที่ดูตอนนี้ คนที่นางจะใส่ใจคงมีแต่ เจ้า โจ่จงเจิ้นก็ไม่เด็กแล้ว ถ้าหากมีการแต่งงาน บางที อาจช่วยให้องค์หญิงใหญ่อาการดีขึ้นก็ได้”

“จริงหรือ?” แววตาเว่ยหลิงชวนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขอเพียงองค์หญิงดีขึ้นได้ เขายอมทำทุกอย่าง

อันหลิงหยุนพยักหน้า “ข้าไม่กล้ารับประกัน แต่ก็เกือบ จะเป็นอย่างนั้นแหละ”

เว่ยหลิงชวนเหมือนได้ฟางช่วยชีวิต(ความหวังสุดท้าย) รีบกล่าวทันที “พระชายาเสียน หรือท่านรู้ว่าบ้านไหนมีคุณหนูที่มีอายุถึงเกณฑ์ที่จะแต่งงานแล้ว?”

“เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้ เจ้าลองถามอ๋องเสียนดู เขาอาจจะรู้ ก็ได้” อันหลิงหยุนไม่คาดคิดเลยว่า เพื่อองค์หญิงใหญ่ แล้วเว่ยหลิงชวนสามารถทำได้ถึงขนาดนี้

แต่ว่าเรื่องที่ไม่มีการเตรียมความพร้อมกระทำการแบบ จวนตัวเช่นนี้ อาจจะไม่มีความสุขก็เป็นได้

กลับจะไปทำให้ลูกสาวตระกูลไหนลำบากใจอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ