ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 367 ขอแค่หย่า



บทที่ 367 ขอแค่หย่า

อันหลิงหยุนผลักมือกงชิงวออก “ช่วยคนสำคัญกว่า บางทีเด็กอาจยังมีทางรอด”

ในยามนั้นเอง กงชิงหยินยังคงกุมมือหยุนโล่ชวนแน่น

พลางมองหยุนโล่ชวนด้วยสีหน้ายากจะคาดเดา

กงชิงวี่ปล่อยข้อมืออันหลิงหยุนให้เป็นอิสระ นางจึงรีบ เข้าไปบีบปากหยุนโล่ชวนให้เผยอออก แล้วป้อนโลหิตให้ นางดื่ม

เมื่อเห็นสีหน้าของหยุนโล่ชวนค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว อันหลิง หยุนถึงได้หันไปทำอย่างอื่น

กงชิงวี่จับจ้องข้อมือของอันหลิงหยุน ก่อนจะเข้าไป นั่งลงข้างๆ มองนางทำโน่นทำนี่ไม่หยุดมืออย่างไม่ค่อย พอใจนัก

หยุนโล่ชวนอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อดูจนแน่ใจว่า นางหลับไปแล้วอันหลิงหยุนจึงได้นั่งพัก

“ช่วยเด็กเอาไว้ไม่ได้ ตอนที่พวกท่านไปถึงก็ไม่อยู่แล้ว”

อันหลิงหยุนคิดแล้วก็รู้สึกเสียดายนัก เด็กคนนี้นับว่า เป็นโซ่ทองคล้องใจของคนทั้งสอง บัดนี้ไม่มีสายสัมพันธ์ เชื่อมไว้แล้ว ทั้งสองคนจะไม่เป็นอันต้องแยกจากกันไป หรอกหรือ
กงชิงหยินแค่นหัวเราะออกมาคำหนึ่ง “เหลวไหล ยังอยู่ ชัดๆ”

อันหลิงหยุนตะลึงงันไปชั่วขณะ เมื่อหันไปมองกงชิง หยินจึงเห็นว่าเขากำลังจับจ้องมือของหยุนโล่ชวนอยู่

“อ๋องตวน ลูกของท่านไม่อยู่แล้วจริงๆ”

“ข้าบอกว่ายังอยู่ก็ต้องยังอยู่”

กงชิงหยินไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด อันหลัง หยุนเองก็ไม่อยากพูดมากความ ล้วนทำตัวเองทั้งสิ้น

อันหลิงหยุนลุกขึ้นเดินนำกงชิงวี่ออกไปด้านนอก

“อาหยู่ ไปดูที่จวนอ๋องตวนทีว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น

“พ่ะย่ะค่ะ”

อาหยู่จากไปแล้วรีบกลับมาอย่างรวดเร็ว เพื่อรายงาน อันหลิงหยุนว่าจุนฉูฉูตายแล้ว!

อันหลิงหยุนตะลึงไปชั่วขณะ “เจ้าว่าอะไรนะ

ตายแล้ว?

อาหยู่เอ่ย “อ๋องตวนเป็นผู้ลงมือพ่ะย่ะค่ะ ที่จวนอ๋องตวน ยังมีคนตระกูลหยุนอยู่ที่นั่นด้วย ตอนข้ากำลังจะกลับมา คนตระกูลหยุนก็มาถึงแล้ว ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าคน ให้ได้”
รับไปเรียนท่านพ่อตาก่อนเกิด จะได้ขวางพวกเขาไว้ ได้ทัน

กงชิง พลันรีบไปจวนอ๋องตวนทันที ขณะที่อันหลิงหยุ นก็หันหลังกลับไปมองด้านใน ยามนี้คงต้องไปเยือนจาน แม่ทัพเสียแล้ว

เมื่ออันหลิงหยุนไปเยือนท่านแม่ทัพถึงหน้าจวน แม่ทัพ อันก็รีบร้อนเดินออกมาทันที

ครั้นพอเห็นอันหลิงหยุน แม่ทัพอันก็กังวลใจยิ่งนัก รีบ ถลาเข้าไปพยุงอันหลิงหยุนทันที “หลิงหยุน เจ้ารีบหลบ ไปก่อนเถิด ที่นี่อันตรายยิ่งนัก รอให้พ่อจัดการทุกอย่าง ให้เรียบร้อยก่อนเจ้าค่อยออกมา”

อันหลิงหยุนยังไม่ใคร่เข้าใจนัก ท่านพ่อนางจะเอาอะไร ไปขวางคนตระกูลหยุนกัน

ฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงยืนอยู่ที่หน้าประตู ถลึงตามอง อันหลิงหยุนอย่างเดือดดาล นางอยากพบหยุนโล่ชวน ราวกับเสือร้ายอยากพบร่างที่ยังมีลมหายใจของลูก อย่างไรอย่างนั้น

แม่ทัพอันปลอบอันหลิงหยุนเรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้าไป ฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงแล้วประสานมือคารวะอีกฝ่ายทันที “คารวะฮูหยิงแก่ ไม่ทราบว่าวันนี้ฮูหยิงแก่มาถึงที่นี่ด้วย เรื่องอันใด ทำการเอิกเกริกเช่นนี้ เป็นเพราะข้าได้ล่วง เกินอันใดตระกูลหยุนหรือไม่”

“แม่ทัพอัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน โปรดหลีกทางด้วย”ผู้เป็นฮูหยินตำหนักกั๋วกงเดือดดาลถึงขีดสุด กระแทกไม้ เท้าในมือลงกับพื้นสุดแรง หากไม่ยอมให้นางเข้าไป นาง จะรื้อจวนแม่ทัพทิ้งเสียเดี๋ยวนี้

แม่ทัพอันเลิกคิ้ว “ฮูหยิงแก่ ท่านดูเอาเถิด เหตุใดต้อง โกรธถึงเพียงนี้ ข้าจะบอกท่านให้ก็ได้ จวิ้นจี่อยู่ข้างใน จริงๆ นั่นแหละ แต่หากท่านดึงดันจะเข้าไปตอนนี้ให้ ได้นางคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ข้าได้ยินหลิงหยุ นบอกว่าตอนนี้นางอาการไม่สู้ดีนัก ไม่อาจได้รับความ กระทบกระเทือนแม้เพียงน้อยนิด ด้วยอารมณ์ท่านตอน นี้หากเข้าไปอ่วงตวนเป็นได้ตายด้วยน้ำมือท่านแน่ จวิ้นจู่ ก่อเรื่องถึงเพียงนี้ก็เพียงเพราะต้องการปกป้องอ๋องตวน หรือท่านเห็นว่าก่อเรื่องไม่สำเร็จควรตายตกกันไปทั้งคู่ อย่างนั้นหรือ”

แม่ทัพอันไม่ใช่คนพูดจาเหลวไหลเลื่อนเปื้อน ฮูหยิงแก่ ตำหนักกั๋วกงจึงตกหลุมพรางอย่างไร้ซึ่งข้อกังขา

แม่ทัพอันเอ่ยโน้มน้าวขึ้นต่อ “ฮูหยิงแก่ มิสู้ท่านเข้าไป รอข้างในก่อน พอหมดเรื่องแล้วข้าจะนำตัวอ่องตวนออก มาให้ท่าน ท่านค่อยพาเขาไปจัดการในที่ห่างไกลผู้คน เป็นใช้ได้”

ผู้เป็นฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงพลันใจเย็นลง ก่อนจะหัน ไปมองแม่ทัพอันอย่างไม่สบอารมณ์ครู่หนึ่ง “ข้าทำอะไร ย่อมมีขอบเขต เช่นนั้นไม่รบกวนท่านแม่ทัพอันแล้ว”

อันหลิงหยุนมองแม่ทัพอันหันกายเดินจากไป

นึกไม่ถึงว่าท่านพ่อแม่ทัพของนางจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ในช่วงคอขาดบาดตายเช่นนี้คนซื่อสัตย์กลับโป้ปดได้เก่ง นัก

ทว่าประโยคสุดท้ายที่ว่าพาเขาไปจัดการในที่ห่างไกล ผู้คนนั้น กลับทำให้ผู้เป็นฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงสงบลงไป ไม่น้อย เช่นนี้ก็คงไม่เป็นไรแล้วกระมัง

เมื่อกลับมาถึงสวนด้านหลังจวนแม่ทัพ อันหลิงหยุนจึง เข้าไปดูหยุนโล่ชวน ในยามนี้กงชิงหยินเองก็ได้เปลี่ยน มาสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ในจวนแม่ทัพอันแล้ว เขายังคงเฝ้า อยู่ข้างกายหยุนโล่ชวนไม่ห่าง

อันหลิงหยุนกลับรู้สึกแปลกใจนัก ตอนนี้มันยามไหนกัน แล้ว เขายังมีแก่ใจอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าฝึกวรยุทธ์อยู่ได้ บนศีรษะก็สวมหมวกแพรเรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่า เขาเตรียมตัวเรียบร้อยไปแล้วรอบหนึ่ง นางไม่เข้าใจเขา เอาเสียเลย

กงชิงวี่เดินเข้ามาหาอันหลิงหยุน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เขาก็ แค่ต้องการปกปิดเรื่องลูก”

อันหลิงหยุนมองกงชิงวี่แวบหนึ่ง “เขาโง่หรือไร แท้งลูก ย่อมต้องมีเลือดไหลออกจากร่าง พระชายารองหยุนเห็น เลือดนั่นก็ต้องรู้ความจริงทุกอย่าง”

“ต่อให้รู้ทุกอย่าง เขาก็ยังคิดจะหลอกนางต่อไป อย่าง ที่เรียกความยึดมั่นถือมั่นอย่างไรเล่า ตอนนี้เขาอยากรั้ง พระชายารองหยุนเอาไว้ แต่เกรงว่าเขาจะเริ่มหวั่น เริ่ม ลนลานเสียแล้ว”
“ท่านอ๋องชอบพอพระชายารองหยุนถึงเพียงนั้นหรือ” อันหลิงหยุนก็เพียงสงสัย คนที่อ่องตวนรักคือจุนฉฉูมิผิด เช่นนั้นเขากับพระชายารองหยุนนับเป็นอันใดกัน

“ชอบพอนั่นแน่นอนอยู่แล้ว สตรีเช่นพระชายารองหยุน ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ชอบ พวกเขาอยู่ด้วยกันนานวันเข้า ความรักย่อมบังเกิด ทั้งยังอยู่กันฉันสามีภรรยา จากที่ข้า เข้าใจ เขาชอบพอพระชายารองหยุนมาตั้งนานแล้ว หาก ไม่ชอบ ด้วยนิสัยอย่างเขาก็คงทำทุกวิถีทางเพื่อไล่พระ ชายารองหยุนออกไป แล้วปกป้องตำแหน่งในจวนของจุน ฉูฉูเอาไว้แน่ หากเขากลับไม่ได้ทำเขาเช่นนั้น นี่ยังไม่เป็น ข้อพิสูจน์อย่างดีอีกหรอกหรือ เขาก็แค่ยังไม่เข้าใจตัวเอง เท่านั้น ทว่าพอเขาเข้าใจ ทุกอย่างมันกลับสายไปเสีย แล้ว”

“ท่านอ๋อง ในยามนั้นท่านเองก็เป็นเช่นนี้หรือ” อันหลิง หยุนฟังความหมายโดยนัยที่อีกฝ่ายแฝงเอาไว้ออก

“ใช่” กงชิง ตอบอย่างราบเรียบ

อันหลิงหยุนเผยยิ้ม “หวังว่าทุกอย่างจะยังไม่สายเกิน ไป เพื่อพระชายารองหยุน คุ้มค่าแล้ว”

“อืม”

กงชิงวี่ปลีกตัวจากไป อันหลิงหยุนก็เดินตามเขาไปด้วย

เมื่ออ๋องตวนใส่ยาให้หยุนโล่ชวนจึงได้เห็นว่ายาของอัน หลิงหยุนได้ผลชะงัดนัก มือของหยุนโล่ชวนไม่ทิ้งรอย แผลไว้แม้แต่น้อย ทั้งแผลยังสมานกันอย่างรวดเร็วอีกด้วย

อ๋องตวนแหวกคอเสื้อหยุนโล่ชวนเปิดออกเพื่อดูตรงหัว ไหล่ นางจึงรู้สึกตัวขึ้น และเมื่อเห็นว่าเขาสวมชุดสีม่วง ของแม่ทัพทั้งร่างจึงมองเขาอย่างตื่นตะลึง

อ๋องตวนเองก็ตกใจไปด้วย จึงเอ่ยถามขึ้น “ชวนเอ๋อช

อบแม่ทัพอย่างนั้นหรือ” เพราะเขาสวมชุดของแม่ทัพอัน นางถึงมองเขาตาค้าง

เช่นนี้

หยุนโล่ชวนพลันหน้าแดง “ชุดนี้เป็นของผู้ใด

“แม่ทัพอันมอบให้ข้า วันหน้าข้าจะทูลฝ่าบาทว่าตอนไป รบที่ด่านชายแดนให้ตัดชุดแบบนี้ให้มากหน่อย”

หยุนโล่ชวนเอ่ย “ท่านเป็นท่านอ๋อง ออกรบไม่ได้

“อ๋องเสียนยังออกรบได้”

“จะเหมือนกันได้อย่างไร

“เหตุใดจึงไม่เหมือน” อ๋องตวนถอดเสื้อผ้าของหยุนโล่ ชวนออก ตงเอ๋อพลันหน้าแดงขึ้นมา ช่างหน้าไม่อายนัก นางจะเปลี่ยนยาให้จวิ้นจู่ เขากลับบอกว่าเขาทำเองก็ได้ เขามาคอยเปลี่ยนยาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผู้อื่นอยู่ทุกวัน

จนจู่ยังเล็กนักนะ!
เมื่อเห็นบาดแผลสมานกันดี อ๋องตวนก็ไม่คิดแปลกใจ นัก เมื่อคิดถึงความสามารถของอันหลิงหยุนแล้วก็ไม่มี อันใดต้องแปลกใจอีก

เมื่อเขาทําความสะอาดบาดแผลให้หยุนโล่ชวน เรียบร้อยก็จัดแจงเสื้อผ้าให้นาง จากนั้นค่อยนั่งลงมอง นางอยู่เช่นนั้น

หยุนโล่ชวนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “ลูกไม่อยู่แล้ว ท่านอ๋องก็อย่าได้เสียใจไป นับแต่นี้ไปเอาเป็นเช่นนี้เถิด ข้าเองก็เหนื่อยมากแล้ว ท่านอ๋องได้โปรดกลับไป ข้าหาย ดีเมื่อไหร่ก็จะกลับจวนถั่วกงเอง”

กงชิงหยินกุมมือนาง “ลูก…ข้าให้ชวนเอ๋อใหม่ก็ได้ ข้า ไปถามมาแล้ว หากบำรุงร่างกายให้ดีวันหน้าก็ยังมีได้ อีก!”

หยุนโล่ชวนส่ายหน้า “เดิมทีก็ไม่ควรมีอยู่แล้ว ข้าไม่รู้ ด้วยซ้ำว่ามีขึ้นมาได้อย่างไร ข้าเองก็ไม่คาดหวังรอคอย อะไรอยู่แล้ว ทั้งยังต้องทุกข์ทนทรมานปานนี้ กินอะไรก็ ไม่ลง ข้าซูบลงไปตั้งเยอะแล้ว

ข้าได้ยินว่าที่ด่านชายแดนเกิดเรื่อง ข้าอยากไปด่าน ชายแดน”

อ๋องตวนพลันลุกพรวดขึ้น “สองวันที่ผ่านมานี้ไม่รู้ว่า จวนอ๋องตวนวุ่นวายขนาดไหนแล้ว ข้าต้องกลับไปดูเสีย หน่อย”

อ๋องตวนหันหลังเดินจากไป แม่นมเว่ยเองก็ตามออกไปด้วย พลางรีบร้อนเอ่ย “ท่านอ๋องเพคะ ไท่เฟยมีรับสั่งให้ ปลดจุนฉูฉูแล้ว ตอนนี้รับสั่งให้คนส่งศพของนางกลับจวน ราชครูจุนแล้วเพคะ ทรงมอบให้ราชครูจุนเป็นผู้จัดการ

ขอท่านอ๋องอย่าได้ยื่นมือเข้าไปเกี่ยวเพคะ”

ทว่าอ๋องตวนกลับไม่ได้หยุดฝีเท้า ยังเดินออกจากจวน แม่ทัพไป

เมื่อไปถึงหน้าประตูกลับเห็นฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงยืน อยู่ อ๋องตวนจึงเข้าไปคารวะ “ฮูหยิงแก่”

“อ๋องตวน การหย่าครั้งนี้สรุปแล้วท่านยินยอมหรือไม่” สองวันผ่านมานี้ผู้เป็นฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงใจเย็นลงไม่ น้อย ถึงอย่างไรจุนฉูฉูก็ถูกอ๋องตวนโบยจนตายไปแล้ว ขอเพียงคนไม่เป็นอะไรก็พอ

เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไป ขอเพียงอ๋องตวนยอมหย่า จวนกั๋ วกงก็จะไม่ถามเอาความอันใดอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ