ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่49ลอบทําร้ายไม่ทันตั้งตัว



บทที่49ลอบทําร้ายไม่ทันตั้งตัว

รถม้าเลิกม่านขึ้นกงชิงวี่ประหลาดใจนักสายตา เย็นชาที่ออกมาจากดวงตาสองดวงนั้นแสดงความไม่ พอใจ”เจ้าช่างหน้าไม่อายไกลขนาดนี้ยังตามมาอีก หรือ? ”

อันหลิงหยุนไม่มีคำใดจะเอ่ยใครอยากจะตามเจ้ามา เสียสติหรือ?

มองอย่างเอือมระอาชั่วครู่อันหลิงหยุนเพื่อให้ตัวเอง ลำบากน้อยหน่อยเริ่มเอ่ยขึ้นก่อน“ข้าเป็นห่วงอาการ ของท่านอ๋องจึงเดินตามมาแต่ก็มาถึงตรงนี้ก็เดินหลง”

“เหอะ! “พลางสะบัดผ้าม่านในมือลงกงชิงกลับ เข้าไปนั่งแล้วอันหลิงหยุนไม่รอให้กงชิงวี่พูดอะไรรีบขึ้น ไปบนรถม้าพลางนั่งข้างอาหมู่

ได้นั่งด้านนอกยังดีกว่าถูกทิ้งเอาไว้ขอเพียงไม่ต้อง เดินกลับไปอันหลิงหยุนก็พอใจแล้ว

รถม้าออกเดินทางต่ออาหยู่กลับไม่สบายตัว

“พระชายาท่านเข้าไปเถิด”

“ไม่ต้องแล้วอากาศข้างนอกดี”ดีแม่เจ้าสิจะแข็งตาย อยู่แล้ว!

นางทำไมจะไม่อยากเข้าไปแต่หากเข้าไปแล้วจะโดนโยนออกมาสู้ไม่เข้าไปดีกว่า

ชั่วครู่เดียวเสียงกงชิงวี่ดังออกมาจากในรถ”ไสหัวเข้า มา! ”

ปกติแล้วอันหลิงหยุนหากมีทิฐิขึ้นจะเรียกอย่างไรก็ คงไม่เข้าไปแต่ตอนนี้คิดดูแล้วข้างนอกช่างหนาวเสียด กระดูกเพียงนี้จึงลุกขึ้นเข้าไปด้านใน

ภายในรถม้าแต่งงานวิจิตรสายตาของอันหลิงหยุน ถูกสะกดด้วยไข่มุกเม็ดใหญ่เท่าไข่ไก่ที่วางอยู่บนโต๊ะนี่ หากนำไปใส่ในยาได้นับเป็นของดี

“จะอย่างไรก็มาจากจวนแม่ทัพทำไมช่างไม่รู้ประสา เสียจริง”กงชิงวี่เอ่ยขึ้นอันหลิงหยุนประหลาดใจนักไม่ ผิดเลยที่ออกมาจากบุรุษเพศพูดเสียงโทนเดียวไปหมด

อันหลิงหยุนไม่ได้ใส่ใจคำประชดประชันของกงชิงวี่ พลางสำรวจโดยรอบรถม้าผู้อื่นมีแต่ตะเกียงน้ำมันรถ ม้าผู้นี้ต่างกลับเป็นไข่มุกเรืองแสงและยังชนิดใหญ่เท่า ไข่ไก่อีกด้วยเขามีทรัพย์มากน้อยเท่าไหร่กันแน่เป็น เพียงอ๋องปกติก็ไม่มีรายได้อันใด

ในตอนนี้ประเทศต้าเหลียงไพร่ฟ้าร่มเย็นก็ไม่เห็นเขา นำศึกสู้รบแม้จะได้รางวัลก็มีเขตจำกัด

ยิ่งไปกว่านั้นบัดนี้เขาราวกับตกเป็นเป้าล่อยังสามารถ อยู่ในรถม้าสบายๆรักษาตัวอ่านหนังสืออยู่กับไข่มุก เรืองแสงได้อีก
ไข่มุกเรืองแสงนี้เล่ากันว่าเมื่ออยู่ในเวลากลางคืนจะ ส่องแสงอันหลิงหยุนเคยได้ยินมาก่อนไม่คาดคิดว่ามาที่ นี่จะโชคดีได้พบนับว่าเป็นโชคดีอย่างไม่คาดคิด

เมื่อมองยังภายในรถม้านับว่ากว้างขวางนักอันหลิงหยุ

นเดินไปนั่งตรงกันข้ามกับกงชิงวี่เหม่อมองไข่มุกเรื่อง แสงอย่างลืมตัว

“ข้ากลับไม่เคยเห็นท่าทางโลภของเจ้ามาก่อน?

อันหลิงหยุนไม่พูดจาหากไม่นับว่าคนตรงหน้าหา เรื่องก็อย่าโทษว่านางไม่เกรงใจรบกวนนางที่กำลังมอง ไข่มุก

เงยหน้าขึ้นไปมองอันหลิงหยุนเอ่ยขึ้น“ท่านอ๋องไข่มุก นี้ท่านได้แต่ใดมา?

กงชิงวี่เกือบโมโหจนหน้าเสียที่พูดไปก่อนหน้านี้ ราวกับนางไม่ได้ฟังแม้แต่ประโยคเดียว

เมื่อพิจารณาดูแล้ววันนี้นางก็สวมชุดบุรุษอีกสีดำสนิท ให้ความรู้สึกราวสตรีไม่แพ้บุรุษเพศหากไม่ใช่เพราะ อายุขัยต่างดูไม่ออกว่าเป็นสตรี

ในมือถือหนังสืออยู่เล่มหนึ่งกงชิงวี่เอ่ยขึ้น“ของล้ำค่า ข้ามีมากมายข้าจะจำได้หมดยังไง? ”

“หากเยอะเช่นนั้นคิดแล้วไข่มุกนี้ก็คงมีมากหลายอัน หลิงหยุนได้ปักใจมองไข่มุก ตาแวว
กงชิงวี่หัวเราะขึ้น หากเจ้ากล้าแตะต้องไข่มุกข้าข้าจะ ตัดมือเจ้าทิ้ง”

“ไม่ให้ก็ช่างเก็บไว้ให้คนอื่นก็แล้วกัน”อันหลิงหยุนพิ งอยู่กับรถม้าคิดอยู่ว่าจะใช้วิธีใดให้ได้ไข่มุกมาอยู่ใน มือกงชิง กลับมีสีหน้าเยียบเย็น

“เจ้าบอกให้ผู้อื่น? “ในคำพูดหญิงนางนี้มีบางอยู่แฝง คิดว่าเขาฟังไม่ออกหรือ?

อันหลิงหยุนเกรงจะถูกโยนออกนอกรถม้าจึงพูด ขึ้น“ข้าพูดเรื่อยเปื่อยท่านอ๋องอย่าคิดจริงจัง”

กงชิง เอ่ยเสียงเย็น”ของของข้าข้าคิดจะจัดการ อย่างไรก็เรื่องของข้า

“เพคะ”

“ข้าเห็นเจ้าแล้วก็อยากจะโยนออกไปซะ

“…อันหลิงหยุนไม่ได้เอ่ยอะไรนางเอางูออกมากัดเขา ตายคงจะดีคนไม่รู้สำนึกบุญคุณนางไม่ควรช่วยไว้แต่ แรก

ภายในรถเงียบลงอันหลิงหยุนเริ่มคล้อยหลับไม่นานก็ หลับไป

ทันใดนั้นกงชิงวี่รู้สึกหนักที่เท้าเมื่อละสายตาไม่มอง คนที่พิงรถอยู่ค่อยตกลงพอดีได้ขอของเขาเป็นหมอนแต่ไม่ได้นอนอยู่บนขาของเขากลับเป็นตรงฝ่าเท้า

ร่างของอันหลิงหยุนเล็กเมื่อนอนลงราวกับเป็นเด็ก สวมชุดสีดำสนิทยิ่งดูสง่าภายใต้แสงสะท้อนจากไข่มุก ให้ใบหน้านั้นสะอาดผุดผ่อง

มือนั้นกับสกปรกกอดกุมใบหน้านางไว้

กงชิงวี่ยิ้มเย็นยกเท้าขึ้นคิดจะเตะออกไปทว่าเมื่อลด เท้าลงกลับถูกอันหลิงหยุนกอดเอาไว้

เมื่อคิดจะเขยิบอีกอันหลิงหยุนกลับกดกอดขาของ เขาไว้แนบอกเท้าของเขาสัมผัสกับอะไรนิ่มๆเขาคิดจะ เขยิบตัวอีกก็ไม่ได้แล้วจึงเลิกคิด

รถม้าโคลงเคลงไปกงชิงวี่สงบจิตใจมองไปยังหน้า หนังสือ

แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามรวมสมาธิเพียงใดก็รวบรวม ไม่ได้ยิ่งรถม้าโคลงเคลงเมื่อใดอันหลิงหยุนยิ่งดึงขา เขาไว้แนบทรวงอกความรู้สึกแสนสบายนั้นทำให้ร่างชา ไปทั้งร่างแม้กงชิงวี่จะควบคุมตัวเองได้ดีเพียงใดแต่เมื่อ คิดถึงส่วนนุ่มนิ่มที่สตรีไม่ควรเปิดเผยเบื้องหน้าผู้อื่นนั้น ใจของเขาก็ควบคุมไว้ไม่ได้

อยากจะดึงกลับมากงชิงวี่ก็ดึงไม่ได้อยากจะเตะออก ไปก็ทำไม่ลง

ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเหวี่ยงหนังสือทิ้งนอนเอนลงในรถม้าหลับตาลงมาดหมายจะงีบหลับสักครู่ อาหยู่นอกรถม้าพลันเอ่ยขึ้น“ท่านอ๋องมีคน! ” กงชิงวี่โพลงตาขึ้นสีหน้าราวกับน้ำแข็ง”จริงรึ?

“สี่ถึงห้าคนกำลังเร่งความเร็วเข้าใกล้ฟ้ามืดแล้วมอง ไม่ค่อยชัดนักแต่เริ่มมีลมแล้ว”อาหยู่ติดตามกงชิงวิ่ หลายปีจากออกสมรภูมิใหญ่จนถึงติดตามสืบหาศัตรู ลักษณะผืนหญ้าเดินทางกลางคืนเช่นนี้ก็ผ่านมามากผืน หญ้ามีผู้บุกรุกลมเปลี่ยนทิศกลิ่นก็เปลี่ยนอาหยู่เข้าใจดี

กงชิงวี่มองออกไปนอกรถม้า“อย่าเคลื่อนไหวเสียงดัง นักระวังตัวด้วย

“ขอรับ!

อาหยู่ไม่เข้าใจในสถานที่ป่าดิบขนาดนี้ทำไมจึง เคลื่อนไหวไม่ได้ทั้งยังต้องระมัดระวังด้วยแต่อาหมู่ เคยชินกับการปฏิบัติตามรับสั่งเมื่อไม่รับอนุญาตจึง หยุดรถไว้รอให้กลุ่มคนนั้นใกล้เข้ามาในตอนนี้จึงชัก กระบี่ออกมา

กงชิงวี่ฟังเสียงความเคลื่อนไหวภายนอกสายตากลับ อยู่บนตัวอันหลิงหยุนหญิงนางนี้เมื่อนอนก็ดูไร้เรี่ยวแรง กอดขาเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเลย
ภายนอกรถมีเสียงสู้รบดังเข้ามาอันหลิงหยุนตื่นขึ้น ทันใดสองตาลืมตาโพลงคิ้วขมวดเข้าหากันการฝึกฝน นานหลายปีทำให้หูตาของนางแหลมคมแม้นมีเสียงลม พัดใบไม้สั่นไหวก็สัมผัสได้

กงชิงวี่แปลกใจนักปฏิกิริยาของอันหลิงหยุนรวดเร็ว นักลุกกายขึ้นมาทันทีมองไปยังประตูรถม้าพลางเอ่ย ขึ้น”สู้กันแล้วเหรอ? ”

“ไร้สาระ”กงชิงวี่มองดูด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ข้าง นอกนั้นเสียงฟาดฟันกันดังขนาดนั้นยังจะถามอีก

คิดอยากจะดึงขากลับแต่กลับชาเหลือเกิน

อดทนไม่ดึงกลับมีเงาดำสายหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาจาก ภายนอกในมือมีกระบี่คมกริบกงชิงวี่รีบจับกระบี่ข้าง กายทันทีกลับพบว่าขาด้านชาเขยิบตัวไม่ได้เลย

อันหลิงหยุนไม่คิดมากความพลิกตัวเข้าไปทันที ท่วงท่ารวดเร็วราวเหินฟ้าชายชุดดำเสือกกระบี่เข้าไป อันหลิงหยุนตึงร่างกายให้แข็งรับกระบี่

นึก!

“ท่านอ๋อง!

อาหยู่เร่งรุดเข้ามาชายชุดดำพุ่งตัวออกไปอย่าง รวดเร็วอันหลิงหยุนร่างกายราวกับถูกนำไปด้วยกงชิง ที่อยู่ด้านหลังดึงนางเอาไว้ในอ้อมอกพลางก้มลงไปมองใบหน้ารูปงามนั้นเยียบเย็นนัก”เจ้าโง่! ใครให้เจ้าบังข้า เอาไว้? ”

หน้าผากอันหลังหยุนเต็มไปด้วยเหงื่อ”ยกไข่มุกนั้นให้ ข้าเถอะ?

กงชิงวี่กุมสองมือไว้แน่น“ข้าจะบีบมันให้แตก ละเอียด!

อันหลิงหยุนใบหน้าน้อยนิ่งงัน”เนรคุณ…”

อีกสองตัวสุดท้ายไม่ได้เอ่ยออกมาลุกกายขึ้นพลาง คว้ากระบี่อีกด้านหนึ่งฟาดฟันไปเบื้องบนผู้ที่อยู่ด้านบน ลงมาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบรุดหนีไป

ขาของกงชิงวี่เวลานี้หายเป็นปกติพุ่งตัวไปด้านหน้า พลางอุ้มอันหลิงหยุนกระโจนออกนอกรถม้าก่อนออก ไปอันหลิงหยุนคว้าไข่มุกเรืองแสงไว้พลางเก็บไว้กับตัว

กงชิงวี่สีหน้าเข้าขึ้น”ไม่รู้จักที่ตาย! ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ