ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 339 พบหรือไม่



บทที่ 339 พบหรือไม่

ผลที่ตามมาคือ มิงและกงชิงวี่ก็ออกหน้าพร้อมกัน เสิน หยุนเอ๋อกรีดร้อง ฝ่ามือติดอยู่บนก้านไม้ไผ่และปิ่นปักผม

เสินหยุนเอ๋อตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด นางมองที่มือ เหมือนกับคนโง่เขลา

นางคิดไม่ถึงว่ามือของตนจะกลายเป็นเช่นนี้ เพียง เพราะแค่จะตบอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนก็ตกใจเช่นกัน ความสามารถในการ ป้องกันของนางก็แย่เกินไป และพลังโจมตีของลูกพี่ลูก น้องคู่นี้แข็งแกร่งเกินไป

กงชิงวี่ลุกขึ้นเดินไปที่ข้างกายอันหลิงหยุน: “ในเมื่อ ไม่ใช่การบาดเจ็บถึงขั้นจะเสียชีวิต หยุนหยุนไม่จำเป็น ต้องลําบากขนาดนั้น เผื่อใครบางคนจะตอบแทนบุญคุณ ด้วยความแค้น”

เสินเฉิงเลี้ยงตกใจจนตัวสั่น เหลือบมองเสินหยุนเอ่อ แล้วมองไปที่กงชิงวี่: “อ๋องเสียนหม่อมฉันจะให้คำอธิบาย ข้อสรุปแก่ท่านอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ

“คำอธิบายไม่จำเป็นแล้ว หากวันข้างหน้าไม่มายุ่ง วุ่นวายกับพระชายา ข้าก็พอใจมากแล้ว” กงชิงวี่ดึงมืออัน หลิงหยุนไป โดยไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่นิด

อันหลิงหยุนถูกดึงไปอีกฝั่ง หมอจวนโจวก็กลับมา
อันหลิงหยุนไม่สนใจอะไรมาก หยิบกล่องยาเปิดออก ตามคาดเป็นของที่นางเตรียมไว้ในห้องวิจัยเหล่านั้น นั่นเอง

เปิดออก อันหลิงหยุนทำการทดสอบอาการแพ้ให้กับ เสินหยุนเจ๋ก่อน เตรียมยาอย่างอื่นในขณะที่สังเกตรอผล ทดสอบ

“พระชายา สิ่งนี้คืออะไร เพราะเหตุใดบนผิวหนังถึงเกิด ถุงพุพองล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” หมอจวนโจวตอนนี้ก็เท่ากับเป็น ศิษย์น้องของอันหลิงหยุน พระชายาเห็นความสามารถ ของเขา สอนทักษะทางการแพทย์ให้เขามากมาย เขา ได้รับประโยชน์มากมาย คิดว่าแม้ว่าอนาคตจะไม่มีพระ ชายาจะไม่อยู่ที่นี่ เขาก็ยังสามารถยืนหยัดคนเดียวได้

แต่เขาแค่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมให้มาก เพื่อรักษาและ ช่วยชีวิตผู้คน

ดังนั้นเขาจึงชอบถาม อันหลิงหยุนก็พอดูออก เมื่อถามก็ จําเป็นต้องตอบ สิ่งที่หมอจวนโจวต้องการเรียนรู้ นางก็จะ ไม่หวงวิชาในการสอน

“นี่คือการทดสอบอาการแพ้ มันเหมือนยาพิษชนิดหนึ่ง เมื่ออยู่ในร่างกายมนุษย์ดูว่าจะมีการต่อต้านหรือไม่ สิ่งนี้ คือยาต้านการอักเสบ บางคนจะเกิดปฏิกิริยาหลังฉีด อาจ ถึงแก่ชีวิตได้ในกรณีที่รุนแรง ในกรณีที่ไม่รุนแรงอาจมี ผื่นคัน ปวดคัน หมดสติ….ปฏิกิริยาอีกมากมาย

ตอนนี้ข้าเพียงแค่จะสังเกต จุดนี้มีอาการอย่างว่าหรือ ไม่ เช่น เกิดอาการคัน เจ็บแสบ ผื่นแดง…….
หากไม่มีอาการ ก็แสดงว่าไม่มีปัญหา สามารถฉีดยา

อันหลิงหยุนอธิบายอย่างละเอียด เป็นเรื่องยากที่คน อื่นจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ แต่ตอนนี้หมอจวนโจวสามารถ เข้าใจสิ่งที่อันหลิงหยุนพูดได้ทั้งหมดแล้ว เขารีบผงก ศีรษะ: “เข้าใจแล้ว ขอบพระทัยพระชายาที่ให้ความรู้ค่ะ ย่ะค่ะ”

“หมอจวนโจวไม่ต้องเกรงใจ เปิดโรงเรียนหมอใน อนาคต หมอจวนโจวยังต้องไปเป็นบังคับบัญชาของ สถานพยาบาล ถึงตอนนั้นหมอจวนโจวก็จะเป็นแบบนี้ เช่นกัน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

อันหลิงหยุนรออยู่สักพัก มั่นใจว่าว่าไม่มีปฏิกิริยาของ อาการแพ้ อันหลิงหยุนฉีดยาต้านการอักเสบให้เงินหยุน เจ

นางนำมาเพียงพอสำหรับครึ่งเดือน อันหลิงหยุนแขวน ถุงสี่ใบทันที

นางยังพันแผลให้กับเงินหยุนเจ๋ใหม่อีกครั้ง

ครั้งนี้กงชิงวี่ไม่พอใจเล็กน้อย ผ้าเสินหยุนเจ๋ สีหน้าดูแย่ผิดปกติ ลิงหยุนปลดเสื้อ

มู่มิงเดินไป: “ข้าเอง ข้าทำได้เหมือนกัน”
ตอนแรกอันหลิงหนคิดว่าจะเห็นด้วย แต่คิดขึ้นได้ว่า ตอนนี้มีมิงยังไม่รู้เรื่องอะไร นางจึงพูดว่า “ไม่ต้อง ให้หมอ จวนโจท่าเถิด”

หลิงหยุนเหลือบมองไปที่กงชิงเจวที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วย ความโมโห ใจแคบจริงๆ! อันหลิงจึงพูดขึ้นหลังจากไป: “ท่านอ๋อง ข้าก็เหนื่อยแล้ว

อยากกลับไปพักผ่อน สักพักเราค่อยกลับมาใหม่ ที่นี่ให้

หมอจวนโจวและมู่มิงอยู่ดูแลเถิด”

“อืม”

กงชิงวี่จับมืออันหลิงหยุน แล้วหันเดินออกไปข้างนอก

ออกจากประตูกงชิงวี่รีบเร่งจะกลับไป ก้มอุ้มอันหลิงหยุ นขึ้นไปบนรถม้า อาหยู่ขึ้นรถม้าตามหลัง ขับเคลื่อนรถม้า กลับไปที่จวนอ๋องเสียน

หมาจิ้งจอกหางสั้นนอนขดตัวอยู่ในรถม้า อีกากำน้อย ก็นอนอยู่อีกฝั่ง เมื่อเห็นอันหลิงหยุนก็กระพือปีกบิน กลัว กงชิงวี่ ชนเข้ากับด้านหลังของหมาจิ้งจอกหางสั้น

หมาจิ้งจอกหางสั้นเงยหน้ามองอันหลิงหยุน และยังคง นอนขดตัวต่อโดยไม่สนใจ

อันหลิงหยุนถูกอุ้มเข้าไปนั่งลงในรถม้า มือทั้งสองข้าง ของกงชิงวี่รั้งไว้แน่น เอียงศีรษะซบบ่าของอันหลิงหยุ น เขาถาม: “กล่องยานั่นหมายความว่าอย่างไร? กลับไป แล้วจริงหรือ?”
เมื่อรู้ว่ากงชิงวี่กำลังกังวล อันหลิงหยุนจึงพยายามอย่าง เต็มที่ที่จะโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของกงชิง

“กล่องยาข้าเป็นคนนำมันกลับมา ยาของที่นั่นเพียงพอ สำหรับเงินหยุนเจ๋ใช้ในครึ่งเดือน หากครึ่งเดือนแล้วยัง ไม่ดีขึ้น นั่นก็คือชะตากรรมแล้ว

สำหรับเรื่องกลับไป ข้ากลับไปแล้วจริงๆ แต่ท่านอ๋องไม่ ต้องกังวล ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ข้าพอจะรู้วิธีที่จะ กลับมาแล้ว” อันหลิงหยุนอธิบายเช่นนี้ทำให้ถูกกอดแน่น ขึ้น

“หยุนหยุนคงไม่เพียงแค่หาวิธีกลับมาได้ แต่ยังหาวิธี ไปได้อีกด้วยใช่หรือไม่?” น้ำเสียงของกงชิงวี่เย็นชา กง ชิงวี่พยายามใช้แรงแล้ว ทำให้อันหลิงหยุนตกใจ หันมอง กงชิงวี่ ความหม่นหมองบนใบหน้าของเขาไม่ต้องพูดก็ สามารถเห็นได้ชัด

เมื่อรู้ว่าเขาเป็นกังวล อันหลิงหยุนก็ไม่กล้าว่าอะไรเขา ดังนั้นจึงต้องพูดปลอบประโลม

“เพียงแค่กลับไปหายาบางอย่าง ไม่งั้นข้าจะรู้สึกไม่ สบายใจ เมื่อต้องดูเสินหยุนเจ๋ตาย”

“มีอะไรไม่สบายใจ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด” สีหน้ากงชิงวิ่ ย่ำแย่ เดิมทีอันหลิงหยุนไม่ได้อยากพูด จึงคิดเสียว่าเขา กังวลเกินไปหน่อย

กงชิงวี่ยังคงไม่ยอมจบ: “บาดแผลของเสินหยุนเจ๋ ข้า คิดว่าเขาจะไม่ตายแน่ ทำไมต้องลำบากขนาดนั้น?”
“ท่านอ๋องยังปากแข็งอีก จะไม่ตายได้อย่างไร ตับของ เขาพังเละแล้ว และบาดแผลก็ติดเชื้อด้วย หากไม่ใช่ เพราะข้าไปได้ทันเวลา ตอนนี้เขาก็คงตายแล้ว ถึงอย่าง นั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเอายาที่ประสิทธิภาพพิเศษกลับมา เขาจะต้องตายในห้าวันแน่นอน อาการบาดเจ็บสร้าง ความเสียหายทําให้อายุขัยของเขาลดลงอย่างน้อยแปด ถึงสิบปี ยังจะบอกว่าเขาสามารถอยู่รอดได้โดยไม่เป็นไร

ฮองเฮามีความผิดแน่นอน แต่เงินหยุนเจ๋ไม่ได้ผิด

ท้ายที่สุดแล้วเสินหยุนเจ๋ก็มีบุณคุณต่อข้า

ดวงตาของกงชิงวี่เย็นชา: “หรือว่าหยุนหยุนจะชอบ

เขา?”

“หึ…..” อันหลิงหยุนถูกทำให้หัวเราะด้วยความโกรธ “ท่านอ๋อง ข้าชอบหรือไม่ชอบผู้ใด ท่านดูไม่ออกเลย หรือ?”

“.….…….. กงชิง พูดไม่ออก เขาเชื่อมั่นว่าอันหลิงหยุนชอบ เขา และเสินหยุนเจ๋ไม่ได้เป็นอันตรายสำหรับพวกเขา เลย บุคคลอันตรายที่สุดสำหรับเขาคือมู่หรงที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้มากกว่า

“ท่านอ๋อง ท่านว่าอาการบาดเจ็บของเสินหยุนเจ๋สาหัส หรือไม่?” อันหลิงหยุนต้องการให้กงชิงวี่รับรู้ ว่าเขาลงมือ โหดเหี้ยมเกินไป

กงชิงวี่แปลกใจ: “ข้าไม่ได้ลงมือโหดเหี้ยมขนาดนั้น หยุ นหยุนตรวจดูชัดเจนแล้วหรือ? ว่าตับมีอาการบาดเจ็บจริงๆ งั้นหรือ?”

“ท่านอ๋อง ยังไม่เชื่อข้าอีกหรือ?”

“เช่นนั้นก็แปลกแล้ว ที่ผ่านมาข้ารู้ว่าอะไรควรไม่ควรมา โดยตลอด ดาบที่ฟันลงไปนั้นไม่ถึงช่วงตับ เพียงแค่เข้า เนื้อ เลือดออกก็เท่านั้น”

“.………านอ๋องหมายความว่า?” อันหลิงหยุนแปลก สีหน้า จริงจังกว่ามาก

นางออกจากอ้อมแขนกงชิงวี่ มองหน้ากงชิง อย่าง ละเอียด กงชิงวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “ดูเหมือนว่าจะมีคน อาศัยเรื่องนี้ทําอะไรบางอย่าง ข้าประมาทเกินไป”

“ท่านอ๋อง แล้วตอนนี้ควรทำอย่างไร?” อันหลิงหยุนไม่ ได้คิดเลยแม้แต่นิด ในเรื่องนี้มีบางอย่างแปลกๆ

กงชิงวี่ส่ายหน้า: “ยังไม่รู้ ขอข้าคิดให้ดีก่อน

พูดว่าขอคิดให้ดี แต่กงชิงวงี่บีบจับคางอันหลิงหยุนแล้ว ถาม: “หยุนหยุน ข้าถามเจ้า เจ้าได้พบกับซูมู่หรงนั่นหรือ ไม่?”

ความมืดมนเย็นยะเยือกปรากฏ อันหลิงหยุนเย็นวาบ ที่สันหลัง ลมหนาวพัดหวีดหวิว มองใบหน้าอันหล่อเหลา ของกงชิงวี่ ดูเหมือนเห็นปีศาจเฒ่าที่ถือศีลมานานหลาย พันปี เขาดูน่ากลัวเมื่อเอ่ยปากขึ้น และน่าสยองเมื่อเขา มอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ