ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 193 พี่ชายที่แสนดีของหยุนโล่ชวน



บทที่ 193 พี่ชายที่แสนดีของหยุนโล่ชวน

ฮั่วไท่เฟยรอให้จุนฉูฉูออกไปก่อน จึงเดินไปหาอัน หลิงหยุน: “เป็นเพราะรังนกจริงๆหรือ?”

ฮั่วไท่เฟยเป็นห่วงจนกระวนกระวาย เมื่อครู่นางร้อน ใจจนเดินไปเดินมา อีกนิดเดียวก็เกือบจะไปหาอันหลิง หยุนด้วยตัวเองแล้ว

อันหลิงหยุนลุกขึ้น: “สาเหตุเป็นเพราะเสวยรังนก จริงๆเพคะ ส่วนอาการไอที่เกิดขึ้นนั้น มีสาเหตุมาจาก การนอน ดังนั้นทางที่ดีควรจะให้เสวยพระกระยาหาร เหลวเพคะ”

“ก่อนหน้านี้ ตอนที่พระชายารองหยุนอยู่ ก็เสวยรังนก เช่นกัน แล้วทำไมครั้งนี้จึงเกิดปัญหาขึ้นได้ล่ะ?” ฮั่ว ไท่เฟยรู้สึกงุนงง และมีความรู้สึกสงสัย หรือว่าอันหลิง หยุนตั้งใจที่จะโจมตีจุนฉูฉูหรือไม่

เพราะจริงๆแล้วทั้งสองเคยขัดแย้งกันมาก่อน

อันหลิงหยุนเข้าใจความคิดของฮั่วไท่เฟยดี นางเอง ก็รู้สึกแปลกใจ: “หม่อมฉันเองก็แปลกใจเพคะ หรือจะ ลองเรียกพระชายารองหยุนเข้าวังมาสอบถามดูละ เพคะ”

“ก็ดี เด็กๆ ไปเชิญพระชายารองหยุนเข้าวัง

เมื่อฮั่วไท่เฟยออกคำสั่งแล้ว อันหลิงหยุนจึงไปนั่งรอ
ถึงแม้อาการของอ๋องตวนจะไม่น่าเป็นห่วงแล้ว แต่อัน หลิงหยุนก็ยังรู้สึกไม่วางใจเสียทีเดียว บวกกับเรื่องที่จะ ต้องถามพระชายารองหยุน นางจึงยังไม่กลับ

หยุนโล่ชวนมาถึงช้าเล็กน้อย สี่ชั่วโมงจึงจะเข้ามาถึง

ในวัง เมื่อเข้ามาแล้ว หยุนโล่ชวนก็รีบไปดูอ๋องตวน จนลืม

มารยาทไปเสียหมดสิ้น

“อ๋องตวน ท่านเป็นอันใด?” หยุนโล่ชวนไปดู อ๋องตวน เองก็กำลังมองนาง

เห็นนางสวมใส่ชุดกระโปรงสีเขียวเข้ม ก็รู้สึกแปลก ใจ เด็กคนนี้แต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ทำไมกัน?

“ดีขึ้นมากแล้ว ทำไมถึงมาช้าขนาดนี้?” อ๋องตวนรู้สึก ไม่พอใจ จากนอกวังมาถึงในวัง นั่งรถม้าไม่เกินหนึ่ง ชั่วโมงก็ถึงแล้ว นี่ใช้เวลาตั้งสี่ชั่วโมง นางไปทำอันใดมา กันแน่?

หยุนโล่ชวนพูดว่า: “หม่อมฉันไปหาอ๋องชินจง แต่.…………..

เมื่อครู่กล่าวถึงอ๋องชินจงอ๋องตวนก็หน้าถอดสี แววตา เต็มไปด้วยความดุร้าย: “เขาทำร้ายข้าจนเป็นเช่นนี้ เจ้า ยังรู้สึกว่าไม่พออีกหรือ ยังกล้าไปหาเขาอีกหรือ?”

หยุนโล่ชวนรีบอธิบาย: “หม่อมฉันกับอ๋องชินจงโตมา ด้วยกัน จากที่หม่อมฉันรู้จักอ๋องชินจงนั้น เขาไม่มีทางทําเช่นนั้นกับท่านแน่นอน”

หยุนโล่ชวนรู้สึกผิด ไม่กล้ามองหน้าอ๋องตวน

อ๋องตวนโกรธจนลุกขึ้นนั่ง แล้วชี้ไปที่หยุนโล่ชวน: “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เจ้าห้ามอยู่ห่างข้าแม้เพียงครึ่งก้าว ถ้าหากเจ้ากล้าไปหาเขา ข้าจะไปฆ่าเขา”

หยุนโล่ชวนโกรธจนร้องไห้ จ้องไปที่ตวนอ๋องด้วย ความโกรธอย่างมาก

อันหลิงหยุนลุกขึ้นไปยืนอยู่ข้างๆฮั่วไท่เฟย แล้ว จึงโค้งคำนับ เห็นได้ชัดว่า พวกเขาสามีภรรยากำลัง ทะเลาะกันอยู่ นางจึงไม่ควรจะอยู่ใกล้ให้มากนัก คอย มองอยู่ก็คงไม่ดี

ฮั่วไท่เฟยโบกมือ: “ไปเถอะ”

เมื่อเห็นว่าลูกชายดีขึ้นเร็วขนาดนี้ ถึงแม้จะรู้สึกเป็น ห่วงเล็กน้อย แต่ฮั่วไท่เฟยเองก็หันหลังเดินจากไป

อันหลิงหยุนถูกเชิญให้ไปอยู่อีกทางด้านหนึ่ง นั่งดู อ๋องตวนบ่นหยุนโล่ชวน หยุนโล่ชวนรู้สึกน้อยใจมาก แต่ก็พูดอันใดมากไม่ได้

ใครใช้ให้อ๋องตวนเป็นน้องชายของฮ่องเต้ล่ะ

ร้องไห้อยู่สักพักหนึ่ง หยุนโล่ชวนก็รู้สึกว่าตนเองไม่มี อนาคต ร้องไห้ฟูมฟายเพื่อผู้ชายคนหนึ่งนั้นไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย จึงเช็ดน้ำตา ไม่ร้องไห้อีกต่อไป

ตอนนี้เอง อ๋องตวนเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าตนเองโกรธจน ลุกขึ้นมานั่ง

ตอนนี้เองถึงรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัว จึงเรียกหยุนโล่

ชวน: “รีบเข้ามาประคองข้าเร็ว

หยุนโล่ชวนเข้าไปประคองอ๋องตวนให้นอนลง อ๋องต วนจ้องหยุนโล่ชวน แล้วพูดว่า: “รอข้าออกไปได้ก่อน ข้า จะไปเอาชีวิตเขา

หยุนโล่ชวนดูถูกอ๋องตวน เห็นอยู่ชัดๆว่าไม่มีความ สามารถ ยังจะกล้าตะโกนใส่นางอีก

เมื่อเห็นว่าหยุนโล่ชวนไม่ตอบโต้ อ๋องตวนจึงนอนลง ไป รุ้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัว อ๋องตวนพูดว่า: “คืนนี้เจ้าอยู่ เฝ้ายามให้ข้า เพื่อเลี่ยงไม่ให้เจ้าหนีออกไป”

“เพคะ”

หยุนโล่ชวนรับปากอย่างไม่เต็มใจนัก แล้วจึงเริ่มดูแล อ๋องตวน

เมื่อฮั่วไท่เฟยเห็นว่าพวกเขาไม่ทะเลาะกันแล้ว จึงได้ เรียกหยุนโล่ชวน: “ชวนเอ๋อ”

หยุนโล่ชวนกลับหลังหันเดินไปหาฮั่วไท่เฟย: “หม่อม ฉันถวายบังคมเสด็จแม่ เมื่อรู้เป็นห่วงอ๋องตวน จึงลืมถวายบังคมเสด็จแม่ไป หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จแม่ เพคะ”

“ช่างมันเถอะ เจ้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจ” ฮั่วไท่เฟยยื่นมือ ให้หยุนโล่ชวน หบุยโล่ชวนเดินไปหาฮั่วไท่เฟย มีคน ช่วยเลื่อนเก้าอี้ให้ ปกติแล้วหยุนโล่ชวนเองก็ไม่ใช่คน มากพิธี จึงนั่งลง

ฮั่วไทเฟยตรัสถาม: “ก่อนเช้าวันนี้ ตอนที่เจ้าให้หยิน เอ่อเสวยพระกระยาหาร เจ้าให้เสวยอันใดบ้าง?”

หยุนโล่ชวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “ทูลเสด็จแม่ รังนกเพคะ”

ฮั่วไทเฟยมองอันหลิงหยุนด้วยความแปลกใจ แล้วจึง ถามหยุนโล่ชวนต่อ: “แล้วทำไมเมื่อครู่อ๋องตวนเสวย รังนกจึงได้สําลักออกมาล่ะ?”

“เสด็จแม่ หม่อมฉันกําชับพระชายาตวนเรียบร้อย แล้ว โดยบอกกับนางว่าให้นำรังนกไปบดให้ละเอียด ก่อนนํามาทํา แล้วจะไม่สําลักรังนกเพคะ”

“อ๋อ!” ฮั่วไท่เฟยพอจะเข้าใจแล้ว เป็นเพราะคนบางคน ประมาทเลินเล่อ ไม่ใส่ใจอ๋องตวน

“พวกเจ้าคุยกันเถอะ แม่รู้สึกเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปพัก ผ่อนก่อน” ฮั่วไท่เฟยหันไปมองอ๋องตวนที่กำลังนอนอยู่ แล้วลุกขึ้น เดินกลับไปพักผ่อน

เมื่อฮั่วไท่เฟยเสด็จกลับไปแล้ว หยุนโล่ชวนจึงพูดคุยกับอันหลิงหยุน: “ข้าไปหาอ๋องชินจงที่ต้าจงเจิ้งย่วนมา เห็นอ๋องเสียนอยู่ที่นั่นด้วย”

“อย่างนั้นหรือ?” อันหลิงหยุนไม่ได้รู้สึกแปลกใจ ตอน นี้เขาพยายามสืบเรื่องของอ๋องทั้งแปดเป็นหลัก จะเห็น เขาอยู่ที่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

หยุนโล่ชวนลักเลอยู่สักครู่: “พระชายาเสียน ข้ากับ อ๋องชินจงโตมาด้วยกันแต่เด็ก เขาดีต่อข้ามาก ถึงแม้ บางครั้งจะอารมณ์ร้ายไปหน่อย แต่จากที่ข้าเห็นมา เขา เองก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่มีนิสัยอ่อนโยนคนหนึ่ง เรื่องที่คิด จะฆ่าอ่องตวนนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด”

อ๋องตวนที่เพิ่งจะหลับตาลง ก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง

อันหลิงหยุนเหลือบมองไปทางอ๋องตวนหนึ่งครั้ง แล้ว จึงมองหยุนโล่ชวนแล้วถามว่า: “แล้วกระไรต่อ?”

“วันนี้ข้าจึงตั้งใจไปหาอ๋องชินจง เพื่อที่จะถามเขาว่า เรื่องนี้พอจะมีคนเป็นพยานให้เขาได้หรือไม่ แต่อ๋องเสีย นบอกข้าว่า ใครก็ห้ามพบพวกเขา ข้าจึงทำได้แต่รอให้ ถึงตอนนี้จึงจะมาได้” หยุนโล่ชวนตอบตามความจริง อันหลิงหยุนรู้สึกเป็นห่วงอารมณ์ของหยุนโล่ชวนด้วย ใจจริง

อ๋องตวนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังครุกรุ่นไปด้วยอารมณ์ โกรธ สิ่งเดียวที่อันหลิงหยุนเป็นห่วงอ๋องตวนก็คือกลัว ว่าเขาจะโกรธจนตาย
หากเป็นเช่นนั้นสิ่งที่นางพยายามมาทั้งหมดก่อนหน้า นี้ก็เสียเปล่า

หยุนโล่ชวนกล่าวว่า: “พระชายาเสียน ลองถามอ๋อง เสียนให้หน่อยได้หรือไม่ว่า เรื่องนี้สืบไปถึงไหนแล้ว?”

อันหลิงหยุนมองหยุนโล่ชวนแล้วยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบอัน ใด

หยุนโล่ชวนรู้สึกงงเล็กน้อย: “พระชายาเสียนยิ้มอัน ใดเพคะ?”

“หัวเราะที่เจ้าช่างไร้เดียงสานัก!”

” หยุนโล่ชวนรู้สึกงุนงง

อันหลิงหยุนเองก็ไม่ได้อยากจะยุ่งเรื่องชาวบ้านเท่า ไหร่นัก แต่เมื่อเห็นว่าหยุนโล่ชวนไร้เดียวสาเช่นนี้ จึง เตือนด้วยความหวังดี

“ใจคนไม่แน่นอน ใครเป็นคนดี ใครเป็นคนเลว ไม่ สามารถมองออกได้ ที่ผ่านมาอ๋องชินจงเป็นคนดีก็จริง อยู่ อีกทั้งยังดีต่อเจ้ามาก แต่ถ้าหากเขาและอ๋องตวนไม่ ลงรอยกัน เจ้าจะยังคิดว่าเขาเป็นคนดีอยู่อีกหรือไม่?”

หยุนโล่ชวนส่ายหัว: “ไม่มีทาง อ๋องชินจงดีต่อข้ามา โดยตลอด ในสายตาของข้าเขาเป็นพี่ชายที่ดีที่สุด”

“เจ้าคิดว่าเขาเป็นพี่ชายของเจ้า แล้วเจ้ารู้ได้กระไรว่าเขาไม่ได้คิดที่จะสู่ขอเจ้า?”

“ท่าน……”

หยุนโล่ชวนตกใจจนเด้งตัวลุกขึ้นมา แล้วพูดว่า “พระ ชายาเสียนอย่าพูดเหลวไหล อ๋องชินจงไม่มีทางคิดเช่น นั้นแน่นอน”

“คิดเช่นนั้นหรือไม่ข้าเองก็ไม่รู้ แต่ถ้าหากเขาคิดเช่น นั้นจริงๆ แต่อ๋องตวนสู่ขอเจ้าเสียแล้ว เขามีใจคิดอยาก จะฆ่าก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก” อันหลิงหยุนพูดเบาๆ

หยุนโล่ชวนรู้สึกลนลานเป็นอย่างมาก: “เป็นไปไม่ได้”

“ไม่มีใครรับประกันได้ว่าเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้าหากอ๋องชินจงต้องการ ต่อต้าน เจ้าเป็นพระชายารองของอ๋องตวน ส่วนเจ้าและ เขาเองก็มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน เจ้าจะเลือกยืนอยู่ข้าง ไหน?”

หลุนโล่ชวนหน้าถอดสีทันที คิดอยู่นานสองนาน: “ถ้า หากเขาคิดที่จะต่อต้านจริงๆ ข้าก็จำเป็นที่จะต้องฆ่าเขา ด้วยมือของข้าเอง”

อันหลิงหยุนรู้สึกตกตะลึง สิ่งที่นางทำไม่ได้

แล้วหยุนโล่ชวนจะทำได้อย่างนั้นหรือ? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่เขาเป็นพี่ชายที่แสนดีที่โตมาด้วยกันกับนาง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ