ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 455 ตรวจรักษาโรคให้กั๋วจิ๋วน้อย



บทที่ 455 ตรวจรักษาโรคให้กั๋วจิ๋วน้อย

หลังจากจัดการเรื่องของพ่อค้าเร่เสร็จ อันหลิงหยุนก็ กลับจวนแม่ทัพ แม่ทัพอันและกงชิง ต่างก็ตามกลับไป อย่างสงบเสงี่ยม อันหลิงหยุนเดินไปได้ระยะหนึ่ง ก็หัน กลับไปมองทั้งสองพลางเอ่ยถามว่า: “ทําไมพวกท่าน ต้องไปเดินตามอยู่ข้างหลังล่ะ?”

“เงินของพ่อหมดเกลี้ยงแล้ว ก็ต้องเดินเศร้าใจอยู่ข้าง หลังนี่สิ ไม่มีหน้าจะไปเดินอวดโอ้อยู่ข้างหน้าหรอก” แม่ทัพอันครุ่นคิดอยู่นาน กว่าเขาจะคิดประโยคนี้ขึ้นมา ได้ ทำให้อันหลิงหยุนโกรธจนต้องหัวเราะออกมาเลยที เดียว

อันหลิงหยุนมองกงชิงวี่: “แล้วท่านอ๋องล่ะ?”

“ ท่านพ่อตาอยู่ข้างหลัง ถ้าข้าไปอยู่ข้างหน้ามันไม่ เหมาะสม!”

“ท่านยังจะพูดอย่างนี้อยู่อีก พวกท่านไปเดินข้างหน้า เถอะ ทำหน้าเหมือนคนที่ถูกรังแกไปได้”

“.…..” กงชิงจึงยอมไปเชิญแม่ทัพอัน ทั้งสามคนจึงค่อย กลับไปพร้อมกัน

แม่ทัพอันไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย ก้าวเดิน ฉับๆ อย่างรวดเร็วกลับไปที่จวนแม่ทัพ ด้วยรีบร้อนอยาก จะเห็นหน้าหลานชาย

ตลอดทาง สองคนสามีภรรยาไม่ได้พูดอะไร เมื่อใกล้จะถึงจวนแม่ทัพ อันหลิงหยูนถามว่า “ก่อเรื่องราววุ่นวาย ถึงเพียงนี้ ฝ่าบาทจะทรงละเว้นพวกเราหรือเพคะ?”

“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?” กงชิงวี่สีหน้าไม่พอใจ เขาไม่ ได้มีความคิดที่ว่า จะยอมปล่อยเงินหยุนซูไปอยู่แล้ว

อันหลิงหยุนเห็นว่าเขาไม่มีความสุข จึงไม่ได้พูดอะไร อีก กลับไปที่จวนแม่ทัพยังไม่ทันเข้าประตู ก็ได้ยินเสียง ใครบางคนพูดอยู่ข้างใน

“ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่? มามอบของขวัญหรือ?” แต่ไหนแต่ ไรมา แม่ทัพอันก็พูดจาตรงๆเป็นขวานผ่าซาก กั๋วจิ๋วน้อ ยมาเยี่ยมเยียนเด็ก ๆ ปกติแล้วต้องนำของขวัญติดไม้ ติดมือมาด้วย

ก๋วจิ๋วน้อยส่ายหัว: “ข้าไม่ได้มาส่งของขวัญ เป็นเพราะ วันนี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ทั้งหมอหลวงหมอจวนต่างก็ ตรวจดูหมดแล้ว แต่ก็ไม่ตรวจไม่พบอะไรเลย จึงได้มาที่ นี่เพื่อตรวจดูอาการเสียหน่อย คิดอยู่ว่า ทักษะทางการ แพทย์ของพระชายาเสียนสูงส่งถึงเพียงนี้ คงสามารถ ช่วยข้าได้”

“ไม่ใช่ว่าในจวนกั๋วจิ๋ว ก็มีหมอเลื่องชื่ออยู่หรอกหรือ?” กงชิงวอารมณ์ไม่ดี เห็นใครก็ระบายโทสะใส่ไปหมด ยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงกั๋วจิ๋วน้อย

กั๋วจิ๋วน้อยก็จนใจทำอะไรไม่ถูก เห็นได้ชัดว่า เขาเป็น คนที่ถูกลากลงน้ำไปด้วยแท้ๆ แต่ตอนนี้เขากลับเป็น เหมือนคนริเริ่ม ก่อเรื่องสร้างปัญหา จนทำให้พวกเขาขุ่น เคืองแทนเสียแล้ว
“ข้ามาพบพระชายาเสียน เจ้าจะไม่พอใจอะไรขนาด นั้น ข้าไม่ได้มาพบเจ้าเสียหน่อย” ใบหน้าของกั๋วจิ๋วน้อย บูดบึ้ง เขาเห็นหน้ากงชิงวี่ยิ่งขัดลูกนัยน์ตา เขาเป็นกั๋วจิ๋ว เป็นน้าแท้ๆด้วยซ้ำ ไม่ได้ใหญ่หรือเล็กไปกว่ากงชิง

อันหลิงหยุนจึงเอ่ยขึ้นว่า: “ขอพูดอย่างไม่ปิดบังนะเพคะ อีกครู่ข้ากับท่านอ๋องกำลังจะไปต้าจงเจิ้งย่วน ไม่ทราบ ว่า ท่านกั๋วจิ๋วน้อยไม่สบายตรงไหน พอจะบอกอาการ ได้หรือไม่ ข้าจะพยายามให้การรักษาอย่างสุดความ สามารถ”

“โรคนี้จะว่าไปแล้วค่อนข้างคลุมเครือ ไม่ทราบว่า ข้า จะขอพูดคุยเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่?” กั๋วจิ๋วน้อยสีหน้า แลดูลำบากใจ

อันหลิงหยุนกล่าวว่า “กั๋วจิ๋วน้อยเชิญด้านในเพคะ”

“ได้”

กั๋วจิ๋วน้อย เดินตามอันหลิงหยุนเข้าไป ทั้งสองหาที่ เงียบๆนั่งลง อันหลิงหยุนวางมือบนข้อมือของกั๋วจิ๋วน้อย และเริ่มทำการตรวจสอบ

“ที่นี่ไม่มีคนนอก ดังนั้นข้าก็ขอไม่ปิดบังเถอะนะ ฝ่า บาททรงมีพระประสงค์ให้อ๋องเสียนกลับไป”

อันหลิงหยุนมองกั๋วจิ๋วน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ในทันที การที่เขามาที่นี่ อันหลิงหยุนก็พอจะรู้ว่าเพราะ อะไร ยิ่งเขาพูดแบบนี้ในเวลานี้ เป็นปกติที่นางไม่รู้สึก แปลกใจแม้แต่น้อย
แต่ถึงอย่างไร นางก็เป็นหมอ ….

เมื่อเห็นอันหลิงหยุนไม่พูดอะไร กั๋วจิ๋วน้อยจึงพูดต่อ: “ฮองเฮาทำร้ายคนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ถึงอย่างไร นางก็เป็นผู้หญิงของฮ่องเต้

อ่องเสียนชี้เป่าฮองเฮาต่อหน้าฝ่าบาท พระองค์ไม่ได้ สืบสาวเอาความ นี่ก็นับว่าพระองค์ทรงยอมถอยให้ใน ฐานะของฮ่องเต้แล้ว

อ๋องเสียนยังคิด โทษตายให้ฮองเฮา นี่มันก็. … ”

“กั๋วจิ๋ว ท่านต้องการให้ข้าเกลี้ยกล่อมท่านอ๋องเรื่องนี้ ให้เข้าวังไปขอพระราชทานอภัยโทษจากฝ่าบาท?” อัน หลิงหยุนไม่อยากทำอะไรที่มันซับซ้อน เพียงพูดประโยค เดียวตัดหนทางหวางหวยอันไม่ให้ไปต่อ

หวางหวยอันคิดจะเก็บมือกลับ แต่อันหลิงหยุนรั้งมันไว้ ไม่ยอมปล่อย

หวางหวยอันแปลกใจ: “พระชายาเสียน นี่จะทำอะไร?”

“การตรวจโรคก็คือการตรวจโรค การขออภัยก็คือการ ขออภัย ขอถามก่อนว่า ท่านจะทำสิ่งไหนก่อน?”

อันหลิงหยุนถามอย่างจริงจังชัดเจน หวางหวยอันจึงพูด ว่า “เรื่องตรวจโรคนั้นอย่าเลยดีกว่า มาพูดถึงเรื่องในวัง ก่อนเถอะ”

อันหลิงหยุนปล่อยมือ: “ข้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในวัง ถึงแม้ว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ก็เพราะข้า และถึงจะเป็น เช่นนั้น ข้าก็ยังไม่อยากก้าวเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

ท่านอ๋องก็มีเหตุผลของท่านอ๋อง ใช่ว่าข้าจะหยุดรั้งไว้ ได้”

“จะพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูกนัก จากสายตาของข้า ในตอน นี้ คนเพียงคนเดียวที่จะทําให้เขาเปลี่ยนใจได้ก็มีแค่เจ้า เท่านั้นแล้ว”

“แต่ข้าไม่อยากหยุดยั้งเขา ไหนๆท่านกั๋วจิ๋วก็พูดออกมา แล้ว ว่าเขาทำเพื่อข้า และมีเพียงข้าเท่านั้นที่จะหยุดเขา ได้ แต่ทำไมข้าถึงไม่ไปหยุดยั้งเขาล่ะ ท่านกั๋วจิ๋วไม่ลอง คิดดูเสียหน่อยหรือเพคะ?”

“ข้ามองไม่ออกจริงๆ ว่า ทำไมพวกเจ้าถึงดื้อด้านขนาด นี้ ถึงอย่างไรพระองค์ก็เป็นฮ่องเต้ การทำเช่นนี้ เท่ากับ เป็นการตีตนเสมอท่านนะ ฮองเฮาถูกสั่งกักบริเวณแล้ว นี่เท่ากับได้มอบค่าตอบแทนให้พวกเจ้าแล้ว เขายังไม่ พอใจยังจะดื้อแพ่ง ให้ประหารทั้งตระกูลฮองเฮาให้จงได้ เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่า ผลของการประหารสิ้นทั้งตระกูล นำสิ่งใดมาสู่ประเทศต้าเหลียงของพวกเราบ้าง? ”

“ฮองเฮาถูกกักบริเวณแล้ว?” อันหลิงหยุนไม่รู้เรื่องนี้มา ก่อน

“ฝ่าบาทให้ข้ามาเกลี้ยกล่อมเขา ฝ่าบาททรงมีพระ บัญชา กำชับเป็นพิเศษก่อนที่ข้าจะมาที่นี่”

“ข้าจะกลับไปลองถามดู ท่านกั๋วจิ๋วจะตรวจโรคเลยดีไหมเพคะ?” อันหลิงหยุนถาม

หวางหวยอัน ไม่เคยพบเคยเห็นคนแบบนี้มาก่อน วันๆ คิดแต่เรื่อง ตรวจรักษาคนไข้จนเต็มสมอง นี่ตรวจโรค สำคัญ หรือว่าชีวิตสำคัญกันแน่ล่ะนี่?

หวางหวยอันลุกขึ้นยืน: “อย่างไรเสีย คำพูดทั้งหมดข้า ก็ได้พูดจนเข้าใจแล้ว พระชายาเสียนเองก็เอ่ยปากรับคํ ที่จะช่วย เช่นนั้นข้าขอตัวกลับไปก่อนจะดีกว่า”

กั๋วจิ๋วน้อยพูดจบเตรียมจะจากไป อันหลิงหยุนรีบกล่า วขึ้นทันทีว่า: “กั่วจิ๋ว ช้าก่อนเพคะ โรคนี้ยังต้องตรวจ รักษาอยู่”

กั๋วจิ๋วน้อยหันกลับมา สีหน้าออกจะไม่สู้ดี: “ข้าว่า …..

“ท่านมักตื่นนอนตอนกลางดึกเสมอ อีกทั้งไม่กล้าดื่ม น้ำ ในแต่ละวันถ้าดื่มน้ำมากไปจะทำให้ใบหน้าบวม โดย เฉพาะอาการจะหนักมากเมื่อตื่นนอนตอนเช้า ปัสสาวะ เป็นสีแดง อีกทั้งยังมีอาการปัสสาวะลำบากร่วมด้วยช่ หรือไม่?

หวางหวยอันถึงกับผงะไปชั่วครู่: “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

“หมอจวนก็น่าจะตรวจอาการให้ท่านแล้ว ไม่ทราบว่า หมอจวน พูดว่าอย่างไรบ้างเพคะ?”

หวางหวยอันยอมนั่งลง: “เขาบอกว่าในไตข้ามีก้อนหิน”
“ดูเหมือนว่าหมอจวนคนนี้ ก็เป็นบุคคลที่น่าทึ่งอยู่ไม่ น้อย ณ ที่แห่งนี้ยังสามารถตรวจวินิจฉัยออกมาได้ ช่าง หาได้ยากยิ่ง” อันหลิงหยุนเคาะมือตัวเอง แสดงท่าทาง ให้หวางหวยอันส่งมืออีกข้างมาให้นาง

อันหลิงหยุนรู้ดีว่า หมอที่นี่ไม่ค่อยได้เห็นนิ่วมากนัก คน ที่สามารถมองออกได้ ล้วนเป็นบุคคลที่มีฝีมือร้ายกาจ แต่เพราะเหตุใดจึงไม่รักษา นั่นยังต้องตรวจสอบพิสูจน์ กันไป

อันหลิงหยุนเริ่มการสแกน ตรวจซ้ำใหม่อีกรอบ พบ ว่าหวางหวยอันไม่เพียงแต่มีก้อนนิ่ว หัวใจของเขาก็ไม่ ดี ทั้งยังเป็นหัวใจพิการแต่กำเนิด ไม่เพียงแค่นั้น นิ่วใน ร่างกายเขายังมีถึงสี่ก้อน การกำจัดนิ่วทำได้ง่าย แต่การ ทำงานของไตเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยดี ถึงขั้นที่เรียกได้ ว่าแย่!

อันหลิงหยุนปล่อยมือ: “หัวใจของท่านไม่ดีตั้งแต่เกิดใช่ หรือไม่?”

” หวางหวยอันผงะไปชั่วครู่: “ใครบอกเจ้ากัน?”

“ไม่ใช่ท่านอ๋องแน่นอน ดูเหมือนว่า ท่านอ๋องก็คงไม่รู้ เรื่องนี้กระมัง” อันหลิงหยุนเพียงแค่คาดเดา ตามคาด หวางหวยอัน แสดงอารมณ์ที่ซับซ้อนอย่างอธิบายไม่ได้ บนใบหน้าของเขาขึ้นมาทันที

“โรคนี้มีเพียงมารดาของข้าเท่านั้นที่รู้ นางบอกว่า นาง ก็ไม่อาจแน่ใจว่า ข้าเป็นโรคอะไรหรือไม่ แต่ข้ามักจะ รู้สึกเจ็บที่หัวใจ หายใจลำบากบ่อยๆ หมอจวนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่มารดาของข้าได้เชิญให้มารักษาข้าโดย เฉพาะ

ข้าไม่รู้แน่ชัดว่าเพราะเหตุใด ตั้งแต่เกิดมาร่างกายจึงได้ อ่อนแอเช่นนี้ มารดาของข้ากลัวว่าจะมีผู้อื่นล่วงรู้ จึงไม่ กล้าบอกใครทั้งสิ้น จนกระทั่งตอนนี้ ไทเฮาก็ยังไม่ทรง ทราบเรื่องนี้ ยิ่งไม่มีทางบอกอ่องเสียน

ข้ารับหน้าที่เป็นหัวหน้าสายสืบ ในหน่วยสืบความ ลับแห่งเมืองหลวง พูดตามเหตุผลแล้ว หัวหน้าสายสืบ ควรต้องให้คนอย่างอ๋องเสียนไปทำหน้าที่ มีความลับ มากมายที่เข้าไปพัวพันแล้ว อาจตกอยู่ในอันตราย เกิด เรื่องได้ง่ายๆ คนไม่เป็นวรยุทธจะทำได้อย่างไรกัน?

แต่ข้าไม่อาจฝึกวรยุทธได้ ตั้งแต่ยังเด็ก มารดาของข้า บอกผู้คนว่าข้าขี้เกียจ ไม่ชอบเคลื่อนไหว เรื่องนี้จึงพอ หลบสายตาผู้คนไปได้

ไทเฮาทรงไม่วางพระทัยให้คนอื่นดูแลหน่วยสืบความ ลับ จึงให้ข้าเป็นคนทำ ”

“ เช่นนั้นเวลาท่านป่วย มีแค่ตัวท่านกับมารดา รวมถึง คนในจวนเท่านั้นที่รู้?”

“หมอจวนก็ไม่รู้ว่าข้าเป็นโรคหัวใจ อันที่จริง มารดากับ ข้าก็ไม่แน่ใจ หากข้าไม่ได้ยินที่เจ้าพูด ข้าคงคิดว่า เป็น เพราะร่างกายอ่อนแอมาโดยตลอด โรคหัวใจก็เป็นเพียง แค่ข้อสงสัย

หมอจวนบอกว่า ส่วนใหญ่ที่ข้าเป็นแบบนี้เพราะร่างกายอ่อนแอ ส่วนจะใช่หรือไม่ใช่นั้น ข้าก็เพิ่งมารู้เอา ตอนนี้เช่นกัน ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ