ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 469 ถือซะว่าข้าไม่ได้ถาม



บทที่ 469 ถือซะว่าข้าไม่ได้ถาม

เห็นดาบของกงชิงวี่กำลังจะแทงลงไปแล้ว ฮ่องเต้ชิงห ยู่ที่อยู่บนเตียงก็ลุกขึ้นนั่ง “อ๋องเสียน”ความสง่างามแห่ง การเป็นราชาบวกกับเสียงเกียจคร้านแบบชายชาตรีเปล่ง ออกมา ส่งเสียงมาจากเตียง อันหลิงหยุนรู้สึกขนลุกชั่ว ขณะ หันหน้าไปมองยังตั๋งมังกร ดีที่ดวงตาไม่ถลนออก มา นี่เป็นการเล่นกลอบตาชัดชัด

การเปลี่ยนวิญญาณของนางสู้ไม่ได้เลย ที่ร้ายกาจ จริงๆอยู่ที่นี่นี่เอง

ฮ่องเต้ชิงหยู่ตื่นอยู่ตลอด แม้แต่เสียงผายลมก็ไม่ได้ยิน แต่ตอนนี้จะฆ่าฮองเฮาเขากลับตื่นขึ้นมา แล้วเมื่อสักครู่ที่ นางเกือบจะตายแล้ว กงชิงวี่ก็ต่อสู้อยู่กับสองคนนั้นทำไม เขาไม่ลุกขึ้นมา

กงชิงวี่หยุดลง ดาบในมือเกิดเสียงดังปังปักเข้าไปยัง กําแพงหิน

กงชิงวี่หันไปมองฮ่องเต้ชิงหยู่ แม้จะไม่ชอบใจมากแค่ ไหน แต่ก็ยังคงก้มศีรษะลง “กระหม่อมคำนับฮ่องเต้ มา ช่วยฮ่องเต้ช้าไป ขอฮ่องเต้โปรดให้อภัย

ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้นลงจากตั่งมังกร มองไปยังจุนเซียว เซียวและมู่มิง แล้วก็หันไปมองฮองเฮาเสินหยุนชูที่ตะลึง อยู่กับพื้น

“อ๋องเสียน เจ้าพากุ้ยเฟยทั้งสองออกไปก่อน ข้ามีเรื่อง จะคุยกับฮองเฮา”
“พ่ะย่ะค่ะ”กงชิงวี่มองอันหลิงหยุนที่เดินเข้าไปแก้มัดให้ กับจุนเซียวเซียวและมู่มิง มู่มิงยังคงสลบอยู่ อันหลิงหยุ นรีบเดินไปดูมู่มิง เมื่อแน่ใจแล้วว่ามู่มิงแค่สลบไปเท่านั้น จึงตามกงชิง ออกไป

ออกจากห้องลับกงชิงเซวียนเหอหายไปอย่างไร้ร่อง รอยแล้ว คนของกองทัพตระกูลอันไม่เห็นว่ามีใครออกมา จากทางลับ กงชิงวี่จัดการกับอันหลิงหยุนทั้งสามคนแล้ว หมุนตัวกลับไปยังห้องลับ แต่อันหลิงหยุนก็ไม่วางใจ ตาม เข้าไปด้วย แต่เข้าไปค้นหาจากทางเข้าจนทั่วแล้ว ก็ไม่ พบทางออกอื่นใด เห็นเพียงกงชิงวี่ยืนอยู่หน้าห้องลับ

อันหลิงหยุนกำลังจะไปทางนั้นก็ถูกกงชิงวี่เห็นเข้าซะ ก่อน กงชิงวี่หันมามองนาง อันหลิงหยุนหยุดลงสํานึกผิด เพราะได้สัญญาแล้วว่าจะอยู่ข้างนอกไม่ตามเข้ามา

“ข้าไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่เป็นห่วงท่านอ๋อง จึงเข้ามาดูสัก หน่อย”

กงชิงวี่ก็ไม่ได้โกรธ พยักหน้าไม่ขยับตัว แล้วหันกลับไป

อันหลิงหยุนเดินไปดู ก็ได้ยินประโยคหนึ่งของฮ่องเต้ ชิงหยู่ “หากเจ้ายังอยู่ต่อ ข้าก็จะยังตามใจเจ้าเหมือนเดิม เจ้ายังเป็นฮองเฮาของข้า ตระกูลเสินก็ยังคงเป็นขุนนาง สำคัญของประเทศต้าเหลียง ”

เสินหยุนชูส่ายหัว สายตาเฉื่อยชา “สามีภรรยาถึงจุด นี้ ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ตอนแรกที่ท่านให้ข้าเข้าวังก็ได้ หว่านเมล็ดแห่งความเกลียดชังไว้แล้ว หากไม่ใช่เพราะ ท่าน เขาก็คงไม่ตาย
ข้าเกลียดท่าน ทุกคืนข้ายังต้องแกล้งทำเป็นเทิดทูน ท่านเข้านอนพร้อมท่าน ท่านรู้หรือไม่ว่ามีกี่คืนวันที่ข้า ต้องตื่นขึ้นเพราะฝันร้าย ข้าฝันถึงเขาที่ร่างเต็มไปด้วย เลือดมายืนอยู่ตรงหน้าข้า ถามข้าว่าทำไมไม่ฆ่าท่าน ถาม ว่าทำไมข้าต้องหักหลังเขา

ฮ่องเต้ชิงหยู่ มีบ้างบางเวลาที่ข้าก็หวั่นไหวไปบ้าง หลายครั้งที่อยากจะฆ่าท่าน ข้าก็ปล่อยไป ข้าไม่ให้ กำเนิดลูกของท่าน ก็เพราะไม่อยากให้ลูกเกิดมาแล้วต้อง ตาย

พวกเขาไม่ปล่อยลูกไปแน่ แต่ท่าน…..ในเมื่อเคย รับปากข้า ทั้งชีวิตนี้ของท่านจะรักเพียงข้าคนเดียว เท่านั้น แต่นอกจากท่านจะแต่งเซียวกุ้ยเฟยแล้ว ยังจะแต่ งมู่มิง

มู่มิงนั้นบริสุทธิ์ ข้าไม่เกลียดท่าน แล้วจุนเซียวเซียว เล่า

ท่านรู้หรือไม่ตอนที่รู้ข่าวว่านางตั้งครรภ์ ตัวข้าเหมือน ธารน้ำแข็ง ข้าเจ็บเจียนตาย…….”

เสินหยุนชูหัวเราะขึ้นมา แต่ในตาของนางมีน้ำตา นางไม่อยากร้องไห้ แต่น้ำตากลับไหลออกมา

“กลับมาเถอะ ข้าจะมีแต่เจ้าคนเดียวเหมือนเดิม ดีหรือ ไม่”ฮ่องเต้ชิงหยู่ยื่นมือออกไปให้เงินหยุนชู เสินหยุนชู ส่ายหน้า
“ไม่จำเป็นแล้ว ข้าทำผิดโทษสังหารฮ่องเต้ ต้องถูก ประหาร ระหว่างท่านกับข้าก็รู้ผลแพ้ชนะแล้ว ไม่จำเป็น ต้องพูดแล้ว ส่วนท่าน………..เมื่อในใจท่านมีคนที่ชื่นชอบ อยู่แล้ว ข้าก็ขออวยพรท่าน ให้สมปรารถนาเถอะ”

เสินหยุนชูก้มลงเก็บดาบที่ตกอยู่บนพื้น เตรียมจะฆ่าตัว ตาย

ฮ่องเต้ชิงหยู่จับอีกฝั่งของดาบเอาไว้ เสียงดังเพล้งดา บก็หักลง ทำเอาอันหลิงหยุนตกใจไม่น้อย

“อย่าพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนที่ข้าชื่นชอบแต่ไหนแต่ ไรก็มีแต่ฮองเฮา ไม่มีฮองเฮา ชีวิตในวังยังมีความหมาย อะไรอีก

ในเมื่อฮองเฮาไม่เห็นด้วยที่ข้าจะไปตำหนักอื่น ตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไปข้าจะไม่ไปอีก ตอนนี้เซียวกุ้ยเฟยเองก็ตั้ง ครรภ์แล้ว ข้าเองก็ไม่กังวลอะไรแล้ว รอนางคลอดลูก ของข้า ก็จะอุ้มลูกมาให้ฮองเฮา เช่นนี้ข้าก็ไม่คิดเรื่องอื่น แล้ว”

เสินหยุนชูนิ่งอึ้งไป จ้องฮ่องเต้ชิงหยู่พูดอะไรไม่ออก

อันหลิงหยุนคิดไม่ถึงเลยว่า ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังคงมีความ คิดเช่นนี้ แต่ว่าครั้งนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมาอยู่บ้าง

อันหลิงหยุนคิดว่าบทสนทนานี้ไม่ควรฟังต่อ ดึงกงชิงวี่ เบาๆเดินออกไปข้างนอก พร้อมทั้งให้สัญญาณทางสีหน้า ให้เขาอย่าทำเสียงดัง เพื่อไม่ให้ถูกจับได้
กงชิงวี่ถูกท่าทางของสะใภ้ของตนทำเอาจะร้องไห้ก็ ไม่ใช่จะหัวเราะก็ไม่เชิง แต่ก็ยอมเชื่อฟังโดยดี ตามอัน หลิงหยุนออกจากทางลับ

ออกมาแล้วอันหลิงหยุนจึงวางใจได้บ้าง

“ท่านอ๋อง เราไปกันเถอะ พระชายาตวนยังหาไม่พบ เรา ไปหาพระชายาตวนกัน”อันหลิงหยุนรู้สึกว่าที่แห่งนี้ไม่ ควรอยู่นานๆ ลากตัวกงชิงวออกไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงหน้าประตูอันหลิงหยุนก็หันไปสั่งการกับกองทัพ ตระกูลอัน “วังเพิ่งหยีปลอดภัยแล้ว ที่นี่ไม่มีคนร้ายแล้ว สามารถถอนกำลังได้ ไปดูที่ตำหนักอื่นๆด้วย

อันหลิงหยุนเป็นห่วง อีกสักครู่หากฮ่องเต้ชิงหยู่พาเสิน หยุนชูออกมา เสินหยุนชูยังสวมชุดสีดำอยู่ ถูกกองทัพ ตระกูลอันพบเข้าจะเป็นปัญหา ฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่มีที่ลง ก็ คงจะลงกับแม่ทัพอัน

กองทัพตระกูลอันถอยออกไปยังตำหนักอื่นๆ อันหลิง หยุนจึงดึงกงชิงวี่ออกไป

“หลิงหยุนเจ้าคิดอะไร”กงชิงวี่ไม่รีบร้อน คนของเขา กำลังตามตรวจสอบที่ไปของหยุนโล่ชวน บวกกับความ ช่วยเหลือของจิ้งจอกและราชาอีกา กงชิงวี่ไม่กลัวว่าจะ หาหยุนโล่ชวนไม่พบ

ทั้งสองบอกว่าจะไปหาหยุนโล่ชวน แต่ทิศทางที่ไปกลับ เป็นวังเฉาเพิ่ง
“คิดว่า ท่านอ๋องจะฆ่าฮองเฮา ฮ่องเต้จะปล่อยท่าน อ๋องหรือ”อันหลิงหยุนเข้าใจแล้ว ภรรยาใครคนนั้นก็ ต้องปกป้อง ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้ว่าฮองเฮาก่อกรรมทำเข็ญ มากมาย ก็ยังจะปกป้อง ใครยังจะกล้าพูดอะไรอีก

ฮองเฮารังแกผู้อื่นฮ่องเต้ชิงหยู่กลับแกล้งกลับ บาดแผล เต็มร่างนางใครมองเห็นบ้าง พอจะฆ่าฮองเฮา ฮ่องเต้ชิงห ยู่ก็ตื่นขึ้นมา

หัวใจของอันหลิงหยุนถูกน้ำแข็งแช่เย็นไปแล้ว นางไม่ อยากจะเข้ามาในวังอีกแล้ว ความยุติธรรมสักนิดก็ไม่มี

ความปรานียิ่งไม่มีให้นางแม้แต่น้อย ในสายตาของบาง คน ชีวิตของนางยังไม่มีค่าเทียบอีแปะ

กงชิงวี่ทำเหมือนไม่ได้ยิน มองท่าทีอันหลิงหยุนที่ รังเกียจวังนี้รังเกียจจนอยากจะติดปีกบินออกไป

ดึงมือของอันหลิงหยุนไปจับไว้ “ข้าคิดว่า หากตอนที่ เจ้ามาไม่ใช่วันที่ข้าจะแต่งงาน แต่เป็นก่อนหน้านั้นสักเล็ก น้อย ภายหลังจึงได้พบเจ้า เจ้าจะลังเลที่จะแต่งกับข้าหรือ ไม่”

อันหลิงหยุนมองกงชิงวี่อย่างประหลาดใจ นิ่งคิดอยู่สัก ครู่แล้วก็ให้คำตอบที่หนักแน่นแก่กงชิงวิ่

“ไม่”

กงชิงวี่หน้าขรึมลง รู้สึกผิดหวังอยู่บ้างที่ถามอันหลิงหยุ น พอได้คำตอบก็อยากจะลงโทษอันหลิงหยุนให้หนัก
“ทำไม”กงชิงน้ำเสียงเย็นชา เห็นชัดว่าไม่พอใจ

อันหลิงหยุนก็ไม่บิดปัง เป็นผู้ชายตัวโตเสียเปล่ามีอะไร ให้น่าโมโห นางต่างหากที่ควรโกรธ

“ในวังนั้นเห็นชีวิตคนเหมือนต้นหญ้า ข้ามาจากโลก อนาคต พวกเราผ่านมาหลายพันปีสังคมศักดินาไม่มีมา นานแล้ว ข้าไม่ชอบคุกเข่าท่านก็รู้ ยิ่งไม่ชอบมีชีวิตทุกวัน อย่างปากหวานกันเปรี้ยว

ถึงแม้ท่านอ๋องจะดีมาก แต่จะมีความสงบสุขที่เป็นอิสระ ได้ที่ไหนกัน

ตอนมาก็เป็นวันที่ต้องแต่งงานกับท่านอ๋อง เห็นได้ว่าข้า กับท่านอ๋องนั้นมีวาสนาต่อกันอยู่บ้าง ไม่แน่ว่าชาติก่อน ของชาติที่แล้วอาจเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ก็ได้ หรือไม่ก็ เคยมีช่วงเวลาโศกนาฏกรรมความรักเหมือนหลินได้อ และเจี่ยเป่าอวี้ ชาตินี้จึงได้มาเจอกันอีก

แต่หากวันที่มาไม่ใช่วันแต่งงาน แต่เป็นเวลาที่ยังไม่ได้ ออกเรือน ข้าคิดว่าชาตินี้ข้าคงไม่แต่งงานเป็นแน่

แม้จะเป็นพิธีแต่งงานพระราชทานจากฮ่องเต้ ข้าก็คง ต้องหาทางบ่ายเบี่ยง

หากบ่ายเบี่ยงไม่สำเร็จ ก็หนี”

อันหลิงหยุนพูดจาแบบนี้ทำเอากงชิงวี่รู้สึกกลัวอยู่บ้าง กุมมืออันหลังหยุนไว้แน่น เอ่ยขึ้นว่า
“คิดซะว่าข้าไม่ได้ถาม ลืมมันซะเถอะ

อันหลิงหยุนนิ่งขรึม เป็นนานกว่าจะหัวเราะออกมา

เดินตามกงชิงวีไป แล้วกงชิงวี่ก็ยังถามขึ้นด้วยความ ข้องใจว่า “หลินได้อวี้และเจี่ยเป่าอวี้ ทั้งสองอยู่ในนิยาย เรื่องความฝันในหอแดงใช่หรือไม่”

อันหลิงหยุนพยักหน้า”อืม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ