ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 451 สั่งสอนชี้แนะส กงกง



บทที่ 451 สั่งสอนชี้แนะส กงกง

ตอนที่กงชิง มาถึง มีดของอันหลิงหยุน ก็ถูกวางลง เรียบร้อยแล้ว นางปรายตามองกงชิงวี่ที่เดินเข้าประตูมา: “ไม่ใช่ว่าท่านโกรธหรอกนะเพคะ?”

“หงเถาบอกว่าเจ้าถือมีดออกมาด้วยเล่มหนึ่ง เจ้าจะทํา อะไรน่ะ?” ขณะที่พูด กงชิงวี่ก็ยื่นมือออกมาดึงมือของ อันหลิงหยุนไป มองดูซ้ำๆ เพื่อให้แน่ใจว่านางไม่มีอะไร ผิดปกติ จึงค่อยยอมวางมือของอันหลิงหยุนลง

“ไม่มีอะไรเพคะ ข้าแค่อยากจะทดสอบว่าพวกเขา มี ความสามารถในการรักษา เยียวยาบาดแผลให้หายสนิท ได้ด้วยตนเองหรือไม่ แต่คิดไปคิดมาข้าตัดใจทำไม่ลง จึงยังไม่ได้ลงมือน่ะเพคะ” อันหลิงหยุนพูดตามความจริง เหมือนที่คิดไว้ ทันทีที่กงชิงวี่ได้ยินว่า นางจะแตะต้อง ลูกชายของเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับการหมายเอาชีวิตเขา ไปด้วย จึงบันดาลโทสะขึ้นมาทันที

“พวกเขายังเล็กแค่นั้น เจ้าก็โหดร้ายถึงเพียงนี้แล้วหรือ เจ้าไม่กลัวว่าพวกเขาจะแค้นเจ้าหรืออย่างไร?” กงชิงวี่ เดินไปเดินมาอย่างโกรธเกรี้ยว ชี้ไม้ชี้มือใส่อันหลิงหยุ นไม่หยุด ทว่าดวงตาอันเฉยชาสงบนิ่งของอันหลิงหยุน คู่นั้น กลับมองจ้องไปที่กงชิงวี่ เขาเอามือไพล่หลังทันที เหยียดหลังตรงพลางเอ่ยขึ้นว่า “ข้าไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่เป็นให้เกียรติต่างหากล่ะ”

อันหลิงหยุนรู้สึกขบขัน ลุกขึ้นเดินเข้าไปตรงหน้ากงชิง วี่ เอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋องจะกลัวข้าได้อย่างไรกันเพคะ?”
“ข้า … ” กงชิงวี่ลอบกลืนน้ำลายลงคอ สายตาจ้องมอง ตรงแหน่วไปที่อันหลิงหยุน ไม่พูดอะไรออกมาอีก

อันหลิงหยุนเอ่ยขึ้นว่า: ” ไม่พูดเรื่องไร้สาระกับท่านแล้ว ข้าจะไปดูอาการสวีกงกงเสียหน่อย เมื่อเช้านี้อาหยู่ก็ ไม่ได้มา หมอจวนโจวเฝ้าดูอาการให้ทั้งคืน ไม่รู้ว่าเป็น อย่างไรบ้างแล้ว”

“รู้ทั้งรู้ว่าพวกเขา ข้า …..” หลังจากโมโหโกรธามา ตลอดทั้งคืน กงชิงวี่เริ่มรู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมาแล้ว ยื่นมือออกไปจับมือของอันหลิงหยุน โอบคนเข้ามาใน อ้อมแขน ก้มศีรษะลงจุมพิตเบาๆ

อันหลิงหยุนรู้สึกขบขันอย่างยิ่ง: ” ท่านพูดของท่าน เอง ถึงโกรธไปก็ไม่มีประโยชน์ พ่อโกรธขึ้นมายังพอคุย กันได้ เพราะพ่อเค้าโกรธง่ายอยู่แล้ว นี่ท่านก็กลายเป็น โกรธง่ายไปด้วยอีกคนแล้วหรือเพคะ? ไม่ได้นอนมาทั้ง คืน ไม่เหนื่อยหรือเพคะ?”

“ข้าไม่ยอมลืมเรื่องนี้ง่ายๆแน่!”

“ถึงอย่างนั้นก็ต้องพักผ่อนเพคะ ท่านไม่ได้นอนมาทั้ง คืน ต้องเหนื่อยมากเป็นแน่ ท่านไปพักผ่อนกับพวกเด็กๆ เถอะ ข้าจะไปดูอาการสวีกงกง สวีกงกงอายุมากแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบ แม่นมซีเป็นเหมือนหลุมบ่อ เป็นอุปสรรค อันยากลำบากทางหนึ่ง สำหรับเขามาโดยตลอด ข้าไม่ อยากให้เขาต้องตายไปทั้งอย่างนี้

เขาเองก็ทำเพื่อข้า ข้าจะไปดูเขาเสียหน่อย ท่านอ๋อง พักผ่อนก่อนเถอะเพคะ ”
อันหลังหยุนช่วยพยุงกงชิงไปที่เตียง ถอดเสื้อผ้าของ เขาให้กับมือ กงชิงวี่ก็เหนื่อยมากแล้วจริงๆ เขามองดู ลูกชายที่กำลังเล่นอยู่ รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก เอ่ยถาม อันหลิงหยุนว่า: ” พวกเขาได้กินแล้วหรือยัง?”

“ กินแล้วเพคะ ไม่ได้กินจะอารมณ์ดีถึงเพียงนี้ได้ อย่างไรกัน ท่านพักผ่อนก่อนเถอะ ข้าจะไปดูหน่อย ตอนแรกคิดว่าเมื่อวานนี้ เข้าวังไปจะถามเรื่องชื่อเสีย หน่อย สุดท้ายวุ่นวายเสียจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย เพคะ”

“เรื่องชื่อข้าจะคิดเอง ไม่จําเป็นต้องถามพวกเขา” กงชิง วี่ล้มตัวลงนอน ห่มผ้าห่มแล้วพลิกตัว พาดแขนเป็นแนว นอน ไปรวบเอาเด็กๆทั้งหมด เข้ามาป้องไว้ในอ้อมแขน แม้ว่าจะมีจำนวนมากอยู่สักหน่อย แต่เมื่อเขาพยายาม อยู่ครู่หนึ่ง ก็สามารถทำได้สำเร็จในที่สุด

เมื่อเห็นว่า เจ้าห้าอยู่ห่างจากเขาไกลไปหน่อย ทั้งยังดู ท่าว่าคร้านจะแย่งชิงความเอ็นดู กงชิงวี่จึงอยากทำดีกับ เขาขึ้นสักนิด จึงย้ายเจ้าห้ามาไว้ข้างหน้าและกอดเขา เอาไว้

อันหลิงหยุนออกจากเรือนพักผ่อน ไปดูอาการสวีกงกง สวีกงกงเพิ่งฟื้นขึ้นมา เมื่อคืนเขาอยู่ในอาการหลับใหล ไม่ได้สติอยู่ตลอด ฟื้นมาเขาก็เริ่มมีอาการปวดหัว รู้สึก ทรมานขึ้นเรื่อยๆ หมอจวนโจวกำลังจะไปแจ้งอันหลิงหยุ น นางก็มาพอดี

“พระชายา”
หมอจวนโจวรีบกล่าวคำทักทาย: “ไม่มีอาการร้ายแรง ใดๆ แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่ต้องพักผ่อนดูแลร่างกายสัก ระยะหนึ่ง ถึงอย่างไรอายุก็มากแล้ว”

“ข้าดูหน่อย” อันหลิงหยุนเดินไปนั่งข้างหน้าสวีกงกง สวีกงกงอยากลุกขึ้นนั่ง แต่อันหลิงหยุนหยุดเขาเอาไว้

“อย่าเพิ่งลุก ตอนนี้กงกงยังต้องพักผ่อนให้มาก”

ส กงกงซาบซึ้ง จนดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาคลอหน่วย ใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาเป็นพัลวัน: “ข้าน้อยไม่เคยได้รับรู้ถึง ความสุข จากการถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนในชีวิต ถึงกับมี คนช่วยตรวจรักษาอาการเจ็บป่วย ให้ข้าได้นอนเพื่อรับ การปรนนิบัติดูแล”

อันหลิงหยุนยิ้ม: “กงกงก็เป็นคนเหมือนกัน สำหรับ ข้าแล้วไม่มีอะไรต่างกัน ล้วนมีความรู้สึกทั้งเจ็ด ความ ปรารถนาทั้งหก เหมือนกันทุกคน พูดให้เรียบง่ายหน่อย ก็คือ มีของบางอย่างรู้แต่เพียงเล็กน้อย มอบให้แก่ผู้คน ไปทุกคนก็เข้าใจรับรู้ได้ แต่สำหรับบางคนให้มีสักแค่ ไหน ก็ไม่ต่างอะไรกับไม่มีแม้แต่อย่างเดียว ท่านว่าอย่าง นั้นหรือไม่?”

สวีกงกงหน้าขาวซีด อันหลิงหยุนเอ่ยว่า “กงกง เรื่อง บางเรื่องท่านไม่จำเป็นต้องถือสาใส่ใจ ขอเพียงท่านคิด ออกและปล่อยวางได้ นั่นก็เพียงพอแล้ว คนภายนอกจะ คิดว่าท่านเป็นอะไรไม่สำคัญ ท่านมีเมตตาปฏิบัติตัวชอบ ธรรม นั่นก็ถือว่าแข็งแกร่ง ยอดเยี่ยมกว่าพวกหมูหมา พวกนั้นมากแล้ว
พวกเราลองคุยกันเล่นๆว่า พวกผู้ชายที่ชอบเที่ยวหา เศษหาเลยบนท้องถนนพวกนั้น ที่มีมากคือสิ่งใด ก็ยังมี บางเวลา ที่พวกเขาเกิดไร้เดียงสาขึ้นมาได้เช่นกัน

เหตุผลที่คนเรามีชีวิตอยู่ นั่นก็เป็นเพราะว่าคนเราต่าง ก็มีหัวใจ หัวใจก่อกำเนิดความรู้สึก ความรู้สึกก่อกำเนิด ความรัก ความรักก่อให้เกิดเป็นชีวิต”

“กงกง มีเรื่องราวทางพุทธศาสนาเรื่องหนึ่งเล่าว่า ผู้ หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตลง นางนอนเปลือยอยู่บนพื้น คนที่ เดินผ่านไปมาเห็นนาง เพียงปรายตามองสั้นๆ ก็เดินผ่าน เลยไป คิดว่านางน่าสงสาร แล้วส่ายหัวเดินจากไป คนที่ สองเห็นแล้ว ถอดเสื้อของตัวเองออก นําไปคลุมบนร่าง ของนางให้ แล้วจึงจากไปเช่นกัน มีเพียงคนที่สาม ตอน ที่เขาเดินผ่านมาเห็น เขาขุดหลุมแล้วช่วยฝังศพผู้หญิง คนนั้น

ผู้หญิงคนนี้ในชาติต่อมา ได้พบกับคนสามคน คนแรก เป็นเพื่อนตั้งแต่วัยเด็ก คนนี้เติบโตมากับนาง แต่สุดท้าย ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งไม่ได้มีความรักระหว่างชายหญิง ต่อกัน แต่นางใจดีกับคนนี้มาก คนที่สอง เป็นคู่หมั้นของ นาง คู่หมั้นของนางผู้นี้รักนางอย่างยิ่ง และนางเองก็รัก คน ๆ นี้เช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลบางประการ พวกเขาก็ไม่ ได้อยู่ด้วยกัน ในทางกลับกัน จู่ๆมีคนผู้หนึ่งปรากฏตัว ท่ามกลางความสับสนงงงัน ก็ได้แต่งนางเป็นภรรยา ไปเสียอย่างนั้น

คู่หมั้นของนางเสียใจมาก จนคิดจบชีวิตตัวเองลง บังเอิญได้พบกับหลวงพ่อรูปหนึ่ง หลวงพ่อได้ช่วยชีวิต เขา และถามเขาถึงสาเหตุ เขาบอกว่าคู่หมั้นของเขาแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว

หลวงพ่อจึงบอกว่า นั่นเป็นเพราะเขาไม่ใช่คนที่ฝังศพคู่ หมั้นในชาติก่อน

หลวงพ่อบอกว่า คู่หมั้นของเขารู้สึกขอบคุณเขา จึง กลับมาเพื่อใช้คืนหนี้น้ำใจ มอบน้ำใจรักกับเสื้อผ้าคืนให้ กับเขา แต่สุดท้าย กลับต้องแต่งงานกับคนคนนั้นที่ช่วย ฝังนาง

นี่คือสาเหตุที่ คนบางคนท่านอาจจะเห็นว่า เขาไม่ดีถึง เพียงนั้น แต่กลับมีผู้หญิงที่ดีแสนดีไปแต่งงานกับเขา

คนคนหนึ่งจะเลวร้ายอีกสักแค่ไหน พวกเขาก็ยังมีช่วง เวลาหนึ่งที่ฉุกคิดได้ และช่วงเวลาหนึ่งที่ฉุกคิดได้นี่ล่ะ ที่เกิดเป็นการตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขา ”

สวีกงกงยังคงยากจะเข้าใจ: เช่นนั้น แล้วอาซีล่ะ?

อันหลิงหยุนยิ้มและกล่าวว่า: “แม่นมซี มีเพียงความ รู้สึกนี้ของสวีกงกงเท่านั้น เสียดายก็เพียง

สวีกงกงเกิดมาผิดช่วงเวลา ดังนั้นนางจึงมาเร็วเกินไป หากว่านางได้ไปเกิดใหม่ ข้าก็ไม่แน่ใจว่านางจะไปอยู่ ที่ไหนแล้ว

แต่เรื่องนี้ก็พูดได้ไม่แน่ชัดนักหรอก ด้วยนิสัยของ แม่นมซี นางคงจะไม่ไปก่อน นางอาจจะรอ

สวีกงกงอยู่ก็เป็นได้ ”
สวีกงกงฟังจบ จึงมองอันหลิงหยุนนิ่ง: “เช่นนั้นข้า. … ”

“กงกง … มีบางเรื่องที่ข้าต้องบอกท่าน”

“พระชายา โปรดกล่าวมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ตอนนี้ไม่ว่า ใคร สวีกงกงก็ไม่เชื่อ เขาเชื่อเพียงอันหลิงหยุนคนเดียว เท่านั้น

อันหลิงหยุนกล่าวว่า: “เรื่องที่ข้าเล่าให้ท่านฟัง เป็นเรื่อง ราวของศาสนาพุทธ ณ ที่แห่งนี้ ศาสนาพุทธไม่เป็นที่ แพร่หลาย ได้เห็นก็แค่เคยได้เห็น

สวีกงกงน่าจะเคยเห็นฮองเฮากินเจ สวดมนต์ท่องพระ ธรรม ”

“เคยเห็นพ่ะย่ะค่ะ” สวีกงกงตอบอย่างรวดเร็ว

อันหลิงหยุนกล่าวต่อ: “เรื่องทั้งหมดที่ข้ารู้ นั่นเป็น เพราะอาจารย์ของข้า เป็นคนบอกข้าเอง

และถ้าท่านเชื่อในพระพุทธศาสนา ท่านจะฆ่าตัวตาย ไม่ได้ ต่อให้เป็นการอดอาหารจนตายก็ไม่ได้เช่นกัน

เพราะเมื่อทันทีที่ตายลง นั่นจะถือว่าเป็นบาป และมี โอกาสอย่างมากที่จะไม่สามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ได้

และบางทีแม่นมซี อาจไม่สามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ ได้เช่นกัน ”

“ หา?” สวีกงกงตกใจจนถึงกับผงะ
อันหลิงหยุนฉีดยาให้เขา ไม่ได้พูดอะไรอีก สวีกงกงรีบ ถามว่า “เช่นนั้น ควรทำเช่นไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”

“วิธีก็นับว่ามีอยู่เช่นกัน ต้องมีใครสักคน คัดลอกพระ คัมภีร์ เก้าร้อยแปดสิบเอ็ดคัมภีร์อย่างเคร่งครัด ถ้าคัด ลอกได้ครบถ้วนแล้ว ข้าได้ยินมาว่าจะทำให้คนที่ตายไป สามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ได้

ท่านก็รู้อยู่แล้วว่า อันที่จริง การตายของแม่นมซีไม่ได้ เกิดจาก การลงมือของท่านอ๋องเพียงผู้เดียวในใจของ นางเรียกร้องหาความตาย! ”

“ข้ารู้พ่ะย่ะค่ะ ข้ารู้!”

สวีกงกงพยักหน้าและรีบพูดว่า “พระชายา แต่ข้าไม่มี พระคัมภีร์นะพ่ะย่ะค่ะ?”

“เรื่องนี้พูดแล้วกลับง่ายมาก ข้าสามารถคิดหาวิธีเอามา ให้ท่านได้ เพียงแต่ท่านต้องเข้าวังไปรับใช้ฝ่าบาท เรื่อง การคัดลอกพระคัมภีร์ เกรงว่าจะทำไม่ได้เสียแล้ว”

“ฝ่าบาท……”

สวีกงกงลังเลแล้ว อันหลิงหยุนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ