ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่433 ตกลงใครขนตาย



บทที่433 ตกลงใครขนตาย

แม่ทัพอันพาทหารฝีมือดีจำนวนห้าร้อยนายเข้าเมือง ทั้งห้าร้อยนายต่างเฝ้าอยู่ที่ๆอันหลิงหยุนพำนัก

เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้อันหลังหยุน

แม่ทัพอันจึงได้พบกับจุนโม่ช่าง

ตอนนี้จุนโม่ซ่างไม่เป็นอะไรแล้ว อันหลิงหยุนให้ยา ถอนพิษได้โดยเร็ว คนของเขาก็ไม่เป็นไร เมืองถ่าถ่างก็ กลับสู่สภาวะปกติ

อันหลิงหยุนพบกับแม่ทัพอันก็รีบเดินเข้าไปหา “ท่าน พ่อ”

“ไม่ต้องมา พ่อจะไปหาเจ้าเดี๋ยวนี้ “แม่ทัพอันรีบเดินไป หาบุตรสาว อันหลิงหยุนรู้สึกน้อยใจ

เมื่อเห็นแม่ทัพอันนางก็ร้องไห้ทันที

แม่ทัพอันรู้สึกโกรธมาก “พวกเขารังแกเจ้าใช่หรือไม่ ไม่ให้เจ้าได้กินอิ่มนอนหลับหรือ” จุนโม่ซ่างรู้สึกหน้าตึง นี่เขาหมายความว่าอย่างไร

มองแม่ทัพอันอย่างดูถูก จุนโม่ซ่างปฏิบัติอย่างมี มารยาท “เชิญแม่ทัพอัน

แม่ทัพอันมองไปยังจุนโม่ซ่าง”ไม่จำเป็น ข้ายังมีเรื่องต้องทำ”

“.………..ใบหน้าของจุนโม่ช่างไม่สู้ดีนัก

“แม่ทัพอันมาถึงเมืองถ่าถ่างก็คือแขก ยังมีเรื่องอะไรที่ สำคัญไปกว่าการนั่งลงพูดคุยไม่กี่คำกับองค์ชายหรือ ”

“ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งประเทศต้าเหลียง ย่อมไม่ สามารถนั่งอยู่ที่นี่ได้ ข้าเข้าเมืองมาแล้ว เพื่อแสดงถึง ความใจกว้างของประเทศต้าเหลียง วันนี้ข้าได้พาท หารห้าร้อยนายมาด้วย ทหารทั้งห้าร้อยนายนี้จะอยู่ที่นี่ ก่อน รอจนหวูโยกั่ว เจรจามิตรภาพระหว่างสองประเทศ เสร็จสิ้นแล้ว ก็จะถอนกำลังกลับไป ส่วนข้ายังมีงานต้อง จัดการ คงต้องขอตัวก่อน หลิงหยุน เจ้ากลับไปกับพ่อ ”

เป้าหมายของแม่ทัพอันก็คือมารับตัวอันหลิงหยุน อัน หลิงหยุนกลับไม่วางใจที่จะให้กงชิงอยู่ที่เมืองถ่าถ่างคน เดียว

“ท่านพ่อ ข้าอยากเที่ยวเล่นก่อน ข้ามาถึงที่นี่ ยังไม่ได้ เที่ยวเลย “อันหลิงหยุนใบหน้าเชื่อฟัง แม่ทัพอันมองหน้า ลูกสาวอย่างลำบากใจ

“เป็นอย่างนี้แล้วยังจะเที่ยวเล่นอะไรอีก”แม่ทัพอันมี หรือจะไม่รู้ความคิดของอันหลิงหยุน

“หากไม่เที่ยวเล่นตอนนี้ ภายหลังก็ไม่มีโอกาสแล้ว”อัน หลิงหยุนดึงแขนแม่ทัพอัน ทำหน้าไม่อยากกลับไป

แม่ทัพอันไม่มีทางทำอะไรได้เลย แต่ไหนแต่ไรมาลูกสาวนางว่าอย่างไร เขาก็ว่าตาม ครั้งนี้เขาไม่อาจอยู่ ด้วยได้ แต่ก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วง

กงชิงวี่จึงพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อตากลับไปเถอะ ข้าจะดูแล หลิงหยุนเอง รับรองว่าจะไม่ให้ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

“ก็ดี เช่นนั้นข้าก็กลับก่อน พวกเจ้าเสร็จธุระแล้วก็กลับ ไป”แม่ทัพอันพูดจบ มอบหมายให้อันหลิงหยุนอีกหลาย คำ คนก็ไปก่อนแล้ว

อันหลิงหยุนมาส่งแม่ทัพอันที่หน้าประตูเมือง แม่ทัพอัน ออกจากเมืองแล้วอันหลิงหยุนจึงกลับเข้ามา

จุนโม่ช่างเขียนหนังสือสวามิภักดิ์ด้วยตนเอง อีกทั้งยัง ให้สัตย์สัญญาว่าถ้าเขายังมีชีวิตอยู่จะไม่บุกรุกประเท ศต้าเหลียง เพื่อแสดงถึงว่าจริงใจของเขา ยังยินดีจะส่ง บรรณาการให้สามปี

อันหลิงหยุนรู้สึกว่า จุนโม่ซ่างเห็นเรื่องใหญ่โตบาน ปลายแล้ว ไม่ทําเช่นนี้ไม่ได้

แค่สามปี อันหลิงหยุนคิดว่ายังน้อยไป

หากเป็นพวกเขาที่ยื่นข้อเสนอนี้ ย่อมต้องส่ง บรรณาการหลายปีมากกว่านี้แน่

แต่เรื่องสงครามชายแดนครั้งนี้คลี่คลายได้รวดเร็วมาก อันหลิงหยุนเองก็คิดไม่ถึง ที่จุนโม่ซ่างจับนางคืออุบัติเหตุ พวกเขานับว่าจากร้ายกลายเป็นดีได้รับข้อดีไป
ก่อนจากกันอันหลิงหยุนถูกเชิญให้เดินเที่ยวชมเมืองถ่า ถ่าง มีจุนโม่ช่างกับถังหลงและแม่ทัพช่างเต่อเดินเที่ยว เป็นเพื่อน

อันหลิงหยุนหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้ยินคนอื่นนินทาลับ หลังถึงความสัมพันธ์ของนางกับกงชิงวี่ นางยังไม่ทันได้ โกรธกงชิงวี่ก็โมโหก่อนแล้ว

เห็นสีหน้ากงชิงวี่ที่แสดงออกมา อันหลิงหยุนก็อดไม่ ได้ที่จะหัวเราะ

ที่น่าโมโหที่สุดคือ จุนโม่ซ่างยังจัดสาวงามไว้ให้กงชิง บอกว่าเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจของเขา เขายินดีจะ มอบหญิงสาวที่รักที่สุดให้กับกงชิงวี่ หวังว่าเขาจะรับไว้

อันหลิงหยุนมองหญิงสาวคนนั้น งดงามเหมือนไม่ได้กิน อาหารบนโลกมนุษย์งามเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ก็มิปาน

หญิงสาวยิ้มอย่างสวยงาม“คำนับอ๋องเสียน พระชายา

เสียน”

อันหลิงหยุนค่อยๆยิ้ม “ลุกขึ้นเถอะ”

กงชิงวี่ขมวดคิ้ว “หญิงคนนี้จะเป็นสาวงามได้อย่างไร ข้าว่าอัปลักษณ์จนหาใดเทียบได้ ข้ามองแล้วรู้สึกคลื่นไส้ รีบออกไป อย่าให้ข้าต้องอาเจียนออกมา ลองดูอายุอีกที เห็นได้ชัดว่าเป็นป้าแล้ว”

“หา”
หญิงสาวได้ฟังกงชิงวี่พูดดังนั้น เกือบจะร้องไห้ออกมา ใบหน้าขมขื่น

อันหลิงหยุนเกือบหัวเราะออกมา แต่มองดูแล้วก็อดทน ไว้

จุนโม่ซ่างยังอยากโต้เถียงเรื่องความงามของหญิงสาว เห็นอันหลิงหยุนอดกลั้นที่จะหัวเราะออกมา กลับมองอย่า งบี้อใบ้เล็กน้อย

กงชิงวี่มองแวบหนึ่งรู้สึกไม่ถูกต้อง ก็ลากคนเดินออกไป ทันที

อันหลิงหยุนเดินไปด้วยหัวเราะไปด้วย “ท่านอ๋อง ข้ายัง ไม่โกรธเลย ท่านโกรธอะไรกันเล่า”

“ฮึ ข้าว่าเจ้าคงถูกใจแม่นางคนนั้นเข้าแล้ว เห็นสายตา เจ้าคู่นั้นที่มองนาง ดวงตาจะถลนออกมาแล้ว “กงชิงวิ่ นึกถึงท่าทีตอนที่อันหลิงหยุนจ้องมองหญิงสาวคนนั้น ก็ รู้สึกโมโหขึ้นมา

อันหลิงหยุนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แต่กลับหอม ไปที่แก้มของกงชิงวี่หนึ่งที เสียงจุ๊บดังขึ้น โลกก็เงียบลง ทันที

กงชิงวี่มองไป แววตาดุจน้ำ เกิดคลื่นแห่งความหลงใหล “หลิงหยุน ไม่ได้มองจริงหรือ”

“มองน่ะก็มอง หญิงสาวที่งดงามขนาดนั้น คิดอยู่ว่าไม่ ดีตรงไหน วันหลังข้าก็จะแต่งตัวดีๆบ้าง แต่ท่านอ๋องอย่าหึงขนาดนั้นเลย ข้าไม่ได้ชอบหญิงสาวซะหน่อย”อันหลิง หยุนอยากอธิบายนานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสสีหน้ากงชิง ขรึมสลับสดใส เมื่อได้ยินค่าสุดท้ายสีหน้าค่อยๆดีขึ้น

อันหลิงหยุนจึงพูดว่า “ที่ข้าปฏิบัติต่อยู่มิงก็เป็นแค่พี่สาว ปฏิบัติต่อน้องสาวเท่านั้น ข้าไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนั้นต่อ นางจริงๆ หรือถึงแม้จะมี ก็คงจะมีให้กับป่ายสู้สู้ ทำไม่จึง เป็นมู่มิง”

“อะไรนะ”กงชิงหยินสีหน้าขรึมลง เสียงสูงขึ้น

อันหลิงหยุนรู้สึกกลุ้มใจ“นิสัยของมู่มิงข้าก็ควบคุมไม่ ได้”

พอได้ฟังกงชิงวี่ก็หน้าเขียว กล่าวอย่างโมโหว่า “เจ้า กำลังคิดว่า ข้าไม่สามารถหยุดเจ้าพูดเรื่อยเปื่อยได้หรือ

“ท่านอ๋อง ใครพูดเรื่อยเปื่อยกันแน่ ข้าไม่ชอบหญิง สาวแท้ๆ แต่ท่านกลับรู้สึกว่าข้าชอบ”อันหลิงหยุนกลุ้มใจ

ทําไมอธิบายยังไงก็ไม่เข้าใจ

ไหน้ำส้มสายชูนี้จะอุ้มไว้ถึงเมื่อไหร่กัน

“เช่นนั้นเจ้าต้องสาบาน”

กงชิงวี่หยุดลง ดึงอันหลิงหยุนไว้ด้วยมือเดียว อีกมือ หนึ่งก็ประคองหลังนางไว้ แววตาคมปลาบ เหมือนมีคนติด หนี้ชีวิตเขาแล้วยังไม่คืน อันหลิงหยุนรู้สึกหดหู่ใจ เพื่อ แสดงให้เห็นว่านางไม่ได้ชื่นชอบผู้หญิงจริง ยกมือขึ้น สาบาน “ข้าสาบาน หากข้าชอบผู้หญิง ขอให้สวรรค์.….….…..
“หุบปาก เจ้าน สาบานว่า หากเจ้าชอบผู้หญิง ข้าก็จะ เอาหัวชนกำแพงตายก็พอ”ไม่รอให้อันหลิงหยุนพูดจบ กง ชิงรีบห้ามเอาไว้ก่อน

อันหลิงหยุนมองเขาแวบหนึ่ง ช่างแปลกประหลาดซะ จริง

สาบานต่อว่า “หากข้าชอบผู้หญิง ข้าก็จะเอาหัวชน กําแพงตาย”

“ข้าหมายถึงตัวข้าชนกำแพงตาย”กงชิงวี่แก้ไขให้ถูก ต้อง

อันหลิงหยุนยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ “ท่านอ๋อง ล้วนถึงเวลาที่ ต้องตายแล้ว ใครจะตายก็ไม่ต่างกันหรอก”

จุนโม่ซ่างมองทั้งสองคนที่เหมือนโกรธเคืองกันมา นมนาน ชื่นชอบผู้หญิงหรือ

หญิงอัปลักษณ์คนนี้ชอบผู้หญิงอย่างนั้นหรือ

กงชิงวี่เห็นจุนโม่ซ่างเดินมา จึงไม่อีนุงตุงนังเรื่องนี้ต่อ หมุนตัวมองไปทางจุนโม่ซ่างแวบหนึ่ง แล้วเดินไปทางอื่น

อันหลิงหยุนตัวหนัก เดินได้ไม่ไกลนักก็เหนื่อยแล้ว

มีโรงเตี๊ยมข้างหน้า อันหลิงหยุนจึงเข้าไปพักผ่อน

พอนั่งลงกงชิงวี่ก็ยกขาข้างหนึ่งของอันหลิงหยุนขึ้นมา วางไว้บนขาของตน นวดขาให้อันหลุงหยุน
ตรงข้ามมีจุนโม่ช่างนั่งอยู่ สีหน้าจุนโม่ช่างขรึมลงอย่าง ไม่มีสาเหตุ

“คิดไม่ถึงเลยว่า อ๋องเสียนจะทุ่มเทกายใจเพื่อพระ ชายาเสียนขนาดนี้ ได้ยินข่าวลือว่าท่านอ๋องไม่ได้ชอบ พระชายา ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ “

อันหลิงหยุนเงยหน้า รู้สึกแปลกใจ จุนโม่ช่างอคติกับ พวกเขาทุกเรื่อง พวกเขาก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้ เขาอยาก ทำอะไรกันแน่ ในเมื่อยอมเปิดเมืองประกาศแล้ว คิดว่าทั้ง สองประเทศจะเป็นมิตรต่อกัน แล้วทำไมต้องทำอย่างนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ