ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 129 ท่านอ่องขี้หึงต้องการยึดทรัพย์



บทที่ 129 ท่านอ่องขี้หึงต้องการยึดทรัพย์

อันหลิงหยุนมองกลับไปที่อาหยูที่กำลังตื่นตระหนก อาหยูนิ่งงันไป

นี่ยังเป็นพระชายาอยู่หรือเปล่า?

พระชายาสูญเสียความทรงจำไปแล้ว?

เสินหยุนเจ๋ชอบพระชายา?

คู่รักในวัยเยาว์?

พระชายาเคยชอบเสินหยุนเจ๋มาก่อน?

แต่งงาน?

เช่นนั้นท่านอ๋องก็ไม่จำเป็นหรอกหรือ?

สมองของอาหยูยุ่งเหยิง เขาลืมเรื่องของตัวเองไปจน หมด แต่กลับกังวลว่าท่านอ๋องจะทําร้ายพระชายาโดย ไม่ได้ตั้งใจ

อันหลิงหยุนเดินเข้าไปและปิดประตูลง

กงชิงวี่ยืนอยู่หน้าเตียงด้วยใบหน้าที่เย็นชา ดวงตา ของเขาคมกริบราวกับใบมีด “เสินหยุนเจ๋พูดเช่นนั้น

จริงๆ หรือ? ”
อันหลิงหยุนพยักหน้า “หม่อมฉันแค่สงสัย ว่าหม่อม ฉันเคยตกปากรับคำที่จะแต่งงานกับเขาจริงหรือไม่ ในเมื่อเขาเองก็มีท่าทีไม่เลวต่อข้า ส่งปิ่นปักให้ อีกทั้ง ยังส่งหม่อมฉันกลับบ้าน เขาดูไม่เหมือนคนที่กำลังเส แสร้ง”

“ไร้สาระ พระชายาของข้า ต้องส่งให้เขาหรือไงกงชิง วี่ชี้ไปที่ประตูและถามด้วยความโกรธ

หลิงหยุนพูดอย่างแปลกใจ “แต่เขาบอกว่าเขากลับมา เพื่อสู่ขอข้า ข้าเองก็ตกลงรับปากว่าจะแต่งงานกับเขา นี่คงไม่ใช่เรื่องที่จะเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลได้?”

“ถ้าเขากล้า ข้าจะหักขาของเขา” กงชิงวี่เดินก้าวสอง สามก้าวไปยังตรงหน้าของอันหลิงหยุน ท่าทางน่ากลัว อย่างยิ่ง ราวกับเสือร้ายกินคนที่กำลังหิวโหยมาครึ่งปี ถ้ามันไม่กินก็ต้องตาย ดังนั้นมันย่อมสู้ทุกทางเพื่อที่จะ ได้กินคนผู้นั้น

อันหลิงหยุนยังคงทำตัวเดือดร้อน “แต่เขาบอกว่าพวก เราเหมาะสมกันที่สุด ล้วนเป็นผีเน่าโลงผุของเมืองหลวง ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไม่มีใครเทียบ

“เสินหยุนเจ๋!” กงชิงวี่กัดฟันแน่น เขาโกรธจนแทบ ตายแล้ว

อันหลิงหยุนกล่าวต่อ “เขายังบอกด้วยว่า หากท่านไม่ ต้องการข้าแล้ว เขาต้องการ อีกทั้งยังไม่รังเกียจ เขาจะ พาข้าออกเดินทางไปยังใต้หล้า กลายเป็นคู่สามีภรรยากัน เป็นคู่สวรรค์สร้าง

“ข้าจะฆ่าเขา” กงชิงวี่ชี้ไปที่ประตู มือของเขากำลังสั่น เขาก้าวไปที่ประตูด้วยความโกรธและคิดจะไปตามหา เสินหยุนเจ

อันหลิงหยุนเอ่ยต่อ “แต่เขายังบอกอีกว่า หากข้าไม่มี ความสุข ให้ไปหาเขา

กงชิงวี่หันมาและจ้องมองอันหลิงหยุนด้วยความโกรธ “เจ้ากล้า? ”

อันหลิงหยุนมองกงชิงวี่อยู่ครู่หนึ่ง

“หม่อมฉันผิดไปแล้ว ท่านอ๋องโปรดให้อภัย อย่าได้ ถือโทษอาหยู รวมถึงท่านถางและพ่อบ้าน พวกเขามี จิตใจ หม่อมฉันเข้าใจดี

พ่อบ้านไม่มีลูก เขาต้องการรักษาอาซิว อาหยูนับถือ อาซิวเหมือนพี่ชาย เขาไม่สามารถเห็นอาซิวตายไป แบบนี้ได้ สูญเสียน้องสาวไปก็เกินกว่าจะรับได้แล้ว เขา เอาชนะความเสียใจและยอมรับพระชายาที่ฆ่าน้องสาว ของเขา ไม่เพียงแต่ไม่ทำร้ายข้า แต่ยังคอยปกป้องข้า ทุกวัน สำหรับอาหยูแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง

มาวันนี้เขายังต้องยอมรับการตายของพี่ชายที่แสนดี เขาไม่มีทางรับไหว จะต้องตายตามไปด้วยแน่

ท่านถางมีความภักดีและกล้าหาญ เห็นแก่พ่อบ้านและอาหยู เขาไม่ลังเลที่จะทำให้ท่านอ๋องขุ่นเคืองและเสี่ยง ตนเองเข้าช่วย ถึงได้เป็นเช่นนี้

ท่านอ๋องเคยคิดหรือไม่ หากวันนี้เป็นท่านอ๋องเกิด เรื่อง พวกเขาก็จะไม่สนใจไยดีเลยสักนิด

หัวใจของผู้คนมีค่าที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป คนฐานะเช่นท่านอ๋อง สิ่งที่ต้องการคืออะไร?

ก็แค่จิตใจของคน

หากท่านอ๋องเกิดเรื่อง พูดจาไม่น่าฟัง เงินจะมี ประโยชน์อะไรกัน เกรงว่าแม้แต่ภูเขาเงินภูเขาทองก็ ไม่มีใครกล้ารับไป

แต่จิตใจของผู้คนแตกต่างกัน และจิตใจของผู้คน รอบข้างล้วนมีคุณค่า

เพื่ออาซิวแล้ว ท่านถางและอาหยูสามารถบุกน้ำลุยไป นี่หมายความว่ากระไร?

เพื่อความชอบธรรม พวกเขาสามารถสละทุกสิ่งได้

แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นข้าที่รับผิดเพียงผู้เดียว แต่ท่างถาง และอาหยูเองก็ย่อมรู้ดีว่าท่านอ๋องจะไม่ทำร้ายข้า ดัง นั้นจึงได้กล้าทำเช่นนี้

และพวกเขาย่อมต้องรู้เช่นกันว่าท่านอ๋องทรงพระปรีชา ย่อมมองออกถึงเรื่องทั้งหมดได้ตั้งนานแล้ว

ท่านอ๋องจะต้องจัดการกับพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ พวกเขาก็ยังต้องทำ ซึ่งแสดงว่าพวกเขาเป็นคนที่มีหลัก คุณธรรม

อาซิวไม่มีประโยชน์กับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย อีกทั้ง ยังเป็นภาระ แต่พวกเขาก็ยังปฏิเสธที่จะยอมแพ้ แม้ว่า อาซิวจะใกล้ตายและไม่มีทางรอด แต่พวกเขาก็เต็มใจ ที่จะเสี่ยง

ท่านอ๋อง เคยคิดหรือไม่ อาซิวในวันนี้อาจจะเป็นกลาย เป็นท่านอ๋องในภายหลัง หากท่านอ๋องเป็นเช่นนั้น พวก เขาแม้ตัวตายก็ยอมที่จะปกป้องท่าน

พ่อบ้านเป็นชายชรา เขาไม่มีบุตรชาย ท่านอ๋องเห็นว่า เขาไม่มีผลงานแต่ก็ทำงานหนักไม่น้อย โปรดกรุณาเขา เถอะ เหลือทางรอดให้เขา! ”

“พระชายาพูดจนตัวข้าถึงกับซาบซึ้ง คงเป็นเช่นนั้น จริงๆ ข้ากลับนึกว่า หากมีวันหนึ่ง ตัวข้ากลายเป็นเช่นอา ซิว พระชายาจะทำเช่นไร?” กงชิงวี่รู้สึกเย็นชาอยู่บ้าง แต่เวลานี้ยามมองอันหลิงหยุนกลับดูล้ำลึกขึ้นมาอยู่ หลายส่วน

อันหลิงหยุนไม่ได้หลีกเลี่ยง “หากยังมีความหวัง แน่นอนว่าย่อมไม่ยอมแพ้ แต่ถ้าหากไร้ความหวังแล้ว บางทีข้าอาจจะไปยังสถานที่อันไกลโพ้นแทน กระไร คนก็ตายไปแล้ว สองคนก็คือตาย มิอาจเอาอะไรมาทดแทนได้”

ใบหน้าของกงชิง เป็นสีเขียวคล้ำ เขากัดฟันเอ่ย “ข้า นึกอยากจะตีเจ้าให้ตายนัก!”

อันหลิงหยุนกลับไม่กลัวเขา “ท่านอ๋องตัดใจลงมือก็ ย่อมได้ หม่อมฉันก็แค่พูดตามความจริง หากท่านอ๋อง อยากรู้จริงๆ หม่อมฉันถามท่านอ๋อง หากหม่อมฉันเป็น อาซิว ท่านอ๋องจะไม่ใส่ใจไยดีหม่อมฉันหรือไม่?”

กงชิงวี่ตกตะลึง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

อันหลิงหยุนรู้ดีว่าต้องเป็นเช่นนั้น หากเป็นซูมู่หลง เขาไม่มีทางไม่ใส่ใจนางแน่ แต่เขาจะพิจารณาปัญหา จากมุมมองของหัวหน้าว่าจะช่วยหรือไม่

ดังนั้นสิ่งที่นางพูดก็คือความจริง

กงชิงวี่เอ่ย “พระชายาเป็นสตรี จะเทียบกับข้าได้ กระไร สามีคือท้องฟ้า เมื่อไม่มีท้องฟ้าแล้ว เข้าย่อมเป็น ม่าย!”

“ช่างเป็นคำพูดอัปมงคล ตายดีมิสู้อยู่ต่ออย่างลำบาก หากท่านอ๋องขอร้องให้ข้ามีชีวิตอยู่เพียงเพื่อท่านเท่านั้น หม่อมฉันคงไม่สามารถทำได้” อันหลิงหยุนพูดตาม ความจริง

ใบหน้าของกงชิงวี่สงบนิ่ง “แล้วเมื่อไหร่จะทำได้? ”
“นั่นขึ้นอยู่กับความปรารถนา และความจริงใจของ ท่านอ๋องต่อหม่อมฉัน ในยามที่เวลาและสถานที่ที่ล้วน บรรจบเหมาะสม

“หึ เวลาและสถานที่ที่บรรจบเหมาะสม โกหกข้าได้ เป็นฉากๆ” ในใจของกงชิงวี่เต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาเข้าใจความหมายของอันหลิงหยุนดี

นางอยากจะบอกว่า นางจะทำได้ก็ต่อเมื่อเขานำหัวใจ

เข้าแลก

แน่นอน นี่เป็นสตรีที่ไม่ธรรมดาเหมือนผู้ใด ในใต้หล้า มิอาจหาได้อีก สตรีผู้หนึ่งที่กล้าเอ่ยคำพูดแบบนั้นออก มา

แต่เขาก็ยังชื่นชมยอมรับ และชอบนาง

ถูกสตรีผู้หนึ่งครอบงำ กงชิงวี่ถึงกับตกตะลึงไป

เมื่อรู้สึกว่าหัวข้อไปไกลเกินไปหน่อย อันหลิงหยุนรีบ แก้ไขและย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง

“ท่านอ๋อง ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าไม่ได้ชอบ เสินหยุนเจว๋นั่น เขาแค่มักจะปรากฏตัวทำให้หม่อมฉัน รำคาญอย่างยิ่ง

แต่วันนี้หม่อมฉันจะไม่หลีกเลี่ยงไปไหน แค่หวังว่า ท่านอ๋องจะไม่ลงโทษพวกเขา”
อันหลิงหยุนโค้งตัวลงแสดงความเคารพ

หกงชิงวี่สีหน้าขาวซีด มุมปากของเขายกขึ้น ช่าง เปลี่ยนแปลงเร็วเสียจริง!

“เหตุใดเจ้าจึงไม่คุกเข่าลง นี่คือความจริงใจของพระ ชายา?” กงชิงวี่ที่สงบลงเดินเข้าไปหาอันหลิงหยุน อัน หลิงหยุนเองก็ไม่ได้เลอะเลือน นางเตรียมจะคุกเข่าลง ทันที

กงชิงวี่จับแขนของอันหลิงหยุนเอาไว้ “เจ้าจะคุกเข่า จริงหรือ?”

อันหลิงหยุ เงยหน้าขึ้นมอง “ท่านอ๋องต้องการให้ข้า คุกเข่ามิใช่หรือ?”

“หากพระชายาคุกเข่า เกรงว่าเจ้าคงวิ่งหนีกลับไปยัง บ้านเดิมของเจ้าอีก ครั้งที่แล้วมิใช่ว่าข้าเอ่ยคำว่าไสหัว ไปขึ้นมา พระชายาก็รีบกลับบ้านเดิมไปทันที หากข้าให้ พระชายาคุกเข่าจริง เห็นทีพระชายาคงไม่กลับมาแล้ว” กงชิงวี่กัดฟันหลังและดึงอันหลิงหยุนเข้ามาในอ้อมกอด

อันหลิงหยุนโอบเอวของเขาเอาไว้ หัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก นางยังไม่คิดแค้นเลยสักนิด แต่เขากลับ จำได้ดียิ่ง “ท่านอ๋อง ไม่สอบสวนแล้ว?”

“แน่นอนว่าข้าคงไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ ลงโทษยังคง ต้องมี เพียงแต่ครั้งนี้พระชายาหุนหัน ข้าจะปล่อยไป ชั่วคราว แต่ครั้งหน้าข้าไม่มีทางยกเว้นแน่ คุกใต้ดินหาใช่สถานที่ที่พระชายาจะไป มิอนุญาตให้เจ้าไปที่นั่น อีก” กงชิงวี่สั่งด้วยเสียงทุ้ม

“อืม ไม่ไปแล้ว” อันหลิงหยุนตอบรับทันที

“เจ้าเสินหยุนเจ๋นั่น จำไม่ได้จริงหรือ ไม่ชอบแล้ว?” กง ชิงวิ่ไม่ยอมแพ้ เมื่อนึกถึงการปรากฏตัวของเสินหยุน เจว เขาก็โมโหอย่างยิ่ง

นางรู้ว่ากงชิงวี่โมโหจนเลือดลมติดขัด เกรงว่าเขาจะ ทำร้ายตัวเอง ดังนั้นอันหลิงหยุนจึงเอื้อมมือไปลูบหลัง ของเขา

“ใครจะไปรู้ จำไม่ได้แล้วและก็ไม่ได้ชอบ แต่เขามัก จะพูดว่าข้าสัญญากับเขามาก่อน ข้าจึงสงสัยจริงๆ”

“สงสัยอะไร?” กงชิงวี่ดันอันหลิงหยุนออกมามองดู หากนางกล้าเอ่ยว่าชอบ เขาจะไปยึดทรัพย์ตระกูลเงิน

“หม่อมฉันจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีต แต่เงินหยุ นเจ๋ดูเหมือนจะไม่โกหก” อันหลิงหยุนอยากรู้เกี่ยวกับ เรื่องเหยียบเรือสองแคมของเจ้าของเดิม

นางไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน ดังนั้นถึงได้โพล่งออกมาเช่นนี้

กงชิงวี่กอดอันหลิงหยุนอย่างแรง “พรุ่งนี้ข้าจะไปยึด ทรัพย์
อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้น “ท่านอ๋อง เหตุใดท่านจึงได้ ความอดทนเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หม่อมฉันเป็นของ ท่านแต่เพียงผู้เดียว

ใบหน้าของกงชิงวี่แดงก่ำเล็กน้อย ท่าทาง สบายใจขึ้นมาบ้าง เขาเบือนหน้าหนี “ในเมื่อเป็นของข้า แต่เพียงผู้เดียว ก็อย่าไปพบเงินหยุนเจว่ มิเช่นนั้นอยู่ ภายใต้ราชสำนักเดียวกัน หากข้าวันไหนอารมณ์ไม่ดี ขึ้นมา คงจะตบเขาตายแน่”

“อืม” อันหลิงหยุนอยู่ในอ้อมแขนของกงชิงวี่ และรู้ว่า เขากำลังหึงหวง ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร

กงชิงวี่ลูบอันหลิงหยุน เขาปล่อยนางออกและมองดู จากนั้นจึงยกคางของนางขึ้นมา ใบหน้าของอันหลิงหยุ นขาวซีดราวกับหิมะ เขาเอื้อมไปจับมือของอันหลิงหยุน และพบว่ามันเย็นจัดจนน่าตกใจ

ใบหน้าของกงชิงวี่เคร่งเครียด “ทำไมถึงได้เย็นเช่น

อันหลิงหยุนถอยกลับ กงชิงวี่ก็เดินตามเข้าไป เข เขา ฉีกเสื้อคลุมของอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนยกมือทั้งสอง ข้างขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้ ด้านในของนางสวมเอี้ยม และกางเกงนาน ก่อนจะทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวยาวที่มี กระดุมหน้าท้อง

“ใส่เช่นนี้แล้วออกไปด้านนอก?” สีหน้าของกงชิงวี่น่า กลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
อันหลิงหยุนพูดขึ้นทันที “ข้าไม่มีเวลาเปลี่ยน”

“ได้ยินเสียงพ่อบ้านร้องไห้หลังอาหารเช้า? พระชายา ใส่ชุดเช่นนี้ทานอาหารช่างดีเสียจริง!” กงชิงวี่กัดฟัน แน่น เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้า จนอันหลิงหยุนได้แต่ต้อง ซ่อนตัวอยู่หลังฉากบังลม

“คุกใต้ดินเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น ท่านอ๋องอย่าได้ใกล้ เข้ามา รอข้าอาบน้ำเสร็จแล้วจะไปปรนนิบัติท่าน” อัน หลิงหยุนซ่อนตัวอยู่หลังฉากและตะโกนออกมา

กงชิง โมโหจนฉากบังลมพังลง

อันหลิงหยุนตกใจจนรีบไปซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้อง

กงชิงวีต้อนอันหลิงหยุน “เจ้าจะทำให้ข้าโมโหตาย

หรือ?”

.ท่านอ๋อง!”

อันหลิงหยุนโผเข้าหาเขาและกอดกงชิงวี่เอาไว้ กงชิง วี่คิดจะผลักนางออก แต่มือของนางกอดเขาเอาไว้แน่น

“ท่านอ๋อง ข้าหนาว!”

มือที่คิดจะผลักออกของกงชิงวี่เปลี่ยนเป็น กระชับแน่น เขาโอบนางเข้ามา

“เตรียมอ่างอาบน้ำ” กงชิงวี่ตะโกนด้วยความโกรธ อาหยูรีบลุกขึ้นยืนทันที ในขณะที่หงเถาและลุ่ยหลิ่วเองก็ ยืนรออยู่ข้างนอกตั้งนานแล้วด้วยความกังวล

เดิมคิดว่าครั้งนี้พระชายาคงจะโชคร้ายแน่แล้วไม่ มากก็น้อย ไม่กลับยังคงไร้อันตรายใดๆ อีกครั้ง

อ่างอาบน้ำเตรียมพร้อมอย่างรวดเร็ว เมื่อหงเถาและ ลุ่ยหลิวเข้าไป อันหลิงหยุนก็กำลังถูกกงชิงวี่กอดเอาไว้ ในอ้อมอก นางนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้านวม

อันหลิงหยุนคิดว่าครั้งนี้ร่างกายคงจะไม่ช่วยนาง แล้ว นางกำลังจะเป็นหวัด

ดูเหมือนว่าระบบร่างกายของนางต้องการอะไร ดังนั้น จึงไม่ช่วยเหลือนาง นางรู้สึกได้หนาวไปทั้งร่างจนตัวสั่น

กงชิงวี่พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “ข้าอภัยให้พวกเขาไปไม่ ได้”

อันหลิงหยุนหดตัวเข้าไปที่อ้อมอกของกงชิงวี่และ ปล่อยเสื้อผ้าของเขาออก นางคิดว่าเขายังหนุ่มแน่น กำยำดังนั้นเวลาโมโหจึงช่างทำให้คนขวัญเสียอย่างยิ่ง

กงชิงวี่ก้มหน้ามองนาง มือของอันหลิงหยุนสอด เข้าไปในเสื้อผ้าของกงชิงวี่และถูด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว ของตน กงชิงวี่เปิดเสื้อผ้าของตนออกและโอบอันหลิง หยุนไว้ในอ้อมแขน

“ท่านอ๋อง อ่างอาบน้ำพร้อมแล้ว”
“ถอยออกไปเถอะ”

“เพคะ” หงเถาและลุ่ยหลิวล่าถอยออกไป กงชิงวี่ปลด เสื้อผ้าของอันหลิงหยุนออก จากนั้นจึงวางนางลงในอ่าง น้ำ

เนื่องจากพิษไข้ อันหลิงหยุนจึงเริ่มควบคุมร่างกาย ของตนจากอาการป่วยไม่ได้

ในขณะที่นอนอยู่ในอ่างน้ำ อันหลิงยุนก็เริ่มเพ้อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ