ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 472 เหตุใดจึงเป็นฮองเฮา



บทที่ 472 เหตุใดจึงเป็นฮองเฮา

อันหลิงหยุนจากไปจุนเซียวเซียวก็ได้กลับไปนั่ง กินยา และมีคนเข้ามาปรนนิบัติ จากนั้นเป็นเวลานานถึงได้กลับ ไปพักผ่อน

อันหลิงหยุนออกมาจากประตูก็ไม่ต้องการกล่าวอันใดอีก

กงชิงวี่กุมมือของอันหลิงหยุนพลางมองไปที่นาง และ กล่าวถามนางทันที “เป็นอย่างไร ? ถูกรังแกมาหรือ ?

อันหลิงหยุนเงยหน้ามองกงชิงวี่อย่างประหลาดใจ คำว่า ถูกรังแกพอเป็นเขาที่กล่าวออกมา ราวกับเป็นเรื่องตลกที่ ไม่เข้ากับยุคสมัย

“เซียวกุ้ยเฟยถามคำถามหนึ่งประโยค”นางก็กำลัง ไตร่ตรองปัญหานี้เช่นกัน

“ปัญหาอันใด? “เขาอยากรู้

“ก็ไม่ได้กล่าวชัดเจน นางกล่าวคล้ายว่าเหตุใดฮ่องเต้จึง ได้ดีต่อฮองเฮาเช่นนั้น!

กงชิงวี่รู้สึกไม่ได้แปลกประหลาดใจ “ฮองเฮาคือภรรยา ที่ถูกต้อง ทั้งยังเป็นผู้ที่ฮ่องเต้ยินดีจะแต่งงานด้วย

“ไม่แน่ว่า เพียงแค่อยู่ในพระราชวัง ฮ่องเต้ก็มิอาจ เอาชนะความเหน็บหนาวที่อยู่บนที่สูงได้ แต่ตั้งแต่แรก เริ่มฮองเฮาก็เป็นผู้ที่เคียงข้างเขาบนเส้นทางนี้มาตลอดดีหรือไม่ดีนั้น ถึงอย่างไรพวกเขาร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ กันมาตลอด หากฮองเฮาไม่อยู่ เช่นนั้นแม้แต่ผู้ที่ฮ่องเต้ จะสามารถพูดคุยด้วยได้ก็ไม่เหลือแล้ว “อันหลิงหยุนวิจา รณ์ด้วยจิตใจที่สงบ

“ผู้ที่พูดคุยด้วยไม่แน่ว่าจะเป็นฮองเฮาเสมอไป นางผู้ นั้นก็ได้เช่นกัน แต่ฮองเฮากลับเป็นผู้ที่ไม่มีผู้ใดมาแทน ได้”

“ผู้ที่คุยด้วยใช่ว่าจะเป็นฮองเฮา นางผู้นั้นก็ทำได้เช่น กัน ทว่าฮองเฮาก็เป็นผู้ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจแทนที่ได้เช่น กัน นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดฮ่องเต้จึงโปรดปรานฮองเฮา”

การที่กงชิงวี่กล่าวเช่นนี้ทำให้อังหลิงหยุนค่อนข้าง แปลกใจ แม้จะรู้ดีว่าฮ่องเต้ปฏิบัติต่อฮองเฮาอย่างใจกว้าง นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ก่อนอาจจะมีความผูกพันที่ลึกซึ้ง แต่ ตอนนี้กลับไม่จำเป็น

คนเราสามารถเปลี่ยนไปได้เสมอ ส่วนเวลาก็เป็นตัวเร่ง ปฏิกิริยา โดยปกติแล้วผู้ที่มีความรู้สึกแข็งกระด้างแต่ถูก หลอมละลายนั้น

ความรู้สึกอาจยังหลงเหลืออยู่ ทว่าอาจไม่เหลือความ ผูกพัน

นางไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ก็ยากที่จะเข้าใจ ความรู้สึกเหล่านี้ว่าเป็นเช่นไร และคงอยู่นานเพียงใด

แต่ในทางวิทยาศาสตร์ คนผู้หนึ่งที่มีความรักอันลึกซึ้ง ต่อคนผู้หนึ่ง สามารถที่จะจืดจางลงได้ สุดท้ายจากความรักก็จะเปลี่ยนเป็นครอบครัว ความรู้สึกของอันหลิงหยุนบ อกว่า ฮ่องเต้ชิงหยู่ปฏิบัติต่อฮองเฮาเช่นนั้น

สำหรับฮองเฮา ความรู้สึกที่มีต่อฮ่องเต้ชิงหยู่คือมิอาจ ทอดทิ้ง กล่าวถึงความรักของนางก็มิอาจมองเห็นได้

อันหลิงหยุนตะหนักได้ถึงตรงนี้ก็หยุดไปครู่หนึ่ง มอง กงชิงวอย่างอธิบายไม่ถูก “ท่านอ๋อง หากวันหนึ่งท่าน ไม่รู้สึกต้องการจะครอบครองร่างกายของข้าแล้ว ท่านก็ สามารถที่จะรับสนมเพิ่มได้ ”

“เจ้ากล่าวอันใด? “กงชิงวี่และอันหลิงหยุนกำลังศึกษา ปรัชญาชีวิต แม้ว่าความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความฮึกเหิมจะ สู้ไม่ได้กับตอนอยู่ในสนามรบ ทว่าความรู้สึกดุจสายน้ำที่ กำลังไหลอย่างเชื่องช้ากลับทำให้เขารู้สึกสบาย

เมื่ออันหลิงหยุนกล่าวเช่นนี้ กงชิงวี่ที่เป็นผู้ถามก็ราวกับ ถูกน้ำเย็นราดตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาไม่โกรธและอารมณ์ ของเขาก็ดีเป็นอย่างมาก

เป็นธรรมดาที่อันหลิงหยุนจะไม่ยอมแพ้ นางเพียงแต่ว่า กันไปตามเนื้อผ้า

“ฮ่องเต้ไม่ควรที่จะใช้กำลังยึดอำนาจ เพื่อที่จะมองนาง ผู้นั้น”อันหลิงหยุนมองไปรอบๆไม่พบผู้ใด จึงได้กล้าพูด อย่างตามใจปาก

ใบหน้าอันหล่อเหลาของกงชิงวี่จมดิ่งลงไป “เช่นนั้น รอเมื่อหยุนหยุนอายุเจ็บสิบแปดสิบปีแล้ว ข้ายังจะเป็น เหมือนเสือ? ”
“เช่นนี้ก็….”อันหลิงหยุนไม่ได้ไตร่ตรองมาก่อน พอคิด อย่างละเอียดรอบคอบอยู่ครู่หนึ่งแล้ว จึงคิดได้ว่าไม่ควร กล่าวออกไปเลย

อันหลิงหยุนดึงกงชิงวี่ไว้ “หากเมื่อนั้นท่านอ๋องยินยอม ข้าก็มีวิธีการเพคะ ถึงอย่างไรข้าก็เป็นหมอ

อันหลิงหยุนไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้ยากอันใด ขอเพียงแค่กง ชิงวี่มีชีวิตอยู่ต่อไปได้

มือของกงชิง ก๋าแน่น จริงหรือ?”

เมื่อได้ฟังว่าเรื่องนี้สามารถเลื่อนเวลาออกไปอีกได้ ความร้อนรุ่มในใจของเขาก็ลดลงไปในทันที จากนั้นก็ ซักไซ้ไล่เรียงอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนยกคิ้วมอง “จริงเพคะ”

ลำไส้ของกงชิง ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียว คล้ายมีความ รู้สึกว่ากำลังถูกวางแผน

“ข้ามิอาจแต่งสนมเพิ่มได้ หากว่าตอนนั้นหยุนหยุนแก่ และไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ข้าก็จะไม่ทำเช่นนั้นอีก ”

กงชิงวี่กล่าวอย่างไม่อายฟ้าอายดิน กลับเป็นอันหลิง หยุนที่อายแทน

แต่เนื่องจากความสามารถของอันหลิงหยุนแล้วว่ากัน ตามหลักยังก็มีวิธีการแก้ไข
“เช่นนี้ก็….”อันหลิงหยุนไม่ได้ไตร่ตรองมาก่อน พอคิด อย่างละเอียดรอบคอบอยู่ครู่หนึ่งแล้ว จึงคิดได้ว่าไม่ควร กล่าวออกไปเลย

อันหลิงหยุนดึงกงชิงวี่ไว้ “หากเมื่อนั้นท่านอ๋องยินยอม ข้าก็มีวิธีการเพคะ ถึงอย่างไรข้าก็เป็นหมอ

อันหลิงหยุนไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้ยากอันใด ขอเพียงแค่กง ชิงวี่มีชีวิตอยู่ต่อไปได้

มือของกงชิง ก๋าแน่น จริงหรือ?”

เมื่อได้ฟังว่าเรื่องนี้สามารถเลื่อนเวลาออกไปอีกได้ ความร้อนรุ่มในใจของเขาก็ลดลงไปในทันที จากนั้นก็ ซักไซ้ไล่เรียงอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนยกคิ้วมอง “จริงเพคะ”

ลำไส้ของกงชิง ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียว คล้ายมีความ รู้สึกว่ากำลังถูกวางแผน

“ข้ามิอาจแต่งสนมเพิ่มได้ หากว่าตอนนั้นหยุนหยุนแก่ และไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ข้าก็จะไม่ทำเช่นนั้นอีก ”

กงชิงวี่กล่าวอย่างไม่อายฟ้าอายดิน กลับเป็นอันหลิง หยุนที่อายแทน

แต่เนื่องจากความสามารถของอันหลิงหยุนแล้วว่ากัน ตามหลักยังก็มีวิธีการแก้ไข
“ท่านอ๋องไยต้องโกรธถึงเพียงนี้ ข้าทําก็เพื่อท่านอ๋อง นะเพคะ”อันหลิงหยุนกล่าวอย่างมีคุณธรรม

กงชิง จับมือของอันหลิงหยุนและกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าไม่ต้องการความหวังดีนี้ ข้าสาบาน หากวันใดทำ ผิดต่อหยุนหยุน ขอให้ข้าตายตาไม่หลับ ฝูงชนต่อต้าน ญาติมิตรหลีกหนี

อันหลิงหยุนขมวดคิ้วไปมา “ ข้าเข้าใจความรู้สึกของ ท่านตอนนี้ ขณะที่มีความรักอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นท่านอ๋อง จึงได้เด็ดเดี่ยวมั่นคง แต่ในขณะที่พวกเรากล่าวเช่น นี้ก็มีผู้คนกี่มากน้อยที่กำลังยืนยันสาบาน อย่างไรคือ การสาบานต่อทะเลต่อภูเขา อย่างไรคือตลอดชีวิตไม่ เปลี่ยนแปลง แต่ท้ายที่สุดบุรุษผู้นั้นกลับแย่อย่างไม่น่าให้ อภัย ทั้งหมดนี้อาจเป็นไปได้ บางทีวันใดวันหนึ่งท่านอ๋อง อาจไม่ชอบข้าแล้วก็เป็นได้ ท่านจะต้องเปลี่ยนใจเป็นแน่ ไปชอบหญิงสาวที่อยู่ข้างนอก นั่นถือเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น ท่านอ๋องอย่าได้ถือสา ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติของมนุษย์”

กงชิงวี่เลิกคิ้ว รู้สึกว่าคำพูดนี้ไม่ถูกต้อง เขาแสดงออก ถึงความรู้สึกที่ชัดเจนขนาดนี้ ไยนางจักต้องกล่าวอะไร เฉกเช่นนี้? นั่นทำให้ใจเขารู้สึกกระสับกระส่ายอย่าง มาก !

“อย่าได้กล่าววาจาซื้ซั่วกับข้า ข้าไม่ใช่คนเช่นนั้น”กง ชิงวี่มองอันหลิงหยุนอย่างไม่สบอารมณ์

“ซี้ซ้ำวหรือไม่ถึงเวลาก็จะรู้ ตอนนี้ท่านอ๋องอาจมองไม่ ออก ขณะกล่าววาจาด้วยอารมณ์ชั่ววูบ วาจานั้นล้วนแต่ ไม่ยืนยาว “อันหลิงหยุนกล่าวหยอกล้อ
ใบหน้าของกงชิงวี่ขรึมลง “ข้ามิได้กล่าวด้วยอารมณ์ชั่ว วูบ”

“ถึงแม้มิใช่อารมณ์เพียงชั่ววูบ ขณะที่ท่านอ๋องมี อารมณ์รักใคร่ ก็จะรู้สึกร่างกายมีกำลังวังชา คำกล่าว เหล่านั้นของท่านควรใช้กล่าวถึงเรื่องเสบียงอาหารและ เงินอุดหนุนกองทัพ เรื่องจริงเท็จนั้นมีเพียงใด ท่านอ๋อง อาจจะไม่ทราบ แต่ท่านต้องรู้ถึงความเหมาะสมของความ รู้สึก เมื่ออนาคตมาถึงท่านก็จะทราบเอง”

“ข้าก็คืออนาคต”กงชิงวี่ยิ่งพูดยิ่งโกรธ ไม่ว่าอย่างไร สตรีผู้นี้ก็ไม่เชื่อเขา จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร!

อันหลิงหยุนกล่าวเสียงเบา “ถึงแม้ฮ่องเต้จะควบคุม ตนเองมิได้ แต่เรื่องราวมากมายล้วนแต่มีเขาเป็นฝ่ายเริ่ม ฮองเฮามิได้สัมผัสความคิดนั้นมาหลายปีแล้ว ทั้งยังต้อง เก็บไว้ในใจเพื่อจวนเฉินเสี้ยง ทว่าบัดนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ท่านอ๋องไม่รู้สึกว่าตรงไหนที่แปลกไปหรือ ? ”

“อะไรที่แปลกไปหรือ ? ”

“ระหว่างสามีภรรยาเกิดความบาดหมางเพียงเล็กน้อยก็ รับรู้กันได้ และยากที่จะอดทนต่อความบกพร่องเล็กน้อย เหล่านี้ ส่วนสตรีก็ช่างอ่อนไหวเสียจริง

บุรุษที่อยู่ในระเบียบกฎเกณฑ์นั้นมีไม่มาก ภายใต้สตรี เป็นหมื่นนาง แต่ฮ่องเต้กลับรักมั่นต่อฮองเฮาเพียงผู้เดียว

หากว่าฮองเฮามีความเกลียดชัง ทว่าเพียงเพื่อฮ่องเต้ นางก็ปล่อยวางไปมากเช่นกัน
เป็นสตรีเช่นกัน ข้าสามารถเข้าใจในสิ่งที่ฮองเฮากำลัง คิด นางเข้าวังมาเพื่อแก้แค้นผู้ที่นางรัก คู่อริของนางกลับ เอาอกเอาใจนางทุกเรื่อง นางรู้ดีว่าเป็นปกติของมนุษย์ จึงมิอาจทำร้ายฮ่องเต้ได้ เดิมทีการเสแสร้งที่ต้องทำอยู่ ทุกเช้าค่ำได้กลับกลายเป็นเรื่องจริง

ทุกวันล้วนแต่ผ่านมาอย่างยากลำบาก แม้จะละวางการ ทะเลาะเบาะแว้ง ทว่าความโกรธแค้นนั้นต้องลงมือสังหาร ด้วยตนเอง

ความดีของฮ่องเต้ทำให้ฮองเฮาประมาทเลินเล่อ

แต่การที่ฮ่องเต้รับสนมในทันที และยังมีพระโอรสอีก

ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่าตอนแรกฮ่องเต้ให้ความสำคัญ ฮองเฮาเพียงใด มิฉะนั้นคงจะไม่แต่งงานฮองเฮาเข้า มาอยู่ในวัง แต่ผู้ใดจะบอกได้ว่านี่มิใช่กิเลสตัณหาของ ฮ่องเต้? มีสตรีมากมาย เหตุใดจึงต้องเป็นฮองเฮา? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ