ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 445 เข้าวังเรียกความเอ็นดู



บทที่ 445 เข้าวังเรียกความเอ็นดู

แม่ทัพอันพาเด็กๆไป อันหลิงหยุนเองก้ลุกขึ้นแล้วเดิน ตามไป คนในลานก็ตามไปที่ห้องฝึกวิทยายุทธ จวน แม่ทัพไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรมากมายนัก ทุกคนจึงไม่ได้ เคร่งครัดมากนัก เพื่อที่จะดูเด็กๆ จึงได้วิ่งตามไปกันหมด

“พ่อบ้าน” เมื่ออันหลิงหยุนเดินไป กงชิงวี่ก็แสดงความ ไม่พอใจออกมา

พ่อบ้านรีบเดินเข้าไปหา : “ท่านอ๋อง”

“ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี แต่เจ้าต้องจำเอาไว้ว่า ใครเป็นนาย ใครเป็นบ่าว! ในสายตาของข้า เจ้าเป็นบุคคลที่หาได้ยาก ยิ่ง ดังนั้นอย่าให้ต้องผิดหวังในตอนจบเลย

คนในจวนแม่ทัพก็มีไม่น้อย แต่กฎเกณฑ์กลับมีไม่มาก แต่เจ้าเคยเห็นใครที่ไม่เคารพพระชายาไหม? ตั้งแต่เมื่อ ก่อนจนถึงตอนนี้ เกรงว่าจะมีแต่ที่จวนอ๋องเสียน ที่พระ ชายายอมอดทนอดกลั้น ตอนที่อยู่จวนแม่ทัพ ไม่ใช่คนที่ ไร้กังวลเช่นนี้ แต่ที่จวนแม่ทัพ ตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับ ล่าง ระดับล่างจนถึงระดับบน มีใครที่ไม่ดูแลอย่างถวาย ชีวิตบ้าง แต่ละคนล้วนแล้วแต่เคารพยำเกรง

พระชายาให้ความเมตตาเจ้าอย่างมากแล้ว ที่พาเจ้ามา ที่นี่ เพราะไว้ใจเจ้า แต่เจ้ากลับยกตนข่มท่าน

แม่ทัพอันเป็นท่านตาของบรรดาอ๋องน้อย เขายินดีที่จะ ใช้ชีวิตดูแลพวกเขา เจ้าคิดว่าเขาเหล่าอ๋องน้อยออกไป ทำร้ายหรืออย่างไรกัน?”
พ่อบ้านตะลึงไปพักใหญ่ แล้วจึงรีบคุกเข่าลง: “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเลอะเลือนแล้ว!”

“รู้ตัวว่าเลอะเลือนก็ดี อย่างน้อยก็ยังพอช่วยได้ เจ้า ลุกขึ้นเถอะ พรุ่งนี้ข้ากับพระชายาจะเข้าวัง เจ้าจงไป ส่งพวกเราที่ประตูวัง แล้วจึงกลับอ๋องเสียน แล้วกลับไป ตระเตรียมตัว ดูเหมือนว่าเราต้องมาพักอาศัยอยู่ที่นี่สัก ระยะหนึ่ง เจ้าจะต้องเป็นผู้ดูแลจวนอ๋องเสียน อย่าให้เกิด ปัญหาอะไรขึ้นได้”

“พ่ะย่ะค่ะ”

พ่อบ้านลุกขึ้น แล้วถอยไปยืนด้านหนึ่ง กงชิงวี่ลุกขึ้นไป หาอันหลิงหยุน

เด็กๆชอบเล่นที่ห้องฝึกวิทยายุทธ ดีใจกันเป็นอย่างมาก อันหลิงหยุนนั่งเป็นเพื่อนอยู่ในห้อง แม่ทัพอันเองก็พูดจา ราวกับเด็กสิบกว่าขวบก็ไม่ปาน แนะนำเด็กๆของเขาทีละ คนๆ เหมือนกับคล่องแคล่วชำนาญอย่างไรอย่างนั้น

กงชิงวี่เข้าไปในห้องแล้วนั่งลง ทั้งหมดเล่นกันจนค่ำมืด จึงกลับ

เด็กๆหลับสนิท อันหลิงหยุนจึงได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อ พักผ่อน

เมื่อขึ้นไปบนเตียง กงชิงวี่ก็พูดว่า: “เรื่องของพ่อบ้านข้า ได้พูดไปแล้ว”

“รู้ว่าท่านอ๋องพูดแล้ว ถ้ายังไม่พูด พ่อบ้านก็คงจะไม่ดูเศร้าโศกเช่นนั้น เขาเองก็อายุมากแล้ว อย่างจริงจังกับ เขานักเลย พูดแค่ไม่กี่คำก็พอแล้ว อีกหน่อยก็จะเข้าใจ เอง”

“ข้าเองก้พูดเพียงแค่ไม่กี่คำ” กงชิงวี่ยังไม่ยอมรับ อัน หลิงหยุนหันมองเขา แล้วไม่พูดอะไรต่อ

พักผ่อนมาทั้งคืน วันรุ่งขึ้นทั้งสองก็เข้าวัง

เมื่อเด้กๆมาถึงประตูวัง ไห่กงกงและสวีกงกงก็มายืนรอ อยู่ที่ประตูนานแล้ว เมื่อเห็นก้อยากจะรีบแย่งกันเข้าไปดู เป็นเพราะมีเด็กหลายคน จึงพาคนเข้าวังไปหลายคน

อันหลิงหยุนเจตนาที่จะไม่ให้หยุนจิ่นเปิดเผยตัว คน ที่มาก็กลายเป็นสามีภรรยากัน ส่วนอาหยู่ก็มากับหงเถา ลุ่ยหลิ่ว

“พระชายา ขอหม่อมฉันดูเด็กๆที่น่ารักหน่อยพ่ะย่ะค่ะ!”

ไห่กงกงทำท่าทีเหมือนเด็กน้อยน่าสงสาร ขอร้องอัน หลิงหยุน อันหลิงหยุนอุ้มลูกชายคนโตให้ไห่กงกง ไห่ กงกงเอ็นดูเป็นอย่างมาก : “โอ้โห ดูหน้าตาของซื่อจื่อสิ ทำไมจึงได้หล่อเหลาเช่นนี้”

ลูกชายคนโตลืมตามอง เห็นไห่กงกงก็ยิ้มให้ ทำให้ไห่ กงกงใจละลายหมดแล้ว

“พระชายา ท่าดูสิ ดูสิ ซื่อจื่อน้อยทรงยิ้มให้หม่อมฉัน ด้วย!”
“เขาชอบทานกงกงกนะ” อันหลิงหยุนตบลูกชายคนโต เบาๆ ลูกชายคนโตขยับ หันหน้าปิดตาแล้วหลับต่อ

ไห่กงกงตื่นเต้นจนไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว ก่อนหน้านี้ รู้สึกไม่น่ารักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เอ็นดูเป็นอย่างมาก รู้สึก ว่าช่างหล่อเสียจริงๆ

เดินไปรอบๆดูเด็กๆทีละคนๆ แล้วก็กล่าวชมทีละคนๆ

สวียงกงทนไม่ไหวแล้ว: “พระชายา หม่อมฉันเองก็ อยากดูพ่ะย่ะค่ะ”

“ดูสิ” อันหลิงหยุนไม่กลัวว่าใครจะดู ใครอยากดูก็ให้ดู

เมื่อสวีกงกงได้เห็นก็ดีใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกเอ็นดู ไม่น้อย

เมื่อดูกันหมดแล้ว อันหลิงหยุนจึงไปที่วังเฉาเพิ่ง ระหว่างทางไห่กงกงพูดขึ้นมาก่อนว่า: “หม่อมฉันรู้สึก กังวลเรื่องพระชายามาโดยตลอด ได้ยินมาว่าพระชายา หลับไม่ได้สติ รู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างมาก”

“ไม่เป็นไร เป็นโรคประจำตัวไปเสียแล้ว ตอนเด็กๆกลัว ว่าจะถูกกระตุ้น เมื่อถูกกระตุ้นก็จะหลับ ท่านพ่อไม่ให้พูด ดังนั้นคนนอกจึงไม่รู้”

“หา?” ไห่กงกงรู้สึกตกใจ

สวีกงกงรีบถามต่อ:”พระชายาเสียน เช่นนั้นตอนที่ท่าน คลอดลูก ถูกกระตุ้นเช่นไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“คงเป็นเพราะ มิง คืนนั้นข้าเข้าวังกับท่านอ๋อง ตอน ออกมาก็รู้สึกไม่ดีแล้ว ดังนั้นพวกเขาถือว่าคลอดก่อน กําหนด

“คลอดก่อนกำหนดหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ไห่กงกงรู้สึกกังวล: “ได้ยินมาว่าเด็กที่เกิดก่อนกำหนดนั้นอายุจะ……

เมื่อรู้ว่าไม่ถูกต้อง ไห่กงกงจึงรีบตบปากตัวเองทันที: “หม่อมฉันสมควรตาย สมควรตาย!”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่มีอะไรแล้ว อย่ามากพิธีเลย!” อันหลิงหยุนพูดจบ ก็ถึงวังเฉาเพิ่งพอดี

ที่ประตูวังมีคนคอยต้อนรับอยู่ ซึ่งก็คืออ๋องตวนและพระ ชายาตวนนั่นเอง

ขบวนของอันหลิงหยุนหยุดลง หยุนโล่ชวนรีบเดินเข้า มาหาอันหลิงหยุน: “พระชายาเสียน

“พระชายาตวน”

หยุนโล่ชวนรีบเดินไปด้านหน้าอันหลิงหยุน อยากจะดู

เด็กๆ

จริงๆแล้วตนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เคยมีใครได้เห็นเด็กๆเลย เพราะกงชิงวี่ไม่ให้ดู ตอนที่อันหลิงหยุนนอนไม่ได้สติอยู่ ใครก็ไม่กล้าบังคับ

ไทเฮาเองก็รู้สึกผิด เป็นเพราะวันนั้นนางตัดสินใจเช่น นั้น จึงตามใจมาโดยตลอด
วันนี้อ่อนตวนได้รับข่าวมาว่า อันหลิงหยุนไม่เป็นไรแล้ว และจะเข้าวัง เพื่อที่จะทำให้หยุนโล่ชวนถูกใจ จึงได้ล่วง หน้าเข้าวังมาก่อน

อันหลิงหยุนพูดว่า:” ลมแรก เข้าไปดูข้างในเถอะ”

หยุนโล่ชวนเดินตามเข้าไปในวังเฉาเพิ่งอย่างมีความสุข หวางฮองไทเฮากำลังเดินไปเดินมาอยู่ภายในวัง เพื่อรอที่ จะได้พบหลานๆ จึงรู้สึกร้อนใจ

เมื่ออันหลิงหยุนปรากฏตัวก็รีบทำความเคารพ: “หม่อม ฉันถวายบังคมเสด็จแม่เพคะ”

“ลุกขึ้นเถอะ” อันหลิงหยุนลุกขึ้น ฮ่องเต้ชิงยู่เองก็อยู่ ด้วย

“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท ฮองเฮา”

“ลุกขึ้นเถอะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่เองก็ตื่นเต้น แต่ที่เขาตื่นเต้นไม่ใช่เป็น เพราะเห็นเด็กๆ แต่ที่ตื่นเต้นเพราะเห็นอันหลิงหยุนเข้าวัง มาอย่างสบายดี

เสินหยุนชูรู้สึกอึดอัดใจ ตั้งแต่ได้ยินข่าวจนถึงตอนนี้ ใน ใจของนางก็สับสนวุ่นวาย

นางเองก็เป็นผู้หญิง แล้วจะไม่รู้สึกอิจฉาได้อย่างไร?
“เร็วสิ รีบอุ้มมาให้ข้าดูหน่อย ครั้งก่อนที่ได้เห็นก็ตอน ครบเดือน ตอนนี้ก็เดือนกว่าแล้ว เพิ่งจะมา!”

หวางฮองไทเฮาตื่นเต้นเล็กน้อย เป็นหลานๆของนาง จริงๆ

อันหลิงหยุนถอนสายบัว แล้วจึงอุ้มเด็กไปให้หวางฮอง ไทเฮาดู ที่เหลือก็อุ้มเข้ามาด้วย หวางฮองไทเฮาค่อยๆดูที ละคนๆ

ตื่นกันหมดแล้ว เมื่อเห็นหวางฮองไทเฮาก็เริ่มหัวเราะ หัวเราะจนหวางฮองไทเฮาอดไม่ได้ที่จะอุ้มไป

เด็กน้อยจับเสื้อของหวางฮองไทเฮาและตะโกนอาอา ไห่กงกงรีบกราบทูล: “ไทเฮา ท่านดูซื่อจื่อน้อยสิพ่ะย่ะ ค่ะว่ามีพลังขนาดไหน หรือนี่เขาจะรู้จักท่านย่าของเขา แล้ว ?

“อย่างนั้นหรือ?”หวางฮองไทเฮาถาม : “เด็กน้อย รู้จักย่า ไหม?”

เด็กน้อยเงียบลงทันที แล้วจ้องมองหวางฮองไทเฮา หวางฮองไทเฮากำลังรู้สึกกังวล เด้กน้อยก้หัวเราะออก มา แล้วเอาหัวมุดเข้าไปในอ้อมกอดของหวางฮองไทเฮา แล้วก็เริ่มถูไปมา เป็นเพราะรู้สึกสนุกแล้ว จึงทั้งเตะทั้งถีบ ขึ้นมา

หวางฮองไทเฮารู้สึกเอ็นดูเป็นอย่างมาก แล้วจึงรีบไปดู คนอื่นๆต่อ แล้วจึงค่อยๆอุ้มขึ้นมาทีละคนๆ ล้วนรู้จักนาง ทั้งหมด
นางรู้สึกดีใจมาก : “โอ้โห ดูเด็กๆพวกนี้สิ ทำไมถึงได้ ฉลาดเช่นนี้ รู้จักข้าหมดทุกคนเลย”

“ท่านพี่ ทําอะไรหรือเพคะ?” ฮั่วไท่เฟยเองก็มาด้วย แล้ว จึงเดินเข้ามาด้านใน

หวางฮองไทเฮาไม่สนใจอย่างอื่น อดใจไม่ไหวที่จะพูด ขึ้นมา: “รีบมาดูเร็ว เด็กๆพวกนี้ รู้จักคนแล้วนะ!”

“อย่างนั้นหรือ เช่นนั้นน้องขอดุหน่อยสิเพคะ” พูดพลาง ฮั่วไท่เฟยก็เดินเข้าไป แล้วยื่นมือออกไปอุ้มคนหนึ่งขึ้นมา ไว้ในอ้อมอก

ผลคือเด็กคนนั้นผงะ แล้วจึงจ้องมองด้วยดวงตากลมโต มองดุฮั่วไท่เฟยด้วยความตะลึง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ