ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 477 ต้องการร้านค้าสามแห่งของเจ้า



บทที่ 477 ต้องการร้านค้าสามแห่งของเจ้า

อยู่ในสถานภาพฮ่องเต้เช่นนี้ กลับทำตนเช่นอันธพาล เพื่อให้บรรลุเงื่อนไข อันหลิงหยุนไหนเลยจะสนใจว่าเขา จะเป็นผู้มีคุณธรรมอันดี

นางเพียงอยากจะรีบกลับออกจากวังหลวงให้เร็ว ที่สุด !

“อ๋องตวนมีเงินถือเป็นเรื่องปกติ แต่ข้ามิอาจให้อ๋อง ตวนไปทำได้ ทั้งยังมิอาจให้อ๋องเสียนไปทำได้อีกด้วย ประการที่หนึ่งเนื่องจากหยุนหยุนเคยทำมาก่อน ข้าถึงได้ วางใจ ประการที่สองอ๋องตวนและอ่องเสียนยังคงเป็นคน ของข้า การที่ทําเรื่องเหล่านั้นเป็นข้าที่แนะนำให้ทำ การ บริจาคพูดออกไปก็ฟังดูดี แต่กลับทำยาก

แต่กับพระชายาอ๋องเสียนไม่เหมือนกัน

ฟังจากชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ของพระชายาอ๋องเสียนแล้ว การรวบรวมเงินบริจาคคงมิใช่เรื่องยาก”

“ความหมายของฮ่องเต้คือ มิสนว่าเงินจำนวนนี้จะได้มา อย่างไร ตราบใดที่กระหม่อมรวบรวมเงินบริจาคให้เพียง พอ ก็ถือว่าเป็นเรื่องของหม่อมฉัน แต่เงื่อนไขคือมิอาจ แพร่กระจายข่าวออกไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้พระพักตร์ ของฝ่าบาทเสียหาย

และแม้ว่าประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข กลับมิอาจไป รบกวนพวกเขาได้ ส่วนเรื่องการรบรวมเงินบริจาคถูก จำกัดไว้แค่ขุนนางระดับสูงและเหล่าราชนิกุลของเมืองหลวงแต่เพียงเท่านั้น “บัดนี้ในทรวงอกของอันหลิงหยุน เต็มไปด้วยความโกรธ จนถึงกับต้องระงับความโกรธใน จิตใจมิให้รุนแรงมากไปกว่านี้

นี่มิใช่การปล้นเงินของนางไปหรอกหรือ ขุนนางระดับ สูงในเมืองหลวงก็มีเพียงไม่กี่คน ส่วนราชนิกุลก็มีน้อย เสียเหลือทน นอกจากนั้นพวกชินจงยังตระหนี่ถี่เหนียว เช่นนี้จะไปเอาเงินมาจากผู้ใดกัน?

พูดอย่างตรงไปตรงมาคือ จวนอ๋องเสียนของนางเงิน มากที่สุดแล้ว ก็ควรให้จวนอ๋องเสียนเป็นผู้ออก

“คำกล่าวนั้นช่างสมเหตุสมผล และคำกล่าวของพระ ชายาอ๋องเสียนทั้งหมดล้วนแต่จริงทั้งนั้น ข้ากลับคาด ไม่ถึง ประการแรกคือมิอาจรบกวนประชาชน ประการที่ สองมิอาจทําให้ราชวงศ์ต้องเสื่อมเสียเกียรติ”

อันหลิงหยุนได้ฟังก็อยากที่จะลุกขึ้นมาตอกพระพักตร์ ของฮ่องเต้ชิงหยู่ให้ล้มคว่ำ สุดท้ายแล้วผู้ใดที่เป็นคน กล่าวเช่นนี้ ทว่าบัดนี้ฮ่องเต้ผู้ทรงสง่าผ่าเผยได้ตรัสออก มาเรื่องเหล่านี้ออกมา มิกลัวถูกสวรรค์ประฌามหรอก หรือ?

อย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว อันหลิงหยุนก็ไม่กล่าวอันใด ให้มากความอีก

“ฮ่องเต้ทรงตรัสถูกต้องแล้วเพคะ “เผชิญหน้ากับการใช้ อำนาจบาตรใหญ่สุดท้ายแล้วอันหลิงหยุนยังคงต้องยอม ก้มหัวให้ แต่การยอมก้มหัวให้ครั้งนี้นางกลับไม่ชอบใจ และไม่ยินยอมเป็นอย่างมาก เพียงแต่ยังมีอีกวิธีการหนึ่งซึ่งอันหลิงหยุนก็ยังมิอาจรับปากได้

ฮ่อองเต้ชิงหยู่ถอนหายใจอย่างเบาๆ “กล่าวเรื่องงาน ราชการเสร็จพวกเรามากล่าวเรื่องส่วนตัวกันหน่อยเถิด”

อันหลิงหยุนเลิกคิ้ว เรื่องส่วนตัว?

ระหว่างพวกเราไหนเลยจะมีเรื่องส่วนตัวที่ว่า?

ฮ่องเต้ชิงหยู่หัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “เรื่องของฮองเฮา”

อันหลิงหยุนก็พลันนึกถึงเสินหยุนชูขึ้นมา “เรื่องของ ฮองเฮา หม่อมฉันไม่เข้าใจเพคะ”

“เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ? ผู้ที่ช่วยข้าคือเจ้า ทว่าบัดนี้ เจ้ากลับไม่เข้าใจ กล่าวไปแล้วก็ถือเป็นอดีตไปเช่นนั้น หรือ? ”

อันหลิงหยุนไม่มีอะไรจะกล่าว เพียงแค่เกลียดตนเองที่ ตอนแรกมีจิตใจเมตตาอย่างไร้เดียงสา

ถูกอันธพาลใหญ่ใส่ร้ายเข้าให้เสียแล้ว !

นางกำลังทำตามพระราชโองการ แต่บัดนี้ดูคล้ายว่า นางกำลังยุ่งเรื่องของผู้อื่น ริเริ่มด้วยตนเองอีกทั้งทำเรื่อง ที่ขาดคุณธรรม

อันหลิงหยุนปวดกล้ามเนื้อไปหมด ไม่อยากกล่าวอันใด

‘ข้ามิใช่คนใจจืดใจดำ และไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเมื่อทําสิ่งต่างๆ ข้าเพียงแค่อยากจะให้เจ้าให้คําอธิบาย แก่ฮองเฮา ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสเช่นนั้น อันหลิงหยุนยิ่งรู้ว่านี่ไม่ถูกต้อง จะให้นางอธิบายอันใด?

นางเป็นเพียงแค่พระชายาอ๋องเสียน ต้องอธิบายอันใด แก่ฮ่องเต้ หาผู้ทำผิดหรอกหรือ ?

ฮ่องเต้ชิงหยู่หมุนพระวรกายกลับไป “จำได้ ข้าเคยให้ คําอธิบายแก่เจ้าไปแล้ว!”

อันหลิงหยุนรู้สึกงงไปพักหนึ่ง นางต้องอธิบายอันใด หรือ ?

มองจากท่าทีที่ไม่แยแสเป็นแน่แล้วจากทางด้านหลัง ของฮ่องเต้ชิงหยู่ อันหลิงหยุนคิดถึงวิธีการอื่นไม่ออก จริงๆ

“พระชายาถูกพิษ เจ้าไปดูเสียหน่อย ข้ามีเรื่องจะกล่าว กับอ๋องเสียน”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มีท่าทีเย็นชาเช่นเคย อันหลิงหยุนจึงได้ เห็นชอบ “น้อมรับราชโองการเพคะ”

อันหลิงหยุนออกจากตำหนักจรุงจิต เมื่อออกจากประตู ได้เดินตรงไปหากงชิงวี่ กงชิงวี่ยืนเอามือไพล่หลังรอนาน คล้ายกับผ่านไปหลายศตวรรษ กล่าวถามอย่างหงุดหงิด “เหตุใดเพิ่งออกมา? ”
“กลับไปค่อยกล่าว ฮ่องเต้อยากจะพบท่านอ๋อง เรียกให้ ท่านเข้าไป ส่วนข้าต้องไปดูอาการฮองเฮาที่ถูกพิษ”อัน หลิงหยุนอธิบายอย่างชัดเจนก่อนมุ่งหน้าไปยังวังเพิ่งหยื

กงชิงวี่รู้สึกไม่สบายใจ มองไปที่ประตูตำหนักจรุงจิต พลางก้าวเข้าไปอย่างช้าๆ

กงชิงวี่เข้าไปด้านในและเหลือบมองไปรอบหนึ่ง ขันที น้อยที่อยู่ด้านหลังรีบร้อนมาเปิดประตู รู้สึกกลัวท่าน อ๋องผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นอย่างมาก แค่มองก็ไม่รู้สึกยินดี แล้ว !

กงชิงวี่ขณะก้าวเข้าไปได้กล่าวประโยคหนึ่ง “ถวาย บังคมฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”

กงชิงวีได้หมุนกายลุกขึ้นนั่งเรียบร้อย และกำลังเตรียม ยกถ้วยชามาเพื่อดื่ม มองไปที่กงชิงวี่ที่กำลังนำถ้วยชา วางลง

พลางชี้ไปที่คางรอบหนึ่ง “ลุกขึ้นมาเถิด ข้าเพิ่งได้ใบชา นี้มา เจ้าลองชิมดูเสียหน่อย”

กงชิงวี่กล่าวถาม “ช่วงเวลาฤดูหนาวไหนเลยจะมีชาสด ใหม่ได้?

“เจ้าลองชิมดูก็จักได้รู้เอง?”

กงชิงวี่เดินไปที่ด้านข้างของฮ่องเต้ชิงหยู่และหยิบถ้วย ชาที่ฮ่องเต้ชิงหยู่เพิ่งวางลง เขายกฝาขึ้นสังเลอยู่ครู่หนึ่ง เป่าแล้วเป่าอีกจึงได้ยกดื่ม
หลังจากวางแก้วกงชิง ได้กล่าวถาม “ชานี้ฮ่องเต้ได้มา จากที่ใด ผู้ใดให้มาหรือ ?”

“เจ้าคิดว่ามาจากที่ใดเล่า? “ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสอย่าง เฉยเมย

“ชานี้มาจากทางใต้ ในจวนจะมีเป็นบางครั้งบางคราว ก็ มีเพียงหม่อมฉันที่ได้ดื่มเล็กน้อย ส่วนผู้อื่นเกรงว่ามีทองก็ มิอาจซื้อได้ ข้าได้ฟังพระชายากล่าวว่า มีน้อยเป็นอย่าง มาก ต้องจ่ายในราคาสูงจึงจักได้มา หรือว่าจะเป็นพระ ชายาให้มาพ่ะย่ะค่ะ? “กงชิงวี่รู้สึกขัดเคือง สตรีผู้นั้น กล้าเอาชาชั้นดีเช่นนี้มาให้ผู้อื่นได้อย่างไร?

ฮ่องเต้ชิงหยู่หัวเราะร่วน “ผู้ใดนำมาอย่าได้กล่าวถึง กลับไปถามด้วยตนเองเสีย

“ฮ่องเต้ทรงต้องการตรัสถึงเรื่องนี้? “สีหน้าของกงชิง เริ่มดูไม่ดี

“เจ้าก็ทราบดีว่าใกล้จะเข้าฤดูหนาวไหนเลยจะมีชา สดใหม่ ข้าต่างก็ดื่มไม่ได้ เจ้าดื่มไปแล้ว เห็นได้ว่าความ สามารถของพระชายาอ๋องเสียนนั้นยอดเยี่ยมนัก

แต่ภายในร้านค้าสามแห่งของเจ้าชาชนิดนี้ เกรงว่าจะ มิใช่จำนวนไม่มาก ตามที่ได้ฟังมาร้านค้าสามแห่งของ เจ้าผลิตเสื้อผ้าอาภรณ์ เสื้อผ้าหนึ่งชุดต้องใช้เงินมากถึง หนึ่งหมื่นแปดพันตำลึง

ขณะที่เจ้าเข้าเฝ้าต่างก็มสวมชุดของราชวงศ์ เสื้อผ้าที่ สวมล้วนมาจากร้านค้าของเจ้าเอง เห็นได้ชัดว่าเงินของพวกเจ้ามีไม่น้อย”

“เงินไม่น้อย ทว่าค่าใช้จ่ายก็สูงมากเช่นกัน จวนจะถึง ฤดูหนาว ยังมิได้ตระเตรียมเสื้อผ้าให้เด็กๆ ผู้คนในจวนก็ ค่อนข้างมาก พระชายายังขาดประสบการณ์อีกมาก ทั้ง ยังไม่ชำนิชำนาญด้านการค้าขาย เพิ่งจะมอบเรื่องภายใน จวนอ๋องให้แก่นางจัดการ นางก็ให้เพิ่มเงินเดือนให้แก่ บ่าวรับใช้ ใช้จ่ายเงินดุจน้ำเปล่าเสียจริง อีกทั้งประสบ กับเรื่องการบริจาค และสิ่งของภายในจวนถูกยักยอกไป ไม่น้อย บัดนี้กล่าวได้ว่ายังติดหนี้อยู่ และยังไม่ทราบว่า ยังเหลืออีกกี่มากน้อย ”

กงชิงวี่ขณะกล่าวได้นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกร พิงไปที่ด้าน หลังอย่างพยศ ส่วนฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ไม่มีแม้แต่วิธีกำราบ เขา ผู้ใดใช้ให้เขาเป็นฮ่องเต้เขาจึงต้องเป็นเช่นนี้

“อ๋องตวนกล่าวกับข้าว่า จวนอ๋องเสียนของเจ้าได้รีดไถ ไปเกือบทั้งหมดแล้ว เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร ? “ฮ่องเต้ชิง หญ่รู้สึกไม่ยินดี เหลือบมองไปที่กงชิงอย่างไม่พอใจ

“มิต้องกังวลเรื่องของประเทศ พระชายาเป็นห่วงเป็น ใยจึงให้หยุนจิ๋นล่วงหน้าไปก่อน อีกทั้งหยุนจิ๋นได้ตระ เตรียมเสบียงเสื้อนวมและเครื่องปรุงยาจีนนำไปที่ด่าน ชายแดนอีกด้วย ซึ่งใช้เงินไปหลายร้อยตำลึง

เมื่อหยุนหยุนไปถึงที่นั่น เสบียงอาหารของกองกำลัง ทหารได้ถูกจุดไฟเผาไปอย่างหมดเกลี้ยง

โชคยังดีที่ได้เสบียงอาหารและเสื้อนวมของหยุนจิ่น เหล่าทหารจึงผ่านฤดูหนาวมาได้
ฮ่องเต้ทรงตรัสว่าจวนอ๋องเสียนของหม่อมฉันมีเงิน ไม่ ทราบว่าผู้ใดที่เป็นต้นตอของเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ ให้เขา มาหาหม่อมฉัน หม่อมฉันจักได้ถามเขาให้แน่ว่า พวกเขา มองเห็นว่าจวนอ๋องเสียนมีเงินเช่นนั้นหรือ?

ฮ่องเต้ชิงหยู่ใจคอหดหู่ “เจ้าตะโกนด้วยเหตุใด? ”

กงชิง กล่าวอย่างไม่พอใจ “หม่อมฉันโกรธ! ”

“ตั้งแต่เจ้ามีพระชายาผู้นี้ ยิ่งอยู่ยิ่งไร้กฎเกณฑ์ ชาสด ใหม่นี้ ข้าเคยดื่มเสียเมื่อใด แต่เจ้ากลับได้ดื่มไปแล้ว!”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่ถ้วยชาอย่างไม่สบายใจโดยไม่ ทราบสาเหตุ “อย่างไรข้าก็เป็นฮ่องเต้ หากเจ้ามิได้ยึดถือ ประเพณีก็ส่งชามาให้ข้าเสียหน่อยเถิด แน่นอนว่า…ข้า จักทำดีต่อเจ้าในทุกวันเวลา ถือเสียว่าให้อาหารสุนัข? ”

“ฮ่องเต้ช่างดีเหลือเกิน หม่อมฉันรับรู้แล้ว แต่ใบชานี้หยุ นหยุนออกคำสั่งให้รวบรวมมาจากทางใต้ด้วยตนเอง ฟัง ว่ามีไม่มาก หม่อมฉันก็ทำใจที่จะดื่มมิได้”

“เจ้ายังมีเหตุผลอีกหรือ มิต้องกล่าวเรื่องชา ร้านค้าสาม แห่งของจวนอ๋องเสียน บัดนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เจ้า ยังคิดปฏิเสธ?

ผู้ใดมิทราบว่าร้านค้าสามแห่งของเจ้า เสื้อผ้าอาภรณ์ หนึ่งชุดราคามากกว่าหมื่นตำลึง เจ้ากล่าวว่าไม่มีเงิน ข้า จักเชื่อได้อย่างไร? ”

“ผู้ที่มีเงินมิใช่กระหม่อม เป็นหยุนหยุน อย่างไรหยุนหยุนก็ต้องการที่จะเปิดโรงเรียนแพทย์แน่นอนว่ามิได้ใช้ เวลาเพียงวันหรือสองวัน ยังมิได้จัดการเรียบร้อย ขณะ ที่จัดการก็ยังใช้เงินไปไม่น้อย หม่อมฉันไม่ทราบว่าจะไป หาเงินมาจากที่ใด ฮ่องเต้ไหนเลยจะต้องการเงินหม่อม ฉัน”

ฮ่องเต้ชิงหยู่คลึงไปที่พระเศียร สามีภรรยาคู่นี้มิอาจ รับมือได้ง่าย เป็นตายอย่างไรก็ไม่มีทางให้

โชคดีที่เขาเตรียมการล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว

“ข้าต้องการร้านค้าสามแห่งของเจ้า เพื่อมาตระเตรียม คลังเก็บเงินของท้องพระคลัง มิทราบว่าเจ้ามีความเห็น อย่างไร? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ