ยอดหมอยาของอ่องเสียน

ตอนที่183น้อมรับคําสั่งของฮ่องเต้



ตอนที่183น้อมรับคําสั่งของฮ่องเต้

“ท่านนอนลงก่อนเถอะเพคะ”

หยุนโล่ชวนลุกขึ้นไปรินน้ำ แล้วกลับมาฉีกเสื้อออกมา อีกชิ้นหนึ่ง เอาไปชุบน้ำจากนั้นก็มาเช็ดคราบเลือดให้ กับอ๋องตวน อ๋องตวนก็หลับตาลงแล้วไปพูดอันใดอีก

ตอนที่อันหลิงหยุนมาถึง บนพื้นเปื้อนมาก

จุนฉูฉูยังยืนบี้ออยู่ตรงนั้น

“ให้ข้า ดูหน่อย” พอเดิมมาถึงข้างเตียงของอ๋องตวน อันหลิงหยุนก็ยื่นมือไปตรวจดูชีพจรของเขา

“ใครให้ท่านดื่มน้ำกันเพคะ?” อันหลิงหยุนมองอ๋องต วนอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมาก เพราะ ตอนนี้เขาพ้นขีดอันตรายไปแล้ว

นางหยิบยาลูกกลอนมายัดเข้าไปในปากของอ๋องต วน แล้วอันหลิงหยุนก็เดินไปหาหยุนโล่ชวน “เจ้ามาดูแล ท่านอ๋องข้าจะไปเตรียมยา คืนนี้คงไม่มีเวลามาแล้ว”

ท่านพี่ พระชายาเสียนไปเถอะเพคะ”

หยุนโล่ชวนไม่วางใจในตัวจุนฉูฉู เพื่อเห็นแก่หน้าของ ฮั่วไท่เฟย จะไม่สนใจอ๋องตวนก็ไม่ได้

หงเถารีบเก็บกวาดห้อง รอจนเช็ดพื้นเสร็จถึงได้เดินออกไป

พอนั่งลงไปหยุนโล่ชวนก็หันไปมองจุนฉูฉู ตัวนางยัง เลอะอยู่

“เจ้ากลับไปก่อนเถอะ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จค่อยมาก็ได้ ระหว่างนี้ข้าจะรับหน้าที่นี้ต่อเอง” หยุนโล่ชวนพูดจบ นางก็รู้สึกคิดผิดนิดนึง

ปกติจุนฉูฉูนั้นได้รับความรักมากมาย แต่มาวันนี้กลับ ตกใจจนตกอยู่ในสภาพนี้

หยุนโล่ชวนรู้สึกดูถูกนาง

จุนฉูฉูมองไปที่อ๋องตวน แล้วเดินไปที่อ๋องตวน “ท่าน อ๋องเพคะ ท่านหลับแล้วหรือเพคะ?”

อ๋องตวนไม่มีการตอบสนอง จุนฉูฉูจึงเอามือไปลูบหัน

เขา

“หม่อมฉันจะรีบไปรีบกลับ ระหว่างนี้จะให้ชายารอง หยุนดูท่านไปก่อนนะเพคะ”

หยุนโล่ชวนก็ไม่ได้ว่าอันใด จุนฉูฉูจึงหันหลังแล้วก็ เดินจากไป

พอนางไปแล้ว หยุนโล่ชวนก็ฝากตงเอ๋ออยู่ก่อนแล้ว รีบไปถามอันหลิงหยุนว่ามีอันใดที่ต้องระวังหรือเปล่า
อันหลิงหยุนเขียนข้อควรระวังให้นางแผ่นหนึ่ง ห้าม กินข้าว ถ้าหิวน้ำก็เอาผ้าสะอาดชุบน้ำแล้วเอาไปแตะที่ ริมฝีปากของอ๋องตวนก็พอ

อ๋องตวนตื่นมาหลายครั้ง หยุนโล่ชวนก็จ้องเขาอยู่ ตลอด

รอมาทั้งวันจุนฉูฉูก็ยังไม่มา

หยุนโล่ชวนก็ไม่ได้ใส่ใจอันใด ไม่มายิ่งดี พอเห็น ท่าทางเจ้าเล่ห์ของนางแล้วก็ทำให้รู้สึกรำคาญแล้ว

พออ๋องตวนตื่นมาก็ถามหาจุนฉูฉู หยุนโล่ชวนกลัวเขา เสียใจจึงไม่ได้พูดความจริงไป

รอจนมืดค่า ก็มีคนจากจวนอ๋องตวนมารายงานว่าจุน ฉูฉูไม่สบาย ไข้ไม่ยอมลดสักที คงมาไม่ไหวแล้ว

อ๋องตวนมองไปที่ประตู สั่งคนให้ในจวนอ๋องดูแลพระ ชายาให้ดี

ตกดึกอันหลิงหยุนจึงจะมาถึง มาฉีดยาให้อ๋องตวน อันหลิงหยุนถึงได้สังเกตเห็นว่าจุนฉูฉูไม่อยู่

พอมองไปรอบๆ แล้วไม่เห็นจุนฉูฉูนางจึงได้ถามไป “พระชายาตวนล่ะ?”

“ทรงประชวรพ่ะย่ะค่ะ กำลังรักษาตัวอยู่ที่จวนอ๋องต วน ข้ารับใช้ไปมารายงานแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หงเถาทำหน้าไม่พอใจ เห็นชัดๆ ว่ารังเกียจ ไม่เต็มใจดูแล แล้วหนีไป

อันหลิงหยุนมองไปยังอ๋องตวนที่นอนอยู่บนเตียง แล้ว ยิ้มพร้อมกับพูดออกมาว่าสมน้ำหน้า

แต่กลัวว่าจะกระทบกับการฟื้นตัวของอ๋องตวน จึงขึ้

เกียจพูดไป “ที่นี่เป็นที่พักของข้า ต้องเปลี่ยนห้องให้อ๋องตวน” อัน

หลิงหยุนพูดออกมาอย่างไม่เกรงใจ เหนือนอยากจะไล่

เขาออกไป

หยุนโล่ชวนลุกขึ้นมา “ท่านพี่พระชายาเสียน ถ้า เคลื่อนย้ายตอนนี้ เกิดอ่องตวนเป็นอันใดขึ้นมาจะทำยัง กระไรคะ?”

“เขาไม่ตายหรอก อย่างมากก็ทรมานนิดหน่อย เท่านั้น” อันหลิงหยุนนั้นไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว เขารนหาที่ เอง

หยุนโล่ชวนก็ทำอันใดไม่ได้ ได้แต่จากไปพร้อมกับ อ๋องตวน

พอมาถึงตำหนักจู๋หยุนหยุนโล่ชวนก็ดูแลอ๋องตวน ด้วยตนเอง หมุนไปหมุนมาอยู่รอบตัวอ๋องตวนอย่างไม่ หยุดหย่อน

อันหลิงหยุนมาที่ตำหนักจู๋หยุนวันละสามครั้ง พอ ตรวจดูว่าไม่มีอันใดผิดปกตนางก็จากไป
ในเวลาไม่นานจวนอ๋องเสียนก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

อันหลิงหยุนนอกจากเป็นห่วงฮ่องเต้ชิงหยู่ ก็คือใคร เป็นคนทําร้ายอ่องตวนนี่แหละ

หลังจากพักผ่อนไปสองวัน อันหลิงหยุนกับกงชิงวี่ก็

เดินทางไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้พร้อมกัน พอพูดคุยเรื่องของอ่ องตวนเสร็จกงชิงวี่ยังไม่อยากไป “กระหม่อมมีเรื่องอยากทูลถาม พ่ะย่ะค่ะ” กงชิงวี่อยู่

รอ

ฮ่องเต้ชิงหยู่นั่งอยู่ข้างบน “มีเรื่องอันใดอีก?”

“พระวรกายของฝ่าบาทเป็นยังกระไรบ้าง พ่ะย่ะค่ะ?” กงชิง เงยหน้าขึ้น โดยไม่มีท่าทีของคนเป็นบ่าวแล้ว เขาทำตัวเหมือนเป็นน้องชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง

ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้นแล้วเดินลงมาจากบันได มาหยุด อยู่ตรงหน้าของกงชิงวี่ น่าแปลก “นี่ส่วนไหนของเจ้า มันผิดปกติไปหรือเปล่า? อ๋องตวนเกิดเรื่องข้ายังไม่ได้ ลงโทษเจ้าเลย แล้วนี่ยังกล้ามาถามข้าอีก?”

“เรียนฝ่าบาท ที่กระหม่อมถามคือร่างกายของฝ่าบาท พ่ะย่ะค่ะ” กงชิงวี่ยังไม่ยอมละเลิก

อันหลิงหยุนที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้แต่ก้มหน้า

เรื่องมันไม่ได้เกี่ยวอันใดกับนาง
มันเป็นเรื่องระหว่างพี่น้อง

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองมาที่อันหลิงหยุน แล้วมองไปที่กงชิง วี่ “แล้วมันเกิดอันใดขึ้นกับร่างกายของข้า?”

”’ ร่างกายของฝ่าบาทเป็นยังกระไร ฝ่าบาทน่าจะรู้อยู่ แก่ใจ พ่ะย่ะค่ะ” กงชิง ยังคงหนักแน่น

ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกอยากขำ “มีคนรายงานมาแล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับอ๋องตวน เจ้าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ไม่ใช่ว่าวันนี้เจ้าจะมาทําเป็นคนร้ายรายงานก่อนเพื่อปิด ความจริงเอาไว้หรือ?”

ฝ่าบาทเพียงแค่ตอบกระหม่อมมาว่าร่างกายปกติดี หรือไม่ก็พอแล้ว พ่ะย่ะค่ะ” กงชิงวีไม่รับฟัง ยังคงดึงดัน

นั่นยิ่งทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกว่า ฮ่องเต้ชิงหยู่คนนี้เป็น ไปก็ไม่มีความหมาย ไม่มีอันใดที่เขาสามารถตัดสินใจ เองได้เลย

แค่ไม่สบายยังต้องให้กงชิงวี่มาซื้อถาม

“จะให้ตอบเจ้าว่าอันใด ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าพูดเรื่อง อันใด ดูเหมือนหลายวันมานี้เจ้าคงจะว่างเกินไปแล้ว บัดซบ! …..ทหาร เอาตัวอ๋องเสียนไปขังไว้ ให้เขาไปนั่ง ทบทวนตัวเองอยู่ในนั้น

“พ่ะย่ะค่ะ”
มีทหารเดินเข้ามา พร้อมที่จะจับตัวกงชิงวี่ไป อัน หลิงหยุนรีบร้องขอ “เรียนฝ่าบาท เพคะ ท่านอ๋องเพียง แค่.….……

“เจ้าไม่ต้องพูดอันใดทั้งนั้น” กงชิงวี่ทำสีหน้าดุร้าย อัน หลิงหยุนจึงรีบเงียบไป

ทหารที่เข้ามากำลังจะเข้าใกล้กงชิงวี่ แต่พอเห็นแวว ตาของกงชิงวี่ ก็จำต้องถอยไป

กงชิงวี่หันไปแล้วเดินไป

อันหลิงหยุนที่ทำหน้างุนงง เขาจะไปทั้งอย่างนี้เลย หรือ นี่มันเรื่องอันใดกัน?

พอเขาไปแล้วอันหลิงหยุนจึงได้ร้องขอ “ฝ่าบาท เพคะ เรื่องนี้.….……….

“ช่วยตรวจให้ข้าหน่อย เมื่อคืนข้าได้ออกจากตำหนัก ไปข้างนอกมา” ฮ่องเต้ชิงหยู่ยื่นมือให้นาง อันหลิงหยุน ถึงกับอึ้งไป

ไม่กล้าพูดอันใดอีกแล้วรีบตรวจชีพจรของฮ่องเต้ชิงห ยู่ดู แค่เริ่มตรวจอันหลิงหยุนก็รู้ในทันทีว่าฮ่องเต้ชิงหยู่ นั้นโดนพิษเข้าแล้ว

พอปล่อยมือจากฮ่องเต้ชิงหยู่ สีหน้าของอันหลิงหยุ นก็กลายเป็นสีขาวซีดทันที
ทำยังกระไรดี?

“เป็นยังกระไรบ้าง?

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันหลังแล้วเดินไปทางบัลลังก์ เดินไปก็ดู มือของตัวเองไป

อันหลิงหยุนมองตามไป “ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันมันไร้ ความสามารถ

อันหลิงหยุนรู้สึกทำใจไม่ได้ที่จะเห็นฮ่องเต้ชิงหยู่ ตายไปทั้งอย่างนี้ นางไม่รู้ว่าจะไปมองหน้ากงชิงวี่ได้ยัง กระไร

ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินไปถึงข้างบน แล้วหมุนตัวนั่งลงบน บัลลังก์ เอามือจับอยู่ตรงหัวมังกรแล้วมองมาที่อันหลิง หยุน “น่าแปลกจริงๆ ยาพิษพวกนี้ไม่รู้ข้ากินมันเข้าไป ตอนไหน?”

อันหลิงหยุนอึ้งไป “ใช่เพคะ!”

“หยุนหยุน เรื่องเบาะแสของอ๋องชินจงให้อ๋องเสีย นเป็นคนไปสืบ แล้วเรื่องของอ๋องตวนก็ทำให้เหล่า ราชวงศ์ต้องตื่นตกใจ พวกเขาต่างหวาดกลัวเสด็จแม่ แล้วที่พวกเขาถวายฎีกามานั้นก็เพื่อที่จะตัดอำนาจของ เสด็จแม่ลง ตอนนี้ข้าทำได้เพียงแค่ขังอ๋องเสียนไว้ก่อน ส่วนเจ้ารีบจัดการเรื่องของอ๋องตวนให้เรียบร้อย แล้ว รีบเข้าไปสืบหาเบาะแสของพิษ”
อันหลิงหยุนออกมาจากวังด้วยใจที่หนักอึ้ง พอกลับ ไปถึงจวนอ๋องเสียน ราชโองการก็มาถึงแล้ว

เนื่องจากทั้งสองพระองค์กำลังตั้งครรภ์จึงจำเป็นต้อง เรียกตัวอันหลิงหยุนเข้าวัง ส่วนเรื่องของกงชิงวี่ ฮ่องเต้ ไม่ได้พูดถึง และไม่มีใครรู้

แต่ตอนที่อันหลิงหยุนกำลังอุ้มจิ้งจอกหางสั้นเข้าวัง อยู่นั้นเอง ก็ได้มีข่าวลือมาว่า อ๋องเสียนคิดทรยศ ตอนนี้ ถูกฮ่องเต้ชิงหยู่จับไปขังไว้ในคุกสวรรค์ไม่ให้เห็นเดือน เห็นตะวันแล้ว!

พอเข้าวังไปอันหลิงหยุนก็ไปทักทายหวางฮองไทเฮา ก่อน การทักทายครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่น หวางฮอง ไทเฮามองหน้าอันหลิงหยุนแวบหนึ่งแล้วก็บอกให้นาง ออกไป ไ กงกงเป็นคนมาส่งอันหลิงหยุนออกจากวัง เฉาเพิ่งด้วยตัวเอง พอออกจากประตูมาไห่กงกงก็มอง ไปรอบๆ แล้วกระซิบว่า “สืบเนื่องจากเรื่องการฆ่าล้าง ราชวงศ์นั้นทำให้เหล่าราชวงศ์เกิดความไม่พอใจ มีคน ถวายฎีกาไป หลายวันนี้หวางฮองไทเฮาจึงไม่อยาก รับแขกสักเท่าไหร่ พ่ะย่ะค่ะ”

อันหลิงหยุนพยักหน้า แล้วยื่นขวดเล็กๆ ขวดหนึ่งให้ ไห่กงกง “นี่เป็นยาบำรุงหัวใจที่เตรียมไว้ให้หวางฮองไท เฮารบกวนกงกงด้วย

เสด็จแม่รู้ดีว่าต้องใช้ยังกระไร ฝากกงกงไปถวาย หน่อยนะคะ”
“พระชายาเสียนนี่ช่างเอาใจใส่จริงๆ เลยนะ พ่ะย่ะค่ะ ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอตัวก่อน พระชายาเสียนค่อยๆ เสด็จนะพ่ะย่ะค่ะ”

ไห่กงกงกำลังจะไป แต่อันหลิงหยุนยังคงไม่สบายใจ จึงหันไปเรียกไห่กงกงเอาไว้ ก้มลงไปมองเจ้าจิ้งจอก หางสั้น “กงกงคะ ช่วยดูแลนางให้หน่อย นางทั้งเชื่อง ทั้งน่ารัก ให้นางช่วยเฝ้ายามให้หวางฮองไทเฮาด้วย ถ้า กลางดึกกงกงเกิดเหนื่อยล้า นางก็ยังสามารถช่วยแบ่ง เบาได้

ไห่กงกงมองดูจิ้งจอกหางสั้นที่อันหลิงหยุนอุ้มเอาไว้ ถึงแม้จะไม่ได้ชอบมันมาก แต่ในเมื่อถูกพาเข้ามาในวัง แล้ว แสดงว่าต้องเชื่องแล้วแน่ๆ

“ได้พ่ะย่ะค่ะ ถ้าเช่นนั้นก็ให้นางไปกับกระหม่อมเลย” ไห่กงกงกำลังจะยื่นมือไปอุ้มมัน จิ้งจองหางสั้นก็เงย หน้าขึ้นมามองไห่กงกงอย่างเบื่อหน่าย จากนั้นมันก็กร

ะโดดลงมา แล้วเดินไปโดยที่ไม่ยอมให้ไห่กงกงอุ้ม

ไ กงกงทําหน้าเหลืออด “ไอ้โยว หยิ่งซะด้วยสิ

ไห่กงกงหัวเราะคิกคัก อันหลิงหยุนแนะนำ “นางกิน เนื้อปลา เนื้อก็กิน แต่ต้องดิบ ไม่ต้องไปสนใจนางมาก ก็ได้ ถ้านางหายไปก็ไม่ต้องหา เดี๋ยวนางก็กลับมาเอง

จิ้งจอกน้อยเจ้าอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ ถ้าเกิดอันใดขึ้นก็ไป หาข้า”
จิ้งจอกหางสั่นกระดิกหู แสดงถึงการตอบรับ

อันหลิงหยุนถึงไปได้สักที ส่วนจิ้งจอกหางสั้นก็เดิน ตามไห่กงกงไป

อันหลิงหยุนมาถึงพระตำหนักจรุงจิตเพื่อทักทาย ฮ่องเต้ชิงหยู่ ฮ่องเต้ชิงหยู่สั่งให้นางไปตรวจดูชีพจรให้ ฮองเฮา แล้วก็สั่งให้นางไปที่วังเพิ่งหยี ให้นางพักที่วิหาร บรรทมรองของวังเพิ่งหยี

“พระชายาเสียน ข้ารู้ดีว่าเจ้าไม่ชอบให้ถูกควบคุม ข้า อนุญาตให้เจ้าเดินเล่นในวังได้ แต่เจ้าต้องดูความเหมาะ สมด้วยอย่าสร้างปัญหาให้ข้าปวดหัวก็พอ เข้าใจหรือ ไม่?” ฮ่องเต้ชิงหยู่นั่งอยู่ข้างๆ ของฮองเฮาเงินหยุนซู พูดเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยจิตสังหาร

เสินหยุนชูดึงแขนของฮ่องเต้ชิงหยู่ “ฝ่าบาทเพคะ นานๆ ชายาเสียนจะมาอยู่เป็นเพื่อนข้าที ท่านจะพูด น้อยๆ หน่อยไม่ได้หรือเพคะ?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่จับมือของเสินหยุนซูเอาไว้ “ข้าเข้าใจ แล้ว”

“พอมองหน้าอันหลิงหยุน ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็โบกมือ “เจ้า ออกไปเถอะ”

“หม่อมฉันทูลลา เพคะ” หลังจากที่อันหลิงหยุนออกมา นางก็กลับไปที่วิหารบรรทมรอง
นอกประตูไม่มีคนเฝ้า อันหลิงหยุนนั่งอยู่ในนั้นพักหนึ่ง แล้วนางก็ออกมาจากวิหารบรรทมรอง แล้วไปเดินเล่น รอบๆ วัง

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยามวังเพิ่งหยีก็ถูกอันหลิงหยุ นสำรวจไปแล้วรอบหนึ่ง นางไม่ได้พูดอันใด เพราะ ระหว่างที่เดินสำรวจก็มีคนมาทักทาย มันก็ลดปัญหาไป ได้มากอยู่เหมือนกัน

พอออกจากวังเพิ่งหยี อันหลิงหยุนก็ไปที่วังฮั่วหยาง เพื่อไปทักทายฮั่วไท่เฟย

ฮั่วไท่เฟยกำลังกลุ้มใจที่ไม่รู้ว่าจะไปหาข่าวสารของอู๋ องตวนจากใครดี พอรู้ว่าอันหลิงหยุนมาหานางก็รู้สึก ดีใจมากดังนั้นนางจึงยินดีต้อนรับอันหลิงหยุนเป็นอย่าง มาก

“หยุนหยุน รีบเข้ามาก่อน ถ้าเจ้ายังไม่มาข้าก็จะให้คน ไปตามเจ้าอยู่แล้ว” ฮั่วไท่เฟยเชิญอันหลิงหยุนเข้ามา ใช้มือปัดๆ ที่นั่งข้างๆ เพื่อให้อันหลิงหยุนมานั่ง

ก่อนหน้านี้นางก็ไม่ได้ชอบอันหลิงหยุน แต่พออันหลิง หยุนช่วยชีวิตลูกชายของตัวเองไว้ ต่อให้ฮั่วไท่เฟยจะ สับสนยังกระไรแต่ในเวลาแบบนี้ก็ไม่มีทางแสดงสีหน้า ที่ไม่ดีให้อันหลิงหยุนเด็ดขาด

อันหลิงหยุนเองก็รู้เรื่องนี้ดี แต่นางมีคําสั่งอยู่กับตัว จึงไม่ได้สนใจว่าคนตรงหน้านี้จะเป็นใคร
อันหลิงหยุนจัดแจงตัวเอง “ถวายบังคมไท่เฟยเพคะ”

“ช่างน่ารักจริงๆ มานั่งตรงนี้มา” ฮั่วไท่เฟยเชิญให้อัน หลิงหยุนนั่ง

“ขอบพระทัยไท่เฟย หม่อมฉันยืนตรงนี้ก็ได้เพคะ ที่ หม่อมฉันมาในวันนี้ก็เพื่อกราบทูลพระอาการของอ๋องต วนเพคะ”

“หรือ? ถ้าเช่นนั้นอ๋องตวนอาการเป็นยังกระไรบ้าง?” ฮั่วไท่เฟยถามมาอย่างร้อนใจ อันหลิงหยุนก็รู้สึกเห็นใจ อยู่เหมือนกัน

ในบรรดาผู้คนที่อยู่ในนี้ ความจริงแล้วไม่มีใครมีอิสระ เลย ดูภายนอกอาจจะเหมือนมีอำนาจล้นฟ้า แต่ความ จริงนั้นล้วนแล้วต่างเป็นคนที่น่าสงสารทั้งสิ้น

ก็เหมือนกับฮั่วไท่เฟยในตอนนี้ แค่อยากจะพบหน้า ลูกชายยังไม่ได้เลย

ลูกชายบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ทำได้แค่นอนอยู่นอกวัง

แต่พออยู่นอกวังอันหลิงหยุนก็รู้สึกไม่วางใจ

เพราะถ้าเกิดอันใดที่ไม่คาดคิดขึ้นมา ความชอบที่ทำ มาทั้งหมด จะสูญเปล่า

“อ๋องตวนอาการดีขึ้นมากแล้วเพคะ ขอแค่ทำตามวิธี การรักษาของหม่อมฉัน รับรองได้เลยว่าไม่เกินครึ่งเดือนก็น่าจะพ้นขีดอันตรายแล้วเพคะ แต่ที่หม่อมฉัน เป็นห่วงคือ….” อันหลิงหยุนรู้สึกลังเล

ฮั่วไทเฟยรีบถามขึ้น “อันใดหรือ?”

“เรียนไท่เฟย คนที่ได้รับบาดเจ็บภายนอกนั้นแผลติด เชื้อง่าย หากติดเชื้อแล้วก็จะทำให้มีไข้ขึ้นสูง ถ้าเป็น เช่นนั้นในช่วงที่หม่อมฉันไม่อยู่ แล้วเหล่าหมอจวนอาจ ดูแลได้ไม่ทั่วถึง หม่อมฉันเกรงว่าอ่องตวนอาจอาการ หนักกว่าเดิมเพคะ

คนที่ทําร้ายท่านอ๋องก็ยังจับตัวไม่ได้ ถึงแม้จะจับตัว อ๋องชินจงได้แล้ว แต่มันก็ยังไม่มีหลักฐานเพคะ

ถ้าใช่ก็ไม่เป็นไร จับเขาไว้ถือว่าทำถูกแล้ว

แต่ถ้าไม่ใช่ มันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่เพคะ

ถ้าคนที่ลงมือยังไม่ยอมตัดใจ แล้วกลับมาลงมืออีก ครั้ง ด้วยฝีมือของชายารองหยุนคนเดียวคงไม่อาจ ปกป้องท่านอ๋องได้แน่เพคะ”

อันหลิงหยุนหยุดพูดอีกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ