ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 180 ข่าวอาการบาดเจ็บหนัก



บทที่ 180 ข่าวอาการบาดเจ็บหนัก

ทั้งสองคนกอดกันตัวกลม และอันหลิงหยุนสัมผัสได้ ว่า คืนนี้กงชิงวี่มีอารมณ์ที่ไม่ดีนัก จึงทราบว่านั่นมันไม่ เหมือนเขาเลย

พอตื่นเช้ามาอารมณ์ของกงชิงวี่ดีขึ้นมาแล้วบ้าง แต่ก็ ยังดูมีอาการซึม ๆ อยู่บ้าง

“เดี๋ยวข้าจะไปดูตูฟางจุ้นหน่อย กลับมาแล้วจะไปเข้า เฝ้าฝ่าบาท” เมื่อพูดเสร็จกงชิงวี่ก็ได้ออกเดินทาง และอัน หลิงหยุนก็ได้วิเคราะห์หาพิษของฮ่องเต้ชิงหยู่ที่ได้รับต่อ

พอถึงช่วงเที่ยงอันหลิงหยุนก็ออกจากห้องทดลอง เพื่อ มาเสวยข้าว และทันใดอาหยู่ก็ลุกลี้ลุกลนวิ่งเข้ามายัง ประตู แล้วพูดขึ้นว่า “พระชายา เกิดเรื่องแล้ว”

“อันใด เมื่อวานเจ้าไปไหนมา แล้วเจ้ายังมีหน้ามาบอก ข้าว่าเกิดเรื่องอีกหรือ ข้าว่านะ เจ้านั่นแหละควรจะมีเรื่อง ลนลานอันใดมา” อันหลิงหยุนทราบ ก็รู้สึกหงุดหงิด

อาหยู่ดูมีท่าทีผิดหวัง พระชายานับวันยิ่งร้ายนะ

“พูดมา เรื่องอันใด” อันหลิงหยุนทนไม่ได้เลยถาม

ข้าล่ะรู้สึกเสียใจจริง ๆ ที่ให้ถางเหอไปทำความสะอาด ร้านค้า ที่จริงน่าจะให้อาหยู่ไป

“เกิดเรื่องกับอ๋องตวน” อาหยู่มีสีหน้าที่ร้อนรน อันหลิง หยุนทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินที่นางพูด จะเรื่องอันใดได้ คงไม่ตายหรือก

“ไม่ใช่เรื่องของอ๋องเสียนสักหน่อย เขาเกิดเรื่องก็เรื่อง ของเขา ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเรา ข้ายังมี ธุระที่ต้องทําอีก อย่ามารบกวน” อันหลิงหยุนเตรียมที่จะ วิเคราะห์พิษของฮ่องเต้ชิงหยู่ต่อ

“พระชายาเจ้าคะ อองตวนโดนมีดจำนวนมากแทงทั่ว ทั้งตัว ชีวิตอยู่ในขั้นวิกฤ ตอนนี้จวนอ๋องตวนวุ่นวายกัน ยกใหญ่ ซึ่งนี่ก็เป็นคำสั่งจากอ๋องเสียนให้ข้ารีบกลับมาบ อกข่าวแก่ท่าน เขาบอกว่าอ๋องตวนจะมาที่จวนเรา

อันหลิงหยุนจึงรีบหันกลับไปมองอาหยุ่อย่างรวดเร็ว “มีดจํานวนมากหรือ

“พระชายา รีบหน่อยเถอะค่ะ หากช้าไปเกรงว่าจะไม่ รอดเอาได้” อาหยู่กลับหลังได้จึงรีบวิ่งไป อันหลิงหยุนก็ ตกใจไม่แพ้กัน จึงได้บอกให้คนเตรียมของให้โดยด่วน

ผ่านไปสักพัก ก็มีคนแบกอ๋องตวนผ่านเข้ามาในประตู และจำนวนของคนที่เข้ามานั้นก็เยอะ

ทำเอาอันหลิงหยุนเองก็ตกใจ ส่วนกงชิงวี่ที่ตามมานั้น ทั่วทั้งตัวอาบด้วยเลือด เมื่ออันหลิงหยุนเห็นดังนั้น จึงรีบ วิ่งเข้าไปดู “ท่านบาดเจ็บหรือ ตรงไหน”

อันหลิงหยุนดึงตัวของกงชิงวี่มาดูใกล้ ๆ สีหน้านั้นซีด เผือด

“ข้าเองไม่เป็นไรหรือก ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเลือดของพี่สอง เจ้ารีบไปดูเร็ว พี่สองเป็นกระไรบ้าง”กงชิง รีบลาก ตัวของอันหลิงหยุนไปดูคนคนนั้นที่โดนแบกเข้ามาให้ จวน

พออันหลิงหยุนได้ยินว่ากงชิงวี่นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ ทันใดก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา

จากที่อันหลิงหยุนนั้นมองยังอ๋องตวน แทบจะดูไม่ออก วาเป็นใคร เพราะทั่วทั้งตัวนั้นเต็มไปด้วยเลือด

อันหลิงหยุนทันใดก็เดินไปยังข้างหน้าของอ๋องตวน เพื่อ ทำการตรวจดูอาการของเขา มือหนึ่งข้างจับที่ข้อมือของ เขา สัมผัสได้ถึงชีพจรที่ยังเต้นอยู่

ชีพจรที่ดูอ่อนนั้น อันหลิงหยุนทันใดจึงรีบสำรวจ

และผลของการสำรวจนั้น ไม่เพียงแค่จะได้รับบาดหนัก

จากนั้นอันหลิงหยุนก็ดูที่ดวงตาของอ๋องตวน รอบ ๆ ดวงตานั้นมีเลือดออกมานิดหน่อย และริมฝีปากก็มีสีดำ

จากนั้นอันหลิงหยุนก็ได้อ้าปากของอ๋องตวนดู พบว่า ภายในปากมีเส้นเลือดสีดำขึ้นเต็ม หากเป็นแบบนี้แสดง ว่าพิษนั้นได้เข้าไปสู่หัวใจแล้ว

อันหลิงหยุนมองที่อาหยู่ แล้วพูดขึ้นว่า “รีบนำเขาไปยัง ห้องของฉันด่วน”

อาหยู่จึงรีบนำคนยกตัวอ๋องตวนเข้าไปยังห้องของอัน หลิงหยุน และในขณะเดินไปนั้น กงชิงวี่คว้ามือของอันหลิงหยุนเอาไว้ เพื่อให้นางนั้นเดินช้าลงหน่อย

อันหลิงหยุนดูท่าที่เร่งรีบจริง ๆ แทบที่จะถลกชาย กระโปรงแล้ววิ่งไป

กงชิง จึงได้อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นให้กับ ๆ อันหลิงหยุนฟัง เพื่อไม่อยากให้นางนั้นวิ่ง เพราะว่าจะ ทําให้มีผลกระทบต่อแม่และเด็ก

“ทีแรกข้าว่าจะเข้าวัง แต่มีคนมาบอกกับข้าว่า อ๋องต วนแสวยเรื่องแล้ว จากนั้นข้าก็รีบวิ่งตามไปดูยังในตรอก เล็ก ๆ ครั้งจวนอ๋องตวน และก็พบว่าอ๋องตวนนั้น ถูก คนร้ายลอบทําร้าย

และอีกอย่างพวกนั้นก็ไม่ใช่คนธรรมดา หากถ้าข้าไป ไม่ทันเวลา อ๋องตวนคงจะต้องตายไปแล้ว”

เมื่ออันหลิงหยุนพอได้สติแล้วนั้น “อยู่ดี ๆ อ๋องตวนจะไป

หลังจวนทำไม”

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ คงต้องรอให้เขาฟื้นขึ้นมาก่อนแล้ว แหละ” กงชิงวี่ก็รู้สึกสงสัย ว่าใครเป็นคนลงมือ

อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกว่ามันแปลก ๆ “ท่านอ๋อง หรือว่า จะมีใครทำเพื่อใส่ร้ายให้กับพวกเรา”

กงชิงวี่ส่ายหน้า “ข้าก็ไม่ทราบ”

กงชิงวี่สีหน้าดูสงสัย อันหลิงหยุนเองก็ไม่อยากจะพูด อันใดต่อ นางเลยจึงรีบไปดูอาการของอ๋องตวน จากนั้นก็ถลกชายกระโปรงแล้วก็รีบไป กงชิงวี่ที่อยู่ข้างหลังห้าม ไม่ทัน จึงได้คว้าแขนนางไว้ แล้วอุ้มนางไปส่งยังลานโอว หลาน

พอถึงลานโอวหลานแล้วอันหลิงหยุนก็รีบเข้าไปดูอ๋องต วน แล้วสั่งให้คนออกไปจากห้อง ให้อยู่ได้แค่กงชิงวี่ อาห ยู่ หงเถา ลุ่ยหลิ่วเท่านั้น

อาหยู่มองไปยังด้านนอก เห็นหงเถา ลุ่ยหลิ่ว กำลัง เตรียมน้ำร้อนเพื่อจะล้างทําความสะอาด ส่วนเหล่า บรรดาหมอต่าง ๆ ก็รออยู่ด้านนอก

อันหลิงหยุนปิดประตูลง แล้วหยิบมีดออกมา กรีดไปที่ ข้อมือ ดูท่าทางคล่องแคล่วมาก

กงชิงวี่เองก็รู้สึกเจ็บแทน แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่าง ใด

อันหลิงหยุนบีบที่ปากของอ๋องตวนเบา ๆ เพื่อให้หยด เลือดหยดเข้าปากได้ ทันใด อ๋องตวนจากริมฝีปากที่มีสี ดำนั้น ก็เปลี่ยนเป็นสีธรรมดาขึ้นมา

อันหลิงหยุนรอจนกระทั่งสีหน้าของอ๋องตวนนั้นปกติ และสีปากนั้นเป็นสีแดง แล้วค่อยพันแผลที่ข้อมือของตัว เอง

“หงเถา ลุ่ยหลิ่ว อีกสักพักก็มาแล้ว” อันหลิงหยุนเอ สมีดวางไว้ด้านข้าง จากนั้นก็ไปทำความสะอาดให้แก่ อ๋องตวน พอเปิดเสื้อออกมา ก็พบว่าทั่วร่างนั้นมีแต่รอย บาดแผลจากมีด แต่ละแผลลึกถึงกระดูกและสามารถเอาชีวิตได้

อันหลิงหยุนสูดลมหายใจเข้า จากนั้นก็ค่อย ๆ สำรวจ ตั้งแต่หัวจรดเท้า และก็พบว่ามีรอยบาดแผลที่ขาอยู่สอง สามรอย อันหลิงหยุนตกใจมากแล้วจึงมองยังกงชิงวี่ และ พูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ท่านดูตรงนี้สิ”

กงชิงวี่ก็มองดู แต่ก็ต้องตกใจอีกเหมือนกัน

“พวกนั้นคงจะให้อ่องตวนคุกเข่าให้แน่ ๆ แต่อ่องตวนคง ไม่ยอม จากนั้น พวกนั้นเลยใช้มีดบังคับเขา” อันหลิงหยุ นคาดเดาเอา ซึ่งวรยุทธของอ๋องตวนนั้นไม่ดีเลย และอีก อย่างพวกนั้นต่างก็มีฝีมือกันทั้งนั้น พวกนั้นให้อ๋องตวน คุกเข่า อ๋องตวนเลยไม่ยอม พวกนั้นเลยพาอ๋องตวนไปยัง ที่ที่ไม่มีคน แล้วใช้มีดปาดที่ขาทั้งสองข้างของเขา เนื่อง จากอ๋องตวนคงไม่ยอมที่จะคุกเข่าให้ และก็พวกนั้นปาด ไปที่ข้อพับขาของอ๋องตวนด้วย

อันหลิงหยุนฉีกผ้าบริเวณหัวเข่าของอ๋องตวนออก และ ที่หัวเข่านั้นก็มีอาการบวมแดงอยู่แล้ว

อันหลิงหยุนก็คงทราบแหละว่าอ๋องตวนไม่คุกเข่าให้ พวกเขาเลยใช้วิธีการที่โหดๆ

บริเวณข้อพับของขาหากโดนปาดไปสักครั้ง เส้นเอ็น คงจะขาดได้ เรื่องเจ็บนั้นมันเจ็บอยู่แล้ว แต่หนักกว่านั้น คือ เป๋

อันหลิงหยุนจึงรีบทำความสะอาดแผลทั่วทั้งร่างให้แก่ อ๋องตวน ก็คือต้องล้างแผลก่อนจากนั้นค่อยห้ามเลือด
“ให้หมอเข้ามาสองคน”อันหลิงหยุนสั่งการออกไป หมอ ที่เฝ้าอยู่ข้างนอกทันใดก็รีบเข้ามา เพราะว่าเตรียมตัวไว้ อยู่แล้ว ซึ่งก็ได้พันแขนขึ้นแล้วก็รีบดำเนินการ

ในเวลานั้น จุนฉูฉูเองก็ได้มายังที่นี่พอดี พอเข้าประตูไป ก็รีบหาอ๋องตวน “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องล่ะ”

จุนฉูฉูหายดีแล้ว เป็นเพราะว่ายาของอันหลิงหยุนนั้นดี จริง ๆ พอหลังจากที่นางใช้ยาไม่นานก็ดีขึ้น ถึงแม้นว่าจะ มีรอยแผลเป็น แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีรอยแผลเป็นเหลือให้ เห็น

แต่จุนฉูฉกลับไม่รู้สึกขอบคุณอันหลิงหยุน แต่กลับกัน จุนฉูฉูกลับยิ่งเกลียดอันหลิงหยุนมากขึ้นด้วยซ้ำ

นางเลยไม่ยอมที่จะมาขอบคุฯที่จวน ไม่ว่าอ๋องตวนจะ พูดกระไรก็ไม่ยอมมา

จุนฉูฉูโวกเวกโวยวายอยู่ในนั้น จนทำให้อันหลิงหยุน เองรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก “ปิดปากนางเสียจากนั้นก็ไล่ นางออกไป”

อันหลิงหยุนเองจิตใจก็ดูสับสน วุ่นวายอยู่แล้ว ยิ่งมีคน มารบกวนอีก

กงชิงวี่เลยออกคำสั่ง ให้อาหยู่ไล่จุนฉูฉูออกไปในทันที ประตูของลานโวนหลานถูกปิดลง และอาหยู่เป็นคนเฝ้าดู เหตุการณ์ด้านนอก

อันหลิงหยุนหยิบเข็มที่มีหัวขนาดเล็กมา จากนั้นก็ฉีดให้กับอ๋องตวน

เอาเข็มนี่ไป จากนั้นอันหลิงหยุนก็เดินไปอีกทาง แล้ว หยิบท่อเงินลักษณะอ่อน ๆ ออกมาหนึ่งแท่ง ท่อนั้นมี ความใหญ่เท่ากับตะเกียบ อีกด้านเป็นหัวของเข็ม เพราะ ว่าสั่งทำเป็นพิเศษ ท่อเงินชนิดนี้บิดโค้งงอได้ตามใจ ความยืดหยุ่นเหมือนกับเชือกทั่วไป ถึงแม้นจะแบนไป หน่อยก็เถอะ แต่ก็สามารถมองออกว่ามีรูอยู่ข้างใน

ทีแรกอันหลิงหยุนเองก็ไม่อยากจะเอาออกมาใช้หรือก แต่ตอนนี้ไม่ได้มีเวลาให้ต้องได้คิดเยอะขนาดนั้น

จากนั้นก็เอาขวดใสออกมาด้วย แล้วอันหลิงหยุนเลย นํายาแก้อักเสบที่ผสมไว้ เทลงขวดใสแล้วห้อยไว้ด้านบน จากนั้นแทงท่อเงินเข้าไปในขวด อันหลิงหยุนนําเชือกผ้า มาหนึ่งเส้น เพื่อที่จะทำการฉีดยาเพื่อฆ่าเชื้อ

เปิดฝาตรงกลางออกแล้วปล่อยให้มันไหลไปเอง มือ ของอันหลิงหยุนจับชีพจรที่แขนของอ๋องตวน ท่อชนิดนี้ ไม่สามารถมองเห็นว่าน้ำมันหยดกระไร นางจึงทำได้แค่ ตรวจจับชีพจรไปเรื่อย ๆ

นางมองขวดที่แขวนอยู่ข้างบนที่กำลังมีฟองเกิดขึ้น

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีอันหลิงหยุนก็เริ่มที่จะหายใจคล่อง ขึ้นหน่อย

นางเองก็ไม่ได้ทดสอบว่ามีอาการแพ้ยาหรือไม่ แต่ว่า ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นวัสดุจากธรรมดา น้อยนักที่จะแพ้
จากนั้นอันหลิงหยุนก็เริ่มทําความสะอาดแผล และห้าม เลือด หลังจากนั้นก็เอาผงยาโรยลงไปบนแผล บางทีที่ ต้องเย็บก็รีบดำเนินการเย็บเสีย

กงชิงวี่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดูมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกไม่ดี จึงพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง เข้า มาสิ หม่อมฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ว่าอาการหนัก อยู่นะ”

กงชิงวี่หันหน้าหนี สีหน้าซีดเผือดจนน่าตกใจ จากนั้นก็ เดินออกไปข้างนอก

ไม่ทันไรอันหลิงหยุนเลยต้องรีบช่วยเหลืออ๋องตวน อย่างเร่งด่วน เพราะว่าตอนนี้อาการแย่ลงมาก อันหลิงหยุ นเองก็ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสรอดหรือไม่

นางทําได้แค่เพียงให้กงชิงนั้นออกไปก่อน

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ได้เสด็จมา

ในตอนที่ฮ่องเต้ชิงหยู่มานั้น พอดีกับที่จุนฉูฉูกำลัง เอะอะโวยวายอยู่ด้านนอก ฮ่องเต้ชิงหยู่มีสีหน้าที่ไม่ค่อย พอใจเป็นอย่างมาก “จับนางไปขังไว้ก่อน”

“ฝ่าบาท……”

จุนฉูฉูตกใจแทบต้องคุกเข่าลง แล้วจากนั้นก็มีคนลาก ตัวนางออกไป
เมื่อจุนฉูฉูเห็นฮ่องเต้ชิงหยู่เข้าก็หยุดโวยวาย หน้าของ นางตกใจจนซีด เกิดเรื่องขึ้นกับอ๋องตวนจริง ๆ หรือ

ฮ่องเต้ชิงหยู่พอผ่านเข้ามาในประตูแล้วก็มองไปยังข้าง ในของห้อง คนทั้งในลานต่างก็คุกเข่าลง

อันหลิงหยุนพูดขึ้น “เชิญฝ่าบาทเข้ามาด้านในเพคะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินมาเข้าแล้วรีบผลักประตูให้เปิดออก เห็นคนที่กำลังนอนผ่าตัดอยู่บนเตียง ทั้งตัวก็เริ่มสั่น และ แทบจะล้มลง

สวีกงกงจึงรีบเข้าไปประคองไว้ แล้วพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาท ท่านอย่าทำให้ข้าน้อยตกใจสิเพคะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ข่มใจเอาไว้ จากนั้นก็มองยังอ๋องตวน ที่นอนอยู่ พร้อมกับโบกมือไปมาแล้วพูดขึ้นมา “ข้าไม่เป็น ไรหรือก”

สวีกงกงก็ประคองฮ่องเต้ชิงหยู่เอาไว้ เมื่อยืนได้ที่แล้ว ฮ่องเต้ชิงหยู่เลยถามขึ้นว่า “อาการของอ๋องตวนเป็นกระ ไรบ้าง”

“หม่อมฉันจะช่วยอย่างเต็มความสามารถเพคะ ฝ่าบาท เองก็ควรทำใจไว้ด้วยนะเพคะ”

อันหลิงหยุนไม่ทราบจะพูดอันใด ถึงแม้ว่ากงชิงหยินจะ ยังหายใจอยู่ แต่เขาในตอนนี้แทบจะไม่รู้สึกตัวเลย

ฮ่องเต้ชิงหยู่ดูร้อนรน นั่ง ๆ ลุก ๆ สลับกันไปมา ไม่นานข้างนอกก็มีคนมา

ฮั่วไทเฟยเดินเข้าลานโอวหลานด้วยความร้อนใจ “หยิน เอ๋อ หยินเอ๋อ…….

“อย่าทำเสียงดังเจ้าคะ เชิญไทเฟยรอสักครู่ เดี๋ยวจะทำ แผลเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”

“ขวางไทเฟยเอาไว้”ฮ่องเต้ชิงหยู่รีบสั่งการขึ้น ด้วย อำนาจของราชาที่เขามีอย่างน่าเกรงขาม

สวีกงกงจึงรีบขวางฮั่วไทแฟยไว้ข้างนอก ฮั่วไทเฟยเอง นั้นร้องไห้จนเป็นลม

กงชิงวี่เองก็ได้ตามมากับหวางฮองไทเฮา

ฮั่วไทเฟยไม่ยอม กระไรก็จะเจอกับกงชิงหยินให้ได้ หวางฮวงไทเฮาเลยตะคอกใส่นางว่า “รีบหุบปากของเจ้า เสีย หากเกิดอันใดขึ้นกับอ๋องตวนล่ะก็ ข้าเองจะให้เจ้านั่น แหละตามไปด้วย

หวางฮวงไทเฮาใช้เสียงตะคอกขึ้น ฮั่วไทเฟยเองก็พูด พล่ามโดยทันที

ฮั่วไทเฟยที่ยืนอยู่นั้นก็รู้สึกเป็นห่วง และก็ได้แค่ใช้มือ บิดที่ชายเสื้อตัวเอง ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ได้คุกเข่านั่ง ลง

หวางฮวงไทเฮาถามเข้าไปยังคนที่อยู่ในห้องขึ้นว่า “ยัง ต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่”
“ฝ่าบาทอยู่ด้านใน คงต้องใช้เวลาสักพักเพคะ” ไทเฮา กรุณารอก่อนเพคะ เดี๋ยวข้าน้อยจะยกที่ประทับมาให้ ก่อน

สวีกงกงรับยกที่นั่งมา หลังจากที่หวางฮวงไทเฮานั่งลง ก็มองไปยังฮั่วไทเฟย “นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะโวยวาย อยู่อีก นั่งลง”

สวีกงกงก็ได้นำเก้าอี้มาให้อีกตัว แล้วประคองฮั่วไทเฟย ไปนั่ง

ฮั่วไทเฟยร้องไห้ไม่หยุด

อันหลิงหยุนทำการพันแผลให้กับอ๋องตวนเสร็จ

เรียบร้อย และเกือบจะเป็นลมล้ม แต่โดนฮ่องเต้ชิงหยู่ ประคองพอดี พอจะกลับอันหลิงหยุนก็ก้มหัวให้ แล้วก็ถอยออกไป

“เอาอ๋องตวนนอน ระวังด้วยนะ”

และหมออีกสองสามคนก็ได้เข้ามา ยกอ๋องตวนไปนอน บนเตียงอีกฝั่ง

ในขณะที่อันหลิงหยุนกำลังพักอยู่นั้น เหล่าบรรดาหมอ ก็ได้จัดเก็บอุปกรณ์ หวางฮวงไทเฮาและฮั่วไทเฟยก็ได้ พากันเดินเข้ามา

เมื่อเห็นสภาพของอ๋องตวน ฮั่วไทเฟยแทบจะเป็นลม ล้มไป พอดีที่หวางฮวงไทเฮายื่นมือไปประคองไว้ ฮั่วไทเฟยเลยยืนได้หน่อย ฮั่วไทเฟยเมื่อเห็นสภาพของลูกชาย อย่างนั้นแล้ว น้ำตาก็ไหลออกมาเป็นสาย ตกใจจนปาก ต้องอ้าค้างไว้ จะพูดอันใดก็พูดไม่ออก

อันหลิงหยุนพูดขึ้นว่า “เขาต้องการพักผ่อนเพคะ ตอน นี้หม่อมฉันได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้แล้ว แต่เพราะว่า ร่างกายของเขานั้นได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส และอีก อย่างก็เสียเลือดไปมาก ที่เขายังไม่ฟื้นขึ้นมานั้นก็เพราะมี อีกสาเหตุ

การจะอยู่หรือจะไปของคนนั้นมันขึ้นอยู่กับแรง ปรารถนา หากเขาอยากจะมีชีวิตอยู่ ต่อให้เขาจะบาดเจ็บ หนักแค่ไหน หากเขาอดทนได้ เขาก็รอด

แต่หากว่าเขาไม่อยากที่จะอยู่แล้ว ใครก็ช่วยไม่ได้ หม่อมฉันรักษาเขา ก็ต้องการความร่วมมือของจากแรง ปรารถนาของเขาเหมือนกัน

สองชั่วโมงมานี้ เขาเองไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย นี่จึง ทำให้หม่อมฉันรู้สึกกังวล”

อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกเหนื่อยมากเหมือนกัน ขนาดแรง จะพูดก็ยังไม่มี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ