ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 197 ในวังมีงู



บทที่ 197 ในวังมีงู

ฮ่องเต้ชิงหยู่เห็นอันหลิงหยุนเดินเข้ามาหา อันหลิงหยุ นเดินย้ายไปด้านข้าง คิดที่จะหาอันใดสักอย่างมาใช้ กำบังร่างกาย เข็มเงินที่นางพกมาใช้ไปหมดแล้ว

แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้เดินไปถึงอีกด้านหนึ่ง ฮ่องเต้ ชิงหยู่ก็เดินใกล้เข้ามา อันหลิงหยุนคิดอันใดไม่ทัน จึง พุ่งเข้าไปกอดฮ่องเต้ชิงหยู่แล้วจึงเปิดปากของเขา เอา ยาใส่เข้าไปข้างใน แล้วปิดปากของฮ่องเต้ชิงหยู่ไว้เพื่อ ให้เขากลืนลงไป

ฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่ยอม เขาบีบคออันหลิงหยุน พยายาม ที่จะบิดออก อันหลิงหยุนกลั้นหายใจ ต่อให้ต้องตายก็ จะไม่ยอมปล่อยมือ

ฮ่องเต้ชิงหยู่กำลังรออันหลิงหยุน อันหลิงหยุนต่อย เขาไปหนึ่งครั้ง ฮ่องเต้ชิงหยู่หายใจเข้า ยาที่อยู่ในปาก ถูกกลืนลงไป บวกกับฤทธิ์ของยาที่กระจายอยู่ในปาก เอะอะเช่นนี้ ฮ่องเต้ชิงหยู่ตกใจในทันที แล้วก็ตกลงมา จากเตียง

อันหลิงหยุนเห็นว่ากำลังจะตก จึงให้ฮ่องเต่ชิงหยู่หล่น อยู่ด้านล่าง

ทั้งสองกลับขึ้นไปบนเตียง อันหลิงหยุนหล่นลงไป จึง ส่งเสียงโกรธออกมา แล้วจึงลุกขึ้นหายเข้า

ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
อันหลิงหยุนรีบลุกขึ้นจากตัวของฮ่องเต้ชิงหยู่ แล้วจึง ถอยหลัง คุกเข่าลงแล้วก้มหัว: “ฝ่าบาท”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ค่อยๆลุกจากเตียงมาดุอันหลิงหยุน แล้ว จึงมองภายในห้องบรรทมรอง แล้วจึงหันกลับไปมองอัน หลิงหยุนและพูดว่า: “เงยหน้าขึ้นมา”

อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้น โคมไฟอยู่อีกด้านหนึ่ง อาศัย แสงสว่างของไฟ ฮ่องเต้ชิงหยู่มองเห็นอันหลิงหยุนก็ ผงะไปชั่วครู่

“เจ้าเป็นอันใดไป?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้น อันหลิงหยุนรีบลงไปคุกเข่า: “หม่อมฉันมีความผิด”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยืนขึ้น: “เจ้าลุกขึ้นมา ข้าบอกแล้วว่า เวลาไม่มีคนไม่ต้องคุกเข่า ลุกขึ้นเถอะ”

อันหลิงหยุนจึงลุกขึ้น ฮ่องเต้ชิงหยู่มองอันหลิงหยุนอ ยู่ครู่หนึ่ง: “ข้าตีเจ้าแล้วใช่หรือไม่?”

“ฝ่าบาททรงละเมอ พอดีหม่อมฉันมาพบเข้า

อันหลิงหยุนอธิบาย ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินเข้าไปใกล้อัน หลิงหยุน ก้มลงไปหยิบโคมไฟที่อยู่ที่พื้นขึ้นมา แล้วจึง ยกโคมไฟขึ้นส่องดูใบหน้าอันหลิงหยุน อันหลิงหยุน หน้าซีด ริมฝีปากก็ซีดเผือด
“ข้าคงจะตีเจ้าแล้ว”

ฮ่องเต้ชิงอยู่ประคองอันหลิงหยุนไปอีกด้านหนึ่ง อัน หลิงหยุนรีบถอยห่างออกไป นั่งลงแล้วก็ลุกขึ้นอีก

ฮ่องเต้ชิงหยู่นั่งลง: “นั่งลงเถอะ”

อันหลิงหยุนจึงนั่งลง แล้วพูดว่า: “ฝ่าบาท หม่อมฉันจะ ตรวจให้พระองค์”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยื่นมือให้อันหลิงหยุน อันหลิงหยุนหัน หน้าแล้วเริ่มตรวจอัตโนมัติ นางต้องใช้ความสงบ

ไม่กี่อึดใจ อันหลิงหยุนมองไปที่ฮ่องเต้ชิงหยู่: “หม่อม ฉันดูไม่ออกว่าเป็นพิษอันใด ฝ่าบาท หม่อมฉันไร้ความ สามารถ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ดึงมือกลับไป: “เจ้าได้รับบาดเจ็บแล้ว รักษาตัวเจ้าเองก่อนเถอะ”

“ฝ่าบาททรงวางพระทัย หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ เพียงแค่รอยช้ำเล็กน้อยเท่านั้น พรุ่งนี้เช้าก็ไม่เป็นอันใด แล้วเพคะ” อันหลิงหยุนลุกขึ้น เดินไปอีกทางด้านหนึ่ง แล้วหยิบมีดออกมา กรีดข้อมือ แล้วเอาเลือดใส่ในถ้วย หนึ่งถ้วย

หลังจากใช้ผ้าพันข้อมือให้เลือดหยุดแล้ว อันหลิงหยุ นก็ถือถ้วยเดินไปหาฮ่องเต้ชิงหยู่: “ฝ่าบาทเพคะ นี่เป็น พิธีเดียวแล้ว ทรงลองดู ถ้าหากไม่เป็นผล หม่อมฉันจะพยายามคิดหาวิธีใหม่”

ฮ่องเต้ชิงอยู่มิได้ปฏิเสธ รับถ้วยมาโดยมิได้ถามอัน ใด แล้วจึงดื่มเลือดของอันหลิงหยุนเข้าไป

หลังจากดื่มหมด ฮ่องเต้ชิงอยู่รู้สึกว่าสมองปลอด โปร่ง ร่างกายปราดเปรียว

“เลือดนี้?” ฮ่องเต้ชิงอยู่รู้สึกฉงน

อันหลิงหยุนอธิบาย: “ฝ่าบาทมิได้ทรงดื่มเป็นครั้งแรก เพคะ ก่อนหน้านี้ ตอนอยู่ที่พระตำหนักจรุงจิตก็เคยดื่ม แล้วเพคะ เพียงแต่ไม่มีใครรู้

“ดูไปแล้วเจ้าคงไม่ใช่แค่หมอธรรมดาๆ”

“ฝ่าบาท ช่วงนี้ขอให้ทรงพยายามอยู่แต่ในพระ ตำหนักจรุงจิต อย่าเสวยพระกระยาหารที่ได้รับมาจาก ด้านนอก ทางที่ดีอย่าเสด็จมาที่วังเพิ่งหยี หม่อมฉันจะ สืบหาที่วังเพิ่งหยีต่อเพคะ

หากแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่ฮองเฮา หม่อมฉันจะไปหาฝ่า บาทเองเพคะ”

“เจ้าเองก็ระวังตัว ข้าเองก็ควรจะกลับได้แล้ว”

“หม่อมฉันส่งเสด็จฝ่าบาท”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองอันหลิงหยุน แล้วหันหลังเดินออกไป
รอจนฮ่องเต้ชิงหยู่เสด็จไปแล้ว อันหลิงหยุนจึงเดินโซ ซัดโซเซไปนอนลงบนเตียงนอน แล้วก็หลับไปตลอดคืน

ก่อนที่อันหลิงหยุนจะนอน ยังเป็นห่วงลูกในท้อง สุดท้ายเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็รู้สึกสดชื่นแจ่มใส ท้องก็ ยังดีอยู่ จึงรู้สึกโล่งใจ แล้วจึงลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ

หลังจากกินพระกระยาหารเช้าเสร็จ อันหลิงหยุนก็ ออกไปด้านนอก

เมื่อแม่นมซีเห็นอันหลิงหยุนก็รีบถวายความเคารพ “หม่อมฉันถวายบังคมพระชายาเสียน”

อันหลิงหยุนกล่าวทักทาย แล้วจึงไปเข้าเฝ้าเสินหยุนชู วันนี้เสินหยุนชูร่ายกายดูอ่อนแรง ไม่มีชีวิตชีวา

ซักถามเพียงสองสามคำ ก็ส่งอันหลิงหยุนกลับ

เมื่ออกมาจากตำหนักเพิ่งหยีแล้ว อันหลิงหยุนก็ไป เยี่ยมอ่องตวน

อ๋องตวนร่างกายฟื้นฟูแล้วเล็กน้อย มีเพียงแต่หยุนโล่ ชวนที่ง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น ถึงแม้จะเห็นอันหลิงหยุน แต่ก็ ยังไม่มีชีวิตชีวาอยู่ดี

“พระชายาเสียน วันนี้อ๋องตวนป็นเช่นไรบ้าง?” ฮั่วไม่ เฟยทรงเป็นห่วงพระโอรส จึงค่อยๆถามอันหลิงหยุน
“อ๋องตวนฟื้นฟูค่อนข้างเร็วเพคะ เพียงแต่อาจต้องใช้ เวลา และต้องดูแลอย่างใกล้ชิด”

“อืม” ฮั่วไท่เฟยพยักหน้า รูสึกพอใจมาก

“หลายวันมานี้ เจ้าอยู่ในวัง ชินหรือยัง?” ฮั่วไม่เฟยถา

“ทุกอย่างราบรื่นดีเพคะ!” อันหลิงหยุนตอบ

ทั้งสองพูดคุยกันสองสามประโยค ฮั่วไท่เฟยก็รั้งอัน หลิงหยุนให้อยู่กินข้าวเมี่ยงด้วยกันก่อน อันหลิงหยุน ปฏิเสธ แล้วหลังจากนั้นจึงไปเข้าเฝ้าหวางฮองไทเฮา

วันนี้อันหลิงหยุนพาหมาจิ้งจอกหางสั้นออกมาด้วย เพื่อที่เตรียมไปสืบในวังเพิ่งหยี

เมื่อกลับถึงวังเพิ่งหยี อันหลิงหยุนก็อุ่มหมาจิ้งจอก หางสั้นไปยังวิหารบรรทมรอง เมื่อไปถึง หมาจิ้งจอก หางสั้นก็กระโดดลงจากอ้อมกอดของอันหลิงหยุน แล้ว เดินวนไปวนมาในวิหารบรรทมรอง แล้วจึงกระโดขึ้นไป บนเตียง คิดที่จะเปิดผ้าห่มออกแต่ก็ไม่กล้า จึงรีบร้อง เรียก

อันหลิงหยุนเดินเข้าไปดู หมาจิ้งจองหางสั้นลงมา แล้วกระโดดไปที่ตัวของอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนอุ้ม หมาจิ้งจอกหางสั้น มองดูอยู่สักครู่ รู้สึกเหมือนว่าใน ผ้าห่มมีอันใดบางอย่าง
อันหลิงหยุนถอยห่างไปสองก้าว แล้วถือไม้ขึ้นมา แล้ว เขี่ยเปิดผ้าห่มออก แล้วก็พบเข้ากับงูฮวาตัวหนึ่งพุ่งออก มา หมาจิ้งจอกหางสั้นร้อหนึ่งครั้งแล้วกระโดดออกไป อันหลิงหยุนกำลังตกตะลึง หมาจิ้งจอกหางสั้นกัดหัว ของงูไว้ แล้วสะบัดสองครั้ง สะบัดจนงูกระเด็นออกไป

เสียงหล่นดังตุ๊บ อันหลิงหยุนหันไปดู งูฮวา อยู่บนพื้น ชูหัวขึ้นมา

หัวของงูขาดแล้ว แต่ตัวยังคงเลื้อยไปเลื้อยมาอยู่

อันหลิงหยุนมองงูจนหน้าซีด

“เด็กๆ!”

แม่นมซูผลักประตูเข้ามา เมื่อเห็นภาพที่อยู่ภายใน ห้อง ก็ตกใจจนเกือบเป็นลม

“เร็วเข้า มาเร็วเด็กๆ

สักพักภายในวังเพิ่งหยีก็วุ่นวาย อันหลิงหยุนยังคง ตกใจอยู่ หมาจิ้งจอกหางสั้นกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของ นาง กำลังเลียปากอยู่

ในวังเพิ่งหยีพบงูพิษ ทั้งวังหลวงต่างตื่นตกใจ

ไห่กงกงมาถึงวังเพิ่งหยีเป็นคนแรก เมื่อพบกับอันหลิง หยุน ก็รีบพานางไปที่วังเฉาเพิ่ง
ฮั่วไท่เฟยมีสีหน้าแปลกใจ: “พบงูพิษในวังเพิ่งหยี หรือ?”

นางกำนัลที่มากราบทูลรีบตอบ: “ในวังพูดกันเช่นนี้ เพคะ พระชายาเสียนถูกไห่กงกงรับตัวไปแล้ว ตอนนี้ ภายในวังเพิ่งหยีวุ่นวายเป็นอย่างมากเพคะ”

“น่าแปลก ข้าเข้าวังมานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่ ได้ยินว่าภายในวังมีงูพิษ?” ฮั่วไท่เฟยเดินไปนั่งยังที่ ประทับ แล้วจึงมองหยุนโล่ชวนซึ่งมีท่าทางกังวลเล็ก น้อย

“เสด็จแม่เพคะ หม่อมฉันอยากไปหาพระชายาเสียน เพคะ” หยุนโล่ชวนอดมิได้ที่จะไปในทันที

ฮั่วไท่เฟยกล่าวว่า: “ไปดูเถอะ เจ้าเองก็ระวังด้วย ใน เมื่อภายในวังมีงูพิษ ก็ต้องระวังสักหน่อยจึงจะดี เด็กๆ ตามชวนเอ๋อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่อง

ฮั่วไท่เฟยมีสีหน้าสงสัยอย่างมาก ทำไมภายในวังจึงมี งูพิษได้?

อ๋องตวนเองก็รู้สึกกังวล: “เจ้าระวังตัวด้วย!

“หม่อมฉันรู้แล้ว”

หยุนโล่ชวนพูดกับอ๋องตวน แล้วจึงพานางกำนัลสอง คนไปยังวังเฉาเพิ่ง
ตอนนี้เอง กงชิงวี่ได้รับข่าวแล้ว ก็เดินทางไปถึงวัง

“ท่านอ๋อง” เมื่อเห็นกงชิงวี่ ไห่กงกงรีบถวายความ

เคารพ กงชิงวี่มิได้พูดอันใด เดินไปอย่างรวดเร็ว

ไห่กงกงรีบตามกงชิงวี่ไปที่วังเฉาเพิ่ง

ตอนนี้ หวางฮองไทเฮากำลังดูอันหลิงหยุนอยู่ ถึงแม้ จะไม่เป็นอันใด แต่ตอนที่มานั้นหน้าซีดอย่างมากจริงๆ

อีกทั้งหวางฮองไทเฮากำลังคิดอยู่เรื่องหนึ่งว่า ในวังนี้ ทำไมจึงมีงูพิษ งูพิษเข้ามาได้กระไร?

กงชิงวี่เดินเข้ามา เมื่อเข้ามาข้างในก็ถามว่า: “พระชา ยาเสียนล่ะ?”

แล้วจึงเดินตามเข้าไปในห้องบรรทม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ