ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 436 ความหนาวเหน็บในวัง



บทที่ 436 ความหนาวเหน็บในวัง

อันหลิงหยุนขอบพระทัยฝ่าบาทแล้วก็ตามกงชิง ออก ไป ออกจากประตูอันหลิงหยุนก็ไปหาแม่ทัพอัน ท่านหยุ นกั๋วกงไปถึงหน้าแม่ทัพอันก่อนหนึ่งก้าว พูดคุยกับแม่ทัพ อัน

เดิมทีอันหลิงหยุนคิดจะพูดกับแม่ทัพอันเรื่องให้ตามนาง กลับไปยังจวนอ๋องเสียน ยังไม่ทันได้เปิดปากหยุนโล่ชวน ก็มาหา นางอยากถามเรื่องชายแดน

อันหลิงหยุนตอนนี้แค่มองหยุนโล่ชวนก็ปวดหัวแล้ว ยัง ต้องอธิบายเรื่องชายแดนอีก

นางจึงพากงชิง หาข้ออ้างว่าจะไปคำนับไทเฮา แล้ว เดินออกไป

เมื่อถึงตำหนักเฉาเพิ่งอันหลิงหยุนได้นำจดหมายของมู่ มิงมอบให้กับหวางฮองไทเฮา หวางฮองไทเฮาเปิดดูให้ แน่ใจ เป็นลายมือของมู่มิงจริง เมื่อดูจบก็โยนไปยังเตาไฟ อันหลิงหยุนรู้สึกสถานการณ์ไม่ค่อยดี ก้มศีรษะลง

สายตาของหวางฮองไทเฮามองไปยังกงชิงวี่ “เรื่องนี้เจ้า รู้หรือไม่”

“ลูกจะรู้ได้อย่างไร”กงชิงวี่รู้สึกไม่รู้ไม่ชี้ คิ้วไม่ขยับเลย สักนิด

“เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้าเห็นเจ้าแล้วก็โมโห”หวางฮอง ไทเฮาโบกไม้โบกมือ กงชิงวี่มองอันหลิงหยุนแวบหนึ่งหมุนตัวเดินออกไปข้างนอก

อันหลิงหยุนรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง มองไปยังจดหมายที่ ถูกเผาเป็นเถ้าอยู่ในเตาไฟ อันหลิงหยุนยิ่งอยู่ไม่สุข หวา งฮองไทเฮารักมู่มิงปานนั้น มู่มิงกลับคิดว่าจะได้รับความ เมตตา ขออะไรก็คงได้ แต่ตอนนี้ดูแล้วคงไม่ใช่เช่นนั้น

ภายใต้ความรัก คงเป็นบรรทัดฐานของอำนาจสูงสุด ของฮ่องเต้

หวางฮองไทเฮามองไปยังไห่กงกงอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “ยังไม่ไปดูอ๋องเสียนอีก ข้างนอกอากาศร้อน เจ้าไม่ไปบัง แดดให้หน่อยหรือ

ไห่กงกงรีบก้มตัว”ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

ก่อนไปไห่กงกงยังมองไปยังอันหลิงหยุนอย่าง ระมัดระวัง ค่อยถอยออกไป

ไห่กงกงไปแล้วหวางฮองไทเฮายื่นมือให้อันหลิงหยุน อันหลิงหยุนรีบประคองหวางฮองไทเฮาลุกขึ้นทันที

“เช่นนี้เจ้าก็ไม่ต้องเดินมาก เรื่องในครั้งนี้ฮ่องเต้ไม่ทรง ลงโทษ เจ้าคิดว่าจะไม่มีคนกล้าทูลฝ่าบาทหรือ หรือ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่ท้องของเจ้า คนข้างล่างต่างดูอยู่ ดูว่า ฮ่องเต้จะทรงตำหนิอะไรเจ้า ที่ฮ่องเต้ทรงละเว้นโทษของ เจ้า ให้หยุดงานสอบสวนเรื่องในครอบครัว บอกว่ารอให้ เจ้าคลอดก่อนค่อยว่ากันอีกที นั่นล้วนเป็นเรื่องภายหน้า ใครก็รับประกันไม่ได้
“เสด็จแม่พูดถูก ลูกสำนึกผิดตั้งนานแล้ว ตอนจากไปไม่ ได้คิดทบทวนให้ดี รู้เพียงแต่ว่าติดต่อท่านพ่อไม่ได้ ก่อน หน้านี้ท่านอ๋องได้รับจดหมายจากพิราบส่งสารตลอดมา แต่พอติดต่อท่านพ่อไม่ได้กะทันหันข้าเองก็ฝันร้าย ฝัน เห็นว่าท่านพ่อถูกฟันหัวขาดอยู่ใต้ม้า ข้าจึงตื่นตระหนก ยิ่งนัก”

“ยังดีที่เจ้ายังมีจิตใจเช่นนี้ แต่เจ้าเข้าสู่ราชสกุลแล้ว ก็ ไม่สามารถจะวอกแวกด้วยความรู้สึกส่วนตัว แม่ทัพอัน เป็นคนซื่อสัตย์ ทั้งชีวิตอุทิศให้กับกองทัพ ประเทศต้าเห ลียงไม่ลืมเขาแน่นอน แต่เรื่องในครั้งนี้ยังไงเจ้าก็ต้องรับ ผิดชอบ หากไม่ใช่เห็นแก่หลานข้าที่อยู่ในท้องของเจ้า แล้วละก็ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”

“ลูกขอบพระทัยเสด็จแม่ที่ทรงเมตตา”อันหลิงหยุนรีบ ขอบคุณ

หวางฮองไทเฮามองไปยังประตู “มู่มิงที่จริงต้องแต่งไป

เป็นรองพระชายาอ๋องเสียน เรื่องนี้ข้าพิจารณามาไม่ใช่

แค่วันสองวัน

แม้เรื่องในครั้งนี้จะไม่เกี่ยวกับเจ้า แต่ก็ไม่สามารถปัด ความสัมพันธ์ไปได้

เพียงแต่ว่า หากไม่ใช่อ๋องเสียน ก็คงจะไม่ใช่เงินหยุนเจ๋ เช่นกัน ”

“เสด็จแม่หมายความว่า “อันหลิงหยุนคิดได้แล้ว

“มู่มิงต้องแต่งงานกับคนสามคนเท่านั้น “หวางฮองไทเราพูด

อันหลิงหยุนกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ลมหายใจ สะดุดเล็กน้อย

ไม่ว่าจะเป็นใคร เกรงว่าก็ไม่เหมาะสมทั้งนั้น

“เสด็จแม่ หากว่าต้องบังคับกันเช่นนี้ ก็คงต้องฟังเสียง บัญชาสวรรค์เท่านั้น ลูกตัดสินใจไม่ได้ หนึ่งคือลูกไม่ ยินดีจะให้อ๋องเสียนแต่งพระชายารอง สองคือท่านอ๋อง เองก็คงไม่เอาด้วย

อันหลิงหยุนพูดทุกอย่างชัดเจน แม้ตายก็ไม่ยอมทำ ตาม ตอนนี้นางท้องโตอยู่ดีไม่ดีหากมีเรื่องอาจต้องเสียถึง สอง ดูสิว่าหวางฮองไทเฮาจะทำอย่างไรกับนาง

หวางฮองไทเฮาก็ไม่ได้รีบร้อน “เจ้าให้พิราบส่งสารส่ง จดหมายให้มู่มิงเดี๋ยวนี้ บอกว่าไม่ค่อยสบาย ให้นางรีบ กลับมา ข้าย่อมมีแผนของตัวเอง”

อันหลิงหยุนยืนท้องโตรู้สึกลำบากใจ คิดอยากจะพูด บางอย่าง หวางฮองไทเฮาเอามือออก พูดว่า

“อาไ………”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ไห่กงกงรีบเข้ามาจากข้างนอก พอเข้ามาก็คุกเข่าลง

“พระชายาเสียนและจวิ้นจู่มู่มิงความสัมพันธ์แนบแฟ้นฉันพี่น้อง นางใกล้กำหนดคลอดแล้ว ให้มู่มิงกลับมาอยู่ เป็นเพื่อน เจ้าไปอยู่รับใช้พระชายาเสียน ดูแลนางเขียน จดหมาย ส่งไปชายแดนกับมือตัวเอง อย่าให้กระทบกับ เวลากำหนดคลอด

“ข้าน้อยรับบัญชา ไห่กงกงลุกขึ้นมองไปยังอันหลิงหยุ น หวางฮองไทเฮาหมุนตัวเดินกลับไปยังบัลลังค์

อันหลิงหยุนหมุนตัวก้มศีรษะลง “ลูกทูลลา

อันหลิงหยุนหมุนตัวจากไป ไห่กงกงก็รีบตามไป อันหลิง หยุนมองกงชิงวี่ที่รออยู่ที่หน้าประตู เห็นเขากำลังมอง เมฆบนฟ้าด้วยใบหน้าสดชื่น เดินไปก้มศีรษะลง ท่านอ๋อง หม่อมฉันกลับมาแล้ว “

กงชิงวิ่นิ่งอึ้งไปสักครู่ หมุนตัวกลับมามองอันหลิงหยุน สายตาสองคู่ประสานกัน กงชิงวี่ขยับคิ้ว

“เป็นอะไรไป”

อันหลิงหยุนส่ายหัว “ไม่มีอะไร กลับเถอะ

อันหลิงหยุนส่งมือให้กงชิงวี่ นางรู้สึกยิ่งอยู่ยิ่งเบื่อหน่าย กับในวังแล้ว ทุกคนล้วนไม่มีความจริงใจ

มู่มิงเป็นหลานสาวที่หวางเฮาไทเฮารักมากที่สุด แต่ก็ยัง ต้องกลายเป็นเครื่องบูชายัญอยู่ดี

ไห่กงกงมองอยู่ตลอดทาง เมื่อไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยไห่กง กงจึงอธิบายสถานการณ์ให้กงชิงวี่ฟัง
กงชิงวี่กุมมือร้อนผ่าวของอันหลิงหยุนเอาไว้ แต่ไม่ได้ พูดอะไร

ตลอดเวลาที่อยู่บนรถม้าอันหลิงหยุนก็ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อรถม้ามาถึงจวนอ๋องเสียน อันหลิงหยุนลงจากรถม้า กลับไปยังลานด้านหลัง เดิมทีจะจัดงานฉลอง แต่ตอนนี้ ทำทุกอย่างให้มันเรียบง่ายก็พอ

อาหยู่รออยู่ที่ประตูก่อนแล้ว รีบเดินเข้าไปคุกเข่า

กงชิงบอกให้เขาหาที่ที่ไม่มีคนไปคุกเข่า พ่อบ้านรับรู้ ได้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ

“ท่านอ๋อง…….

พ่อบ้านเพิ่งจะก้าวเข้าไป ก็ถูกกงชิงวี่ยกมือขึ้นห้ามไว้ “ออกไปให้หมด”

พ่อบ้านได้แต่ถอยออกไปก่อน อันหลิงหยุนนั่งลง ไห่กง กงรีบเดินเข้าไป “อ๋องเสียน พระชายาเสียน เรื่องนี้ไม่มี พื้นที่ให้ขยับได้เลย อย่าได้ใช้ความคิดกับเรื่องนี้เด็ดขาด พวกเราออกมาจากวังไม่แน่ว่าตอนนี้อาจมีคนรุดหน้าไป ชายแดนแล้ว ตลอดทางก็ถูกจับตามองด้วย

หากผิดพลาดแม้น้อยนิด เสินหยุนเจ๋ที่อยู่ชายแดน เกรง ว่าจะรักษาศีรษะไว้ไม่อยู่

..”อันหลิงหยุนมองไป แม้จะมีเหตุผลที่ไม่เข้าใจ กง ชิงวี่ไม่พูดตลอดทาง คงจะกลัวว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง
“ท่านอ๋อง มู่มิงชื่นชอบเสินหยุนเจ๋ ให้ข้านำจดหมายมา ให้เสด็จแม่ ในใจนางเต็มไปด้วยความหวังว่าเสด็จแม่จะ ประธานงานแต่งให้นาง

อันหลิงหยุนไม่คิดว่าเรื่องนี้จะจัดการยากเย็นนัก

กงชิงวี่ส่ายหัว ลุกขึ้นไปยืนหันหลังให้กับอันหลิงหยุนที่ หน้าต่าง

ไห่กงกงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ข้าน้อยมีเรื่องอยากจะพูด

ไม่รู้ว่าสมควรหรือไม่

“พูด”กงชิงวี่ตอบรับ

ไห่กงกงพูดว่า “เรื่องของฮองเฮาท่านอ๋องพอจะทราบ หรือไม่”

“รู้”กงชิงวี่เข้าใจไห่กงกงดี เรื่องของเขา เขาก็เข้าใจ ไห่ กงกงพูดว่า “ในเมื่อรู้ ใยท่านอ๋องจึงให้จวิ้นจี่มู่มิงอยู่ต่อที่ ชายแดนเล่า แล้วทำไมยังให้เงินหยุนเจ๋รับภาระที่หนักอึ้ง ด้วย”

พูดจบไห่กงกงก็สะบัดชุดคุกเข่าลง คำพูดเช่นนี้เขาไม่ สามารถพูดได้ ขันทีที่ยุ่งเรื่องการบริหารบ้านเมืองมีโทษ ถึงตาย

กงชิงวี่หมุนตัว “เป็นข้าที่คิดไม่รอบคอบ ลุกขึ้นเถอะ”

ไห่กงกงลุกขึ้น กงชิงวี่มองไปทางอันหลิงหยุน “ข้าเอง ก็ไม่มีวิธีอื่น หรือแม้จะมีก็ใช้ไม่ได้ ที่ไห่กงกงพูดข้าลองคิดแล้วก็รู้สึกกลัว หากมีความผิดพลาดแม้แต่เล็กน้อย ศีรษะของเสินหยุนเจ๊ก็ยากจะรักษาไว้ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ