ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 425 เซ๊ยวกุ้ยเฟยมาแล้ว



บทที่ 425 เซ๊ยวกุ้ยเฟยมาแล้ว

หยุนโล่ชวนโกรธจนตอนนี้เริ่มมีอาการง่วงแล้ว

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หยุนโล่ชวนจึงนอนขดตัวอยู่ข้างกายอ่ องตวนแล้วผลอยหลับไป

ตอนนี้อองตวนเพิ่งตื่น เมื่อลืมตาขึ้นมา อ๋องตวนยื่นมือ ไปสัมผัสใบหน้าของโก๋หยุนชวน จิตใจครุ่นคิดวนไปมา ตลอดการเดินทางแม้นจะมีความยากลำบากมากมาย แต่ ว่าเขากลับรู้สึกดีใจมาก เดิมทีเขายอมทำตามที่น้องสาม บอกให้รีบกลับไป ระหว่างทางน้องสามขอเปลี่ยนตัวให้ เขากลับไปแล้วให้น้องสามมาแทน แต่ว่าเขาอดใจไม่ได้ จึงติดตามมาดื้อๆ

ตลอดการเดินทางน้องสามทำหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์ เมืองหลวงไม่มีคนอยู่ หากเกิดเหตุอันใดขึ้น การกระทำ ของพวกเขาในตอนนี้อารมณ์ประมาณว่าเพื่อผู้หญิงยอม ทิ้งทุกอย่าง ทว่าเขาไม่สนใจหรอก

อ๋องตวนพลิกตัวขึ้นมา แกะกระดุมเสื้อของหยุนโล่ชวน พร้อมจูบลงตรงกลางหน้าผากของหยุนโล่ชวน

กำลังจะจูบต่อ หยุนโล่ชวนพลันลืมตาตื่นขึ้นมา อ๋องต วนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าเริ่มแดงนิดๆ

หยุนโล่ชวนมองดูอ๋องตวนราวกับว่ากำลังฝันอยู่ “ท่าน อ๋อง ท่านจะทําอะไร?”

“ชวนเอ๋อ ข้าจะยอมทำตามที่เจ้าขอหนึ่งอย่างดีไหม?”อ๋องตวนค่อยๆทําทีละเล็กทีละน้อย

หยุนโล่ชวนนึกถึงเรื่องที่นางจะขออยู่ต่อโดยพลัน จึง รีบพยักหน้าตอบรับ “ขอบคุณ ท่านอ๋องที่ทรงเมตตา”

“แต่ว่าข้ามีเรื่องให้เจ้าทำ”

“แลกเปลี่ยนเหรอ?” หยุนโล่ชวนรู้สึกดูแคลนอ๋องตวน เรื่องแค่นี้เองยังจะมาขอแลกเปลี่ยน

อ๋องตวนยิ้มกรุ้มกริ่ม “ชวนเอ๋อจะไม่ตอบตกลงก็ได้ ข้า จะลงไปเดี๋ยวนี้”

.” เพื่อให้ได้อยู่ที่นี่ต่อ จะให้ทำอะไรหยุ นโล่ชวนก็ยอม นางดึงรั้งอ๋องตวนไว้

อ๋องตวนยกมุมปากขึ้นสูง “ข้าคิดถึงผู้หญิง”

“หา?”

หยุนโล่ชวนหน้าแดงก่ำ “ที่นี่ไม่มีผู้หญิง แล้วท่านอ๋องจะ ให้ข้าไปหาที่ไหน?”

“ไม่ต้องหา ก็อยู่ตรงหน้านี้แล้วไง” หัวใจของอ๋องตวน เต้นรัวแรง

หยุนโล่ชวนเหมือนเพิ่งคิดอะไรออก “ข้าเหรอ?”

“ชวนเอ๋อ ฉลาดจัง” พลันอ๋องตวนจูบที่แก้มของหยุนโล่ ชวนอย่างบางเบา แล้วถอยออกมา หยุนโล่ชวนจับเสื้อของอ๋องตวนไว้แน่นด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง

“ท่านอ๋อง แบบนี้ไม่ได้เข้า…………….

ไม่รอให้หยุนโล่ชวนได้เปิดปากพูด กงชิงหยินอดใจรอ ไม่ไหวจนโน้มตัวเข้าไปจูบที่ริมฝีปากของหยุนโล่ชวน จูบ จนในหัวของหยุนโล่ชวนขาวโพลนว่างเปล่า นางจ้องมอง ใบหน้าของกงชิงหยินด้วยใจเหม่อลอย หัวใจสั่นไหวเป็น ระลอก เหมือนโดนไฟช็อตอย่างนั้น

กงชิงหยินถอยห่างเพียงครู่เดียว “ชวนเอ๋อ ข้ายอมทำ ตามที่เจ้าขอหนึ่งอย่าง แต่เจ้าต้องมอบร่างกายนี้ให้ข้า ถึง แม้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเรา แต่เมื่อสองครั้งที่แล้วล้วนเกิด ขั้นตอนที่ชวนเอ๋อไม่ได้สติ ข้าต้องการชวนเอ๋อตอนมีสติ ดีไหม?”

“ไม่………..………..” ใบหน้าหยุนโล่ชวนแดงเหมือนลูก แอปเปิ้ล พูดจาติดๆขัดๆ แต่ในหัวของนางกลับว่างเปล่า ไม่รู้จะทำอะไรดี

อ๋องตวนเสยคางของหยุนโล่ชวนขึ้นมาเบาๆ “ข้า ทรมาน อดจนใจจะขาดแล้ว”

หยุนโล่ชวนมองดูอย่างเฉื่อยช้า ท่านอ๋อง…ไม่สบาย หรือ?”

“.….……..ไม่สบาย คงเป็นไข้ใจ” กงชิงหยินรีบสกัดจุดหยุ นโล่ชวนไว้ ตอนที่หยุนโล่ชวนรู้ตัวก็ไม่ทันเสียแล้ว ได้ แต่มองดูกงชิงหยินถอดเสื้อผ้าออก และถอดของนาง ด้วย เสื้อผ้าทั้งสองชุดปิดปกคลุมตัวพวกเขาไว้ พวกขยับเขยื้อนร่างกายภายใต้เสื้อผ้า จนกระทั่งการสกัดจุด ของนางคลายออกเอง พวกเขาก็ยังไม่หยุดขยับตัว

เมื่อสงบลง หยุนโล่ชวนกระพริบตา ข้างกายนางคืออ่อง ตวนที่นอนหายใจเหนื่อยหอบ และมือของนางถูกนิ้วมือ ของอ๋องตวนกุมเอาไว้แน่น

หยุนโล่ชวนรู้สึกไม่สบายใจ ไม่รู้ว่าทำไม นางจึงถามว่า “ท่านยังคงคิดถึงจุนฉูฉูไหม?”

อ๋องตวนกุมมือแน่น นำมือของหยุนโล่ชวนมาทาบที่อก “ไม่ใช่ไม่คิดถึง แต่คือจําได้เสมอ”

หยุนโล่ชวนหันหน้าไปทางอื่น ใบหน้าแดงก่ำ กงชิง หยินกุมมือของหยุนโล่ชวนขึ้นมาจูบทีหนึ่ง “ข้าให้สัญญา กับชวนเอ๋อว่าข้าจะลืมนาง และข้าสัญญากับชวนเอ๋ อ นับจากวันนี้ไป ข้าจะเป็นท่านอ๋องที่ดีและเป็นคนที่มี ประโยชน์”

“ในภายภาคหน้าหากกลับไปที่ตระกูลหยุน จะได้ไม่ ขายขี้หน้าคนอื่นเขา มองดูสถานะของเว่ยหลิงชวนใน ตระกูลหยุนที่มีแต่คนยกยอเอาใจ ข้าอิจฉานัก”

หยุนโล่ชวนไม่เข้าใจ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอ๋องตวนกำลังพูด อะไร ทว่าในใจของนางกลับมีความคิดประหลาด ราวกับ ว่านางเพิ่งจะเติบโตขึ้นมาโดยพลัน ที่แท้นี่ก็คือเรื่องของ การมีลูก การเป็นสามีภรรยาเป็นแบบนี้เองเหรอ

เมื่ออันหลิงหยุนกลับไปถึงกระโจมกลับนอนไม่หลับ ตื่นขึ้นมาหลายรอบ พอเห็นว่าฟ้ายังมืดอยู่ อันหลิงหยุนบังคับให้ตัวเองนอนลงไป ขณะที่เพิ่งเอนกายนอนลง บริเวณด้านนอกกระโจมมีเสียงเคลื่อนไหว แม่ทัพอันรีบ ลุกขึ้นยืนทันที

“อย่าลุกขึ้น”

อันหลิงหยุนสบตากับแม่ทัพอัน “ท่านพ่อ ระวังตัวด้วย”

“อืม”

แม่ทัพอันถาม “เรื่องอะไร?”

“มีคนมาจากเมืองหลวง แจ้งว่าเป็นคนของจวนราชครู จุนใคร่ขอพบแม่ทัพจุน” มีคนมารายงาน

อยู่ด้านนอกกระโจม

อันหลิงหยุนจึงลุกขึ้นมา มองหน้าแม่ทัพอันอย่างแปลก ใจ “ท่านพ่อ ทำไมเป็นคนของตระกูลจูนล่ะ?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ ลองไปดูก่อน

“นำตัวเข้ามาได้”

แม่ทัพอันให้อันหลิงหยุนนั่งลงก่อน แล้วค่อยเรียกคน เข้ามา ปรากฏว่าเมื่อเห็นคนที่มา ทั้งพ่อลูกต่างตกตะลึง

อันหลิงหยุนรีบรีบลุกขึ้นเดินไปทางจุนเซียวเซียวพร้อม ประสานมือคำนับ “หม่อมฉันขอถวายบังคมเซียวกุ้ยเฟย เพคะ”
“กระหม่อมถวายบังคมเซียวกุ้ยเฟย” แม่ทัพอันคำนับจุน

เซียวเซียว

จุนเซียวเซียวรีบพยุงตัวของแม่ทัพอันและอันหลิงหยุน “พระชายาเสียน แม่ทัพอันรีบลุกขึ้นเถอะ”

การมาของจุนเซียวเซียว ทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกคาดไม่ ถึง เวลาแบบนี้นางมาถึงเขตชายแดน มีเพียงเหตุผลเดียว นั่นก็คือช่วยพ่อของนางและช่วยตัวนางเองด้วย

จุนเซียวเซียวสวมชุดคลุมทับไว้ทั้งตัว หมวกที่สวมทับ ไว้ได้ถอดออกตอนที่นางเดินเข้ามาทางประตู

ในเวลานี้จุนเซียวเซียวสวมใส่ชุดกระโปรงพลิ้ว บนหัวมี ปิ่นปักผมประดับไว้ ใบหน้าไร้การแต่งแต้มเครื่องสำอาง ใดๆ

“พระนาง เชิญ” อันหลิงหยุนสบตาแม่ทัพอัน แล้วเชิญ จุนเซียวเซียวนั่งลง

จุนเซียวเซียวมิกล้าใช้สิทธิเหนือกว่า จึงกล่าวเชิญ แม่ทัพอันด้วยตัวเอง “แม่ทัพอันเชิญนั่ง”

แม่ทัพอันไม่ใช่คนขี้เล่นตัว จึงพูดตอบไปว่า “พระนาง เชิญ” เมื่อพูดจบแม่ทัพอันก็เดินไปนั่งทางด้านบน ส่วนอัน หลิงหยุนและจุนเซียวเซียวนั่งอยู่ด้านข้างคนละฝั่ง

ภายในกระโจมไม่มีคนอื่น อันหลิงหยุนไม่รอช้า พลัน ถามไปว่า “พระนางมาถึงที่นี่ มิทราบว่ามีพระราชโองการ หรือไม่?”
“ไม่มีพระราชโองการ ข้าทูลขอความเมตตา หากเรื่อง นี้กระทำไม่สําเร็จ ข้าจะไม่ยอมกลับไป เพราะข้ารู้สึกผิด ต่อฮ่องเต้และไม่มีหน้ากลับไปอีก” จุนเซียวเซียวสีหน้านิ่ง เงียบ การพูดการจาดีกว่าเมื่อก่อน

อันหลิงหยุนไม่ได้พูดอะไร จุนเซียวเซียวลุกขึ้นยืนและ หันไปยังทิศทางฝั่งแม่ทัพอัน “ท่านแม่ทัพ ด้วยสถานะ ของข้าไม่อำนวยให้ข้าคุกเข่าได้ ข้าขอถวายการคำนับ ต่อท่านแม่ทัพตรงนี้” ขณะที่จุนเซียวเซียวกำลังพูดนาง กางแขนออก แล้วประสานมือเข้ามาวางอยู่เหนือคิ้ว พลัน โค้งตัวคำนับแม่ทัพอัน

แม่ทัพอันรีบยกมือขึ้นมา “เซียวกุ้ยเฟยไม่จําเป็นต้อง ทำถึงเพียงนี้ เซียวกุ้ยเฟยมีเรื่องอันใดก็พูดมาตามตรง เถอะ ถึงแม้จะเป็นพระกระแสรับสั่งของฮ่องเต้ นั่นก็หมาย ถึงเป็นตัวแทนของฮ่องเต้ วันนี้กระหม่อมย่อมน้อมรับ บัญชา”

“ท่านแม่ทัพ ความจริงฮ่องเต้ไม่ได้รับสั่งให้ข้ามาหรอก ข้าร้องขอฮ่องเต้มาเอง ฮ่องเต้เพียงแค่สงสารข้า กลัวว่า ข้าจะสูญเสียพ่อไป จึงอนุญาตให้ข้ามาที่นี่ได้ เพื่อจะได้ เจอหน้าพ่อข้าสักครั้ง และโน้มน้าวให้เขากลับใจ”

ขณะที่จุนเซียวเซียวพูดน้ำตาพลันไหลลงมา อันหลิง หยุนสบตาแม่ทัพอัน เรื่องนี้นางไม่สามารถตัดสินได้ พ่อ ของนางต่างหากที่จะต้องตัดสินใจเอง

แม่ทัพอันไม่รอช้า พร้อมพูดไปว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นั้น เจ้าก็ไปเถอะ”
“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่เมตตา”

แม่ทัพอันเรียกตัวเสินหยุนเจ๋มา ให้เงินหยุนเจ๋พาหยุน เซียวเซียวไปพบจุนเจิ้นตง รอคนจากไปแล้ว แม่ทัพอันไม่ ลืมไล่ให้อันหลิงหยุนรีบไปพักผ่อน อันหลิงหยุนกลับรู้สึก ว่านอนไม่หลับ

เมื่อขึ้นไปนอนลงบนเตียง อันหลิงหยุนถามแม่ทัพอันว่า “ท่านพ่อ ฮ่องเต้มีใจคิดจะสั่งเก็บจุนเจิ้นตงไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ