ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 442 ฝีมือการยั่วยวน



บทที่ 442 ฝีมือการยั่วยวน

หลังจากถูกพัวพันอยู่ทั้งคืน อันหลิงหยุนเหนื่อยจนแทบ ขาดใจ กงชิง เองก็พอใจอย่างมาก

ตอนเช้าอันหลิงหยุนลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้า กระจก นางนอนอยู่เจ็ดสิบวัน เนื้อที่อยู่บนตัวเหมือนถูก มีดตัดออกไปอย่างไรอย่างนั้น ตอนนี้สภาพกลับคืนมา เหมือนเดิมจนแทบไม่เหลือส่วนเกิน

ต้องขอบคุณการมาของป่ายสู้สู้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะป่า ยสู้สู้ ตอนนี้อันหลิงหยุนก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถกลับ คืนสภาพเดิมได้ไหม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ครอบครัวได้ กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง

เมื่อคิดว่าจะต้องไปดูเรื่องของมู่เถา ในเวลาเดียวกันก็ คิดว่าเด็กๆทั้งหลายก็ต้องการการดูแล เห็นทีอันหลิงหยุน คงจะต้องวาดแบบร่างออกมาก่อน

อาศัยช่วงที่กงชิงวี่ยังไม่ตื่น อันหลิงหยุนก็วาดแบบร่าง ของลานด้านหลังจวนอ๋องเสียนออกมาคร่าวๆ

นางเตรียมที่จะสร้างลานด้านหลังจวนอ๋องเสียนเสีย ใหม่ จะสร้างกำแพงที่แข็งแรงไม่อาจทำลายได้ เพื่อให้ คนในครอบครัวมาแล้วไม่อยากกลับไปอีก อีกทั้งยังต้ งการให้ลูกๆเติบโตอย่างสงบสุขและปลอดภัย!

กงชิงวี่ตื่นขึ้น อันหลิงหยุนยื่นแบบร่างในมือให้กงชิง ถึงแม้กงชิงวี่จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็เห็นด้วยกับวิธี ของอันหลิงหยุน
กินอาหารเช้าเสร็จก็เกณฑ์คนมาตระเตรียม ไม่นานทั้ง ช่างและวัสดุก็ถูกตระเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย จวนอ๋อง เสียนมีช่างสามพันคน ก่อสร้างกันทั้งวันทั้งคืน ใช้เวลาไม่ นานก็สามารถก่อสร้างจนแล้วเสร็จ อันหลิงหยุนต้องการ ที่จะสร้างศาลาให้ทันก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง แต่ต้องใช้ เงินเป็นจำนวนไม่น้อย

อันหลิงหยุนเปิดลิ้นชักออก แล้วนำสัญญากู้เงินของอู๋ องตวนออกมายื่นให้อาหยู่ สั่งให้เขาไปทวงเงินจากอ๋องต วน

อาหยู่ออกไปได้ไม่นานก็กลับมา ทูลว่าไม่มีเงิน

ไม่ใช่ไม่ให้ แต่ตอนนี้ยังไม่มี

“อ๋องตวนพูดว่าอย่างไรบ้าง?” อย่างไรก็ต้องถาม

อาหยู่ทูลว่า: “ตอนนี้ไม่มีเงิน ขอเวลาอีกสักหน่อยพ่ะย่ะ

ค่ะ”

“อีกนานเท่าไหร่ล่ะ?”

“เรื่องนี้ไม่ได้บอกพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปถามดูสิ”

อันหลิงหยุนไม่อยากจะเชื่อว่าอ๋องตวนไม่มีเงิน

อ๋องตวนไม่คืนเงิน อันหลิงหยุนต้องการที่จะตามกงชิงวิ่ เข้าวัง ทางที่ดีนางคงจะต้องเข้าวังก่อน
“ท่านอ๋อง ไทเฮากับฝ่าบาททรงเคยเห็นพวกเด็กๆกี่ครั้ง แล้วเพคะ?” อันหลิงหยุนถาม

“เคยเห็นก็เคยเห็นอยู่หรอก แต่เพียงแค่ครั้งเดียว เสด็จ แม่รับสั่งให้พาเข้าวัง แต่ข้ายังไม่ได้ทําตามรับสั่ง

“ทำไมล่ะเพคะ?” อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ

กงชิงวี่มองอันหลิงหยุนด้วยสายตาเย็นชา: “ให้ข้าอุ้ม พวกเขาห้าคน แล้วอุ้มเจ้าด้วยอย่างนั้นหรือ?”

..” เข้าใจแล้ว!

ไม่อยากให้แม่ลูกต้องไกลกัน และยิ่งไปกว่านั้นไม่ อยากจากนางไปไหน

เพื่อที่จะแสดงออกถึงความซาบซึ้งใจ อันหลิงหยุนจึงจูบ กงชิงวี่หนึ่งครั้ง กงชิงวี่ที่กำลังมองดูลูกชาย จึงตกใจเล็ก น้อย

“ถ้าอยากจะจูบก็จุบหลายๆครั้งหน่อยสิ!” กงชิงวี่หัน หน้าไปตอบสนอง อันหลิงหยุนมองเขาด้วยแววตาเบื่อ หน่ายและไม่สบอารมณ์นัก จากนั้นจึงเปิดคอเสื้อออก เพื่อให้กงชิงวี่ดู

“ท่านดูนี่ ท่านกัดคอข้าทำไมกัน?” อันหลิงหยุนรู้สึก โมโหมาก หากกัดที่หน้าอกหรือปากสักทีสองทีก็คงไม่ เป็นไร แต่นี่ไม่ใช่ นี่เขาเปลี่ยนรสนิยมหรืออย่างไร ถึงได้ ชอบกัดตรงจุดที่แปลกๆนัก ที่ต้นขาเอย ที่แขนเอย นี่มัน คือการเปลี่ยนแปลงอะไรของเขากัน?
กงชิง มองดูที่แขนของอันหลิงหยุนที่ถูกประทับรอย แดงไว้ แล้วจึงก้มหน้าลงไปจูบหนึ่งครั้ง อันหลิงหยุนยัง บ่นไม่หยุด กงชิงวี่เลิกคิ้วมองนาง: “เจ้าคิดว่าข้าเต็มใจ หรือ ใครใช้ให้เจ้ามีอารมณ์ที่นี่กันล่ะ?”

“ท่าน……

อันหลิงหยุนหน้าแดงก่ำ แล้วเบือนหน้าหนี ไม่หันไปมอง กงชิง อีก

หน้าไม่อาย!

กงชิงวี่วางลูกลง ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปอุ้มอันหลิงหยุนขึ้ นมา ทำให้อันหลิงหยุนตกใจมาก: “ท่าน………..

“ข้านึกเรื่องเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ อยากจะลองดู……

“ท่านจะลองอะไร? คืนนี้….………….……….. ยังไม่ทันจะพูด จบ อันหลิงหยุนก็ถูกวางลงบนเตียงเสียแล้ว

อันหลิงหยุนหน้าแดงก่ำ รีบตะโกนใส่เขา: “ท่านให้ข้า ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ จะให้ลูกมาเห็นเรื่องไม่เหมาะสมเช่นนี้ได้ อย่างไร?”

“อะไรเหมาะสมไม่เหมาะสม เมื่อพวกเขาโตขึ้นก็ต้องทำ เรื่องแบบนี้เช่นกัน ตอนนี้ให้พวกเขาเรียนรู้ไปก่อน เมื่อโต ขึ้นสามีภรรยาจะได้เข้ากันได้อย่างดี!”

“กงชิงวี่นี่ท่านจะบ้าไปแล้วหรือ พวกเขายังตัวเล็กแค่ นี้เอง ท่าน….. จากของอันหลิงหยุนถูกปิดกงชิงวี่ยื่นมือออกไปกระตุก แล้วผ้าม่านที่แขวนอยู่ด้านนอกเตียง ก็หล่นลงมาทั้งสองข้าง เถาหงและลุ่ยหลิ่วที่ยืนอยู่ตรง ประตู จึงถอยออกจากห้องไป

อันหลิงหยุนไม่อาจขัดขืนได้ แต่ก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ดี: “ทำแบบนี้ไม่ได้ ลูกๆกำลังดูอยู่นะ?”

กงชิงวี่หันหน้าไปดู ลูกๆต่างปิดตานอนหลับด้วยท่าทีที่ ดูไร้เดียงสากันไปหมดแล้ว แต่ละคนยิ่งดุก็ยิ่งน่ารักมาก ขึ้น

หัวใจของอันหลิงหยุนแทบจะละลายแล้ว หันหน้าด้วย ความรู้สึกแปลกใจ: “ทำไมถึงได้นอนหลับกันเร็วขนาดนี้ นะ? เมื่อกี้ยังมองพวกเราอยู่เลย”

“สายสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกอย่างไรล่ะ ถึงได้รู้ว่าพ่อ อยากจะแสดงความรักกับแม่ จึงได้ว่านอนสอนง่ายเช่น น

อันหลิงหยุนเองก็แปลกใจ: “เป็นเช่นนี้จริงๆหรือ?”

“หยุนหยุน……..เจ้าเห็นข้าตอนนี้แล้ว ยังจะมีเวลาไปคิด เรื่องพวกนั้นอีกหรือ ทำคงไม่ได้อยากจะทำให้ข้าบ้าตาย หรอกใช่ไหม?”

อันหลิงหยุนได้สติ จึงหันไปมอง เห็นท่าทีเช่นนั้นของ เขาก็เบือนหน้าหนี: “เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนทั้งคืน แล้วทำไม ถึงได้เป็นเช่นนี้อีกแล้ว?”

“ข้าต้องอดกลั้นมานานขนาดนี้ แค่คืนเดียวคิดว่าจะแก้ไขได้อย่างนั้นหรือ?”

“แต่ท่านก็ไม่ควรจะทำเรื่องแบบนี้ตอนกลางวันแสกๆ ท่านไม่กลัวว่าร่างกายจะถูกทำมิดีมิร้ายหรอกหรือ?”

“ทำมิดีมิร้ายแล้วอย่างไร ร่างกายของข้าก็มีไว้ให้หยุน หยุนทำมิดีมิร้ายอยู่แล้ว หากหยุนหยุนเต็มใจ ก็เชิญทำมิ ดีมิร้ายได้ตามสบาย!”

“ท่านนี่นะ คิดถึงแต่เรื่องพวกนี้จนลืมคิดชีวิต” อันหลิง หยุนลุกขึ้น อยากจะหนีไป กงชิงวี่ก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน เขา ไม่ได้ตามไป แต่กลับค่อยๆเริ่มถอดเสื้อผ้าบนตัวออก ไม่ รีบแต่ก็ไม่ช้า เขาค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกทีละชั้นๆ เป็นการ เปลื้องผ้าจริงๆ

อันหลิงหยุนเดินไปสองสามก้าวแล้วหันกลับมามอง กง ชิงวี่ถอดเสื้อคลุมด้านนอกออกหมดแล้ว กำลังถอดเสื้อ ด้านในอยู่

อันหลิงหยุนถอนหายใจ ดูๆไปแล้วหากว่าเขายังไม่ หนำใจแล้วล่ะก็ คงไม่เลิกง่ายๆแน่

อันหลิงหยุนจึงถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก: “ครั้งเดียว นะเพคะ”

“ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องทำให้เต็มที่หน่อย”

พูดจบ ก็วางเสื้อผ้าในมือลงอีกด้านหนึ่ง กงชิงวี่ซึ่งสวม กางเกงชั้นในตัวเดียว เดินเข้ามาหาอันหลิงหยุน ร่างกาย ของเขากำยำล่ำสัน กล้ามเป็นมัดๆชัดเจน อันหลิงหยุนยิ่งมองก็หน้าแดง ร่างกายอ่อนระทวย

“หู!” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ อันหลิงหยุนหันมองกงชิงวี่ นางยังคงรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย

ชาติที่แล้ว นางเองก็เห็นร่างกายของผู้ชายมามากมาย แม้กระทั่งซูมู่หรง นางเองก็เห็นอยู่บ่อยๆ ถึงแม้จะมีไม่ มากที่เป็นแบบกงชิงวี่ แต่ก็ยังมีบางคนที่ดีกว่าเขา

ซูมู่หรงเองก็ไม่เลว

แต่นางกลับไม่มีความรู้สึกใดๆ

อันหลิงหยุนยืนนิ่ง กงชิงวี่เดินอ้อมเตียงมายืนอยู่ด้าน หน้าของอันหลิงหยุน แล้วยกคางของอันหลิงหยุนขึ้น: “ข้าหล่อไหม?”

“หล่อเพคะ!” สำหรับกงชิงวี่แล้ว อันหลิงหยุนไม่เคยคิด ที่จะประหยัดคําชม

“แล้วเทียบกับเจ้าซูมู่หรงที่สมควรตายคนนั้นล่ะ?” กง ชิงวี่เองก็ไม่เคยคิดจะประหยัดความเกลียดชังที่มีต่อซูมู่ห รงเช่นกัน

“แน่นอนว่าท่านอ๋องต้องเป็นที่หนึ่งอยู่แล้วเพคะ”

“เคยเห็นของเขาอย่างนั้นหรือ?”

“เคยเห็นแน่นอนเพคะ” อันหลิงหยุนตั้งใจยั่วโมโห กงชิง วี่ถอดสีหน้าทันที อันหลิงหยุนเองก็ไม่ได้กังวล นางยกมือขึ้นโอบเอวของกงชิงวิ่

“เขาได้รับบาดเจ็บ บนร่างกายมีรอยบาดแผลเป็นหลุม เป็นบ่อเต็มไปหมด ตอนที่หม่อมฉันปรากฏตัว ตัวเขา เหมือนกับมะระสีเลือดก็ไม่ปาน หม่อมฉันจึงรักษาเขา จึง ต้องเคยเห็นแน่นอน อีกอย่างวันนั้นท่านอ๋องเองก็ไปด้วย ไม่ใช่ว่าทรงเห็นแล้วหรือเพคะ ว่าผู้ชายที่นั่นเปลือยกาย ท่อนบนเพื่อฝึกวิชา?”

กงชิงวี่สีหน้าเย็นชา: “ห้ามกลับไปอีกแล้วนะ”

“เพคะ!” อันหลิงหยุนมองลูกๆทั้งห้าคนที่นอนอยู่บน เตียง ตอนนี้นางเป็นแม่คนแล้ว แล้วจะกลับไปทำไมอีก ล่ะ?

ที่นั่นนอกจากหัวหน้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ต้องนึกถึงอีก แต่หัวหน้าและนางไม่ได้เดินอยู่บนทางเส้นเดียวกันอีก ต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หากนานกลับไปอีกครั้งก็ไม่รู้ว่า จะอยู่ในปีพ.ศอะไรแล้ว ถึงตอนนั้น ไม่แน่ว่าหัวหน้าเองก็ อาจจะตายไปแล้วก็ได้

“ข้าร้อนใจแค่ไหนเจ้ารู้บางไหม กลัวว่าเจ้าจะกลายเป็น คนของเขา เขาช่างดูไร้ยางอายขนาดนั้น”

‘อันหลิงหยุนนิ่งเงียบไป ใครกันแน่ที่ไร้ยางอาย หัวหน้าไม่เคยที่จะใส่ร้ายเขา มีแต่จะถามว่าเขาดีต่อนาง ไหม กลับเป็นตัวเขาต่างหากที่บอกว่าตัวเองดี แต่กลับใส่ ร้ายคนอื่นไม่หยุด

อันหลิงหยุนเขย่งเท้า เพื่อที่จะระงับความโกรธของกงชิง คงจะต้องอาศัยฝีมือการยั่วยวนเสียแล้ว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ