ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 371 ตามหาคนที่จวนอ๋องตวน



บทที่ 371 ตามหาคนที่จวนอ๋องตวน

อันหลิงหยุนจัดระเบียบเสื้อผ้าบนตัว “เชิญฮูหยิงแก่ กลับไปก่อนเถอะ เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้ถูกต้องเหมาะสม แต่วันนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้จึงจะไปตามหาคนให้ได้”

“ก็ได้ เช่นนั้นข้าก็ลาก่อน”ฮูหยิงแก่ตำหนักกั๋วกงลุกขึ้น หมุนตัวจากไป

อันหลิงหยุนพักผ่อนหนึ่งคืน ตื่นมาจึงออกจากบ้าน อาหยู่ถาม “พระชายา เรื่องนี้จะไม่เข้าวังหรือ “คนไม่ได้อยู่ในวัง เข้าวังให้เสียเที่ยวทำไมกัน” “ไม่อยู่ในวัง “อาหยู่รู้สึกเหนือความคาดหมาย

“ฮั่วไท่เฟยอาจจะรู้ว่าคนอยู่ที่ใด แต่นางคงไม่ได้ซ่อน คนเอาไว้แน่นอน

“อาหยู่ เจ้าคิดว่าใครกันที่พาคนไป”อันหลิงหยุนขัดจัง หวะอาหย่

“เป็นอ๋องตวนหรือ”

“อืม นับว่ามีพัฒนาการขึ้น”

“เช่นนั้นอ๋องตวนก็ปลอมพระราชโองการหรือ”

“ฮั่วไท่เฟยไม่ใช่ฮ่องเต้ นับไม่ได้ว่าเป็นการปลอมราชโองการ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนอกจากพ่อข้า ใครกันเคย เห็นแม่นมเว่ย ใครกันเห็นพระราชโองการ ”

“…..พระชายา เช่นนั้นท่านแม่ทัพใช่ถูกอ่องตวนคิด ร้ายหรือ ท่านแม่ทัพ…..อาหย่รู้สึกสงสัย เรียกร้องขอ ความยุติธรรมเพื่อแม่ทัพอัน เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้รังแก ผู้อื่น

อันหลุงหยุนไม่ตอบ พ่อนางดูแล้วเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก แต่คนคนหนึ่งที่สามารถฟาดฟันศัตรูได้เป็นพันเป็นหมื่น เป็นบุรุษที่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งที่อยู่ในใจของฮ่องเต้ชิงห ยู่ เกรงว่าจะไม่ง่ายขนาดนั้น

เพียงแต่ว่า ไม่เคยมีคนเข้าใจแท้จริง ถึงความฉลาด หลักแหลมของพ่อนาง

ทั้งสองไปถึงหน้าจวนอ๋องตวนอย่างรวดเร็ว อันหลิงหยุ นเงยหน้าขึ้นมอง “เคาะประตู”

อาหยู่ไปเคาะประตู สักพักก็มีคนออกมา

เมื่อเห็นเป็นอาหยู่ พ่อบ้านก็นิ่งอึ้งอยู่สักพัก มองออกไป เห็นอันหลิงหยุนพ่อบ้านก็รู้สึกเป็นกังวล

อันหลิงหยุนมีบุญคุณต่อเขา แต่เขาก็ไม่สามารถหัก หลังท่านอ๋องได้

อันหลิงหยุนมองออก เรื่องที่พ่อบ้านเป็นกังวลใจ

“ข้ามาหาอ๋องตวน พ่อบ้านไม่ต้องเป็นกังวล เรื่องภรรยาของท่านก็ส่วนเรื่องภรรยาทาน เรื่องของอองตวน ของส่วนเรื่องของอ๋องตวน”

พ่อบ้านพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะไปรายงานท่านอ๋อง”

“ขอบใจพ่อบ้าน

พ่อบ้านหมุนตัวกลับไปรายงานให้กับกงชิงหยิน อันหลิง หยุนรออยู่ที่หน้าประตูสักพัก ไม่นานพ่อบ้านก็ออกมา จากข้างใน เชิญอันหลิงหยุนเข้าไป

อันหลิงหยุนถูกเชิญไปที่โถงด้านหน้า แต่พอเข้าไปก็ ไม่มีใครสนใจ

พ่อบ้านเองก็ไม่กล้าอยู่ด้วย ออกไปตั้งนานแล้ว

อาหยู่ยืนอยู่ข้างกายอันหลิงหยุน พูดอย่างไม่พอใจ ว่า “ไม่คิดว่าจวนอ๋องตวนที่ใหญ่โตขนาดนี้ พระชายามา

เยือนแล้ว พวกเขาก็ไม่สนใจเช่นนี้ ”

อันหลิงหยุนยกถ้วยชาขึ้นเป่า “นี่ไม่ใช่ยังมีน้ำชาให้ดื่ม

หรือ”

“มีก็ใช่ แต่พวกเรามีบุญคุณต่อพวกเขา พวกเขา ตอบแทนเราเช่นนี้ ช่างน่าอึดอัดจริง”

อันหลิงหยุนเงยหน้ามองอาหยู่ รู้สึกขำ“พวกเราใช่ว่า จะมีบุญคุณต่อพวกเขา ในสายตาของอ๋องตวน เกรงว่า พวกเราจะเป็นเพียงหลุมลึก เป็นหลุมลึกที่ถมยังไงก็ถม ไม่เต็ม”
เมื่อคิดถึงเงินที่เปล่งประกายแวววาว อันหลิงหยุนก็รู้สึก อยากหัวเราะ

อาหยู่ก็หัวเราะ “พระชายาพูดถูก”

แต่พอคิดได้อาหยู่ก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ดี “เป็นจวนอ๋อง เหมือนกัน อ๋องตวนเยือนจวนอ๋องเสียน พวกเราไม่ได้ ต้อนรับเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพ่อบ้านเขายังเคยได้รับ การช่วยเหลือจากพระชายามาก่อนอีกด้วย”

“อาหยู่ ช่วงนี้เจ้ายิ่งอยู่จะยิ่งตรงไปตรงมามากขึ้นนะ อะไรที่ไม่ควรพูดก็พูด

“ข้าน้อย……

“แต่ว่าพอเห็นเจ้าแบบนี้ ข้าก็เหมือนเห็นตัวเอง บางเวลา ข้าก็เหมือนกับเจ้า ตรงไปตรงมา อย่างน้อยเจ้าอยู่ก็ทำให้ ข้าเข้าใจเหตุผลข้อหนึ่ง อะไรที่เรียกว่าหายนะออกจาก ปาก พูดไม่รู้จักกาลเทศะ

อาหยี่สีหน้าแดงขึ้น “พระชายา นี่ท่านกำลังเสียดสีข้า

หรือ”

“ก็นับว่าใช่”

อันหลิงหยุนวางถ้วยชาลง “พ่อบ้านก็มีความจำเป็นของ ตัวเอง คิดถึงใจเขาใจเรา หากอ๋องตวนช่วยเจ้าไว้ เจ้าจะ หักหลังท่านอ๋องหรือ”

“แน่นอนว่าไม่ ให้ตายก็จะจงรักภักดีต่อท่านอ๋อง”
“ในเมื่อให้ตายก็จะยังจงรักภักดี เช่นนั้นก็ควรเข้าใจ การนิ่งเฉยไม่ทําอะไรเลยเช่นนี้ ยิ่งเป็นการยากที่จะทำ สมควรได้รับการยกย่อง ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่ควรมองเพียง ด้านเดียว พ่อบ้านนั้นก็อยากช่วยพวกเรา แต่เขาก็ไม่ สามารถหักหลังท่านอ๋องได้ นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าหน้าที่รับ ผิดชอบของตนคืออะไร ส่วนอ๋องตวน เขาก็เป็นเช่นนั้น ล่ะ ไร้อนาคตสิ้นดี”

อาหยู่รู้สึกตกใจ จ้องอันหลิงหยุนแวบหนึ่ง ยังจะว่าเขา ปากไม่รู้กาลเทศะ นี่เพิ่งจะพูดได้สองคำ นางเองก็เริ่มพูด ไปทางนั้นแล้ว

อ๋องตวนยังไงก็เป็นอ๋องตวน ข้ายังไม่เคยพูดเช่นนี้มา ก่อน พระชายากลับพูดเช่นนี้ในจวนอ๋องตวน หากอ๋องต วนได้ยินเข้าไม่รู้จะเป็นอย่างไร

อาหยู่ได้แต่เออออตาม “พระชายาพูดถูก เช่นนั้นตอนนี้ พวกเรา”

“อาหยู่ เจ้ารออยู่ที่นี่เป็นใช้ได้ สักพักคงจะได้รับข่าว คราวเอง”

อาหยู่สีหน้าสงสัย อยากพูดบางอย่างแต่พอเห็นอันหลิง หยุนเลิกคิ้วมองด้วยสายตาป้องปราม เขาก็ไม่พูดอีก

รอจนเวลาผ่านไปชั่วยามกว่า นอกประตูมีเสียงกากาดัง ขึ้น

อันหลิงหยุนมุมปากหยักขึ้น”อาหยู่ เจ้าออกไปดูสิ ใน ลานบ้านมีเจ้ากาดำใช่หรือไม่ ไม่ต้องถามมาก เห็นแล้วก็กลับมา พวกเราค่อยกลับไป

“พะย่ะค่ะ”

อาหยู่ก็ไม่เข้าใจ แต่เขาก็ไม่กล้าถามมาก

ออกไปดูข้างนอก เห็นเจ้ากาดำอยู่ข้างนอกจริงๆ หมุน ตัวเดินกลับมาจากข้างนอกรายงานอันหลิงหยุน

“ทูลพระชายา มีพ่ะย่ะค่ะ”

อันหลิงหยุนลุกยืนขึ้น เรียกอาหยู่ “เรากลับกันก่อน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

อันหลิงหยุนออกจากประตู พ่อบ้านรีบเดินออกมาจาก ที่อื่น ถามอันหลิงหยุน “พระชายาเสียนจะไม่รออ๋องตวน แล้วหรือ”

“จวนอ๋องเสียนมีเรื่องต้องกลับก่อน ไม่รอแล้ว”

อันหลิงหยุนออกจากประตูพาอาหยู่กลับจวนอ๋องเสียน

พ่อบ้านเห็นคนกลับไปแล้วก็รีบไปรายงานอ๋องตวน อ๋อง ตวนตอนนี้อยู่ห้องหนังสือ

“ท่านอ๋อง คนไปแล้ว”

กงชิงหยินเงยหน้า “ทำไมจากไปเร็วจริง
“พ่ะย่ะค่ะ ข้าเห็นด้วยตาข้าเอง”

กงชิงหยินลุกขึ้นวางหนังสือบนมือลง ออกจากห้อง หนังสือ มีคำสั่งลงไปว่า “เพิ่มคนจับตาดูเอาไว้ ไม่อนุญาต ให้ใครเข้ามาในจวนอ๋องตวน หากมีคนบุกรุก ไม่ต้อง รายงาน ฆ่าได้ทันที”

พ่อบ้านนิ่งอึ้งไป เป็นเวลานานกว่าจะตอบกลับไป

ท่านอ๋องจิตใจเมตตา เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

ฆ่าทันที

นั่นไม่ใช่จะเอาชีวิตคนหรือ

กงชิงหยินออกจากห้องหนังสือก็ตรงไปยังลานด้านหลัง พ่อบ้านมองไปยังลานด้านหลังที่เป็นตำหนักเซี่ยวเฟิง ตำ หนักเซียวเฟิงมีทหารเฝ้ายามเข้มงวด ยังจะเพิ่มกำลัง คนในการเฝ้าจวนอ๋องตวน หรือที่จริงแล้วพระชายาเสียน จะมีสามหัวหกแขนร้ายกาจจนสามารถแย่งเอาคนไปได้

หยุนโล่ชวนยืนเบื่อหน่ายอยู่ในลานบ้าน ตอนนี้นางไป ไหนไม่ได้ทั้งนั้น ตงเอ๋อก็ถูกพาไปแล้ว

“แม่นม ท่านปล่อยข้าไปเถอะ”

หยุนโล่ชวนเจรจาต่อรอง ใบหน้าออดอ้อน

แม่นมเว่ยค่อยๆก้มหน้าลง “เรื่องนี้ข้าน้อยตัดสินใจเอง ไม่ได้เพคะ ขออภัยพระชายา”
“แม่นม.………….”

ขณะที่หยุนโล่ชวนกำลังพูดอยู่ อ๋องตวนก็เข้ามายังตำ หนักเซี่ยวเฟิง แม่นมเว่ยรีบย่อตัวคำนับ “ข้าน้อยคำนับ ท่านอ๋อง”

“ลําบากแม่นมแล้ว แม่นมออกไปก่อนเถอะ”

อ๋องตวนก้าวเท้าเข้ามา หยุนโล่ชวนใบหน้าหมองลง “กง ชิงหยินนี่ท่านไม่อายหรือ ระหว่างท่านกับข้าไม่มีความ เกี่ยวข้องกันแล้ว ข้าได้พูดกับท่านชัดเจนแล้ว เป็นท่าน ย่าที่หลอกลวงข้า ข้าจึงเป็นเช่นนี้เพราะท่าน วันนี้ข้าไม่ สนว่าท่านจะทำเพื่อปกป้องข้าหรือไม่ จุนฉูฉูก็ได้ตายไป แล้ว แต่ท่านกลับหลอกข้าให้มาที่นี่ ยังข่มขู่แม่นมเว่ยอีก ท่านช่างใจจําเหลือเกิน ”

อ๋องตวนสวมชุดแม่ทัพทั้งตัว เป็นชุดสีฟ้าเหมือนอัญมณี

แขนเสื้อไม่กว้างเท่าชุดปกติ แต่เสื้อผ้ากลับประณีต

งดงาม

หยุนโล่ชวนอยากได้ชุดแบบนี้มานานแล้ว ได้ยินว่าต้อง ได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้จึงจะมีได้ แม้ว่าในจวนกั๋วก งก็มี แต่ก็ใช่ว่าจะใส่ได้ตามใจ หากไม่ใช่เพราะเป็นของ แม่ทัพคนอื่น ก็เป็นเพราะชุดใหญ่ไป

หยุนโล่ชวนทำได้เพียงอิจฉาเท่านั้น

และสีฟ้าก็เป็นสีที่หยุนโล่ชวนชื่นชอบมาก แต่กลาย เป็นว่า ชุดที่กงชิงหยินสวมก็เป็นสีฟ้า
เมื่อค่าเสร็จก็จ้องมองกงชิงหยิน หยุนโล่ชวนรู้สึก ประสาทเสียการควบคุม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ