ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่351 ตัดสินหย่าร้าง



บทที่351 ตัดสินหย่าร้าง

โจวต้าหมันรู้สึกเหนื่อยล้า ร้องไห้โฮอย่างโกรธเคือง

อันหลิงหยุนเหลือบมองไปยังโจวต้าหมัน รู้สึกจากใจ จริงว่านางไม่เหมาะที่จะอยู่ร่วมกันกับจางเฉิน ดังสำนวน ที่ว่า แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน ถึงแม้จะช่วยนาง ได้ในตอนนี้ แต่หลังจากนี้จางเฉินคงทิ้งนางอยู่ดี

จางเฉินเหงื่อกาฬแตกพลั่ก อนุภรรยาก็คลานตัวสั่นไป คุกเข่าอยู่ข้างๆ แอบอยู่ข้างจางเฉินไม่ยอมห่าง

อันหลิงหยุนมองคฤหาสน์ของจางเฉินสักครู่ ถามขึ้นว่า “ข้าถามเจ้า โจวต้าหมันเป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเจ้า ใช่หรือไม่ ”

จางเฉินไม่กล้าปิดบังความจริง “ก่อนหน้านี้ใช่ แต่ข้าได้ หย่านางไปแล้ว”

“ข้าถามอะไรก็ตอบให้ตรงคำถาม เรื่องอื่นไม่ต้องมาก ความ ข้าเองก็มีเรื่องให้สะสางมากมาย ไม่อยากเสียเวลา กับเจ้า”

จางเฉินตัวสั่น รีบตอบกลับว่า “ข้าน้อยผิดไปแล้ว”

อันหลิงหยุนถามต่อไปว่า “คนที่แซ่โจวคนนี้ใช่คนที่ดูแล ย่าเจ้าจนลมหายใจสุดท้ายใช่หรือไม่”

“ใช่”จางเฉินมิกล้าพูดปด อันหลิงหยุนถามอะไรเขาก็ตอบ
อันหลิงหยุนยังคงถามคำถามเพื่อตรวจสอบอีกหลาย เรื่อง ข้างหนึ่งอาหยู่ก็จดบันทึกเรื่องราวไว้ทั้งหมด

ปากคําหนึ่งหน้ากระดาษมีตัวอักษรมากมายหลายพัน ตัว อันหลิงหยุนสอบถามเสร็จแล้วก็มอบปากคำให้การ กับจางเฉิน จางเฉินลงชื่อประทับ

อันหลิงหยุนเก็บคำให้การแล้วเอ่ยว่า “ข้ามีคำสั่งเรื่อง การตรวจสอบความผิดในคฤหาสน์ วันนี้ข้าได้ตรวจสอบ ชัดเจนแล้วว่าเจ้าได้ละทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเจ้า จริง คนที่ได้ผู้อื่นแล้วก็ทิ้ง ตั้งแต่วันนี้ให้ทำการสอบสวน ถอดถอนตำแหน่ง อาหยู่ไปเรียกลี่ปู้ซ่างซู ข้าต้องการ พบเขา

“พ่ะย่ะค่ะ”

อาหยู่รีบไปทันที อันหลิงหยุนหันไปมองโจวต้าหมัน “คนแซ่โจว ในเมื่อเจ้าถูกหย่า เรื่องนี้ข้าก็ทำให้เจ้ากลับ มาดีกันไม่ได้แล้ว เรื่องมาถึงตอนนี้ ก็ไม่สามารถรื้อฟื้น ได้อีก แต่เรื่องที่เจ้ามีความจงรักภักดี กตัญญูต่อบุพการี ของตระกูลสามี ดูแลสามีให้ได้ดิบได้ดี นับว่าเป็นคนที่มี ทั้งความซื่อสัตย์และกตัญญู ข้าจะอธิบายให้ฮ่องเต้เข้าใจ ส่วนฮ่องเต้จะปูนบำเหน็จอย่างไรนั้น ก็สุดแท้แต่ฮ่องเต้จะ เห็นสมควร”

โจวต้าหมันมองอันหลิงหยุนนิ่งอึ้ง “พระชายา ไม่ให้ข้า ได้กลับไปคืนดีหรือ ”

อันหลิงหยุนหันไปมอง “คนแซ่โจว ข้าจะบอกเจ้าให้ ว่า จางเฉินคนนี้ไม่มีความเมตตาและความชอบธรรม เขาไม่ได้ชอบเจ้าที่แต่งกับเจ้าเพราะต้องการหลอกใช้เจ้ามา ดูแลเขา ทำให้เขารู้สึกมีความปลอดภัยในชีวิต วันนี้เป็น ปู่ชื่อหลัง วันหน้าอนาคตย่อมสดใสแน่นอน เขาคิดจะ หย่ากับเจ้า ไปแต่งงานใหม่กับญาติห่างๆของลี่ปู้ซ่างซู เช่นนี้วันหน้าก็จะขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นได้โดยไม่เปลือง แรง แม้ว่าหน้าตาของเขาจะไม่เลว แต่ความประพฤติมี ปัญหา หากเจ้ายังอยู่ติดตามเขา แม้ว่าวันนี้เขาจะก้ม หน้ายอมรับผิดและใช้ชีวิตปกติสุขกับเจ้าอีกไม่กี่วัน เขา ก็ยังคงเกลียดแค้นเจ้าอยู่ในใจ ยังไงซะก็คงต้องทำร้าย เจ้าเป็นแน่ ข้าเห็นว่าเจ้าเป็นคนซื่อตรง ไม่สู้ปล่อยวาง แต่เนิ่นๆ หาคนที่เขารู้จักทะนุถนอมเจ้าแต่งงานด้วยซะ ตอนนี้เจ้าก็อายุยี่สิบกว่าแล้ว หาคนดีๆสักคนให้กำเนิด ลูกชายลูกสาว หากเจ้ายังอยู่กับเขาที่มีจิตใจเลวทราม เช่นนี้ ไม่มีอนาคตที่ดีแน่นอน ”

โจวต้าหมันรู้สึกตกตะลึง นางมองอันหลิงหยุนแล้วนิ่งอึ้ง ไป ผ่านไปนานกว่าจะร้องไห้ออกมา

อันหลิงหยุนรู้สึกทำตัวไม่ถูก ณ จุดนี้ เกิดเป็นผู้หญิงนั้น ช่างยากเย็นจริงๆ

อาหยู่กลับมาแล้ว ด้านหลังมีคนสวมชุดราชสำนักสีดำ เดินตามมา เป็นชายวัยกลางคนที่มีกระเรียนเทพปักอยู่ บนอกเสื้อ ชายผู้นั้นวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ รีบคุกเข่าลง คํานับ “ข้าน้อยเฉินเกินถวายบังคมพระชายา

“เฉินเกิน หญิงผู้นี้เจ้ารู้จักหรือไม่”อันหลิงหยุนเอ่ยถาม ขึ้นอย่างไม่อยากมากความ

เฉินเกินมองไปที่อนุภรรยาคนนั้น แล้วรีบตอบกลับไปว่า“ รู้จัก นางเป็นญาติห่างๆของข้าเอง ก่อนหน้านี้เพิ่ง จะเข้ามาในจวนของข้า ข้าเห็นว่านางเป็นงานเชื่อฟัง จึงให้อยู่ในจวน ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ลี่ปู้ซื่อหลังจางเฉินมา เป็นแขกที่บ้านข้า เขาต้องการนับญาติกับข้า รับนางเป็น อนุภรรยา ข้าน้อยก็ถามความสมัครใจของนาง นางก็ ตกลง นางผู้นี้ก็เป็นแค่ญาติห่างๆของข้าเท่านั้น ไม่ได้ สำคัญอะไร นอกจากไปเป็นอนุภรรยาของผู้อื่น เลยได้ ส่งนางมาที่นี่ก่อนเวลา

ลี่ปู้ซ่างซูอายุห้าสิบสองปี สำหรับในซ่างซูเสิ่นแล้วเขา นับว่ายังหนุ่ม แต่ตำแหน่งซ่างซูที่ได้มานั้นก็ไม่ง่ายดาย

ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะประสบภัยเพราะเรื่องนี้ ใจเขารู้สึก เกลียดชังจางเฉินและอนุภรรยาของเขามาก

ย่อมพูดเรื่องราวทั้งหมดออกมาโดยไม่เกรงใจ

อันหลิงหยุนหันไปมองอาหยู่ อาหย่เล่าเรื่องราวที่เกิด ขึ้นให้ฟังหนึ่งรอบ เฉินเกินตกใจรีบโขกหัวคำนับ “พระ ชายาโปรดตรวจสอบให้ชัดเจน เรื่องหลงใหลอนจน ละเลยภรรยาเช่นนี้เป็นเรื่องต้องห้ามร้ายแรง

ข้าคิดถึงฮ่องเต้องค์ปัจจุบันที่รักฮ่องเฮามาก สร้าง ตำแหน่งอำนาจในวังหลังให้กับฮองเฮาก็หลายปี ความรัก ระหว่างฮองเฮาและฮ่องเต้เสมือนเสียงดนตรีที่เข้ากันได้ อย่างไพเราะ ผู้คนต่างอิจฉา

ข้ายังต้องเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนจางเฉินผู้นี้ปกติก็เห็น เป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี ไม่เคยคิด มาก่อนเลยว่าจะไร้คุณธรรมน้ำใจเช่นนี้ แม้แต่ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากยังทิ้งได้ลง ยังมีเรื่องอันใดที่ทำไม่ได้อีก

อีกทั้งยังมีนางผู้นี้ ข้ารู้สึกเคียดแค้นชิงชังยิ่งนัก ข้า ปฏิบัติต่อนางถือได้ว่าไม่เลว เห็นนางน่าสงสาร จึงเก็บ นางไว้

ไม่คิดว่านางจะเป็นคนเช่นนี้ เป็นความผิดที่ไม่ต้อง สอบสวน ขอพระชายาโปรดลงโทษด้วย

ลี่ปู่ซ่างซูคับแค้นใจ ความเสียใจเหมือนมาจากก้นบึ้งใน จิตใจ อันหลิงหยุนเพียงแค่ยิ้ม “เช่นนั้นใต้เท้าช่างซูคิดจะ ตัดญาติเพื่อความยุติธรรมหรือ”

“ทูลพระชายาเสียน คนที่ไม่มีความเมตตาและความ ชอบธรรมเช่นนี้ ข้าขอให้พระชายาโปรดลงโทษให้หนัก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง “เฉินเกินเอ่ยขึ้นอย่างเป็นฟืนเป็น ไฟ

อันหลิงหยุนพยักหน้า “ในเมื่อใต้เท้าซ่างซูก็คิดเช่นนี้ ข้าก็จะลงโทษให้หนักไม่ละเว้น”

พูดจบอันหลิงหยุนก็มองไปยังอนุภรรยาที่คุกเข่าอยู่ กับพื้น “ในเมื่อเจ้าจะแต่งให้กับจางเฉิน ข้าจะช่วยให้เจ้า สมปรารถนา แต่จางเฉินนั้นได้เสียบิดามารดาไปตั้งแต่ ยังเล็ก เป็นย่าของเขาที่เลี้ยงดูเขามา และตอนนั้นโจวต้า หมันก็ดูแลย่าของเขามาอย่างยากลำบาก เจ้าดองกับจาง เฉิน จางเฉินทิ้งนางเพื่อเจ้า เมื่อเป็นเช่นนี้ ที่เจ้าติดค้างโจ วต้าหมัน เริ่มตั้งแต่บัดนี้ เจ้าต้องคำนับให้กับโจวต้าหมัน หนึ่งร้อยครั้ง เริ่มได้
อนุภรรยาผู้นั้นไม่ยินยอมเอาแต่จ้องอันหลังหยุน เฉิน เกินเห็นแล้วก็โมโห เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าจะนิ่งอยู่ทำไม ยังไม่ รีบคำนับ”

อนุภรรยาไม่มีทางเลือก จึงคำนับให้กับโจวต้าหมัน

หนึ่งร้อยครั้ง พอคำนับเสร็จคนก็สลบไปแล้ว

อันหลิงหยุนกล่าว “หลงใหลอนุจนละเลยภรรยา เช่น นั้นก็โบยหนึ่งร้อยครั้ง”

มีคนเดินเข้ามา ลากเอาตัวอนุภรรยาไปข้างหนึ่งและ โบยหนึ่งร้อยครั้ง อนุภรรยาร่ำไห้ขอชีวิต จางเฉินตัวสั่น งันงก

เฉินเกินไม่ปรานี เอ่ยขึ้นว่า “พระชายา จางเฉิน หลงใหลอนจนละเลยภรรยาเป็นความผิดหนักหนา สมควรตาย”

“ถ้าตายแล้วก็ช่างเถอะ คนชั่วย่อมได้รับกรรมชั่ว เช่นนี้ แล้วกัน โบยหนึ่งร้อยครั้ง”

มีคนมาลากตัวจางเฉินลงไป โบยหนึ่งร้อยครั้ง

อนุภรรยาเหลือแค่ลมหายใจเฮือกเดียวเท่านั้น ส่วนจาง เฉินก็ถูกโบยจนเกือบตาย อันหลิงหยุนลูกขึ้นยืน “สองคน นี้ก็มอบให้กรมข้าราชการพลเรือน จะจัดการอย่างไรก็ดู บัญชาของฮ่องเต้แล้วกัน ส่วนคนแซ่โจว ฮ่องเต้ก็ย่อมมี วินิจฉัยเช่นกัน”
โจวต้าหมันได้ยินว่ายังไงก็หย่านาง ก็ร้องห่มร้องไห้ เสียงดังขึ้นมา

เฉินเกินรีบลุกขึ้นพูดจาหว่านล้อม“คนแซ่โจว เจ้าอย่า ร้องไปเลย จางเฉินนั้นไม่มีเมตตาธรรม ไม่ใช่เป็นความ เหน็บหนาวแค่ชั่วข้ามคืน วันนี้เจ้าควรคิดไตร่ตรองเพื่อ ตัวเจ้าเอง แม้เจ้าจะถูกหย่าร้าง แต่ย่อมดีกว่าถูกทำร้าย ในภายหน้า

เจ้าลําบากดูแลให้เขาได้เป็นถึงลี่ปู้ซื่อหลัง เขาเป็นแค่ ชื่อหลังก็จะทิ้งภรรยา หากอนาคตได้เป็นขุนนางใหญ่ จะ ปฏิบัติต่อเจ้าเช่นไรก็ไม่รู้

อันหลิงหยุนมองไปทางเฉินเกิน “นับว่าเจ้ายังพูดภาษา คนเป็นอยู่บ้าง โน้มน้าวดีๆเถอะ เจ้าเป็นถึงลี่ปู้ซ่างซู เกิด เรื่องเช่นนี้ขึ้น ก็มาจากจวนของท่าน หากฮ่องเต้ทรงรู้เข้า กลัวว่าเจ้าเองก็คงจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องได้ยาก”

“พระชายาพูดถูกแล้ว ข้าจะโน้มน้าวคนแซ่โจวให้ดี ที่สุด พระชายา บ้านข้ามีแม่ที่ชรามากแล้ว ตอนนี้ก็อายุ แปดสิบกว่าปีแล้ว ข้าเป็นคนสุดท้อง แต่แม่ข้าอยากได้ ลูกสาวตลอดมา เสียดายที่ไม่มีเลย ข้าเห็นคนแซ่โจวเป็น คนซื่อสัตย์ เจอเรื่องเช่นนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ใด ไม่สู้พวก เราสาบานเป็นพี่น้องกัน ให้นางไปอยู่ที่จวนข้าเป็นการ ชั่วคราวก่อน รอจนฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาแล้ว ค่อยว่า กันอีกที”

“ในเมื่อเฉินซ่างซูมีจิตใจเช่นนี้ เช่นนั้นก็ทำตามที่เฉิน ซ่างซูกล่าวเถอะ ส่วนคนแซ่โจวจะยินยอมสาบานกับเฉิน ซ่างซูหรือไม่ ก็สุดแท้แต่นางแล้วกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ