บทที่ 346 เดินทางไปยังอารามชีหนิง
ท่ามกลางความชุลมุนอันหลิงหยุนเหมือนลูกไก่ตัวน้อย ที่ถูกหิ้วตัวขึ้นมา มองไปทางกงชิงวี่ที่มีใบหน้าบูดบึ้งด้วย สายตามึนงงเสียใจ กงชิงวี่โกรธจนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น พูดด้วยเสียงโมโหว่า “อันหลิงหยุนเจ้าหยามเกียรติข้า”
อันหลิงหยุนอ้าปากจะพูด ยังไม่ทันได้พูด กงชิงวี่มอง ตวัดไปทางมู่มิง “เจ้าก็เหมือนกัน นับจากวันนี้ไปอย่ามาที่ จวนอ๋องเสียนอีก”
กงชิงวี่พูดจบก็จูงมืออันหลิงหยุนลงจากเตียง แล้วหยิบ เสื้อคลุมตัวนอกคลุมบนตัวอันหลิงหยุนทันที
อันหลิงหยุนยอมให้เขาสวมเสื้อตัวนอกให้อย่างยุ่งเยิง จ้องมองเขาด้วยความโมโหอย่างสุด
อาหยู่ในเวลานี้ก็ตกใจมากเหมือนกัน เขาได้ยินเสียง ตะโกนดังถึงเปิดประตูเข้ามาดู เมื่อเข้ามาก็เห็นผู้หญิง สองคนนอนกอดกันอยู่
เดิมทีอาหยุ่ควรจะหมุนตัวแล้ววิ่งจากไป ที่สำคัญเป็น ถึงพระชายากับจวิ้นจู่มิอาจมองดูไม่ได้ แต่ว่าภาพที่เห็น ในตอนนั้นมันวาบหวามจริงๆ แค่นึกถึงอ้อมอกของพระ ชายาที่มีมู่มิ่งซบอยู่ และหัวของมู่มิ่งแนบชิดไปที่อกของ พระชายา ภาพเช่นนั้นแค่คิดก็ที่สุดแล้วจริงๆ
อาหยู่มองดูอย่างตกตะลึงอ้าปากค้าง ยังดีคางไม่หล่น ลงมา จะออกไปนอกประตูได้ไง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหมุนตัว แล้ววิ่งจากไป
อันหลิงหยุนถูกกอดไว้ในอ้อมกอดของกงชิง อย่าง แนบแน่น นัยน์ตาของกงชิงวี่ลึกล้ำเยือกเย็น หนาวเหน็บ จนน่ากลัว
มือทั้งคู่ของอันหลิงหยุนกดทับไว้ที่หน้าอกของเขา “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเหนื่อยมากจริงๆ จึงไม่ทันระวังเผลอ หลับไป จวิ้นจู่เกรงว่าข้าจะมีอันตรายจึงนอนเฝ้าอยู่ข้างๆ อาจจะเป็นเพราะว่าพวกข้าเหนื่อยเกินไป จึงผล็อยหลับ ไปด้วยกัน”
“ข้าว่า ช่วงนี้พระชายาชักจะไม่รู้จักมารยาท เตียงนี้เป็น ที่ที่ควรไปนอนหรือ?” กงชิงวี่กัดฟันแน่น แค่คิดถึงภาพที่ เห็นเมื่อครู่ บันดาลโทสะพุ่งกระฉูดขึ้นมาอีกครา
มู่มิงดันมาจับต้นชนปลายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเอาตอนนี้ เดินลงมาจากเตียง พลันหยิบเสื้อมาสวมใส่ไปด้วยและ ทำทียุแยงตะแคงรั่ว
“เห็นอย่างนี้ท่านพี่ไม่ชอบใจสินะ รู้สึกว่าข้ากับพระชา ยาเสียนสร้างเรื่องบัดสี แต่ว่าท่านพี่อย่าลืมสิ ระหว่าง ท่านกับข้าก็เคยนอนหลับเตียงเดียวกันแบบนี้เหมือนกัน”
พอคำพูดของมู่มิงพูดออกไป คนที่อยู่ที่นั่นไม่มีใครที่ไม่ ตกตะลึง ตามด้วยนางกำนัลที่รีบก้มหน้าตามๆกัน คำพูด แบบนี้จะพูดเหลวไหลไม่ได้ อาจทำให้ออกเรือนไม่ได้เลย ทีเดียว
อันหลิงหยุนจึงถาม “ท่านอ๋อง…….
“อย่าไปฟังคำพูดเหลวไหลของนาง ข้าไปนอนกับนางตั้งแต่เมื่อไหร่?” กงชิงวี่ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ โอบกอด หญิงสาวในอ้อมกอดแน่นมากขึ้น
อันหลิงหยุนไม่ได้ใส่ใจ นางมองไปทางมู่มิง รอมู่มิงอธิ บาย
มู่มิงไม่นิ่งรอช้า “ตอนอายุสิบขวบ ตอนที่ข้าเข้าไปใน วัง แล้วผล็อยหลับข้างกายไทเฮา วันนั้นท่านพี่ไม่สบาย แถมยังกอดข้าด้วย”
สิบขวบ?
อันหลิงหยุนครุ่นคิดในหัว อายุของมู่มิงกับนางใกล้เคียง กัน ตอนนี้อายุสิบหกปี ใหญ่กว่านางหนึ่งปี
กงชิงวี่ใหญ่กว่านางสี่ปี อายุสิบเก้าปี
งั้นตอนที่มู่มิงสิบขวบ กงชิงวี่อายุสิบสามปี
อายุสิบสามปี กับสิบขวบ ก็เริ่มรู้เรื่องบ้างแล้ว อยู่ในวัง หลวง อายุสิบขวบกับสิบสามสามารถแต่งงานกันได้แล้ว
อันหลิงหยุนหัวใจบีบแน่น นางมองไปทางกงชิงวี่ “ท่าน อ๋อง จริงหรือที่พวกท่าน…….
“พูดจาเหลวไหล ตอนนั้นข้าป่วย จำอะไรไม่ได้ และทำ อะไรไม่ได้ด้วย นางจะทำอะไร ข้าจะไปห้ามนางได้หรือ? สำหรับเรื่องที่ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น ข้าจำไม่ได้ ก็ย่อมแปลว่าไม่มี
“.….……..” อันหลิงหยุนเพิ่งจะสังเกตว่า คนๆนี้ความสามารถ เรื่องแถ เก่งที่สุด เขามักจะวางอำนาจเผด็จการ ไม่ให้นาง ทำโน่นทำนี่ ทว่าตัวเขาเองกลับประมาทเลินเล่อ เพียงแค่ คำพูดเดียว ก็สามารถลบล้างอดีตไปโดยสิ้นเชิง เก่งกาจ จริงๆ
เมื่อเห็นอันหลิงหยุนจ้องมองเขา หัวใจของกงชิงวี่เต้น เร็วตุบตับๆ แขนที่กอดแน่นขึ้น พูดเสียงเข้มว่า “นับจาก วันนี้ ห้ามพบเจอมู่มิง ไปกันเถอะ”
จูงมือของอันหลิงหยุน กงชิงวี่ยังไม่หายโกรธ มองไปที่ มู่มิงทีหนึ่ง แล้วหมุนตัวเดินจากไป
มู่มิงทำหน้าประหลาดใจ “หมายความว่าอะไร?”
นางกำนัลรีบเดินมาถึงข้างกายมู่มิง ช่วยมู่มิงจัดแจง เสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงบ้างเล็กน้อย หากเรื่องนี้แพร่งพรายออก ไป เกรงว่าคงไม่สู้ดีนัก
มู่ผลักตัวนางกำนัลออกไป “ข้าทำเอง”
ขณะที่พูดพลันเดินออกไป นางยังต้องไปที่จวนเฉินเสี้
ยง
อันหลิงหยุนถูกนำตัวออกไป เมื่อขึ้นรถม้ากงชิงอุ้ม นางไว้ในอ้อมกอด อันหลิงหยุนตกใจจากกระทำของเขา แหงยหน้ามองดู สังเกตเห็นสีหน้าของกงชิงวี่ยิ่งแลดูเยือก เย็น คำอธิบายที่อยากจะพูดก็พูดไม่ออก เงียบสงบลง พลันในหัวครุ่นคิด พวกเขาสองสามีภรรยาล้วนถูกมู่มิง หลับนอนด้วยแล้ว
“ข้าโกรธแล้วนะ”
กงชิงวี่ขบฟันแน่น อันหลิงหยุนเห็นท่าทีเขาเหมือนจะ กินคนเสียให้ได้ จึงพูดอธิบายไปว่า “ต่อให้ข้าจะชอบผู้ หญิงจริงก็คงไม่ใช่มู่มิง ลักษณะท่าทางแบบนั้นของนาง ไม่ได้ทำให้มีความคิดอยากหลับนอนด้วยเลยสักนิด และ ที่สำคัญข้าไม่ได้ชอบผู้หญิง”
กงชิงวี่สีหน้าดีขึ้นมาบ้าง “หลังจากนี้อย่าพบเจอนางอีก แค่ข้าคิดถึงก็รำคาญใจมาก”
“อืม”
อันหลิงหยุนเศร้าใจ เอนพิงไปอีกฝั่ง นางไม่อยากพูดอะไรด้วยแล้ว ชายคนนี้ขี้หึงหวงจริงๆ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันก็ยังหึงหวง
กงชิงวี่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง พอสงบสติอารมณ์ได้ เขาเอ่ย ปากเรียก “มาทางนี้ ข้าขอตรวจดูหน่อย”
อันหลิงหยุนที่ยังตกใจจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยัง อยากจะนอนอีกสักพัก
กงชิงวี่เรียกนางไปหา นางเพิ่งจะรู้สึกตัวแล้วขยับ ร่างกายเอนพิงไปทางหาเขา
กงชิงวี่กางแขนเสื้อออก แล้วโอบกอดนางไว้ เปิด เสื้อผ้าของอันหลิงหยุนเพื่อตรวจดูเนื้อหนังของนางสีหน้าของเขาแดงอมชมพู นัยน์ตาหวานแวว ดวงตาเรียว ยาวมองไปที่ใบหน้าของอันหลังหยุน
อันหลิงหยุนอยากจะพักผ่อน แต่ถูกทำให้ตกใจตื่นแล้ว หลับไม่เต็มที่
กงชิงวี่จูบลงที่คอของนาง ถึงแม้จะเป็นจุมพิตที่บางเบา อันหลิงหยุนกลับรู้ได้เลยว่านอนไม่ได้แล้วล่ะ
จัดการกับดวงตาที่ง่วงซึม อันหลิงหยุนถาม “กลับจวน หรือไปที่จวนเฉินเสี้ยง?”
“กลับจวน”
กงชิงวี่อุ้มนางไว้ในอ้อมกอด อันหลิงหยุนพิงที่ตัวเขา “อีกไม่นานก็ถึงแล้วนิ
กงชิงวี่ก็พิงกายอยู่บนรถม้า รอกลับถึงจวน
สามีภรรยาเงียบสงบลงเยอะมาก ตอนที่รถม้าถึงจวน อ๋องเสียน เสื้อผ้าของอันหลิงหยุนถูกจัดแจงเรียบร้อย แล้ว คนถูกอุ้มลงมา
เมื่อมาถึงลานโอวหลาน กงชิงวี่ผลักประตูเปิดออก แล้วเดินไปยังสระหลิวหวง(อ่างกำมะถัน) เลี่ยงไม่ได้ที่ จะตรวจดูอย่างละเอียด รวดเอาที่เงินที่สะสมไว้ติดตัว ไปด้วย กงชิงวี่จึงนำตัวอันหลิงหยุนออกมาจากสระหลิว หวง(อ่างกำมะถัน)อย่างสบายตัว
อันหลิงหยุนในครานี้เหนื่อยล้าเต็มทน กงชิงวี่เปลี่ยน เสื้อผ้าแล้วอุ้มนางขึ้นมา
“ท่านอ๋อง ยังจะออกไปข้างนอกอีกหรือ? ” อันหลังหยุ นง่วงนอน
“หยุนหยุนนอนเถอะ ยังต้องรีบเดินทางอีกสักพัก เมื่อ ถึงแล้วข้าจะเรียกหยุนหยุนเอง” ก
ชิงวี่ออกไปข้างนอกพร้อมขึ้นรถม้าไป ภายในรถม้าได้ ทำการเปลี่ยนผ้าปูใหม่
รถม้าของพวกเขาดูแล้วไม่ได้หรูหรามากมาย ทว่า ของใช้ภายในรถม้ากลับมีครบทุกอย่าง ไม่เพียงเท่านั้น รถม้าของพวกเขานับว่าสะดวกสบายที่สุดแล้ว
อันหลิงหยุนนอนเอนกายลงไป หนุนลงบนตักของกงชิง วี่ ส่วนกงชิงวี่เองก็พิงกายอยู่ฝั่งด้านใน อันหลิงหยุนห่ม ผ้าห่มที่ทําจากไหมไว้บนร่างกาย เหมือนกับเป็นจิ้งจอก หางสั้นที่นอนขดตัวอยู่ภายใต้ร่างกายของเขา
จิ้งจอกหางสั้นไม่กล้าเข้าไปใกล้ ขดตัวอยู่บนริมรถม้า กาดำน้อยยืนอยู่ตรงหน้าของจิ้งจอกหางสั้น เพื่อเลี่ยง การรบกวนกงชิง
มันทั้งสองเหมือนเข้าใจดี ถ้าหากกงชิงวี่ไม่อยู่ พวกเขา สามารถอยู่ใกล้อันหลิงหยุนได้ แต่ว่าเมื่อเขาอยู่ พวกเขา ห้ามเข้าใกล้แม้แต่น้อย ทางที่ดีคือยิ่งห่างยิ่งดี
อันหลิงหยุนหลับสนิท กงชิงวี่ก็หลับตาลงเช่นกัน เขาฟังกายอยู่บนรถม้า พร้อมจับแหวนปานจื่อตรงหัวแม่มือ ไว้
มืออีกข้างหนึ่งจับตัวอันหลิงหยุนไว้ ทุกๆความ เคลื่อนไหว เขาล้วนจะรับรู้ก่อน
รถม้าพุ่งไปทางนอกเมืองโดยไม่หยุดพัก จนกระทั่งถึงที่ หมาย อารามชีหนิง
อันหลิงหยุนถูกเรียกให้ตื่น นอนหลับจนมึนงง ต้นขา ของกงชิงวีชาไปหมด นั่งอยู่ตรงนั้นมองดูอันหลิงหยุนอยู่ สักครู่ราวกับมองดูเด็ก จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วออกไปจาก รถม้า
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ