ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่ 242 โดนขังไว้ข้างนอก



บทที่ 242 โดนขังไว้ข้างนอก

อันหลิงหยุนพักผ่อนไปหลายวัน มีคําสั่งให้ไปเข้าเฝ้าใน วัง กงชิงวี่ไม่ไว้ใจเลยติดตามไปด้วย

ความอ้วนของอันหลิงหยุนได้กลับมาอีกครั้ง อะไรคือ อ้วนเหมือนลูกบอกฮ่องเต้ชิงหยู่ถือว่าได้เห็นกับตาตัวเอง แล้ว

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองอันหลิงหยุนมองจนตาค้าง สิ่งที่ตามมา คือความผิดหวัง

ไม่เห็นหน้าแค่ไม่กี่วัน ลืมพิษของเขาแล้ว? อ้วนขึ้นจน กลายเป็นแบบนี้แล้วหรือ

หลังจากที่คํานับฮ่องเต้เสร็จก็ไปเข้าเฝ้าหวางฮองไท เฮาต่อ วันนี้อันหลิงหยุนนำของใหม่สำหรับบำรุงผิวหน้า มาให้หวางฮองไทเฮาใช้ หวางฮองไทเฮาพอใจมาก แม่ สะใภ้กับลูกสะใภ้เข้ากันได้เป็นอย่างดี ก่อนจะกลับอัน หลิงหยุนได้พาหมาจิ้งจอกหางสั้นกลับไปด้วย

จากนั้นไปช่วยจุนเซียวเซียวและเสินหยุนชูตรวจจับ ชีพจรเสร็จแล้ว ถึงกลับไปที่พระตำหนักจรุงจิตรอเรียก เข้าเฝ้า

ไม่นานนักฮ่องเต้ชิงหยู่ก็รับสั่งให้อันหลิงหยุนเข้า เฝ้า หลังจากที่อันหลิงหยุนตรวจเสร็จแล้ว อาการยังคง เหมือนเดิมเลยไม่ได้พูดอะไรต่อ

เรื่องราวยิ่งอยู่ยิงแปลกแล้ว
เป็นเพราะสาเหตุอะไร ที่ทำให้คนวางยาพิษหยุดกลาง คันเช่นนี้?

เมื่ออันหลิงหยุนออกจากพระราชวังแล้วอุ้มสุนัขจิ้งจอก หางสั้นไปนั่งอยู่ในรถม้าอย่างเหม่อลอย ส่วนกงชิงวี่นั่ง เอียงมองนางอยู่อีกฟาก เท้าวางไว้ข้างขาของนาง

ในใจของทั้งสองคนต่างกังวลเรื่องที่ฮ่องเต้ชิงหยู่โดย วางยาพิษ แต่ก็ตรวจไม่เจอสาเหตุ นี่คือเรื่องที่น่ากังวล ที่สุด

“ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าน่าจะเป็นใคร? “คิดไปคิดมาก็นึก ไม่ออก อันหลิงหยุนจึงถามออกมา

ส่วนกงชิงวี่นั้นปล่อยตัวให้นอนราบแล้วพูดว่า: “ข้าก็ ไม่รู้เหมือนกัน กลับก่อนเถอะ”

ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันอีก เมื่อรถม้ามาถึงจวนอ๋องเสีย นทั้งสองคนลงมาจากรถม้าพร้อมกัน อันหลิงหยุนช่วงนี้ อ้วนขึ้นไม่น้อย นางเริ่มรู้สึกว่าร่างกายใหญ่ขึ้นไม่คล่อง ตัวเท่าไหร่

ทุกคนในจวนอ๋องเสียนต่างคิดว่า อันหลิงหยุนกินมาก เกินไปแล้ว

คนปรกติดีทั้งคน เนื่องจากความสะเพร่าไม่รู้ว่าตัวเอง ตั้งท้อง ทำให้เด็กไม่มีแล้ว เลยหันมากินเพื่อให้ลืมความ โศกเศร้าและความโกรธลง จึงทำให้ตัวเองมาตกอยู่ใน สภาพนี้
สาเหตุที่มาของความอ้วนเหมือนลูกบอลเป็นเช่นนี้เอง

เมื่ออันหลิงหยุนลงจากรถม้าแล้วกลับไปที่จวนอ๋องเสีย น เดินไม่กี่เก้า ก็ได้ยินคนเรียกนาง: “ท่านพี่เสียนเฟย”

อันหลิงหยุนรู้สึกโศกเศร้า หันกลับมาดู ถ้าไม่ใช่หยุนโล่ ชวนแล้วจะเป็นใครอีกล่ะ อันหลิงหยุนหันไปมองใบหน้าที่หน้ามองของกงชิงวี่ครู่

หนึ่ง สายตาของทั้งสองประสานกัน ฉิ่ผ่านไปได้แค่ไม่กี่

วัน ก็กลับมาอีกแล้วหรือ

พี่รองของท่าน ไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนคนอื่นจริงๆ

อ๋องตวนก็เกินไป ผู้ชายเช่นนี้ไม่เอาเสียยังดีกว่า

กงชิงวี่เชื่อฟังคำของอันหลิงหยุนอยู่แล้ว คนท้องใหญ่ สุด เขาพูดเสริมประโยคหนึ่ง:\\\\\\พระชายาพูดถูกต้อง ทุกอย่าง||||||

อันหลิงหยุนจึงปล่อยตัวกงชิงวีไป แล้วหันกลับไปดูหยุ

นโล่ชวน

เห็นหยุนโล่ชวนเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาด้วย สายตายิ้มแย้ม นางไม่เหมือนเด็กน้อยที่ไม่ประสีประสา อะไรอีกต่อไปแล้ว

อันหลิงหยุนจำได้ ครั้งแรกที่เห็นหยุนโล่ชวนนั้นยังไม่ ได้เป็นแบบนี้ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้ถึงแม้นางยิ้ม ออกมาอย่างร่าเริงและเหมือนจะโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาไม่น้อย แต่เหมือนว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น

คนหนึ่งคน ถ้านางโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล แสดงว่านางต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรที่น่ากลัว ทำให้ นางจำเป็นต้องโตเป็นผู้ใหญ่

แต่ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้ว หยุนโล่ชวนถือว่าเป็น มือที่สาม สำหรับมือที่สามนั้น ยังไงก็คือส่วนเกิน ถ้าต้อง เจอกับเหตุการณ์ไม่ดีอะไรก็ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ

“พระชายารองหยุน ทำไมวันนี้ถึงมาหาข้าได้? “ไม่ ทักทายก็ไม่หมาะสมนัก อันหลิงหยุนจึงทักทายขึ้นอย่าง สุภาพ

ส่วนหยุนโล่ชวนนั้นกลับทักทายอย่างเป็นกันเอง เพราะ นางถือว่าจวนอ๋องเสียนก็เหมือนบ้านอีกหลังของนางไป แล้ว

“ข้ามาเยี่ยมท่านพี่เสียนเฟย ช่วงก่อนพักอยู่ที่จวน ไม่รู้ ว่าท่านพี่เสียนเฟยได้รับบาดเจ็บ ออกไปแล้วถึงได้ยินคน อื่นพูดให้ฟัง วันนี้เลยมาเยี่ยมดูอาการ

ตงเอ๋อหน้าขมวดเข้าหากัน จวิ้นจู่ถึงแม้จะเป็นห่วงพระ ชายาเสียน แต่อยู่ที่จวนอ๋องตวนกินไม่อิ่มก็เป็นความจริง เช่นกัน

จวิ้นจู่ไม่ให้พูด จะกลับตำหนักกั๋วกงก็กลับไม่ได้

ทำให้นางรู้สึกอึดอัดเสียใจ
คนอย่างอันหลิงหยุนไม่สามารถทนเห็นเรื่องที่ไม่ ยุติธรรมได้ เมื่อเห็นตงเอ๋อก็รู้แล้วว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิด ขึ้นแน่นอน

“ท่านอ๋อง ท่านกลับก่อนเถอะ ข้ากับพระชายารองหยุน จะไปที่ตำหนักจู๋หยุนนั่งคุยกันสักพัก

กงชิงวี่กลับเข้าไปในจวนอ๋องก่อน อันหลิงหยุนจึงได้ ชวนหยุนโล่ชวนเข้าไปข้างในจวนด้วยกัน ส่วนหยุนโล่ ชวนนั้นก็ไม่ได้เป็นคนขี้เกรงใจอยู่แล้ว จึงเดินตามเข้าไป ในจวนพร้อมกัน

ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างถูกคอ ที่สำคัญคือหยุนโล่ ชวนกลับมาที่จวนอ๋องเสียนก็เหมือนกลับมาบ้านของตัว เอง เลยไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนนอก

คนในจวนล้วนชื่นชอบหยุนโล่ชวนกันทั้งนั้น เพราะ ปรกตินางก็เป็นคนที่นิสัยดีทุกคนชอบนางอยู่แล้ว นางมา ครั้งนี้ คนในจวนล้วนดีใจกันทั้งนั้น

หยุนโล่ชวนยังพูดอีกว่า : “ไม่ว่ายังไงจวนอ๋องเสียนก็ดี ที่สุด ต้องทำยังไงถึงจะได้แต่งงานกับอ๋องเสียน? ”

อันหลิงหยุนยิ้มจางๆ ยิ้มแบบให้คนมองไม่ออก

แต่ความคิดในใจของนางกลับน่ากลัวมาก พระชายา รองไม่สามารถมีชีวิตอยู่ที่จวนอ๋องเสียนได้แน่
“คืนนี้กินข้าวที่นี่เสร็จก็กลับไปเถอะ”อันหลิงหยุนไม่ อยากคุยเรื่องนี้อีกเพราะอาจควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ไล่หยุนโล่ชวนออกไป

ผู้ชายของตัวเอง เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วที่ไม่อยากให้ หญิงอื่นมาแอบชอบ

“ก็ดี”หยุนโล่ชวนยิ้มอย่างร่าเริงเข้าไปข้างในพร้อมอัน หลิงหยุน เมื่อเห็นหมาจิ้งจอกหางสั้นก็รีบเข้าไปอุ้มมันขึ้น มา นางชอบมากทั้งกอดทั้งจูบ

ตงเอ๋อเดินตามหลังเหมือนคนมีปัญหาในใจ

อันหลิงหยุนให้หงเถากับลุ่ยหลิ่วคุยเป็นเพื่อนตงเอ๋อ ส่วนนางและหยุนโล่ชวนไปที่ตำหนักจู๋หยุน

เมื่อเข้าไปนั่งข้างในแล้ว ได้มีการเตรียมชากับอาหาร วางไว้ให้ ตงเอ๋งไม่ได้ใส่ใจอะไร กลับคะยั้นคะยอให้หยุ นโล่ชวนกิน: “จวิ้นจู่นี่คืออาหารว่างที่ท่านชอบมาก กิน คำหนึ่งก่อนสิ อย่ามัวห่วงแต่เล่นอยู่

“ไม่หิว”หยุนโล่ชวนรีบตอบออกมาทันที

อันหลิงหยุนครุ่นคิดสักครู่ มองไปที่ตงเอ๋อ

“พระชายารองหยุน ช่วงนี้อ๋องตวนดีกับเจ้าไหม? “อัน หลิงหยุนถามขึ้นเบาๆ เพียงแค่อยากลองใจทดสอบหยุ นโล่ชวนดู

นางไม่ได้มีความคิดอะไรมากนัก อุ้มหมาจิ้งจอกหางสั้นไว้แล้วตอบว่า : “ก็ดีอยู่ นับจากวันนั้นที่ข้ากลับไปยังไม่มี โอกาสได้เห็นเขาเลย เพราะฉะนั้นเลยไม่สามารถตอบได้ ว่าดีหรือไม่ดี

“ถ้าเช่นนั้นปรกติเขาก็จะอยู่กับพระชายาตวนใช่หรือ ไม่? ”

“อันนี้… หยุนโล่ชวนรู้สึกลำบากใจขึ้นมา เพราะนางก็ ไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ

ตงเอ๋อกลับพูดขึ้นว่า: “ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมด ช่วง นี้ส่วนใหญ่อ่องตวนจะดื่มเหล้ากลับมาจากข้างนอก ฟัง จากคนในจวนพูด ท่านออกไปจากจวนแต่เช้า มีเพื่อน ชวนไปกินเหล้า ท่านก็เลยดื่มจากข้างนอกเสร็จถึงกลับ มา แต่ข้าน้อยกับจวิ้นจู่ไม่ได้ออกไปจากวังหลังเลย เพราะฉะนั้นเลยไม่รู้เรื่องของอ๋องตวน แต่สำหรับ…….…….

“ตงเอ๋อ เจ้าออกไปข้างนอก ข้ากับท่านพี่เสียนเฟยมี เรื่องจะคุยกัน

ตงเอ๋อยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็โดนหยุนโล่ชวนไล่ออก

ไปข้างนอกก่อน

อันหลิงหยุนรู้ว่าหยุนโล่ชวนไม่อยากเล่านางก็ไม่ได้ ถามต่อไปอีก มื้อเย็นเตรียมอาหารได้อย่างอุดมสมบูรณ์ หยุนโล่ชวนกินเสร็จก็พาตงเอ๋งกลับ

เมื่อส่งหยุนโล่ชวนกลับแล้วอันหลิงหยุนกลับมาข้างใน เมื่อเห็นกงชิงวี่จึงเดินเข้าไปหาเขา
“ท่านอ๋อง พวกท่านนี่เหมาะสมที่จะเป็นพี่น้องกันจริงๆ ทำกับผู้หญิงได้อย่างเข้มงวดรุนแรง ไม่มีความปรานีกัน เลย

ถึงแม้จะไม่ชอบ ไม่อยากแต่งงานด้วย แต่เมื่อได้ แต่งงานด้วยกันแล้ว การให้เขาได้กินอิ่มทุกมื้อเป็นสิ่งที่ ควรทำอยู่แล้ว ท่านว่าใช่หรือไม่?”

กงชิงวี่ไม่ชอบอันหลิงหยุนนำเอาเรื่องเก่ามาพูดอีก ถ้า เอาแต่เรื่องเก่าๆมาพูดซ้ำๆ อาจทำให้กระทบความสัม พันธุ์ได้

แต่สำหรับเรื่องของพระชายารองหยุนนั้นก็เกินไปจริงๆ

แต่จวนอ๋องเสียนของพวกเขาถ้าจะไปยุ่งเรื่องของจวน อ๋องตวนก็ไม่เหมาะสมนัก

“เงินทองของอ๋องตวนนั้นหยุนหยุนไม่อาจคาดถึงได้ เขาไม่ใช่คนที่จะไม่มีเงินเลี้ยงข้าวเพียงแค่คนหนึ่งคน แต่ เรื่องของวังหลังนั้น ก็ไม่ใช่เจ้ากับข้าสามารถไปยุ่งได้ หรือจะให้ข้าไปที่วังหลังยุ่งเรื่องของพวกเขาหรือ

“ถ้าเป็นเช่นนี้ กลัวว่าคู่รักเก่าของท่านอาจจะหยิบก้อน หินทุบเท้าตัวเองอีกครั้ง พระชายารองหยุนอาจจะไม่พูด แต่ตงเอ๋อก็ไม่แน่

กระต่ายเมื่อบีบมันรุนแรงมันก็สามารถกัดคนได้ นับ ประสาอะไรกับเสือที่ลงมาจากเขา

อันหลิงหยุนก็อยากรู้เช่นกัน ว่าสุดท้ายแล้วคนที่ร้องไห้คือใครกันแน่

กงชิงวี่สีหน้าไม่พอใจ: “ข้าจำไม่ได้ตั้งนานแล้วว่านาง

เป็นใคร อะไรคือคู่รักไม่คู่รัก ห้ามพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้า ข้าเด็ดขาด ข้าไม่ชอบฟัง

“ถ้าเช่นนั้นก็ไม่พูด ท่านอ๋องข้าจะกลับห้องทดลองยา แล้ว ท่านจะไปด้วยหรือไม่? ”

สองสามีภรรยาหันกลับไปที่วังหลัง ไม่สนใจเรื่องของอ๋ องตวนอีก

ตอนที่หยุนโล่ชวนจะกลับจวนอ๋องตวนนั้นฟ้าเริ่มมืด

แล้ว ดูเหมือนฝนจะตกด้วย ตงเอ๋อรีบเดินไปข้างหน้า: “จ วิ้นจู่ ท่านเดินเร็วหน่อยฝนจะตกแล้ว” “ไม่ต้องรีบ อากาศดีขนาดนี้ เจ้าไม่ต้องกลัว เจ้าไปเอา

ร่มมา ข้ารอเจ้าอยู่ที่นี่

ตงเอ๋อดูจากท่าทางของหยุนโล่ชวนแล้วเหมือนยัง ไม่อยากกลับ นางหันกลับแล้วรีบวิ่งไปที่จวนอ๋องตวน เข้าไปข้างในเพื่อไปหยิบร่ม

ปรากฏว่าเมื่อเข้าประตูใหญ่แล้วประตูก็ได้ปิดลงทันที เมื่อตงเอ๋อหยิบร่มเสร็จเดินไปที่หน้าประตู ตะลึงตกใจ

คนเฝ้าประตูได้ล็อคประตูใหญ่แล้ว
“พวกเจ้าทําอะไร นายข้ายังไม่ได้กลับมาเลย “ปรกติ ก็ชอบรังแกพวกนางอยู่แล้ว เจ้านายไม่อยากถือสาอะไร พวกเขา พวกเขาจึงคิดว่าจะรังแกพวกนางได้ง่ายๆอย่าง นั้นหรือ ?

วันนี้ทั้งๆที่เห็นนางเข้ามาแค่คนเดียว ก็ไปล็อคประตู แล้ว พวกเขาจงใจแกล้งพวกนางชัดๆ

ตงเอ๋อไม่ยอมจึงเข้าไปเจรจาด้วย แต่กลับเจอกับสาย

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ในจวนมีระเบียบกำหนด ห้าม

ออกไปข้างนอก เพราะเดี๋ยวจะไม่สบาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ