ยอดหมอยาของอ่องเสียน

บทที่212 ตกใจที่ถูกพิษ



บทที่212 ตกใจที่ถูกพิษ

อันหลินหยุนมิได้อธิบายอันใด และในระหว่างที่หยุ นโล่ชวนจะออกมาจากจวนอ๋อง อ๋องตวนกลับสามารถ ลุกขึ้นมานั่งบนรถได้

เขาถอดเสื้อผ้าออกเพื่อดูแผลที่อยู่ตามร่าง บาดแผล ที่เดิมทีอยู่ตามร่างกายก็เริ่มสมานกันแล้ว นี่มิใช่เรื่อง เรื่องทั่วไปแบบนั้น เพราะตอนนี้บาดแผลค่อยๆจางหาย

อ๋องตวนตกใจมาก มองไปยังอันหลิงหยุนที่มีสีหน้า ขาวซีด “เกิดอันใดขึ้น?”

“ตอนข้ายังเด็กเผลอไปเสวยยาไป๋เป่าของอาจารย์ เข้า นั่นเป็นสิ่งที่อาจารย์ของข้าเดินทางหามาจากดิน แดนที่แสนไกลเพื่อเอามาใช้กับตัวเอง แต่กลับถูกข้า เสวยเข้าไป ว่ากันว่ามันสามารถทำให้มิแก่มิตาย แต่ข้า มิได้เป็นแบบนั้น แต่ก็ทำให้เลือดของข้าออกจากพิเศษ สักหน่อย
แต่อาจารย์บอกกับข้าว่า เอาเลือดออกหนึ่งครั้งก็จะ เสียเลือดไปหนึ่งครั้ง เลือดของข้าก็จะค่อยๆสูญเสีย สรรพคุณไป และชีวิตของข้าก็จะดับสูญเช่นกัน”

ที่ช่วยอ๋องตวนเพราะทนมิได้ที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ เพราะยังอันใดเขาก็เป็นคนช่วยเหลือตัวเอง ก่อนหน้านี้ เห็นว่าหลับอยู่ นึกมิถึงว่าเขาจะตื่นขึ้นมาแล้ว

ในเมื่อเห็นแล้วก็ช่วยมิได้ มีแต่ต้องหาข้อแก้ตัว

อ๋องตวนกลับไปนอนเหมือนเดิม กำลังเตรียมตัวจะพูด อันใดสักอย่าง แต่หยุนโล่ชวนกลับมาก่อน

ทั้งสองจึงมิพูดอันใดต่อ

ระหว่างที่รถม้ากำลังเดินทางกลับอันหลินหยุนก็ได้หั่น โสมเป็นชิ้นๆ แล้วให้อ่องตวนอมไว้ในปาก จากนั้นก็เอา ยาให้อ่องตวนอีกหนึ่งเม็ด
“นี่เป็นยาต่อชีวิต ความจริงข้าเก็บไว้ให้กับตัวเอง อาจารย์ให้ข้ามาแค่หนึ่งเม็ด เห็นบอกว่าสามารถช่วย ชีวิตคนตายได้ เจ้าเสวยเถอะ”

อ๋องตวนรู้ดีว่านี้เป็นแค่การแสดงที่ให้หยุนโล่ชวนเห็น จึงมิได้ปฏิเสธ

พอรถม้ากลับมาถึงอ๋องตวนก็ลงมาจากรถแล้วเดิน เข้าวัง ตอนนี้มีเรี่ยวแรงแล้ว มิเพียงแค่มองไปยังอัน หลิงหยุน รู้ดีว่าสิ่งที่นางพูดมาล่วงเป็นคำโกหก แต่ก็ ถึงว่ายังซาบซึ้งอยู่ดี

ทั้งสามหลังกลับถึงวังฮั่วหยางก็นอนพักทันที ร่างกาย อ่อนแอก็ควรที่จะทำตัวให้อ่อนแอตามไปด้วย

ฮั่วไท่เฟยเห็นพวกเขากลับมาก็มิได้พูดอันใด กลับไป พักผ่อนเหมือนกัน
อันหลิงหยุนพูดออกมาอย่างมิมีทางเลือก ความเย็น ชาของคนในวังหลวง เป็นสิ่งที่เยอะที่สุดตั้งแต่ที่นาง เคยเจอมา

หลังจากทานมื้อดึกอันหลิงหยุนก็กำลังรอฟังข่าวอยู่ ช้าสุดก็พรุ่งนี้เช้า อย่างนั้นวันนี้ก็ต้องมีผลลัพธ์อันใดสัก อย่าง

วิธีการทำงานของกงชิงวี่ อันหลิงหยุนนั้นเข้าใจเป็น อย่างดี

รอมาหนึ่งชั่วยาม ก็มิเห็นการเคลื่อนไหวอันใด อัน หลิงหยุนจึงคิดที่จะหันหลังกลับไป เพิ่งจะได้หันหน้าก็มี เสียงของขันทีดังขึ้นมา

“พระชายาเสียน

อันหลิงหยุนยิ้มที่มุมปากแวบหนึ่ง หันกลับไปมอง ขันทีที่กำลังวิ่งเข้ามา
“ข้าน้อยขอถวายพระชายาเสียน สวีกงกงให้ข้าน้อย มาเชิญพระชายาเสียนไปรอที่ประตูของวัง เขาบอกว่า จะรอท่านอยู่ที่นั่น

อันหลิงหยุนเข้าใจได้ทันทีว่ามีข่าวเกี่ยวกับทางฝั่ง ของกงชิงวี่ จึงมิได้ถามอันใดมากแล้วเดินตามออกไป

พอมาถึงหน้าประตูวังอันหลิงหยุนกลับต้องประหลาด ใจ เพราะคนที่มามิได้มีเพียงแค่สวีกงกง ยังมีหมอหลวง ฮู่กับไห่กงกง

“กงกง”อันหลิงหยุนประหลาดใจ กงกงทั้งสองได้ ทำความเคารพต่ออันหลิงหยุน

“ข้าน้อยขอถวายบังคมพระชายา”

“ข้าขอถวายบังคมพระชายา”
“ข้าน้อยขอถวายพระชายาเสียน สวีกงกงให้ข้าน้อย มาเชิญพระชายาเสียนไปรอที่ประตูของวัง เขาบอกว่า จะรอท่านอยู่ที่นั่น

อันหลิงหยุนเข้าใจได้ทันทีว่ามีข่าวเกี่ยวกับทางฝั่ง ของกงชิงวี่ จึงมิได้ถามอันใดมากแล้วเดินตามออกไป

พอมาถึงหน้าประตูวังอันหลิงหยุนกลับต้องประหลาด ใจ เพราะคนที่มามิได้มีเพียงแค่สวีกงกง ยังมีหมอหลวง ฮู่กับไห่กงกง

“กงกง”อันหลิงหยุนประหลาดใจ กงกงทั้งสองได้ ทำความเคารพต่ออันหลิงหยุน

“ข้าน้อยขอถวายบังคมพระชายา”

“ข้าขอถวายบังคมพระชายา”
อันหลิงหยุนออกจากวังในทันที ขึ้นรถม้าแล้วเดินทาง ไปยังต้าจงเจิ้งย่วนอันหลิงหยุนรีบลงจากรถม้าเพื่อไปดู อาการของกงชิง

เว่ยหลิงชวนได้มารออยู่ที่หน้าประตูทางเข้าแล้ว พอ เห็นอันหลิงหยุนก็รีบพานางเข้าไปข้างใน

อันหลิงหยุนเดินไปพร้อมกับถามว่า “ท่านอ๋องเป็นยัง อันใดบ้าง?”

“พระชายาไปดูด้วยตัวเองเถอะ เกรงว่าจะมิสามารถ รอดพ้นคืนนี้ไปได้”

อันหลิงหยุนเดินสะดุด เกือบจะล่มลง ดีที่ได้เว่ยหลิง ชวนช่วยพยุงตัวของอันหลิงหยุนเอาไว้ อันหลิงหยุนจึง มิได้ล่มลงไป
พอปล่อยมืออันหลิงหยุนก็รีบเดินเข้าไปยังห้องที่อยู่ ด้านหน้า ทางเข้าประตูมีคนเฝ้าไว้ทางสองทาง สีหน้า ขององค์หญิงใหญ่ขาวซีดรากับกระดาษ นั่งอยู่ข้างๆ เตียงแล้วก็กุมมือของกงชิงวี่ด้วยมือที่สั่น

“ท่านอ๋อง”

พอเข้ามาข้างในประตูอันหลิงหยุนก็ตะโกนออกมาคำ หนึ่ง มิมีปฏิกิริยาตอบสนองจากคนที่นอนอยู่บนเตียง แต่อย่างใด นอนอยู่บนเตียงอยู่อย่างนั้น

อันหลิงหยุนเดินไปนั่งข้างๆ “ทำไมถึงถูกพิษได้?”

องค์หญิงใหญ่ปล่อยมือของกงชิง แล้วลุกขึ้นมา อัน หลิงหยุนจับชีพจรของกงชิงวี่เพื่อตรวจอาการในทันที

พิษซึมเข้าไปถึงหัวใจ?
มือของอันหลิงหยุนสั่น พอมือของกงชิงวี่ห่างจากมือ ของนางก็หล่นลงไปที่เตียง เกิดเสียงชนกันขึ้นมา อัน หลิงหยุนตกใจไปครู่หนึ่ง ถอยหลังแล้วดูมือของกงชิงวี่ รีว่าจะเกิดเรื่องขึ้น?

หมอหลวงฮูรีบคุกเข่าลงไปตรวจชีพจรของกงชิงวี่ หมอหลวงฮู่ตกใจจนหน้าถอดสี “พระชายาโปรดไว้ชีวิต ด้วย”

อันหลิงหยุนมองไปยังหมอหลวงฮู่ นั่งลงด้วยที่มิได้ พูดอันใด

อันหลิงหยุนกุมมือของกงชิงวี่แล้วถามว่า “หมอหลวง ฮู่เจ้าตรวจเจออันใดบ้าง?”

“กราบเรียกพระชายา พิษได้แทรกซึมเข้าไปถึงหัวใจ

แล้ว”

อันหลิงหยุนส่ายหัว “ข้าจะมิมีทางปล่อยให้เขาเป็นอันใด ข้าจะต้องช่วยชีวิตเขาให้ได้”

อันหลิงหยุนตัดสินใจในทันที ทำได้แค่รอแล้วสินะ

ในเมื่อเขาบอกว่าช้าสุดก็เป็นพรุ่งนี้เช้า อย่างนั้นนางก็ มีแต่ต้องเชื่อเขา

อันหลิงหยุนเช็ดน้ำตาออก “เตรียมน้ำร้อนสำหรับการ ถอนพิษ ถังไม้ เร็วเข้า

หมอหลวงฮูเช็ดเหงื่อออก “รีบหน่อยเถอะ”

มิว่าจะช่วยชีวิตได้รึมิ หมอหลวงฮูมิควรมาตั้งแต่แรก ตอนแรกเขาเลือกที่จะมิมาก็ได้ แต่พอคิดว่าอ๋องเสียน คงมิตายง่ายๆแบบนั้น เขาจึงมิได้ปฏิเสธไป

ดูเหมือนว่าตอนนี้ เขาคงจะต้องตายเป็นเพื่อนกับอ๋องเสียนซะแล้ว

มีคนเตรียมของที่อันหลิงหยุนต้องการได้อย่าง รวดเร็ว องค์หญิงใหญ่ยืนอยู่ข้างๆแล้วมองไปยังร่าง ที่แทบจะไร้วิญาญาณของกงชิงวี่ มองเขาแล้วก็นึกถึง เรื่องที่ผ่านมานับมิถ้วน นางหันหลังกลับไป หลับตาลง มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตา

เว่ยหลิงชวนรีบเดินเข้ามาอยู่ข้างองค์หญิงใหญ่ “จง ลิ่ง เชิญกลับไปก่อนดีกว่า”

องค์หญิงใหญ่ลืมตาขึ้นมา เช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้า ออก มองไปยังอันหลิงหยุนที่กำลังถอดเสื้อผ้าของกง ชิงวี่แล้วถามว่า “ยัยหนู

อันหลิงหยุนมองไปยังองค์หญิงใหญ่ “ท่านป้า”

“เจ้ามีความมั่นใจเท่าไหร่?”
“ข้าจะต้องทำให้เขาตื่น

อันหลิงหยุนได้ตั้งใจแน่วแน่ นางมิสนว่านี่จะเป็นการ ลอบสังหารของคนอื่น หรือจะเป็นฝีมือของกงชิงวี่เอง นางก็ต้องช่วยชีวิตไว้ให้ได้

แต่หลังจากที่รักษาหายแล้ว ถ้าเกิดยังมีคราวหน้าอีก นางจะมิมีวันให้อภัยเขา

หันกลับไปถอดเสื้อผ้าของกงชิงวี่ อันหลิงหยุนมองไป ยังหมอหลวงฮู้ “หมอหลวงฮู้ โจ่จงเจิ้น พวกเจ้าช่วยข้า วางเขาลงไปที่น้ำ

ทั้งสองรีบขึ้นมา อันหลิงหยุนได้วางเขาลงไปที่น้ำ

พูดขึ้นมาว่า “พวกเจ้าออกไปให้หมอ เหลือไว้แค่หมอ หลวงสู่ก็พอ”
องค์หญิงใหญ่หันหลังออกจากประตูไป อันหลิงหยุน หยิบเข็มเงินขึ้นมา ฝังเข็มให้กับกงชิงวี่ก่อน จากนั้นก็ เอามีดออกมากรีดแผลเพื่อให้มีเลือดไหลออกมาจากตัว ของกงชิงวี่

เพราะถูกพิษ เลือดที่อยู่ในร่างจึงเริ่มแข็งตัวขึ้นมา อัน หลิงหยุนต้องการสูบเลือดไหลออกมา

หมอหลวงสู่ร้องรนจนเหงื่อไหลท่วนตัว มิได้การแล้ว เขาเองก็ต้องไปช่วยสูบเลือดให้ไหลออกมา

หลังจากพยายามมาหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็เห็นว่ามี เลือดไหลออกมาจากร่างของกงชิงวนิดหน่อย

อันหลิงหยุนพอเห็นว่าเลือดเริ่มมีการไหลเวียน จึงโล่ง ใจไปนิดหน่อย ฝืนใจอยู่มิน้อย ต้องปล่อยเลือดของเขา ออกอย่างระมัดระวัง มิอย่างนั้นตอนตื่นขึ้นมาจะมิสบ อารมณ์เอาได้?

แต่นี่ก็เป็นผลมาจากการกระทำของตัวเขาเอง เรื่อง นั้นก็ส่วนเรื่องนั้น เกิดเหตุการณ์ที่ใหญ่ขนาดนี้ ก็ยังคง เป็นความผิดของนางอยู่ดี?

อันหลิงหยุนแกล้งทำเป็นว่าเอายาเข้าไปในปากของ กงชิงวี่ แต่ความเป็นจริงก็มิได้ให้กงชิงวี่เสวยเข้าไป

“หมอหลวงสู่ เจ้าไปพักก่อนเถอะ มีข้าดูแลก็เพียง พอแล้ว ได้ระบายออกให้เขาแล้ว บอกกับยาถอนพิษ กับเข็มเงินก็เพียงพอแล้ว”

หมอหลวงสู่ก็มิได้ถามอันใดอกี แม้จะมิเข้าใจ แต่พระ ชายาเสียนเป็นคนที่เก่งในด้านการแพทย์เป็นอย่างมาก หมอหลวงสู่สามารถวางใจกับเรื่องนี้ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ