บทที่ 56 ตอแหลให้ตายกันไปข้าง
อันหลิงหยุนรู้ว่ากงชิงวี่ละกงชิงหยินไปกันแล้ว และ เพราะว่าพวกเขาไปแล้ว นางจึงทำพยายามให้ตนมีชีวิต ชีวาขึ้นอย่างมาก ก้าวที่อ่อนแรงอย่าช้า พร้อมกับเงย หน้ามองจุนฉูฉู
ในมือจุนฉูฉูถือมีดอยู่ นางพยายามอยู่นานจึงเห็น ชัดเจน รอบด้านมีขันทีคนหนึ่ง ขณะที่อันหลิงหยุนเงย หน้ามอง ขันทีก็เหมือนไม่เห็นอะไร หันหลังเดินจากไป
ไม่ยากที่จะคิดได้ ในวังมีคนช่วย
จุนฉูฉูที่กล้าเช่นนี้ ก็เพราะในนี้มีแต่คนของนาง นาง สามารถทำได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวใดๆ
คิดเช่นนี้อันหลิงหยุนก็ไม่เสียเวลาเจรจากับจุนฉูฉู ร่างกายไม่ปกติ แต่ก็ยังเจาะตัวเองอย่างรุนแรงทีหนึ่ง บังคับตัวเองให้ฟื้นคืนชีวิตชีวามา หยุดมองจุนฉูฉู: “เจ้า รีบเช่นนี้ ไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรผิดพลาดขึ้น เข้าลากเจ้า ให้มาเป็นแพะรับบาป”
มาถึงขนาดนี้แล้ว ลงมือเถอะ!
จุนฉูฉูยิ้มเย็นชา: “ก็เพราะว่ามีแค่สองคน ข้าถึงวางใจ เกิดเรื่องกับเจ้า ไม่มีใครคิดว่าเป็นฝีมือข้า”
จุนฉูฉูเข้าใกล้ อันหลิงหยุนกำหมัดแน่น นางไม่มีแรง มิฉะนั้นนางตอแหลได้ตายคาเท้าแน่
“นั่นไม่จําเป็น เจ้าลองดู จะสำเร็จหรือไม่ ใครมันจะ ไม่มีญาติคนสองคน เจ้าคิดจริงๆ หรือว่า ในวังครอบ ครองด้วยตระกูลจุนของพวกเจ้า”
อันหลิงหยุนสังเกตอย่างละเอียด หวังว่ารอบๆ จะมีสัก คน ไม่ว่าจะเป็นกงชิงวี่หันหลังกลับมาด่านางสักทีก็ยังดี แต่ในตอนนี้มันไม่มีความเป็นไปได้
นางก็ไม่คาดหวังใดๆ คิดซะว่าเป็นเรื่องจิตปรุงแต่งขึ้น ทั้งนั้น
ชายผู้นั้นแม้เห็นว่าจุนฉูฉูจะทำร้ายนางแล้วไง ไม่แน่ อาจจะวิ่งมาเอามีดไปแล้วแทงนางหลายๆ ทีก็ได้ เพื่อไม่ ให้เลือดสาดเปื้อนบนร่างของจุนชูชู
จุนฉูฉูครุ่นคิด ความกังวลเกิดขึ้นในดวงตา มองไป รอบๆ แต่ไม่นานเธอก็ยิ้ม
“ความตายมาเยือนเจ้ายังไม่รู้ตัวอีก คนในวังมาก็รู้ ดู กันว่ามีดของข้าเร็ว หรือพวกเขาจะมาเร็วกว่ากัน
จุนฉูฉูเดินขึ้นหน้า วาดมีดออกไป ละเลงที่ใบหน้าอัน หลิงยุน อันหลิงหยุนหลบ พยายามหลบจนได้
“เจ้าจะทำให้ข้าเสียโฉมงั้นรึ?”
อันหลิงหยุนถอยหลังนั่งอยู่บนขั้นบันได ร่างกายไร้ เรี่ยวแรง ไม่ว่าจะยังไงนางก็ใช้แรงไม่ได้
“หึ ใบหน้าเจ้านี้แค่เห็นข้าก็เกลียด ทําลายมันในวัน นี้ ดูเจ้ายังจะให้ท่าคนยังไง?” จุนฉูฉูไม่ต้องการชีวิตอัน หลิงหยุน หากฆ่าอันหลิงหยุน นางก็จะถูกสอบปากคำ แต่ทำลายใบหน้า นั่นก็จะต่างไป สำหรับผู้หญิงไร้ ยางอายใครจะไปสนใจเรื่องที่ใบหน้าจะถูกทำให้เสีย โฉม
จุนฉูฉู่เดินหน้า จับแขนอันหลิงหยุน พยายามทำลาย ใบหน้าอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนดิ้นไม่หลุด มีดใกล้เข้า มาตรงหน้า เสียงฝีเท้าเร่งรีบเจ้าที่ไกลใกล้เข้ามาสอง คนตกใจ จุนฉูฉูรีบเก็บมีดกลับมา พยุงอันหลิงหยุนขึ้ นมา
“พระชายาเสียนไม่ระวังเลย ทำไมล้มลงล่ะ”
อันหลิงหยุนหัวเราะ เปลือกตาที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ยกขึ้นและมองไปที่จุนฉูฉู: “งั้นต้องขอบคุณพระชายาต วนที่พยุงข้าลุกขึ้น”
ทั้งสองลุกขึ้น จุนฉูฉูออกแรงที่มือ ผลักอันหลินหยุ นลงไป และตั้งใจให้ส่วนหน้าลงไปปะทะที่ขั้นบันได อันหลิงหยุนจะโชคร้ายเช่นนี้ได้ไง จับจุนฉูฉูแน่นลาก ให้นางลองอยู่ด้านล่าง จุนฉูฉูร้องคร่ำครวญอ๊า หนัง ใบหน้าแนบอยู่ที่ขั้นบันได เจ็บจนน้ำตาไหล
“พระชายาตวน ทำไมท่านเป็นเช่นนี้ นั่นทำจากหิน เชียวนะ บาดใบหน้าเสียหายแล้วจะพบผู้คนอย่างไร หากท่านไม่ช่วยข้า ที่ถูกบาดก็คือข้า รีบให้ข้าดูเร็ว!” อันหลิงหยุนตั้งใจพูดเสียงดัง จุนฉูฉูไม่กล้าพูดอะไรเลย ทนเจ็บ ร้องไห้น้ำตาอาบหน้า และในเวลานี้ใบหน้า นางบวม แม้จะเป็นคืนมืด ก็ยังสามารถเห็นความ อัปลักษณ์บนใบหน้าได้ชัดเจน อาการบวมเกิดขึ้นอยู่ ตรงกลางของใบหน้าพอดี ดูตลกและน่าเกลียด
“โย่ นี่มันอะไรกัน?
เวลานี้ไห่กงกงก็มาถึงตรงหน้า ในมือถือโคมไฟ มอง ไปยังพระชายาทั้งสอง มองแล้วตกใจ และแทบจะหัว เราออกมา นี่หมายความอย่างไร น่าเกลียดเพียงนี้?
แต่อดกลั้นไว้ได้ ไม่กล้าหัวเราออกมา
“ไห่กงกง เพราะข้าไม่ดีเอง เมื่อครู่ยืนไม่นิ่ง ร่างกาย อ่อนแรง แทบจะล้ม เพราะพระชายาตวนบังข้าไว้ จึง ช่วยข้าไม่ให้ล้มไป แต่กลับทำให้พระชายาตวนล้ม พระ ชายาตวน ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อันหลิงหยุนไปพยุงจุนฉูฉู มือใช้แรงหยิกข้อมือจุน ฉูฉู จุนฉูฉูจ้องอันหลิงหยุนอย่างตะลึง ดวงตากลม: “เจ้า……”
กัดริมฝีปาก จุนฉูฉูไม่สามารถทำให้เรื่องวุ่นวายได้ ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่ฮ่องเต้ แม้แต่ตระกูล จุนก็ไม่ปล่อยนางไว้แน่
“ขอบคุณพระชายาเสียน
จุนฉูฉูลุกขึ้นใบหน้าเจ็บเจียนตาย รีบบังใบหน้าไว้ไม่กล้ามองไ กงกง
“กงกงมาที่นี่มีเรื่องอันใด?” จุนฉูฉูกล่าวถาม ไห่กงกง จึงนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้
“อัยโย่ ดูข้าคนนี้ คงเลอะเลือนเพราะแก่แล้ว ทำไม ลืมเรื่องสำคัญได้ นี่มัน ไทเฮาร่างกายไม่สบาย นอนไม่ หลับ ให้พวกกระหม่อม ร้องเพลงให้นางฟัง แต่พวกข้า เป็นที่ไหนกัน! ไทเฮาได้ยินว่าพระชายาเสียนมาแล้ว นึกถึงเรื่องบรรยายกลุ่มฝึกอบรมเมื่อคราวก่อน จึงเรียก พระชายาเสียนไปบรรยายกลุ่มฝึกอบรม
ไห่กงกงพูดเสียงแหลม จีบมือแบบกล้วยไม้ แล้วชี้ ปิดหน้าหัวเราะ เขาทนไม่ไหวจริงๆ สภาพพระชายาต วน จะพบผู้คนเช่นไร!
“งั้นเชิญกงกง พระชายาเสียนเจอกันวันหลัง”
จุนฉูฉูถอนสายบัว เดินไปอย่างสุภาพ แต่หันหลังกลับ เดินกะเผลก ไห่กงกงจับตามองไปอย่างระมัดระวัง แล้ว หันไปดูอันหลิงหยุน ผู้นี้ก็ไม่ดีนัก ฤดูหนาวแท้ๆ เหงื่อ เต็มหน้า!
“พระชายาเสียน เดินไปกับข้าน้อยเถิด! ”
ไหกงกงสะบัดไม้ปัด ยื่นมือมาให้อันหลิงหยุน อันหลิง หยุนเข้าใจทันที ไห่กงกงดูออก
นางเคลื่อนไหวช้า เอามือวางลงบนแขนของไห่งกง ร่างเกือบจะล้มลง ไห่กงกงจับไว้ทัน เตือนเสียงเบา “ท่านต้องระวังหน่อย ถนนลื่นนะ!”
“ขอบคุณกงกง!
“ไปเถอะ!”
ไหกงกงนำคนมาด้วยหลายคน คนที่ข้างกายถือโคม ไฟ เขาเดินและดูอันหลิงหยุนในเวลาเดียวกัน รู้สึก กังวลมากขึ้น
“พระชายาเสียน ต้องการให้ข้าน้อยหาวิธีให้หรือไม่ ไปแจ้งให้แม่ทัพทราบ?”
อันหลิงหยุนส่ายหัว: “ไม่ต้องแล้ว เกรงว่าท่านพ่อจะ กังวล อีกอย่างไทเฮาอยู่ที่นี่
คำว่าไทเฮายังอยู่ที่นี่ ไห่กงกงพยักหน้า ถือว่าเข้าใจ เจ้านาย
ระหว่างทาง ลมหิมะเต็มท้องฟ้า จนอันหลิงหยุนไม่รู้ ว่ามาถึงพระตำหนักเฉาเพิ่งได้อย่างไร ถึงหน้าพระตำ หนักเฉาเพิ่งอันหลิงหยุนยืนไม่มั่นคงแล้ว ร่างกายเอน เอียงเล็กน้อย หนังตาก็เริ่มกระตุก ดูเหมือนว่าจะหลับ แล้ว
ไห่กงกงกระวนกระวายใจ นี่เกิดอะไรขึ้น?
เหงื่อท่วมตัว ยืนไม่มั่นคง
ต่อให้ตกใจก็ไม่น่าตกใจจนเป็นเช่นนี้
“อ้ยโย่เ ย นายน้อย ท่านอย่าหาข้าน้อยตกใจ หากมี อะไรบางอย่างผิดปกติ ท่านจะให้ข้าน้อยใช้ชีวิตอยู่ต่อ ไปอย่างไร?”
ฮองไทเฮายังพอพูดให้เข้าใจได้ แม่ทัพอันนั้นเป็นเจ้า นายที่เกรงกลัวกฎระเบียบ ถ้าเกิดอะไรขึ้นอันหลิงหยุ น และอยู่ภายใต้สายตาของเขา หลังจากนี้เขายังจะมี ชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ อันจือซานคงทุบกระดูกของเขาให้ ละเอียดเพื่อเป็นอาหารสุนัข!
“เร็วเข้า ยืนโง่อยู่ทำไม ไปทูลฮองเฮา พวกเจ้าเร็ว เข้า!”
ไห่กงกงเท้าอย่างกระวนกระวาย ป้องปากตะโกน
ขันทีตัวน้อยวิ่งเข้าไปอย่างเร่งรีบ อันหลิงหยุนยืนไม่ มั่นคง เอนเอียงไปมา คนล้มไปยังพื้น
ไห่กงกงมอง ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้อง พยุงอันหลิงหยุนทัน เขายืนไม่มั่นคงล้มนอนอยู่ที่พื้น อันหลิงหยุนเอียงไปมา ดูเหมือนกำลังจะล้มลงไป ข้าง กายมีร่างคนคนหนึ่ง จับคว้าไว้ทัน อันหลิงหยุนลืมขึ้น อย่างมึนงง อย่างตลก: “ทำไมถึงเป็นท่าน?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ