บทที่372 ศัตรูคู่อาฆาต
กงชิงหยินแววตาลึกซึ้ง มุมปากยกขึ้น “ข้าเองก็ตัดสิน ใจเองไม่ได้ เสด็จแม่บอกว่า หากข้าหย่า จะส่งให้ข้าไป อยู่ชายแดน เจ้าดูสิ นี่เป็นชุดแม่ทัพที่เสด็จแม่ส่งมาให้ข้า ใส่ในบ้านโดยเฉพาะ
เสด็จแม่บอกว่า หากรั้งชวนเอ๋อไว้ไม่ได้ ก็จะให้ข้าไปสู้ รบที่ชายแดน
อ๋องเสียนไปแล้ว หนึ่งเดือนก็ยังไม่ได้กลับมา ต้องเป็น เพราะสถานการณ์ศึกตึงเครียดแน่นอน ถ้าเช่นนั้น
พระชายาเสียนก็ตั้งครรภ์แล้ว ข้างกายย่อมขาดคนไม่ ได้ แม่ทัพคนอื่นข้าก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเหมาะสม เดิมที แม่ทัพอันก็สามารถออกศึกได้ แต่ไปสู้รบสามปีห้าปีก็ไม่ เห็นจะกลับมา
แม่ทัพอันย่อมเสียดายโอกาสที่จะได้เห็นหลานตัวน้อย จะไปสู้รบที่ชายแดนทำไมกัน ”
“พูดเช่นนี้ท่านจะไปรบที่ชายแดนหรือ”หยุนโล่ชวนช่าง หลอกง่ายยิ่งนัก โดยเฉพาะกงชิงหยิน ไม่ว่าจะพูดอะไร นางก็เชื่อ
กงชิงหยินรู้สึกปวดใจ เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างทิ่มแทง
นางเชื่อเขาหมดใจ เขาพูดอะไร นางก็เชื่อแต่เขากลับทำร้ายนาง
นางไร้เดียงสาเช่นนี้ มอบให้ใครเขาก็ไม่อาจวางใจ
เมื่อคิดว่าอ่องชินจงยังคงรออยู่ วันนั้นเขาไปหาฮ่องซัน จง อ่องชินจงถูกตีจนแขนหัก ก็ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ เขา บอกเขาจะรอ พอเขาคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็รู้สึกโมโห
มอบให้อ่องจงชินจงบางทีอาจเป็นเรื่องที่ดี แต่เขาเชื่อ มั่นในตัวเองมากกว่า
“เจ้าดูถูกข้า”
หยุนโล่ชวนนั้นดูถูกกงชิงหยินจริง เขาเป็นท่านอ๋องที่ เติบโตมาในตระกูลสูงส่ง การสู้รบสำหรับเขาเหมือนการ คุยเรื่องศึกบนกระดาษ สิ่งที่เขาเป็นก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่อยู่ ในตำราเท่านั้น หากเข้าไปอยู่ในสนามรบจริง เขาคงจะ ขายหน้าคนประเทศต้าเหลียงแน่
หยุนโล่ชวนสงสัย แม้นางจะไม่พูด แต่กงชิงหยืนมอง แวบเดียวก็ดูออก
“นี่เจ้าดูถูกข้าเช่นนั้นเชียวหรือ แม้ข้าจะไม่ร้ายกาจเท่า อ๋องเสียนที่สามารถต่อกรกับศัตรูนับร้อยด้วยตัวคนเดียว แต่ก็นับว่าไม่ด้อยไม่กว่าอ๋องชินจง”
ได้ยินกงชิงหยินพูดเช่นนี้ หยุนโล่ชวนกลับรู้สึกไม่ พอใจ
“ท่านพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก “หยุนโล่ชวนเมื่อก่อนกลัวกงชิง หยิน ไม่กล้าเอ่ยถึงอ๋องชินจงต่อหน้าเขา เพราะรู้สึกว่า พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ต้องให้หน้าเขาสักหน่อย แต่ขายหน้าหรือ”
“ให้ตายเถอะ อะไรคือสถานะสูงส่ง มือที่สูงส่งแต่อ่อน กำลังแม้ลูกไก่ยังบีบไม่ตาย คนสูงส่งนั้นโง่ไปแล้ว เขา เป็นราชนิกุล เขาร้ายกาจมาก เขาฝึกฝนวิชาการต่อสู้ อย่างหนักทุกวัน เตรียมพร้อมจะโค่นล้มประเทศต้าเหลื ยงของข้าหรืออย่างไร”
กงชิงหยินมองหยุนโล่ชวนอย่างโมโห ทำเอาหยุนโล่ ชวนตกใจถอยหลังไปครึ่งก้าว
กงชิงหยินถามต่อว่า “ฮ่องเต้มีรับสั่ง ราชนิกุลของเขา ไม่สามารถเข้าวังเป็นขุนนางได้ เขาไม่ไปทำการค้า เขา เรียนรู้วิชาการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก รู้ตำราวิชัยยุทธ์ ยังรู้เรื่อง ดินฟ้าอากาศภูมิประเทศเป็นอย่างดี ข้าถามเจ้า เขา ต้องการจะทําอะไรกันแน่
กบฏหรือ
พวกราชนิกุลต้องการกบฏไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียง วันเดียว คิดว่าข้าโง่หรือไง”
“ท่าน……..นช่างพูด อ๋องชินจงไม่มีวันทำ เขาไม่ชอบ การสู้รบ เขาเพียงแต่ใช้ป้องกันตัวเท่านั้น”หยุนโล่ชวน ตะโกน
“ป้องกันตัวแต่ใช้ทุกอย่างอย่างชำนาญ มิใช่ใช้กำลัง พลดุจเทพหรอกหรือ
“ข้าก็พูดไปอย่างนั้น”
“ข้าจะเอาชีวิตมัน
กงชิงหยินหมุนตัวจะไป หยุนโล่ชวนร้อนใจจนกระทืบ เท้า ตะโกนว่า “ไม่อนุญาตให้ให้ท่านไป”
กงชิงหยินไม่สนหยุนโล่ชวน ก้าวเท้าไปยังประตู หยุ นโล่ชวนตามไปขวางทางที่กงชิงหยินจะไป ขวางคนเอา ไว้
“ไม่ให้ไป”
หยุนโล่ชวนจ้องกงชิงหยินอย่างโมโห ทั้งร้อนใจทั้ง โมโห
กงชิงหยินสงบลง เขาไม่อยากให้นางกังวลอีก
หมันตัวกลับไป กงชิงหยินกล่าวว่า “อย่าเอาแต่พูดถึง อ๋องชินจง ข้าไม่ชอบฟัง”
“เช่นนั้นท่านไม่ไปแล้วหรือ”
หยุนโล่ชวนไม่ใช่คนคิดเหลวไหล ได้ยินกงชิงหยินพูด อย่างนั้น นางก็วางใจ
กงชิงหยินหมุนตัว เดิมคิดจะโกรธนาง แต่พอมอง ใบหน้าไร้เดียงสาของหยุนโล่ชวน เปิดปากแล้วก็ได้แต่ อืมคำเดียว
หยุนโล่ชวนยิ้มทันที สายตากงชิงหยินอบอุ่น ใบหน้าก็ อ่อนโยนลงหลายส่วน
มองแล้วสบายใจขึ้นมาก
แต่พอคิดว่าดีใจแทนอ๋องชินจง กงชิงหยินก็ยิ่งโมโหไม่ หาย หมุนตัวเข้าไปในเรือน
หยุนโล่ชวนก้าวเท้าตามไป เดินเข้าไปถามว่า “ท่านเอา ตงเอ๋อไปไว้ที่ไหนกัน”
“นางสบายดี แต่ข้าคิดว่าจะให้นางแต่งออกไป “อ๋องต วนนั่งลงเริ่มขู่หยุนโล่ชวน หยุนโล่ชวนได้ยินก็ระเบิดทันที
“ทำไมท่านถึงทำเช่นนั้น ตงเอ๋อเป็นคนของจวนกั๋วกง ท่านถือดีอะไร”
“นางเป็นสาวรับใช้ของเจ้า เป็นสินสอดที่มาพร้อมเจ้า ข้าย่อมมีสิทธิ์ตัดสินใจ
“ตงเอ๋อเป็นคนของจวนกั๋วกง นางไม่ใช่คนของจวน อ๋องตวน ท่านไม่สามารถตัดสินใจได้ ยิ่งพวกเรากำลัง จะหย่าในเร็วๆนี้แล้ว เมื่อถึงเวลา ข้ากับจวนอ๋องตวนก็ไม่ เกี่ยวข้องกันแล้ว ตงเอ๋อก็ต้องจากไปพร้อมข้า
“เรื่องหย่าข้าไม่ได้ตกลงด้วย เรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้”
“เพราะอะไร”
หยุนโล่ชวนร้อนใจอยากหย่า นางไม่อยากยืดเยื้อกับ กงชิงหยิน หย่าแล้วนางจะไปที่ชายแดน ถึงตอนนั้นนาง คงจะได้ทำเพื่อชาติบ้างแล้ว กงชิงหยินมองหยุนโล่ชวน ครู่หนึ่ง “ข้าไม่อยากหย่า”
“ทำไมท่านเป็นเช่นนี้ จุนฉูฉูก็ตายไปแล้ว….…..
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการตายของจุนฉูฉู แววตาของกงชิง หยินมีแววหม่นหมอง หยุนโล่ชวนคิดว่าเขาคงไม่พอใจ เจ็บปวดใจ จึงไม่กล้าพูดมาก
“ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องอื่นแล้ว พวกเรามาคุยกัน ท่านไม่ หย่า ระหว่างพวกเราก็เหมือนน้ำกับไฟ ไม่แน่อาจมีวันใด วันหนึ่งที่ปะทะกันขึ้นมา แล้วทำร้ายอีกฝ่ายให้บาดเจ็บ ได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการอยู่ร่วมกันอย่างฉันสามีภรรยาเลย
อ๋องตวนหน้าตาดูดีท่าทีก็สง่างาม ภายหน้าคงได้ภรรยา ที่งดงามมีฝีมือ ข้าชอบรําดาบตีไม้ ไม่เหมาะสม”
“ใครสอนเจ้า”กงชิงหยินสีหน้านิ่ง แววตาเยือกเย็น
คิดถึงความไร้เดียงสาของนาง ทำไมจึงพูดคำพูดเช่นนี้
ออกมา
หยุนโล่ชวนเอ่ยว่า “ย่อมเป็นข้าคิดเอง ใครจะสอนข้า เรื่องพวกนี้”
กงชิงหยินไม่เชื่อ ก้าวเท้าไปข้างหน้าหยุนโล่ชวน ก้ม หน้าเข้าใกล้จ้องใบหน้าเล็กของหยุนโล่ชวน
“ท่านทําอะไร”
หยุนโล่ชวนถอยหลัง แต่ถูกกงชิงหยินดึงไว้
“ข้าถามเจ้า เจ้ารังเกียจอะไรข้า”กงชิงหยินอยากรู้ให้ กระจ่าง
“ข้าไม่ได้รังเกียจ”หยุนโล่ชวนไม่รู้ว่ากงชิงหยินพูด อะไร
“ไม่รังเกียจ แล้วทำไมต้องหย่า”
“ไม่ชอบ”
“ไม่ชอบ ที่นี่มันเมืองหลวง และเป็นประเทศต้าเหลียง มีที่ไหนว่าชอบหรือไม่ชอบ การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ คำพูดของแม่สื่อ คำสั่งของพ่อแม่ ใครจะมีอำนาจไป มากกว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน
เรื่องงานแต่งของข้า เป็นฮ่องเต้ที่ทรงประทานให้ ข้า กับเจ้าไม่ได้ชอบพอกัน เช่นนั้นมีคนอื่นที่ชอบกันด้วย หรือ อ๋องเสียนพระชายาเสียนชอบกันหรือ ตอนที่พวก เขาแต่งงานกันก็เหมือนน้ำกับไฟ แต่ดูตอนนี้สิไม่ใช่ดีมาก เลยหรือ”
“หา”
หยุนโล่ชวนไร้คำพูด เช่นนี้ก็ได้หรือ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ